Blogger Reader Writer Runner

-- Raindrops Keep Falling On My Heart --


คนทำงานกลางคืน ล้วนแต่ผิดหวังมาทั้งนั้น ใครบางคนบอกกับฉัน
ฉันรู้จักการร่วมรักตั้งแต่อายุสิบขวบแต่กับความรักแท้ๆ ฉันไม่เคยได้รู้จักมันเลยทั้งชีวิต

1.

ม่านหนาหนักสีเทาถูกเลื่อนเปิดช้าๆ แดดเช้าลอดผ่านเข้ามาในห้องอย่างเกรงใจ ให้ความอบอุ่นมากกว่าร้อนระอุเช่นแดดกลางวัน ฉันหลงใหลแสงแดดยามเช้า แม้จะเป็นคนกลางคืนแต่ก็มักจะตื่นเช้าตรู่มาสัมผัสแดดเช้า ก่อนจะหลับอีกทีช่วงสาย เสียงเพลงคลอเบาๆ จากวิทยุที่เปิดทิ้งไว้ทั้งคืน อยากจะลืมใครสักคน เมื่อหยาดฝนพร่างพรมพริ้วมาสายน้ำที่ร่วงหล่น ปนเคล้าหยาดน้ำตา กลับไปคิดถึงครา แรกที่เราพบกัน ช่างเป็นเพลงที่เขียนมาเพื่อฉันจริงๆ ฉันหลับใหลไปหลังจากแสงแดดเยี่ยมเยือนเข้ามาถึงปลายเตียง

ชีวิตของฉันเริ่มหลังพระอาทิตย์ลับขอบตึก ฉันออกจากห้องพักถือหน้ากากติดมือ คืนนี้ฉันสวมหน้ากากนักร้องแย้มยิ้มยั่วเย้าลูกค้า ไฟส่องสว่างตามเสาจุดชีวิตของฉันให้มีชีวาและไฟแสงสีในคลับที่ฉันทำงานก็ทำให้รู้สึกราวกับการมีชีวิตในเวลากลางวัน คนกลางคืนล้วนแต่ผิดหวังมาทั้งนั้น ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เจ๊สวยบอกกับฉันในครั้งแรกที่พบกัน เธอเป็นช่างแต่งหน้าประจำร้าน คอยแต่งหน้าให้กับนักร้องทุกคนที่นี่ฉันก็เป็นหนึ่งในนั้น เธอดูแลฉันตั้งแต่วันแรกจนทุกวันนี้เธอก็ยังดูแลไม่เคยเปลี่ยน เราพูดคุยกันทุกเมื่อที่มีโอกาส บางครั้งเราจะดื่มกันถึงเช้าแล้วจึงแยกย้าย เรื่องราวของเธอถูกส่งผ่านแลกเปลี่ยนกับฉันอยู่เสมอ เธอถูกผู้ชายหลอกจนหมดตัว เงินที่หาได้ถูกใช้ปรนเปรอ เมื่อเธอสิ้นเนื้อประดาตัวผู้ชายคนนั้นก็ทิ้งเธอชีวิตกระเทยก็เป็นเช่นนี้ เธอกล่าว ยากจะหารักแท้จริงใจ มันเป็นเช่นคำสาปนับแต่วันที่เรารู้ตัวว่าผิดเพศ ตัวเป็นชายใจเป็นหญิง ที่เหลือนับจากนั้นคือการต่อสู้และปล่อยวาง จากนั้นโลกกลางคืนก็อ้าแขนโอบรับเธอด้วยความอ่อนโยน การพูดคุยกับเจ๊สวย เต็มไปด้วยภาพชีวิตที่ส่งผ่านมาให้ฉัน คล้ายการเข้าห้องเรียนชีวิต สรุปเนื้อหาใจความให้เห็นภาพเสร็จสรรพ กลัดติดด้วยถ้อยคำสอนสั่งห่วงใย สิ่งหนึ่งที่เธอย้ำกับฉันทุกบ่อยคือ อย่าหลงรัก อย่าเผลอตกลงไปในหลุมรัก และอย่าลุ่มหลงใครโดยเฉพาะผู้ชาย มันจะนำมาซึ่งความเจ็บปวด

ฉันชอบร้องเพลงของบิลลี่ ฮอลิเดย์ ไม่ใช่เพราะฉันเสียงคล้าย แต่เป็นเพราะเสียงของฉันแหบพร่าเจือความหม่นเศร้าของชีวิตเหมือนบิลลี่เจ้าของคลับและผู้จัดการฟังน้ำเสียงของฉันระหว่างที่มาสมัครเป็นนักร้องเอ่ยปากบอกกับฉันว่าเหมาะกับเพลงของบิลลี่ที่สุด ฉันไม่รู้จักหรอกว่าเธอเป็นใครร้องเพลงแบบใดในตอนนั้น วันที่ฉันได้เป็นนักร้องที่นี่เจ้าของคลับเปิดเพลง I’m a fool to want you ของบิลลี่ให้ฟัง เสียงของเธอเจ็บปวด ฉันบอกกับเจ้าของคลับ เสียงของเธอไม่ใสหวาน หากแหบพร่าเจือด้วยบางอย่างที่เจ็บปวด จากนั้นมาฉันมีบิลลี่เป็นต้นแบบในการร้องเพลง เจ้าของคลับหาแผ่นเสียงที่มีอยู่เปิดให้ฉันฟัง ทุกวันก่อนเริ่มงานฉันจึงมาถึงคลับก่อนเพื่อนั่งฟังและจดจำลีลาการร้องแบบเธอ ฉันสัมผัสได้ว่ามีอะไรบางอย่างเชื่อมโยงฉันกับบิลลี่เอาไว้ ฉันร้องเป็นคนสุดท้ายในชั่วโมงสุดท้ายของคลับ เพลงที่ฉันเลือกทุกเพลงหม่นเศร้า บ้างเจ็บปวด บ้างเหงาเปล่าเปลี่ยว ลูกค้าประจำที่คลับจะรู้ดี หลังลงจากเวทีจะเหลือเวลาเกือบชั่วโมงก่อนปิดร้าน ฉันจะนั่งดื่มกับลูกค้าประจำที่พบเจอกันบ่อยหรือไม่ก็ลูกค้าบางคนที่อยากจะให้ฉันร่วมโต๊ะด้วยมีลูกค้าชื่นชอบในการร้องของฉันมากพอสมควรเจ้าของคลับจึงพอใจให้ฉันร้องเพลงในแบบนั้น แม้ว่าจะหม่นเศร้าและเจ็บปวดก็ตามลูกค้าที่มาคลับส่วนใหญ่ก็หลบหนีความเจ็บปวดกันมาทั้งนั้น เมื่อฟังฉันร้องเพลง บางคนถึงกับรู้สึกว่าฉันเป็นเพื่อนและเข้าใจความเจ็บปวดของพวกเขา

คืนนี้ไม่ต่างจากคืนก่อน ฉันลงจากเวที เดินทักทายแขกในร้าน ฉันมองเห็นเขาขณะร้องเพลงเขาเป็นลูกค้าคนเดียวที่ไม่ได้ใส่ใจเพลงที่ฉันร้อง ฉันลอบมองจากบนเวที เขานั่งนิ่งมองผู้คนในร้าน ยกเบียร์จิบเป็นระยะ ไม่ได้ฟังเพลง ฉันเดินไปหาเขาที่โต๊ะและขออนุญาตนั่งคุยชั่วครู่วางแก้วไวน์บนโต๊ะ เอ่ยทักทาย มาครั้งแรกเหรอค่ะ ฉันไม่เคยพบคุณมาก่อน เขาตอบกลับด้วยคำชมว่าฉันร้องเพลงได้เศร้าแต่ไพเราะฉันแปลกใจเพราะว่ามั่นใจว่าเขาไม่ได้ฟังฉันร้องเพลงเลยคุณดูแตกต่างจากลูกค้าคนอื่น ไม่รู้ทำไมฉันจึงรู้สึกอย่างนั้นมีความลึกลับบางอย่างที่น่าค้นหาอยู่ในตัวคุณหรือความเจ็บปวดบางอย่างจากในอดีตที่เผยเปิดทางสายตา ฉันบอกเขาไปอย่างนั้น แต่เขากลับถามฉันว่ารู้ไหมว่าทำไมบิลลี่ ฮอลิเดย์ร้องเพลงได้เจ็บปวดและหม่นเศร้าขนาดนั้น ฉันนิ่งฟัง ความลับบางอย่างที่เชื่อมโยงฉันกับบิลลี่อาจถูกบอกเล่าโดยผู้ชายที่แววตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ชายคนที่ฉันเริ่มรู้สึกลุ่มหลง มันจะทรมานไหมนะความรู้สึกนั้นฉันนึกถึงคำสอนของเจ๊สวย

2.

บิลลี่โตขึ้นมาแบบชำรุด แม่ตั้งท้องเธอตั้งแต่วัยรุ่น พ่อทิ้งเธอให้อยู่กับแม่โตขึ้นมาหน่อยเธอก็ถูกทิ้งให้อยู่ลำพังกับญาติคุณเริ่มเล่าเรื่องของบิลลี่ให้หญิงสาวฟังจากตรงนั้นความเจ็บปวดของบิลลี่เปิดเผยตัวอย่างเงียบเชียบเย็นชาจนในคืนหนึ่งเธอถูกคนแถวบ้านข่มขืน เธออายุได้สิบเอ็ดปีขณะนั้น ต้องเข้าไปอยู่ในโรงเรียนดัดสันดานเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ แต่นั่นกลายเป็นแหล่งเพาะบ่มความรวดร้าวและเจ็บปวดให้แสดงอาการในอีกหลายปีต่อมา หลังจากวนเวียนอยู่ในซ่องและถูกจับ พรสวรรค์ของเธอก็ถูกค้นพบ น้ำเสียงของเธอมีเสน่ห์ แม้จะแหบพร่าหากก็เจือด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่จริงแท้ ความเจ็บปวดที่ไร้การเสแสร้ง เสียงของหญิงสาวก็เป็นเช่นนั้น คุณเอ่ยบอก ราวกับมีความเจ็บปวดบางอย่างซ่อนอยู่ในนั้น คุณอยากสัมผัส อยากลูบไล้ความเจ็บปวดนั้นว่าจะเป็นเช่นเดียวกับอาการบาดเจ็บของคุณหรือเปล่า หญิงสาวเหม่อมองที่แก้วไวน์ของเธอ สิ่งใดกันพาเธอดำดิ่งลงไปในห้วงอารมณ์นั้น เสียงร้องเพลงของหญิงสาวทำให้คุณนึกถึงบิลลี่ไม่ใช่เพราะเพลงที่เธอร้องคือเพลงของบิลลี่ เสียงร้องต่างหาก มันหม่นเศร้า ความเจ็บปวดมากหลายภายในเธอถูกปลดปล่อยผ่านเสียงครวญเศร้า เป็นเช่นน้ำเสียงของบิลลี่ หญิงสาวขอตัวลุกจากโต๊ะ คุณสังเกตเห็นน้ำตาของเธอ เธอปรากฎตัวบนเวทีอีกครั้ง นักดนตรีกำลังเก็บอุปกรณ์ เธอกระซิบบางอย่างกับนักดนตรีเสียงเปียโนบรรเลงขึ้นเคล้าเสียงแซคโซโฟน เธอร้องเพลง All of me ของบิลลี่ฮอลิเดย์ และสายตาหยุดอยู่ที่คุณ เพลงนี้สำหรับคุณ เธอบอกผ่านสายตา จบเพลง เธอลงจากเวที และหายเข้าไปด้านหลัง ร้านใกล้จะปิดแล้ว คุณยกเบียร์ขึ้นดื่มจนหมด และออกมายืนรอหญิงสาวที่หน้าคลับ ไร้เหตุผล น้ำตาหยดนั้นทำให้คุณอยากรู้จักกับเธอมากขึ้น เกือบสี่นาฬิกา ฝนที่พรำมื่อสักครู่เริ่มลงเม็ดหนัก คุณจุดบุหรี่ขึ้นสูบ จู่ๆ คุณนึกถึงเรื่องนั้น คุณได้พบกับคนรักเก่า ไม่ใช่สิ ต้องเรียกว่าคนที่คุณเคยแอบรักมากกว่า คุณพบเธอโดยบังเอิญอีกครั้ง เธอทำงานอยู่อาคารเดียวกับคุณ ได้พบเจอเธอในลิฟต์ และเดินลงบันไดเลื่อนพร้อมกัน ไม่มีคำเอ่ยทักทาย เธอมองผ่านคุณไปด้วยแววตาว่างเปล่า เธอลืมเลือนใบหน้าของคุณไปสิ้น คุณรู้สึกแปลกหน้า การถูกลืมเลือนไม่ว่าจะด้วยเหตุใด นำมาซึ่งความเจ็บปวด และคุณก็เจ็บปวด คุณสูดควันเข้าปอดครั้งสุดท้ายทิ้งก้นบุหรี่ลงพื้น ฝนยังคงหนาเม็ดหญิงสาวที่คุณรอเดินออกจากร้านพร้อมเพื่อนอีกคนเธอพยักหน้าให้เพื่อนและเดินแยกมาหาคุณสีหน้าเต็มไปด้วยความแปลกใจคุณเอ่ยปากขอไปส่งเธอที่ห้องหญิงสาวกางร่มคุณและเธอออกเดินไปพร้อมกันท่ามกลางสายฝนพรำ

3.

ทุกอย่างเริ่มต้นและจบลงในวันนั้น ฝนกระหน่ำด้านนอกและอ้อมกอดเปล่าเปลือย เริ่มต้นจากความลุ่มหลงและจบลงด้วยการร่วมรัก เสียงสายฝนหวดโบยผนังห้องเคล้าเสียงครางทุ้มต่ำด้วยหฤหรรษ์ แล้วทุกอย่างก็สิ้นสุดหลังการปลดปล่อย และเริ่มใหม่อีกครั้งไม่รู้จบ สุดท้ายเหลือเพียงอ้อมกอดเปล่าเปลือย ยืนยันว่าคุณดำรงอยู่ข้างกาย หาใช่จินตนาการเพริดระหว่างช่วยตัวเองของฉัน ใบหน้านั้นมิอาจถูกจดจำ กลิ่นตัณหายังลอยคละคลุ้งในห้อง หากแต่เงียบเสียง ไร้ถ้อยคำใดระหว่างกัน เพียงเสียงฝนกระหน่ำและความเงียบไร้เสียงที่สะกดให้ฉันต้องทัณฑ์ทรมานอีกครั้งและอีกครั้ง

ทำไมถึงยืนรอฉัน เป็นเพราะน้ำตาหยดนั้น คุณบอก น้ำตาที่หลั่งให้กับเรื่องราวของบิลลี่ ฉันรู้สึกมาตลอดตั้งแต่ฉันเริ่มร้องเพลง และตั้งแต่ฉันร้องเพลงของบิลลี่มีบางอย่างที่ฉันรู้สึกว่าฉันมีอะไรที่เชื่อมโยงกับบิลลี่และฉันก็ได้รู้จากคุณ

ฉันอายุสิบขวบตอนนั้นกลางดึกคืนที่ฝนหลงฤดูพรั่งพรูหยดน้ำด้านนอก ฉันนอนซมด้วยพิษไข้อยู่ในห้อง พลิกไปมาว้าวุ่นด้วยความไม่สบายตัว พาราเซตามอลสองเม็ดถูกกลืนลงคอเพื่อประคองอาการ ไม่ได้มีใครใส่ใจพอที่จะพาฉันไปโรงพยาบาลไม่มีทางที่ฉันจะข่มตาหลับลงด้วยอาการไข้แบบนั้น เสียงกุกกักที่ทางเดินหน้าห้องตามมาด้วยเสียงเปิดประตูแผ่วเบา มานึกถึงในตอนนี้ หากฉันรอบคอบและลงกลอนห้องนอนให้ดี ชีวิตที่เหลืออยู่ของฉันคงจะสวยงามกว่านี้ หลังจากประตูห้องนอนถูกปิด เงาดำทะมึนที่ปลายเตียง ได้สวมบทมัจจุราชในคราบมนุษย์เจ้าของเงาดำร่างนั้นคือชายที่เรียกตัวเองว่าพ่อแต่ละก้าวย่างของมันทิ้งเมือกขาวขุ่นไว้ตามพื้น สายตาแดงวาบด้วยตัณหาหมกหมุ่น แต่ละคืบก้าวยาวนานราวชั่วกัลป์ มือสากโสมมปิดปากฉันแน่นและกระซิบขู่สารพัด ถอดเสื้อของตัวเองออกและยัดเข้ามาในปากเสียงแหบพร่าของฉันถูกปลดปล่อยออกมาด้วยแรงมหาศาล ดิ้นพล่านสุดแรงเท่าที่เด็กสิบขวบจะสามารถหากแต่ไม่อาจทะลายผ่านม่านหมอกแห่งความสยดสยองที่แผ่ปกคลุมชายกระโปรงชุดนอนถูกเลิกขึ้นมาถึงเอว ท่อนเนื้ออุบาทว์แข็งเกร็งถูกยัดเข้ามาในตัวฉันดุจเดียวกับเสื้อที่ยัดเข้ามาในปาก ความเจ็บปวดชนิดที่ในชีวิตฉันไม่เคยประสบพุ่งแล่นจากกายเนื้อเข้าสู่จิตใต้สำนึกที่ก้นบึ้งของหัวใจ หยดน้ำตาถูกระบายจากต่อมน้ำตาจนบ่อน้ำนั้นแห้งขอดและแห้งแล้งไปตลอดกาล รอยจูบอันน่าสะอิดสะเอียนเลื้อยผ่านทุกตารางนิ้วของผิวหนัง ท่อนเนื้ออุบาทว์ลากกรีดรอยแผลทั่วตัวฉัน ชั่วพริบตามันหลั่งรดด้วยเมือกขาวขุ่นข้นขยะแขยงและเดินจากไปเนิบช้าทิ้งเรื่องราวอัปยศและรอยแผลอุบาทว์บนตัวฉันราวกับสิ่งที่เพิ่งเกิดคือฝันร้ายเพ้อเจ้อจากพิษไข้ และนั่นคือครั้งแรกที่ฉันได้รู้จักกับการ่วมรัก และมันได้ทำให้บางสิ่งบางอย่างในตัวฉันเปลี่ยนไป

เรื่องราวปรากฎเช้าวันถัดมา แม่ผู้หลับใหลราวต้องมนต์ในคืนก่อนหน้าซักไซร้ไล่เรียงหลังจากที่ฉันมีอาการแปลกๆผนวกกับอาการไข้ที่ยังไม่ลดลงเรื่องราวอุบาทว์ของชายผู้เป็นผัวของแม่จึงได้ถูกเปิดโปงออกมา แทนที่จะไล่ชายชั่วนั่นออกจากบ้าน ฉันกลับถูกผู้เป็นแม่ชี้หน้าด่าว่าความอัปรีย์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพราะฉันทำตัวยั่วยวน ฉันอายุสิบขวบเองนะ จะเอาจริตยั่วยวนเช่นนั้นมาจากไหน สุดท้ายฉันถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหาใช่ด้วยความรัก หากด้วยเกรงว่าฉันจะตายดับอยู่ใต้ชายคาบ้าน หลังจากนอนพักฟื้นอาการได้สามสี่วันฉันคืนกลับสู่สภาพแวดล้อมเดิม สายตาของพ่อเลี้ยงมองฉันแปลกไป แม่จับตามมองและระแวดระวังผัวตัวเองมากขึ้น ไม่ใช่เพราะเป็นห่วงฉัน แต่ด้วยความหึงหวง ฉันซึมซับเก็บความรู้สึกเหล่านี้เข้าสู่ภายใน ทุกวันทุกวัน จนสุดท้ายแปรเปลี่ยนมันกลายเป็นคำสาปแช่ง ที่เมื่อตื่นทุกเช้าฉันจะกล่าวคำสาปแช่งเลวทรามต่อคนทั้งคู่ก่อนที่จะทำกิจวัตรประจำวัน ช่วงเวลาอันน่าสะอิดสะเอียนคืบคลานเชื่องช้า จนฉันล่วงเข้าสู่อายุสิบห้าปีรูปร่างสะโอดสะองผิวพรรณเปล่งปลั่ง ฉันถูกแม่ขายทอดสู่ชายแปลกหน้าที่เข้ามาในหมู่บ้าน ด้วยความบังเอิญที่ได้ยินระหว่างการต่อรองราคาค่าตัว ฉันกลับมาที่ห้องนอนเก็บเสื้อผ้าสี่ห้าชุดที่พอมี ทุบกระปุกออมสินเอาเงินเก็บที่มีพอสมควรยัดใส่กระเป๋าเป้สะพายหลัง ตกดึกฉันเดินออกจากบ้านเงียบเชียบ และพบตัวเองนั่งรอรถโดยสารที่สถานีขนส่ง ฝนพรำเช่นคืนนี้ไหลเปื้อนหน้าปะปนหยดน้ำตาของฉัน ฉันขึ้นรถโดยสารคันแรกที่มาถึง ฉันตายจากที่นั่นแล้ว ฉันบอกกับตัวเอง

4.

คุณลุกจากที่นอนก่อนแสงแดดจะลอดม่านมาสู่ห้องฉันลืมตาเฝ้ามองคุณสวมใส่อาภรณ์เชื่องช้าเนิบนาบแต่หาได้ชวนหลงใหลเช่นก่อนร่วมรักอย่างหนักหน่วงคุณกลายเป็นแค่ผู้ชายอีกคนที่กำลังจะจากไปและทิ้งรอยกรีดซ้ำบนแผลเดิม พรุ่งนี้คุณจะมาใหม่ ถ้อยคำก่อนจากลอยเคว้งอยู่ที่ประตู ทุกคนจากไปด้วยคำพูดนี้ แต่ไม่เคยมีใครกลับมา คำลวงที่เพิ่มจำนวน ไม่ได้ทำให้ความเจ็บปวดของฉันเปลี่ยนแปลง มันท่วมท้นอยู่ในฉันมาเนิ่นนาน ไม่มีพื้นที่เหลือให้มันเพิ่มปริมาณขึ้นอีก หากคุณอยากมอบสิ่งใดแก่ฉันขอเพียงน้ำตาสักสองสามหยด เก็บความเห็นใจของคุณเอาไว้ฉันไม่อ่อนแอพอจะรับความเห็นใจจากใคร

ฉันจดจำคนที่เคยร่วมรักก่อนคุณไม่ได้ ไม่มีอะไรน่าจดจำแค่สอดใส่และปล่อยหลั่ง เพียงการร่วมรักกับคุณเท่านั้นที่ตราตรึง หาใช่ด้วยเพศรส หาใช่ด้วยท่วงท่าลีลา หากเป็นเพราะฉันร่วมรักด้วยความลุ่มหลง เมื่อคุณจดจำใครด้วยความลุ่มหลง ความทรงจำจะนำมาซึ่งความเจ็บปวด แต่หากจดจำใครด้วยการร่วมรัก ความทรงจำจะนำมาซึ่งทัณฑ์ทรมาน ประตูห้องถูกปิด เขาจากไป

5.

มีบางอย่างภายในฉันที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น ไม่ควรปล่อยให้มันเกิดขึ้น บาดแผลเดิมไม่อาจเพิ่มความเจ็บปวดกว่านี้ ความเจ็บปวดชนิดใหม่เกิดขึ้นกลางอกปวดหน่วงอยู่ภายใน อึดอัด อาการเจ็บแปลบแล่นช้าๆ ทั่วร่าง และเมื่อเขาจากไป ฉันจึงได้รู้ว่าความเจ็บปวดชนิดใหม่นั้น เป็นเพราะฉันหลงรักผู้ชายคนนั้นเสียแล้ว

ฉันร้องไห้ทุกครั้งที่ฝนตก ในคืนที่ฉันถูกทำให้รู้จักการร่วมรักครั้งแรก ฝนด้านนอกโหมกระหน่ำเกรี้ยวกราด ราวกับต้องการผรุสวาทด่าทอความอัปรีย์ที่ฉันถูกกระทำ และในคืนที่ฉันร่วมรักครั้งสุดท้าย สายฝนโปรยปรายเหงาเศร้าราวหยดน้ำตาไว้อาลัยให้กับความเปล่าเปลี่ยวที่ฉันจะได้รับสืบไปในเบื้องหน้า

นับจากนั้น สายฝนราวกับจะหล่นราดรดที่ใจฉันเป็นการเฉพาะ โหมกระหน่ำหวดฟาดหัวใจให้บอบช้ำ ซ้ำแล้วซ้ำอีก ทั้งที่ก่อนหน้า สายฝนโปรยปรายพร่างพรมราวหยดน้ำตา ไว้อาลัยให้กับการหลงรักครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต หากตอนนี้ กลับกลายเป็นการเย้ยเยาะให้กับการมัวเมาไร้สาระว่าความรักแด่ฉันนั้นมีอยู่จริงไร้สาระสิ้นดี ฉันราดรดบาดแผลด้วยเบียร์กระป๋องเย็นเยียบ ความมึนเมาจะพาฉันข้ามผ่านความเจ็บปวด ฉันบอกตัวเอง

6.

คุณไม่อาจลืมเลือนเธอ ‘บิลลี่’ การร่วมรักกับเธอคืนนั้นนำพาบางอย่างมาสู่คุณ เธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวด คุณก็เช่นกัน ทุกครั้งเมื่อคุณและเธอปลดปล่อย ความเจ็บปวดดูคล้ายจะเบาบางลงราวกับการร่วมรักของคุณกับเธอเป็นการบำบัดรักษาอาการบางอย่างแต่คุณก็เลือกที่จะจากมาและไม่กลับไปอีก ทั้งที่เอ่ยกับเธอว่าจะกลับไป นั่นแค่เพียงคำพูดลอยๆ คุณนึกถึงคำพูดของเธอก่อนจากมา การจดจำใครด้วยความลุ่มหลงนำมาซึ่งความเจ็บปวด แต่หากจดจำใครด้วยการร่วมรักจะนำมาซึ่งความทรมานคุณรู้สึกทรมานและกลัดติดด้วยความเจ็บปวดทุกครั้งที่นึกถึงเธอ หนึ่งเดือนล่วงมา คุณมองเห็นใบหน้าของเธอในหญิงสาวทุกคนที่ผ่านคุณ แม้กระทั่งคนรักเก่าที่ทำงานร่วมอาคารและยังพบกันโดยบังเอิญ คุณมองเห็นเป็นใบหน้าของเธอ คุณไม่เคยกลับไปที่คลับนั่นอีก ไร้เหตุผล แต่สุดท้ายคุณก็กลับไป แต่บิลลี่ไม่อยู่ที่นั่นแล้วเวทีในชั่วโมงสุดท้ายไม่มีเสียงหม่นเศร้ารีดเค้นความเจ็บปวดอีกแล้ว กลับกลายเป็นนักร้องสาวอีกคนน้ำเสียงสดใสและร่าเริง คุณไม่ต้องการความสุข ไม่ต้องการความร่าเริงสดใสคุณโหยหาความเจ็บปวดเศร้าโศกจากน้ำเสียงหมองหม่นรวดร้าวของบิลลี่ เสียงสดใสของนักร้องสาวคนใหม่ทำคุณอึดอัด คุณเดินจากมา คุณคร่ำครวญในใจ หาใช่ความต้องการสามัญอีกต่อไปมันเป็นความต้องการที่ขับเคลื่อนด้วยความรัก เพราะมันเคลื่อนที่ไปด้วยความเจ็บปวด

7.

อยากจะลืมใครสักคน เมื่อหยาดฝนพร่างพรมพริ้วมา สายน้ำที่ร่วงหล่น ปนเคล้าหยาดน้ำตา กลับไปคิดถึงครา แรกที่เราพบกัน เสียงเพลงจากวิทยุแผ่วเบา ห้องฉันคลุ้งไปด้วยกลิ่นเบียร์กระป๋องถูกวางเปะปะทั่วพื้น ฉันไม่อาจร้องเพลงได้อีกต่อไปฉันดื่มหนักจนไม่อาจร้องเพลง ไม่อาจจับท่วงทำนอง ฉันยังใช้ชีวิตกลางคืนเช่นเดิม คือตื่นหลังอาทิตย์ลับ แกะห่ออาหารสำเร็จรูปใส่ไมโครเวฟรองท้องก่อนดื่มเบียร์ยาวนานตลอดคืน ผ้าม่านสีเทาถูกเปิดออกทั้งวันทั้งคืนบางวันฉันนั่งเหม่อมองท้องฟ้านอกหน้าต่าง บางคืนฉันนั่งร้องไห้หากฝนตก กรีดร้องฉันทนเสียงฝนด้านนอกไม่ไหว ใครก็ได้หยุดเสียงนั่นที มันเจ็บปวดเกินไปมันคล้ายเสียงคุณ คล้ายเสียงครางทุ้มต่ำในการร่วมรักครั้งสุดท้ายของฉัน สายฝนพรำพรมถนนจนชุ่มแสงไฟที่เคยจุดชีวิตของฉันให้มีชีวากลับทำหน้าที่เพียงหวดโบยความมืด ความเปลี่ยวเหงารอบกายกรีดร่างไร้รอยด้วยความเย็นชา เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นกลางดึกคืนหนึ่ง เสียงเคาะเร่งเร้ารุนแรง หากฉันไม่ลุกไปเปิดในวินาทีข้างหน้า ประตูอาจจะถูกพังราบลง ฉันคลานลงจากที่นอนด้วยเรี่ยวแรงและสติที่พอเหลือ มือไม้ป่ายปัดกระป๋องเบียร์เกลื่อนพื้น เอื้อมมือคว้าจับลูกบิด ดึงตัวขึ้นยืนปลดกลอน ประตูถูกเปิดออก ฉันจดจำได้เพียงสายตาคู่นั้นสายตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดคู่เดิม แล้วฉันก็ล้มลงก่อนที่เขาจะคว้าฉันได้ทัน.





 

Create Date : 24 พฤษภาคม 2556
2 comments
Last Update : 24 พฤษภาคม 2556 18:11:18 น.
Counter : 1012 Pageviews.

 

เหมือนจะะจบลงแบบแฮปปี้เอนดิ้ง (ซะที) หรือเปล่าน้อ

อ่านแล้วสะเทือนใจจัง

เพิ่งรู้เรื่องของบิลลี่วันนี้เองค่ะ

โหวตค่ะโหวต

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 28 พฤษภาคม 2556 8:59:48 น.  

 

ขอบคุณนะครับพี่สาวไกด์

บิลลี่ ฮอลิเดย์ ชีวิตยิ่งกว่านิยายครับ เคยทำเป็นภาพยนต์เมื่อนานมาแล้ว แม้จะโด่งดังสุดขีด แต่เธอก็จากไปอย่างเศร้าสร้อยฮะ

 

โดย: i.am.Victor 28 พฤษภาคม 2556 10:13:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


i.am.Victor
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]





รักเร้นเร้นลับโลกคู่ขนาน
บันทึกแห่งนกไขลานหวามหวั่นไหว
แกะรอยหาแกะดาวคืนฝนปราย
ด้วยรักใจสลายแดนสนธยา




#สงวนลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามมิให้นำไปเผยแพร่และอ้างอิง ไม่ว่าส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของบทความภายในบล็อคนี้
โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้เขียน#




"Pain is inevitable, Suffering is optional"
Haruki Murakami
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2556
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
24 พฤษภาคม 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add i.am.Victor's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.