🐝ต้นทานตะวัน 🐝
ทานตะวัน ทานตะวัน ชื่อสามัญ Common sunflower, Sunflower, Sunchoke
ทานตะวัน ชื่อวิทยาศาสตร์ Helianthus annuus L. จัดอยู่ในวงศ์ทานตะวัน (ASTERACEAE หรือ COMPOSITAE)
สมุนไพรทานตะวัน มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า บัวทอง บัวตอง ทานตะวัน (ภาคเหนือ), บัวผัด บัวทอง (ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ), ชอนตะวัน ทานตะวัน (ภาคกลาง), ทานหวัน (ภาคใต้), เซี่ยงยื่อขุยเซี่ยงยื้อขุย (จีนกลาง), เหี่ยงหยิกขุ้ย (จีนแต้จิ๋ว) เป็นต้น
การที่ได้ชื่อว่า "ทานตะวัน" นั่นเป็นเพราะลักษณะการหันของช่อดอกและใบนั้นจะหันไปตามทิศทางของดวงอาทิตย์ โดยในตอนเช้าจะหันไปทางทิศตะวันออก และในช่วงเย็นจะหันไปทางทิศตะวันตกตามดวงอาทิตย์ แต่การหันจะลดน้อยลงเรื่อย ๆ หลังมีการผสมเกสรแล้วไปจนถึงช่วงดอกแก่ ซึ่งช่อดอกจะหันไปทางทิศตะวันออกเสมอ
ลักษณะของทานตะวัน ต้นทานตะวัน มีถิ่นกำเนิดและเป็นพรรณไม้พื้นเมืองของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยจัดเป็นไม้ล้มลุกที่มีอายุประมาณ 1 ปี มีความสูงของต้นประมาณ 3-3.5 เมตร ลำต้นตั้งตรงเป็นสีเขียวแกนแข็ง ไม่มีการแตกแขนง (ยกเว้นบางสายพันธุ์) ตามต้นมีขนยาวสีขาวค่อนข้างแข็งปกคลุมตลอด ส่วนรากเป็นระบบรากแก้วหยั่งลึกลงไปในดินประมาณ 150-270 เซนติเมตร มีรากแขนงค่อนข้างแข็งแรงและแผ่ขยายไปทางด้านข้างได้ถึง 60-150 เซนติเมตร เพื่อช่วยในการค้ำจุนต้นและสามารถใช้ความชื้นระดับผิวดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดอกทานตะวัน ดอกเป็นดอกเดี่ยว ออกดอกที่ปลายยอด ดอกเป็นดอกแบบสมบูรณ์เพศ ดอกมีขนาดใหญ่เป็นสีเหลืองเข้ม มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางดอกประมาณ 25-30 เซนติเมตร มีกลีบดอกเป็นจำนวนมากเรียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ กลีบดอกมีลักษณะเป็นรูปไข่ ปลายกลีบดอกแหลมเป็นสีเหลืองสด ส่วนด้านในคือช่อดอก มีลักษณะเป็นจาน ประกอบไปด้วยดอกขนาดเล็กจำนวนมาก กลางดอกมีเกสรสีน้ำตาลอมสีม่วงและภายในมีผลจำนวนมาก ดอกมีเกสรเพศเมียอยู่ตรงกลาง 1 อัน ส่วนเกสรเพศผู้มี 5 อัน ส่วนกลีบเลี้ยงดอกเป็นสีเขียว
สรรพคุณของทานตะวัน น้ำมันจากเมล็ดทานตะวันมีรสร้อน สามารถช่วยลดระดับไขมันในเส้นเลือดได้ (น้ำมันจากเมล็ด) ใบทานตะวันมีรสเฝื่อน เป็นยาแก้เบาหวาน (ใบ) เมล็ดช่วยลดความดันโลหิต (เมล็ด)หรือจะใช้แกนหรือไส้ของลำต้นทานตะวันนำมาต้มกับน้ำดื่ม (แกนต้น) หรือจะใช้ใบทานตะวันสด 60 กรัม (ถ้าใบแห้งใช้ 30 กรัม) และโถวงู่ฉิกสด 60 กรัม (ถ้าแห้งใช้ 30 กรัม) นำมาต้มเอาแต่น้ำดื่ม (ใบ)ส่วนอีกวิธีเป็นการทดลองกับผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงจำนวน 10 คน ด้วยการใช้ฐานรองดอกแห้งประมาณ 45 กรัมนำมาบดให้ละเอียดแล้วทำเป็นยาน้ำเชื่อม 100 มิลลิลิตร นำมาให้ผู้ป่วยกินครั้งละ 20 มิลลิลิตร วันละ 3 ครั้ง พบว่าหลังจากการศึกษาแล้ว 60 วัน ความดันโลหิตของผู้ป่วยลดลง โดยมีอาการดีขึ้น 4 คน และมีอาการดีขึ้นเล็กน้อย 4 คน ส่วนอีก 2 คน ไม่มีอาการดีขึ้นเลย (ฐานรองดอก) ช่วยทำให้อวัยวะภายในร่างกายชุ่มชื้น (เมล็ด) ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ วิงเวียนศีรษะ ตาลาย ด้วยการใช้ฐานรองดอกแห้งประมาณ 25-30 กรัมนำมาตุ๋นกับไข่ 1 ฟอง ใช้กินหลังอาหารวันละ 2 ครั้ง (ดอก, ฐานรองดอก, ดอกและฝัก) เปลือกเมล็ดมีรสเฝื่อน ช่วยแก้อาการหูอื้อ ด้วยการใช้เปลือกเมล็ดทานตะวันประมาณ 10-15 กรัม นำมาต้มกับน้ำดื่ม (เปลือกเมล็ด) ช่วยแก้อาการปวดฟัน ด้วยการใช้ดอกแห้ง 25 กรัม นำมาสูบเหมือนยาสูบ หรือจะใช้ฐานรองดอก 1 อันและรากเกากี้นำมาตุ๋นกับไข่รับประทาน (ดอก, ฐานรองดอก, ดอกและฝัก) รากและลำต้นเป็นยาขับพิษร้อน ถอนพิษไข้ (รากและลำต้น) ใช้เป็นยาแก้หวัด แก้อาการไอ แก้ไข้หวัด หากใช้แก้อาการไอให้ใช้เมล็ดนำมาคั่วให้เหลือง แล้วนำมาชงกับน้ำดื่ม(เมล็ด, น้ำมันจากเมล็ด) ส่วนรากและลำต้นก็เป็นยาแก้ไอเช่นกัน (รากและลำต้น) ช่วยแก้อาการร้อนใน (รากและลำต้น)
แกนหรือไส้ลำต้นนำมาต้มกับน้ำดื่ม ช่วยแก้อาการไอกรนได้ หรือจะใช้แกนกลางของลำต้นนำมาโขลกให้ละเอียด ผสมกับน้ำตาลทรายขาว แล้วนำมาชงกับน้ำร้อนดื่ม (แกนต้น) ใบ ราก และลำต้นช่วยแก้หอบหืด (รากและลำต้น, ใบ) ดอกมีรสเฝื่อน เป็นยาแก้หลอดลมอักเสบ (ดอก) เมล็ด น้ำมันจากเมล็ด ราก และลำต้นมีสรรพคุณช่วยขับเสมหะ ขจัดเสมหะ (รากและลำต้น, เมล็ด, น้ำมันจากเมล็ด) ช่วยรักษาเต้านมอักเสบ ด้วยการใช้ฐานรองดอกแห้งนำมาหั่นเป็นฝอย แล้วนำไปคั่วให้เกรียม บดให้ละเอียด นำมาชงกับน้ำอุ่นหรือเหล้าดื่มครั้งละ 10-15 กรัม วันละ 3 ครั้ง ซึ่งจากการใช้รักษาในผู้ป่วยจำนวน 122 คน พบว่าผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น (ฐานของดอก) ช่วยรักษาฝีเต้านม (แกนต้น) ดอกช่วยขับลม (ดอก)
รากเป็นยาแก้อาการปวดท้อง แน่นหน้าอก (ราก) รากและลำต้น ฐานรองดอก ดอกและฝักใช้เป็นยาแก้อาการปวดท้อง (รากและลำต้น, ฐานรองดอก, ดอกและฝัก) ช่วยแก้อาการปวดกระเพาะ (แกนต้น, ดอกและฝัก) ฐานรองดอกมีรสเฝื่อน เป็นยาแก้โรคกระเพาะอาหาร แก้อาการปวดท้องเนื่องจากโรคกระเพาะอักเสบ ด้วยการใช้ฐานรองดอก 1 อัน (หรือประมาณ 30-60 กรัม) และกระเพาะหมู 1 กระเพาะ แล้วใส่น้ำตาลทรายแดง 30 กรัม นำมาต้มกรองเอาแต่น้ำมาดื่ม (ฐานรองดอก) ช่วยแก้โรคบิด (เมล็ด, น้ำมันจากเมล็ด) ช่วยแก้บิดถ่ายเป็นเลือด (ดอกและฝัก) แกนหรือไส้ลำต้นนำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งหลอดอาหาร (แกนต้น) ช่วยแก้อาการท้องผูกสำหรับผู้สูงอายุ (ดอกและฝัก)
รากใช้เป็นยาแก้ระบาย (ราก) รากใช้เป็นยาขับพยาธิไส้เดือน ด้วยการใช้รากสด 30 กรัม เติมน้ำตาลทรายแดงเล็กน้อย นำมาต้มกับน้ำดื่ม (ราก) ราก แกนหรือไส้ลำต้น และน้ำมันจากเมล็ดใช้เป็นยาขับปัสสาวะ (แกนต้น, ราก, น้ำมันจากเมล็ด) แกนหรือไส้ของลำต้นมีรสจืดเฝื่อน นำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยาขับนิ่วในไต นิ่วในทางเดินปัสสาวะ ช่วยขับปัสสาวะได้ดี แก้ปัสสาวะขุ่นขาว แก้โรคทางเดินปัสสาวะ แก้ปัสสาวะเป็นเลือด ด้วยการใช้แกนกลางของลำต้นยาวประมาณ 60 เซนติเมตร หรือประมาณ 15 กรัม และรากต้นจุ้ยขึ่งฉาวราว 60 กรัม นำมาต้มคั้นเอาแต่น้ำหรือใช้ผสมกับน้ำผึ้งดื่ม (แกนต้น)ส่วนรากและลำต้นเป็นยาขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะปวดแสบปวดร้อน แก้นิ่วในทางเดินปัสสาวะ (รากและลำต้น)
ช่วยขับหนองใน (เมล็ด, น้ำมันจากเมล็ด) ช่วยแก้มุตกิดตกขาวของสตรี (รากและลำต้น) ช่วยแก้อาการปวดประจำเดือนของสตรี (ฐานรองดอก, ดอกและฝัก) ใช้แก้อาการปวดท้องน้อยก่อนหรือระยะที่รอบเดือนมา ให้ใช้ฐานรองดอก 1 อัน กระเพาะหมู 1 กระเพาะ ใส่น้ำตาลทรายแดง 30 กรัม แล้วต้มกรองเอาแต่น้ำมาดื่ม(ฐานรองดอก) ช่วยบีบมดลูก (ดอก)
ช่วยแก้เนื้องอกเยื่อบุผิวถุงน้ำคร่ำ (แกนต้น) ช่วยแก้อาการมูกโลหิต ด้วยการใช้เมล็ด 30 กรัม ใส่น้ำตาลเล็กน้อย นำมาต้มกับน้ำประมาณ 60 นาที แล้วนำมาใช้ดื่ม (เมล็ด) เมล็ดใช้เป็นยาบำรุงตับและไต (เมล็ด) ช่วยแก้อาการบวมน้ำ (รากและลำต้น) ใบใช้เป็นยารักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก (ใบ) หากแผลที่มีเลือดไหล ให้ใช้แกนกลางของลำต้นนำมาโขลกให้ละเอียด แล้วนำมาใช้พอกบริเวณแผล (แกนต้น) ใช้ทั้งต้นนำมาสกัดทำเป็นขี้ผึ้ง ใช้เป็นยารักษาแผลสดและแผลฟกช้ำ (ทั้งต้น)ส่วนราก
ช่วยแก้อาการฟกช้ำ (ราก) ช่วยแก้อีสุกอีใส (ดอกและฝัก) ช่วยแก้ฝีฝักบัว (น้ำมันจากเมล็ด)แก้อาการปวดบวมฝี (ฐานรองดอก) น้ำมันจากเมล็ดใช้เป็นยาแก้พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อยได้ (น้ำมันจากเมล็ด) ใช้แก้ไขข้อกระดูกอักเสบและฝี ด้วยการใช้ดอกทานตะวันสด บ้างระบุว่าใช้ฐานรองดอก ในปริมาณพอดี นำมาต้มเคี่ยวให้ข้นคล้ายกับขี้ผึ้งเหลว แล้วนำมาใช้พอกและทาบริเวณที่เป็น จากการรักษาในผู้ป่วยจำนวน 30 คนพบว่าได้ผลดีเป็นที่น่าพอใจ ดอกช่วยทำให้หน้าตาสดใส ช่วยรักษาใบหน้าตึงบวม
ป.ล.ขอบคุณข้อมูลจากเน็ตค่ะ
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณค่ะที่แวะมาค่ะ
Create Date : 24 กรกฎาคม 2562 |
Last Update : 25 กรกฎาคม 2562 1:01:38 น. |
|
19 comments
|
Counter : 2386 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณกะว่าก๋า, คุณสองแผ่นดิน, คุณTui Laksi, คุณสันตะวาใบข้าว, คุณThe Kop Civil, คุณmultiple, คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร, คุณSweet_pills, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณเนินน้ำ, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณhaiku, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณSai Eeuu, คุณเริงฤดีนะ, คุณkae+aoe, คุณKavanich96 |
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 กรกฎาคม 2562 เวลา:6:33:48 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 25 กรกฎาคม 2562 เวลา:8:25:19 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 กรกฎาคม 2562 เวลา:9:16:59 น. |
|
|
|
โดย: Tui Laksi วันที่: 25 กรกฎาคม 2562 เวลา:9:35:16 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 25 กรกฎาคม 2562 เวลา:9:51:13 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 25 กรกฎาคม 2562 เวลา:12:24:07 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 25 กรกฎาคม 2562 เวลา:15:38:48 น. |
|
|
|
โดย: เนินน้ำ วันที่: 25 กรกฎาคม 2562 เวลา:17:05:44 น. |
|
|
|
โดย: Sai Eeuu วันที่: 25 กรกฎาคม 2562 เวลา:23:26:43 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 กรกฎาคม 2562 เวลา:6:19:33 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 26 กรกฎาคม 2562 เวลา:6:55:10 น. |
|
|
|
โดย: ดินสอสีม่วง วันที่: 26 กรกฎาคม 2562 เวลา:8:31:00 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 กรกฎาคม 2562 เวลา:12:56:13 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 30 กรกฎาคม 2562 เวลา:3:55:14 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 31 กรกฎาคม 2562 เวลา:23:09:17 น. |
|
|
|
|
|
สวัสดียามเช้าครับ
ทานตะวันเป็นดอกไม้ที่มีเสน่ห์
ผมชอบถ่ายตรงใจกลางที่มีเมล็ดครับ
เหมือนกาแล็กซี่เลย
แถมเมล็ดก็อร่อยด้วย