#เก็บหุ้นสร้างพอร์ตเติบโต ลงทุนหุ้นในเฟสเก็บเกี่ยว
ข้อดีการเป็นนักลงทุนนั้น ก็คือ เราไม่จำเป็นต้องอยู่กับธุรกิจในช่วงที่ย่ำแย่ หรือในช่วงที่กำลังลงทุนหนัก ๆ แต่เราสามารถ เลือก ที่จะเข้าไป ทำธุรกิจด้วย ในช่วงที่กิจการนั้นกำลังเข้าระยะ เก็บเกี่ยว หรือเข้าสู่เฟสของการทำเงินสร้างกระแสเงินสดนั่นเอง
แต่ปัญหาก็คือ เราจะรู้ได้อย่างไรว่า หุ้นที่เราลงทุนกำลังเข้าสู่ระยะเก็บเกี่ยว (Harvesting Phase) เรามาติดตามกันดีกว่าครับว่า มีวิธีดูยังไง และควรลงทุนอย่างไร
ประการแรก ยอดขายเติบโต ในขณะที่ต้นทุนขายลดลง
สิ่งสังเกตข้อแรก ๆ ว่าหุ้น หรือกิจการที่เราลงทุนเริ่มเข้าท่าเข้าทางก็คือ การที่ยอดขายเติบโต ยิ่งโตมาก โตเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น และหากเราพบว่าต้นทุนขายของเขาลดลง นั่นหมายความว่า เฟสแห่งการลงทุนลงแรงของธุรกิจที่เราร่วมลงทุนด้วยอาจจะจบลงแล้ว
แต่สิ่งที่นักลงทุนต้องติดตามอย่างต่อเนื่องก็คือ ตามดูยอดขายว่าเติบโตจริงหรือไม่อย่างไร บางครั้งยอดขายเติบโตเพียงชั่วครั้งคราว อาจทำให้เราเข้าใจผิดคิดว่าหุ้นกำลังจะดีก็เป็นไปได้เช่นกันครับ
ประการที่สอง กระแสเงินสดขยับปรับบวก
จุดสังเกตต่อมาก็คือ กระแสเงินสดเริ่มขยับปรับบวกขึ้น จากเดิมอาจถึงขั้น ติดลบ แต่การติดตามกระแสเงินสดเราก็ต้องดูให้รอบด้านว่าที่ขยับบวกเนื่องจากสาเหตุใด บางธุรกิจมีการกลับรายการจากที่เคยตั้งสำรองเอาไว้ก็สามารถทำให้กระแสเงินสดดูดีได้เช่นกัน
การที่กระแสเงินสดเป็นบวกติดต่อกันหลายไตรมาส แถมยังมีการเติบโตนั่นเป็นสัญญาณดีมาก ๆ เราต้องสังเกตความเปลี่ยนแปลงตรงนี้ให้ดี เพราะถ้าเมื่อไหร่กระแสเงินสดล้นออกมาที่กำไรสุทธิหุ้นก็จะขยับปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว
ประการที่สาม กำไรสุทธิเติบโต
เมื่อเราตรวจสอบต้นทางของเงินก็คือ รายได้ และต้นทุนขาย ที่ดีขึ้น ตลอดจนตรวจดูกระแสเงินสดของกิจการแล้ว สิ่งที่จะตามมาก็คือ กำไรสุทธิจะเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และนั่นเป็นสัญญาณดีสุด ๆ
อย่างไรก็ดี กำไรสุทธิที่เติบโตต้องไม่ใช่กำไรพิเศษ หรือเป็นกำไรเพียงครั้งเดียว แต่ต้องเป็นกำไรที่สม่ำเสมอ และยั่งยืน อย่างน้อยที่สุดก็ต้องเติบโตให้เห็นชัดเจน หากเราตัดกำไรพิเศษทิ้งออกไป
การที่กำไรเติบโต นั่นหมายความว่า กิจการเริ่มเข้าสู่ระยะเก็บเกี่ยว และถ้างบลงทุนลดน้อยลงไป และดูเหมือนว่ากิจการไม่ต้องมีการลงทุนอะไรหนัก ๆ อีกแล้ว นั่นยิ่งทำให้น่าสนใจ เพราะกำไรอาจจะเติบโตต่อเนื่องอย่างยั่งยืนก็เป็นไปได้
ประการที่สี่ หนี้สินต่อทุนเริ่มลดลง
สิ่งที่เราต้องดูประการต่อมาก็คือ หนี้สินต่อทุน หากกิจการใดก็ตามที่ยังต้องลงทุนหนัก หนี้สินต่อทุนในส่วนนี้จะยังดูไม่ดี หนี้สินที่มากเท่ากับต้องแบกภาระดอกเบี้ยจ่ายที่สูง กดดันกำไร และหากเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ กิจการที่มีหนี้สินสูง ๆ จะตกอยู่ในที่นั่งลำบาก
ถ้าหนี้สินต่อทุนขยับปรับลง นั่นเป็นสัญญาณบวก และถ้าเราดูตัวเลขประกอบอีกตัวก็คือ วงจรเงินสด หรือ Cash Cycle เริ่มลดลง หรือถ้าจะให้ดีถึงขึ้นติดลบ จะเป็นสัญญาณดีมาก และจะทำให้แนวโน้มหนี้สินต่อทุนลดลงได้เรื่อย ๆ อย่างไม่ต้องสงสัย
ประการที่ห้า ROE Return on Equity เติบโต
สิ่งดี ๆ ที่ตามมาอีกประการก็คือ ROE Return on Equity เติบโต หรือเราเรียกง่าย ๆ ว่า ส่วนตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ค่าตัวเลขนี้ยิ่งมากยิ่งดี หมายความถึง การที่ผู้ลงทุนลงทุนในหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง แล้วได้รับผลตอบแทนกลับมากี่ % ถ้าได้รับผลตอบแทนกลับมามากก็ดีต่อผู้ถือหุ้นเท่านั้น
แต่สิ่งที่ต้องระวังก็คือ ตัวเลขนี้ถูกทำให้สูงได้ด้วยจำนวนหนี้สินที่สูง หากเราติดตามตัวเลขหนี้สินต่อทุนประกอบไปด้วยก็จะวางใจได้ โดยปกติแล้วถ้าหุ้นเริ่มเข้าสู่เฟสแห่งการเก็บเกี่ยว ตัวเลขนี้จะสูงขึ้น และถ้าสามารถรักษาระดับ หรือเติบโตได้ด้วยยิ่งดีเข้าไปใหญ่
ประการสุดท้าย เริ่มจ่ายปันผลก้อนงาม
สิ่งที่นักลงทุนทุก ๆ คนคาดหวังก็คือ เงินปันผล หากกิจการใดก็ตามจ่ายเงินปันผลก้อนงามออกมาได้ ราคาหุ้นต้องขยับปรับขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งกว่าจะมาถึงตรงจุดนี้เขาอาจจะผ่านอะไรมามาก แต่ในแง่มุมของนักลงทุนก็ไม่จำเป็นต้องไปลำบากกับเจ้าของกิจการ แต่พอกิจการเริ่มดีเราก็ขอมีส่วนร่วมด้วยจะดีกว่า
ข้อสรุปก็คือ
การลงทุนหุ้นในเฟสเก็บเกี่ยวเป็นเรื่องดี เราไม่จำเป็นต้องไปทนทุกข์ทรมานตอนที่กิจการยังลงทุนหนัก ๆ และเมื่อสัญญาณดี ๆ เกิดขึ้น นั่นคือ จังหวะ แห่งการ เก็บเกี่ยว ของเราเช่นกันครับ
นายแว่นลงทุน