|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
ตายปริศนา
พบหนุ่มเยอรมันตายเปลือยปริศนาร่างเน่าอืดในห้องเช่ากลางเมืองพัทยา ตร.คาดลื่นล้มฟาดพื้นหรือโรคประจำตัวกำเริบ
ภาพจาก คัมภีร์-พัทยา
Create Date : 18 มิถุนายน 2555 |
|
3 comments |
Last Update : 18 มิถุนายน 2555 15:23:51 น. |
Counter : 890 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]
|
ผมเป็น นิติพยาธิแพทย์ หรือ จะเรียกว่า หมอนิติเวช ก็ได้ครับ นิติพยาธิแพทย์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปีแล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง นิติพยาธิอีก 3 ปี และเมื่อสอบผ่าน ก็จะได้รับวุฒิบัตรเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ และได้เป็นนิติพยาธิแพทย์ โดยสมบูรณ์ หน้าที่ของหมอนิติเวช แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ ส่วนแรก จะเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยคดี โดยในผู้ป่วยคดีนั้นแพทย์นิติเวชจะมีหน้าที่ในการตรวจ และให้ความเห็นกับพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับบาดแผลที่ตรวจพบ ซึ่งตำรวจจะนำไปใช้ในการตั้งข้อกล่าวหากับคู่กรณี และหน้าที่ต่อมาของแพทย์นิติเวชคือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีดังกล่าว ส่วนที่สอง จะเกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต โดยในกรณีผู้เสียชีวิตนั้นแพทย์นิติเวชมีหน้าที่ในการตรวจสถานที่เกิดเหตุในกรณีตายผิดธรรมชาติตามที่กฎหมายกำหนด และหากมีความจำเป็นต้องผ่าชันสูตร ก็จะต้องมีการทำรายงาน และให้ความเห็นเกี่ยวกับสาเหตุของการเสียชีวิต ส่งให้พนักงานสอบสวน สุดท้ายหน้าที่หลักที่สำคัญโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้คือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีนั้นๆครับ ประวัติการศึกษา 1.แพทยศาสตร์บัณฑิต คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล 2.วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 3.ประกาศนียบัตร Crime Scene Investigation โครงการร่วมระหว่าง International Law Enforcement Academy กับ Federal Bureau of Investigation Academy 4.ประกาศนียบัตร การบริหารงานโรงพยาบาล คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ผลงาน 1.อาจารย์ประจำภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มศว. 2.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาชั้นปีที่ 3 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ 3.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ 4.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 5.วิทยากร หัวข้อ "ICD-10" ของกระทรวงสาธารณสุข 6.วิทยากร หัวข้อ "การตรวจสถานที่เกิดเหตุ" ของมูลนิธิร่วมกตัญญู และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 7.วิทยากรอบรมหลักสูตรนายร้อยตำรวจอบรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 8.วิทยากร หัวข้อ "KPI รายบุคคล" ให้กับโรงพยาบาลและมหาลัยวิทยาลัย ในภาครัฐ 9.วิทยากร หัวข้อ "Living will" ให้กับโรงพยาบาลในภาครัฐและเอกชน10.วิทยากร หัวข้อ "นิติเวชศาสตร์กับงานด้านโบราณคดี" ให้กับคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร 11.ร่วมเขียนหนังสือ "KPI รายบุคคล" 12.ร่วมเขียนหนังสือ "มาตรฐาน ICD-10, ICD-9" 13.ที่ปรึกษารายการ "เรื่องจริงผ่านจอ" และ "Redline" 14.บทความทางวิชาการและผลงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศ 15 เรื่อง 15.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ตั้งแต่ ปี พศ.2553 16.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพ ฯ คณะแพทยศาสตร์ มศว. ตั้งแต่ปี พศ.2551 ผศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี (DR.MOO CAN DO)
|
|
|
|
|
|
|
|
Acetylcysteine
ในประเทศไทยใช้เป็นยาบรรเทาอาการไอ แต่บางประเทศ ใช้เป็นส่วนผสมของอาหารเสริมบางชนิด เพราะเชื่อว่า ยานี้มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) และช่วยส่งเสริมการทำงานของตับได้
ยา...อะเซทิลซิสเทอีนมีสรรพคุณใช้ละลายเสมหะ จึงช่วยบรรเทาอาการไอชนิดที่มีเสมหะ ไม่เหมาะกับอาการไอแห้ง นอกจากนี้ยังใช้เป็นยารักษาผู้ป่วยที่รับประทานยาพาราเซตตามอล (Paracetamol) เกินขนาด ได้ด้วย
ผลไม่พึงประสงค์ หรือ ผลข้างเคียงจาก ยาอะเซทิลซิสเทอีน เช่น ความดันโลหิตในปอดและในหัวใจห้องล่างขวาเพิ่มสูงขึ้น อาจทำให้หลอดลมเกร็งตัว หายใจลำบาก รู้สึกระคายเคืองในทางเดินอาหาร ง่วงนอน มีไข้ ปากอักเสบ และ/หรือ ผื่นคัน
การใช้ยาอะเซทิลซิสเทอีนร่วมกับยาลดน้ำตาลในเลือด (ยาเบาหวาน) บางกลุ่ม อาจส่งผลให้ความเข้มข้นของยาลดน้ำตาลในเลือดมีปริมาณสูงขึ้น จนทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำเกินไปและผู้ป่วยอาจจะหมดสติได้ กลุ่มยาลดน้ำตาลในเลือด เช่น ยาอินซูลิน
ข้อควรระวังในการใช้ ยาอะเซทิลซิสเทอีน ได้แก่
1.ระวังการใช้ยาในสตรีมีครรภ์และให้นมบุตรด้วยยังไม่มีการยืนยันรับรองความผิด ปกติของทารกในครรภ์ โดยเฉพาะช่วงระยะ 3 เดือนแรกของครรภ์
2.ระวังการใช้ยาในผู้ที่มีประวัติเป็นโรคหอบหืด ด้วยยาอะเซทิลซิสเทอีน อาจทำให้หลอดลมเกร็งตัว และหายใจลำบาก
3.ระวังใช้ยาในผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือด ด้วยยาอะเซทิลซิสเทอีน อาจทำให้ความดันโลหิตในหัวใจเพิ่มสูงขึ้น