รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
11 มีนาคม 2555
 
All Blogs
 

การเข้าถึงสภาวะแห่งสุญญตา

ก่อนอ่านเรื่องนี้ ขอให้ท่านอ่านเรื่อง จิต 3 บ้าน ก่อนครับ

ภาพข้างล่างนี้ เป็นภาพที่ผมเตรียมไว้ เพราะคิดว่าจะพูดในวันกิจกรรมครั้งที่ 3 ก่อนน้ำท่วม
แต่เมื่อจัดจริง ผมคิดว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะพูด เพราะยากเกินไปไม่เป็นประโยชน์ จึงยังไม่ได้พูด
จึงนำมาเขียนไว้ในที่นี้ เพราะอาจเป็นประโยชน์สำหรับใครบางคนที่ยังหาทางไม่พบในการเข้าสู่สภาวะแห่งสุญญตา ลองอ่านเล่น ๆ ดูครับ


สภาวะแห่งสุญญตาจะยากมาก ๆ สำหรับคน 2 ประเภท คือ
ประเภทที่ 1 ยังไม่มีญาณเห็น จิต / มโน ได้
ประเภทที่ 2 ถึงแม้ว่ามีญาณเห็น จิต / มโน ได้ก็จริง แต่ไม่รู้ว่าสภาวะแห่ง สุญญตา มันเป็นอย่างไรกัน

สำหรับคนประเภทที่ 1 นั้น เป็นว่า ท่านสมควรฝึกฝนอย่างถูกต้องโดยการรู้สึกลงเพื่อการรู้ทุกข์ที่ไร้ตัณหาทีมันเป็นไตรลักษณ์ใน มโน ก่อน ฝึกเข้าไป ฝึกเข้าไป แล้วสักวัน เมื่อกำลังจิตมากขึ้น ท่านจะเห็น จิต เห็น มโน ได้ เมื่อเห็นได้แล้ว ท่านก็ผ่านด่านที่ 1 เพื่อเข้าสู่ด่านที่ 2 ต่อไป

ขอให้ดูจากภาพประกอบ

AAA คือ ภาพร่างกายของคนเรานี่เอง

BBB คือ ตำแหน่งของ มโน ที่อยู่นอกร่างกาย อยู่ข้างหน้าร่างกายคนเรา มโน นั้น จิตมันสร้างขึ้นมา เมื่อมีการใช้ขันธ์ เช่น เมื่อมีการใช้ความจำ การใช้ความคิด หรือ เวลาที่มีความเครียด มีอารมณ์ต่างๆ ที่ปรุงแต่งขึ้นมา มโน ก็จะปรากฏโผล่มาทันที

ในธรรมชาตินั้น เมื่อคนยังไม่ได้คิด แต่พร้อมที่คิดอยู่ เช่น การมองเห็นสุนัขแล้วรู้ว่านี่คือสุนัข
สุนัขมันกัดกระดูกอยู่ เพียงแค่นี้ มโน ก็เกิดมาปรากฏอยู่ข้างหน้าเราแล้ว

ถ้าไม่มี มโน คนเราจะไม่สามารถใช้ สัญญา ใช้ ความคิด ได้เลย
ดังนั้น ถ้าจะหยุดจิตปรุงแต่งต่าง ๆ ก็ต้องทำลาย มโน ทิ้งไป .. ทำลายอย่างไร อ่านต่อไปครับ

หมายเหตุ วันทำกิจกรรมครั้งที่ 3 ที่ผมให้หมุนตัว เพื่อให้รู้จักกับสภาวะในข้อนี้ครับ

CCC คือ ภายในร่างกายคนเรา ผมจำเป็นต้องเขียนตรงนี้ แต่ก็รู้ว่า อาจโดนรุ่มด่า วิจารณ์จากลูกศิษย์ของบางสำนัก ที่ครูบาอาจารย์เขาบอกว่า จิตต้องอยู่ภายในร่างกาย จึงจะถูกต้อง จึงจะดี แต่มันเป็นความจริงของสภาวะสุญญตาว่า ถ้าจิตวิ่งเข้าสู่ภายในร่างกายคนเรา มันไม่ใช่สุญญตาครับ

เมื่อจิตอยู่ภายในร่างกาย ผลก็คือ จิตจะหยุดการทำงานของ มโน ทำให้ มโน มันว่าง
ทำให้คนไม่คิด ดังนั้น เมื่อคนไม่คิดเพราะ มโน มันว่างไป หยุดคิด หยุดปรุงแต่งแล้ว แน่ละ คนจะไม่ทุกข์ใจเลย ในบางสำนัก จึงสอนให้ลูกศิษย์ของตน บังคับจิตให้อยู่แต่ภายในร่างกาย ซึ่งเมื่อจิตอยู่ภายในร่างกาย ผลก็คือ เขาจะไม่ทุกข์ เลยเข้าใจไปว่า จิตอยู่ภายในนี่ถูกต้องดีแล้ว เพราะไม่ทุกข์ ลูกศิษย์ทำแล้วเห็นจริง ก็เชื่อตามคำสอนนั้น ๆ

จิตอยู่ภายในร่างกายนี้ไม่ทุกข์ใจนี้ถูกแล้ว แต่จิตถูกบังคับให้อยู่ในตำแหน่งภายในร่างกาย นี่เป็นภาวะตัณหา จิตที่ถูกบังคับแบบนี้ ตัวจิตยังเป็นดวงอยู่

แต่ถ้าลูกศิษย์พิจารณาให้ดีว่า การที่ท่านบังคับจิตให้อยู่แต่ภายในนั้น ท่านไม่อาจบังคับได้ตลอดเวลาที่ท่านตื่นอยู่ใช่หรือไม่ ถ้าท่านหยุดบังคับเมื่อไร จิตจะวิ่งไปที่อื่นทันที แล้วทีนี้ ท่านจะเป็นทุกข์ขึ้นมาเพราะจิตไม่ได้อยู่ภายในร่างกายแล้ว

หมายเหตุ ตอนวันทำกิจกรรม ที่ให้กลั้นลมหายใจไว้ ก็คือ แบบ CCC นี้ครับ

DDD คือ ตำแหน่งผิวหนัง ไม่อยู่นอกรางกายที่เป็น มโน ไม่อยู่ภายในร่างกายที่เป็น CCC
ตำแหน่งนี้แหละครับ มโน จะเป็นความว่างเปล่า และ ไม่มีตัวจิตที่เป็นดวงเหมือน CCC

ปัญหาอยู่ที่ว่า จะทำให้จิตอยู่ที่ DDD ได้อย่างไร..

ถ้าท่านยังมีการทำอะไรอยู่ ไม่มีวันที่จิตจะอยู่ที่ DDD เพราะถ้าท่านเพียงคิด BBB ก็ปรากฏ ถ้าท่านพยายามบังคับจิตให้อยู่ที่ DDD ด้วยภาวะตัณหา จิตก็เป็นดวงทันที

ดังนั้น การที่จิตจะอยู่ที่ DDD นั้น ท่านห้ามทำอะไรทั้งสิ้น ห้ามคิด ห้ามมีความอยากในจิตใจ เฉยๆ เข้าไว้ (ตามกฏ 3 ข้อ ที่ผมเคยบอกไว้ ) ท่านเพียงรู้สึกตัวที่เป็นธรรมชาติ มีความรู้สึกตัวล้วน ๆ (เหมือนตอนฝึก ใส่เสื้อ ถอดเสื้อ ) ไม่มีความคิด ไม่ต้องรู้อะไรเลย มีเพียงแต่ความรู้สึกล้วน ๆ ที่จิตไปสัมผัสได้เท่านั้น

ถ้าท่านเห็น จิต เห็น มโน ได้ ท่านจะเห็นได้เลยว่า ทั้งจิตและ.มโน.จะว่างเปล่า ไม่มีเลย
เหลือเพียงความรู้สึกที่ปรากฏอยู่เท่านั้น นี่คือสภาวะแห่งสุญญตา

แต่ท่านอาจจะสงสัยว่า แล้วจะให้คงสภาวะนี้ได้อย่างไรตลอดเวลา..
คำตอบก็คือ เมื่อท่านฝึกสัมมาสติ นี่แหละครับ ฝึกโดยการรู้ทุกข์ที่ไร้ต้ณหา ไม่ต้องอยากรู้อะไร แต่ให้รู้เอง ฝึกแบบไม่เครียดสบาย ๆ นี่คือกฏ 3 ข้อที่ผมเคยบอกท่านไว้แล้ว เมื่อท่านไม่ทำอะไร ฝึกแบบนี้ไปเรือย ๆ เมื่อความเคยชินปรากฏกับท่าน ท่านก็จะเป็นอย่างนี้เองด้วยความเคยชินที่ฝึกมา

เพราะการไม่ต้องทำอะไร แต่เป็นความเคยชินของท่านเอง มันจึงปรากฏอย่างนี้ได้นานและถ้าชินมาก ๆ ก็จะอยู่อย่างนี้ตลอดไป

ท่านจะเห็นว่า การฝึกฝนอย่างถูกวิธีเท่านั้น จึงจะนำพาท่านเข้าสู่สภาวะแห่งการสิ้นทุกข์ได้อย่างสิ้นเชิง ท่านต้องฝ่าด่านประเภทที่ 1 และรู้จักสภาวะตามประเภทที่ 2 ท่านก็จะไปถึงได้

เมื่อท่านเข้าใจในสภาวะแห่งสุญญตา จิตท่านจะสำรวจตัวเองอยู่เสมอโดยอัตโนมัติ พอจิตจะเคลื่อนไป BBB โดยทีท่านไม่ต้องการคิด ไม่ต้องการรู้ จิตจะหยุดทันที นี่คือสิ่งที่หลวงพ่อเทียนบอกว่า รู้แต่ไม่รู้อะไร พอคิดปุ๊บหยุดปั๊บ ท่านไม่ต้องไปสนใจในสภาพของ CCC เลย เพราะ CCC จะไม่มีเพราะปรกติธรรมชาติของจิตนั้นมันมักจะไปอยู่ที่ BBB ไม่ใช่ CCC

เมื่อจิตหยุดสร้าง มโน โดยที่ท่านไม่ต้องการใช้ขันธ์ ท่านจะไม่ทุกข์ใจเลย หรือ ว่าถ้าท่านต้องการใช้ขันธ์ คิดโน่น คิดนี่ จิตก็จะไม่ปรุงแต่งไปในทางที่ทำให้ท่านทุกข์ใจ ทุกข์ก็จะสิ้นสุดลงด้วยสาเหตุอย่างนี้ครับ

ผลแห่งแห่งสุญญตา เมื่อท่านพบ ท่านก็จะเข้าใจในอริยสัจจ์ 4 อย่างทะลุ เข้าใจปฏิจสมุปบาทอย่างทะลุ ท่านจะเข้าใจในคำสอนของหลาย ๆ ครูบาอาจารย์ได้ แต่ความเข้าใจในธรรมทั้งหมดไม่สำคัญเท่ากับว่า ทุกข์ได้สิ้นสุดลงไปแล้ว




 

Create Date : 11 มีนาคม 2555
0 comments
Last Update : 11 มีนาคม 2555 10:06:24 น.
Counter : 3645 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.