รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2561
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
4 พฤศจิกายน 2561
 
All Blogs
 
สาเหตุทีนักภาวนาไม่อาจพบสภาวะธรรมแบบท่านพาหิยะได้



นักภาวนาคนไทย แทบทุกคนจะรุ้จักชื่อ ท่านพาหิยะ กันดี
ซึ่งคำสอนสั้น ๆ ทีพระพุทธองค์ได้ทรงตรัสกับท่านพาหิยะนั้น เป็น
ธรรมแท้ ๆ ทีเป็น สุญญตาสภาวะ หรือ สภาวะธรรมแห่งการไร้ตัวตน 
ทีเป็นเป้าหมายขั้นสูงสุดของนักภาวนาทีต้องการไปถีงให้ได้
.
แต่ทำไมนักภาวนาจึงไม่อาจพบสภาวะธรรมแบบนี้ได้
ทั้ง ๆ ทีในพระสูตรก็บอกเพียงว่า เห็นสักแต่ว่าเห็น ได้ยินสักแต่ว่าได้ยิน
ซี่งอ่านดู ก็ไม่เห็นยากอะไรเลย.
.
ในอายตนะทั้ง 6 ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย มโน นั้น
5 ตัวแรก ไม่ยากทีจะพบได้ เพราะคนทุกคนรู้จัก สัมผัสได้ เห็นได้อยู่แล้ว
แต่ตัวที 6 คือ มโน นี่ซิ เป็นสิ่งทียาก ทีนักภาวนาจะพบเห็นได้
เพราะการพบ มโน ได้นั้น นักภาวนาต้องมีดวงตาเห็นธรรมได้ก่อน
ทำให้นักภาวนาทีไม่มีดวงตาเห็นธรรม ไม่อาจจะรู้จัก มโน ได้เลย
.
มโน ก็คือ ความว่างทีจิตสร้างขึ้นมา  เพื่อให้เป็นประตูทางผ่านของการสัมผัสทีทวารต่างๆ เข้าสู่จิตได้    ตัวอย่างเช่น  เมื่อมีการสัมผัสทางตาเกิดขึ้นมาแล้ว  ก็จะผ่านมาทาง มโน เพื่อเข้าสู่จิตต่อไป ทำให้จิตรู้การมองเห็นทางตาได้
.
ปกติ มโน นั้นจะใสแจ๋ว แต่ถ้าคนมีการนีกคิดปรุงแต่งเมื่อไร มโน ก็จะขุ่นมัวลงไปมากกว่าเดิม
ถ้านักภาวนาทีมีดวงตาเห็นธรรม จะเห็น มโน นั้น บางครั้งใสแจ๋ว บางครั้งเหมือนเป็นหมอกบางๆ  จางๆ ลอยอยู่  บางครั้งเห็นเป็น พยับแดด ก็มีได้เช่นกัน ซึ่งขึ้นกับว่า ตอนนั้น ใน มโน มีการรับรู้อะไรเข้ามา มีการปรุงแต่งอะไรในจิตใจหรือไม่
.
คนทุกคนทีไม่ใช่ พระอรหันต์  จิตจะสร้าง มโน กันทุกคน ไม่มีใครยกเว้น
แม้แต่พระอนาคามี จิตก็ยังสร้าง มโน อยู่
เมื่อ มโน มีอยู่ การจะพบสภาวะธรรมแบบท่านพาหิยะ ย่อมเป็นไปไม่ได้
เพราะสภาวะธรรมแบบสุญญตานั้น  มโน ต้องถูกทำลายลงไปก่อน
จึงจะเกิดสภาวะธรรมแบบสุญญตาได้
.
ถ้าถามว่า การเห็น มโน จำเป็นไหมต่อการภาวนา
ตรงนี้ ตอบได้ว่า ถ้านักภาวนาเจริญปัญญาวิปัสสนาด้วยการรู้เห็นขันธ์ 5 เป็นไตรลักษณ์
การเห็น มโน ได้ ก็ไม่จำเป็น
.
แต่ถ้า นักภาวนา หวังผลเลิศไปถีงสุญญตาสภาวะให้ได้ การเห็น มโน ได้เป็นสิ่งจำเป็น
เพราะต่อเมื่อ เห็น มโน ได้ รุ้จัก มโน ได้แล้ว ต่อไป เมื่อ มโน สูญสิ้นไป
นักภาวนา ก็จะรุ้ได้ว่าว่า บัดนี้  มโน ได้หายไปแล้ว ก็จักเจริญสภาวธธรรมแบบพาหิยะสูตรต่อไปทีว่า
เห็นสักแต่ว่าเห็น  ได้ยินสักแต่ว่าได้ยิน นักภาวนาก็จะพบกับสุญญตาสภาวะได้ทันที
.
หมายเหตุ  
มโน สูญสิ้นไปได้อย่างไร
มโน นั้นทีหายไป เพราะจิตหยุดสร้างขึ้นมา การทีจิตหยุดสร้างได้
จะมาจากจิตทีผ่านการเจริญมรรค 8 จนได้ปัญญาญาณทีกล้าแข็ง
และได้พบกับ การสูญสิ้นไป ของ มโน ได้ก่อนแบบไม่ตั้งใจ
ทำให้นักภาวนาเข้าใจในการภาวนาได้ต่อมาว่า
สิ่งที่ตนทำอยู่นี้ ถูกทางแล้ว จึงฝีกฝนภาวนาต่อไป
จนกำลังจิตเพิ่มสูงขึ้นจนตั้งมั่นอย่างมั่นคง
จึงทำให้ มโน นั้นได้สูญสิ้นไปได้นานมากขึ้นกว่าตอนแรก
ยิ่งนักภาวนามีกำลังจิตยิ่งตั้งมั่นมากเท่าใด
มโน ทีสูญสิ้นไป ยิ่งอยู่ได้ยาวนานมากขึ้น
ดังนั้น จิตทีอ่อนกำลังลงไป 
มโน ก็จะปรากฏขึ้นมาได้ใหม่
นีคือ เหตุและปัจจัย ทีทำให้ มโน เกิด และ มโน สูญไปได้
ซึ่งเป็นหลักธรรมในพุทธศาสนาทีว่า
ธรรมทั้งปวงล้วนเกิดแต่เห็น เมื่อเหตุดับธรรมก็ดับลงไป
.
นักภาวนาแทบทุกคน ทุกสำนัก ต่างยืนกระต่ายขาเดียวว่า
สิ่งทีตนทำอยุ่ คือ มรรค 8 แน่แท้ ไม่บิดเบี้ยว
แต่ถ้าท่านเจริญธรรมไปมากกว่า 10 ปีขึ้นไป
แล้วยังไม่พบธรรมแบบสุญญตาแล้วละก็
เป็นไปได้ไหมว่า สิ่งทีท่านทำอยู่นั้น บิดเบี้ยวไปจากมรรค 8
โดยทีท่านไม่รู้ตัวเลย






Create Date : 04 พฤศจิกายน 2561
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2561 18:29:16 น. 0 comments
Counter : 518 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.