" เรื่องราวต่างๆเป็นดั่งทองคำในเทพนิยาย เมื่อคุณแจกจ่ายไปมากขึ้น คุณก็ได้รับกลับมามากขึ้น " พอลลี แมคไกวร์
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
31 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 

086.อนุสาวรีย์ พ่อขุนหลวงวิลังคะ เจ้าเมืองระมิงค์นคร "บ้านเมืองก๊ะ" ม.5 ต.สะลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

อนุสาวรีย์ พ่อขุนหลวงวิลังคะ เจ้าเมืองระมิงค์นคร

บ้านเมืองก๊ะ ม.5 ต.สะลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่




0531. "บ้านเมืองก๊ะ" ม.5 ต.สะลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่




0525. ต.สะลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่





0526. ต.สะลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่





0527. ต.สะลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่





0528. ต.สะลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่




0529. ต.สะลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่





0531. "บ้านเมืองก๊ะ" ม.5 ต.สะลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

เดินทางเข้าไปอีกประมาณ 400 - 500 เมตร ก็จะพบ อนุสาวรีย์ พ่อขุนหลวงวิลังคะ เจ้าเมืองระมิงค์นคร





0587. ถนนภายใน หมู่บ้าน "บ้านเมืองก๊ะ" ม.5 ต.สะลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่





0586. บริเวณที่ตั้งของ อนุสาวรีย์ พ่อขุนหลวงวิลังคะ เจ้าเมืองระมิงค์นคร
บ้านเมืองก๊ะ ม.5 ต.สะลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่





0533.เบื้องซ้ายมือ คือ วัดเมืองก๊ะ เบื้องขวามือ คือ พ่อขุนหลวงวิลังคะ




0532. ป้ายชื่อ : พ่อขุนหลวงวิลังคะ
ข้างหลังป้าย คือ อนุสาวรีย์ พ่อขุนหลวงวิลังคะ





0535. อนุสาวรีย์ พ่อขุนหลวงวิลังคะ เจ้าเมืองระมิงค์นคร




0536. อนุสาวรีย์ พ่อขุนหลวงวิลังคะ เจ้าเมืองระมิงค์นคร





0538. อนุสาวรีย์ พ่อขุนหลวงวิลังคะ เจ้าเมืองระมิงค์นคร





0539. อนุสาวรีย์ พ่อขุนหลวงวิลังคะ เจ้าเมืองระมิงค์นคร




0540. อนุสาวรีย์ พ่อขุนหลวงวิลังคะ เจ้าเมืองระมิงค์นคร





0541. อนุสาวรีย์ พ่อขุนหลวงวิลังคะ เจ้าเมืองระมิงค์นคร




0542. อนุสาวรีย์ พ่อขุนหลวงวิลังคะ เจ้าเมืองระมิงค์นคร




0543. อนุสาวรีย์ พ่อขุนหลวงวิลังคะ เจ้าเมืองระมิงค์นคร





0545. อนุสาวรีย์ พ่อขุนหลวงวิลังคะ เจ้าเมืองระมิงค์นคร





0534. พระราชประวัติย่อ ขุนหลวงวิลังคะ เจ้าเมืองระมิงค์นคร

พระราชประวัติย่อ
ขุนหลวงวิลังคะ เจ้าเมืองระมิงค์นคร

ต้นกำเนิดของท่านขุนหลวงวิลังคะ เป็นชนชาวลัวะ หรือ ละว้า หรือ ลาวจักราช ซึ่งในอดีต ชนกลุ่มนี้ปกครองอาณาจักรลานนารวม 8 ดินแดน ภาคเหนือตอนบนของไทย ซึ่งแต่เดิมได้ขนามนามว่า "นครทัมมิฬะ" หรือ "นครมิรังคะกุระ" ซึ่งมีองค์พระอุปติราชปกครองสืบต่อกันมาจนสิ้น "วงศ์อุปะติ"
และ เริ่มการปกครองใหม่โดยวงศ์กุนาระ ซึ่งในสมัยพระเจ้ากุนาระราชาครองราชย์ ได้ทรงเปลี่ยนนามนครมาเป็น "ระมิงค์นคร"

ขุนหลวงวิรังคะ เป็นกษัตริย์องค์ที่ 13 ของ "ระมิงค์นคร" ในราชวงค์กุนาระ
เมื่อราวต้นพุทธศักราช 1200 ท่านทรงมีอิทธิฤทธิ์และฝีมือในการพุ่งเสน้า จนเป็นที่เลื่องลือ ท่านได้ทรงครองราช ในสมัยเดียวเดียวกันกับที่พระนางจามเทวี ทรงครองราช "นครหริภุญชัย"

ขุนหลวงวิรังคะ ได้สิ้นพระชนม์เมื่อพุทธศักราช 1227 ณ ระมิงค์นคร รวมพระชนมายุได้ 90 กว่าพรรษา


"ระมิงค์นคร" ได้ถูกปกครองสืบเนื่องกันมาหลายยุคหลายสมัย

จนสมัยพญามังรายที่ 25 ในปีพุทธศักราช 1814 ได้เริ่มสร้างเมืองใหม่ขึ้นที่เชิงดอยสุเทพ และ สร้างเสร็จเมื่อปีพุทธศักราช 1839 ได้ตั้งชื่อนครใหม่ว่า "เวียงนพบุรีพิงค์ชัยใหม่" หรือ "เวียงใหม่" หรือ "เชียงใหม่" ในปัจจุบัน



***
(Moonfleet: เสน้า คือ หอกที่มีใบมีดสองคม)

(Moonfleet : ถ้าตามจารึกถูกต้อง หมายความว่าขุนหลวงวิรังคะได้เป็นกษัตริย์เมื่อมีพระชนมายุได้ 90 - 27 = 63 ปี ?)





0537. พิธีวางศิลาฤกษ์ ขุนหลวงวิรังคะ




0538. อนุสาวรีย์ พ่อขุนหลวงวิลังคะ เจ้าเมืองระมิงค์นคร



ตำนาน องค์พ่อขุนหลวงวิลังคะ

...เล่ากันว่า ในสมัยที่พระนางจามเทวีปกครองเมืองหริภุญไชยราว พ.ศ. ๑๓๐๐ ในสมัยนั้นเล่ากันว่า นครหริภุญไชยเป็นนครของชนชาติมอญ หรือเม็ง และในขณะเดียวกันบริเวณเชิงดอยสุเทพเป็นที่ตั้งบ้านเมืองของชาวลัวะมี ขุนหลวงวิรังคะเป็นเจ้าเมืองหรือหัวหน้า ขุนหลวงวิรังคะมีความรักในพระนางจามเทวี มีความประสงค์จะอภิเษกกับพระนาง แต่พระนางไม่ปรารถนาจะสมัครรักใคร่กับขุนหลวงลัวะ เพราะเป็นกลุ่มชนที่มีวัฒนธรรมต่ำกว่ามอญในสมัยนั้น ขุนหลวงได้ส่งทูตมาเจริญไมตรีขอนางอภิเษกด้วย พระนางก็ผลัดผ่อนหลายครั้ง โดยมีเงื่อนไขต่าง ๆ ได้แก่ ขอให้ขุนหลวงสร้างเจดีย์ที่มีขนาดและลักษณะคล้ายกับเจดีย์พระธาตุหริภุญไชย ให้ขุนหลวงพุ่งเสน้ามาตกที่ในเมือง พระนางจึงจะอภิเษกสมรสด้วย

ขุนหลวงวิรังคะ เป็นผู้ทรงพลังและชำนาญในการพุ่งเสน้า (เสน้า หมายถึง หอกด้ามยาวมีสองคม) ขุนหลวงพุ่งเสน้าครั้งแรกตกที่นอกกำแพงเมืองหริภุญไชยด้านตะวันตกเฉียงเหนือปัจจุบันเรียกว่า หนองเสน้าพระนางจามเทวีเห็นว่าจะเป็นอันตรายยิ่ง ถ้าขุนหลวงวิรังคะพุ่งเสน้ามาตกในกำแพงเมืองตามสัญญา พระนางจึงใช้วิชาคุณไสยกับขุนหลวงวิรังคะ โดยการนำเอาเศษพระภูษาของพระนางมาทำเป็นหมวกสำหรับผู้ชาย นำเอาใบพลูมาทำหมากสำหรับเคี้ยวโดยเอาปลายใบพลูมาจิ้มเลือดประจำเดือนของพระนาง แล้วให้ทูตนำของสองสิ่งนี้ไปถวายแด่ขุนหลวง ขุนหลวงได้รับของฝากจากพระนางเป็นที่ปลาบปลื้มอย่างยิ่ง นำหมวกใบนั้นมาสวมลงบนศีรษะ และกินหมากที่พระนางทำมาถวาย ซึ่งของทั้งสองสิ่งนี้ชาวล้านนาถือว่าเป็นของต่ำ ทำให้อำนาจและพลังของขุนหลวงเสื่อมลง เมื่อพุ่งเสน้าอีกครั้งต่อมาแรงพุ่งลดลงเสน้ามาตกที่บริเวณเชิงดอยสุเทพ ชาวบ้านเรียกว่า หนองสะเหน้า เช่นเดียวกัน ขุนหลวงเมื่อเสื่อมวิทยาคุณเช่นนั้น ก็หนีออกจากบ้านเมืองไป

ก่อนสิ้นชีวิต ขุนหลวงวิรังคะได้ขอให้เสนาอำมาตย์นำศพของท่านไปฝังไว้ ณ สถานที่ที่ขุนหลวงจะสามารถมองเห็นเมืองหริภุญไชยได้ตลอดเวลา ทหารได้จัดขบวนศพของขุนหลวงจากเชิงดอยสุเทพขึ้นสู่บนดอยสุเทพเพื่อหาสถานที่ฝังตามคำสั่ง ขบวนแห่ศพได้ลอดใต้เถาไม้เลื้อยชนิดหนึ่งเรียกว่า เครือเขาหลง ซึ่งเชื่อว่าถ้าผู้ใดลอดผ่านจะทำให้พลัดหลงทางกันได้ ขบวนแห่ศพขุนหลวงได้พากันพลัดหลงกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง นักดนตรีบางคนพลัดหลงไปพร้อมกับเครื่องดนตรีของตน นิทานเล่าว่าภูเขาที่นักดนตรีผู้นั้นหลงจะปรากฏมีรูปร่างคล้ายเครื่องดนตรีนั้น ๆ บนยอดเขาสุเทพ-ปุย จะมีภูเขาชื่อต่าง ๆ ดังนี้ ดอยฆ้อง ดอยกลอง ดอยฉิ่ง ดอยสว่า บางแห่งเป็นที่แคบและฝาครอบโลงศพปลิวตก บริเวณนั้นเรียกว่า กิ่วแมวปลิว (คำว่า แมว หมายถึง ฝาครอบโลงศพที่ทำด้วยโครงไม้ไผ่ใช้ตกแต่งด้านบนของฝาโลงศพ)

เสนาอามาตย์ที่หามโลงศพของขุนหลวงได้เดินทางไต่ตีนเขาไปทางทิศเหนือ ถึงบริเวณแห่งหนึ่ง โลงศพได้คว่ำตกลงจากที่หาม เสนาอามาตย์จึงได้ฝังศพของขุนหลวงไว้ ณ สถานที่บนภูเขาแห่งนี้ ซึ่งจะสามารถมองเห็นเมืองหริภุญไชยได้ตลอดเวลา ยอดภูเขานี้ชาวบ้านเรียกว่า ดอยคว่ำหล้อง (หล้อง หมายถึง โลงศพ)

ปัจจุบันชาวบ้านยังเรียกชื่อภูเขาลูกนี้ว่า ดอยคว่ำหล้อง ตั้งอยู่บนภูเขาบริเวณเหนือน้ำตกแม่สา อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ยอดเขาเป็นรูปสี่เหลี่ยมตัดลักษณะคล้ายโลงศพ บนยอดเขามีศาลของขุนหลวงวิรังคะตั้งอยู่ ชาวบ้านบริเวณเชิงเขาเล่าว่า กลางคืนเดือนเพ็ญบางครั้งจะได้ยินเสียงดนตรีบรรเลงบนยอดเขา เชื่อกันว่าวิญญาณของขุนหลวงสถิตอยู่บนดอยคว่ำหล้อง

บริเวณเชิงเขา มีหมู่บ้านลัวะหมู่บ้านหนึ่งชื่อว่า บ้านเมืองก๊ะ มาจากชื่อของขุนหลวงวิรังคะ เชื่อกันว่า ชาวลัวะเหล่านี้เป็นเชื้อสายของขุนหลวงวิรังคะ ที่หมู่บ้านแห่งนี้มีศาลที่สถิตวิญญาณของขุนหลวง และทหารซ้ายและขวาของขุนหลวงอีก ๒ ศาล ชาวบ้านจะเซ่นสรวงดวงวิญญาณขุนหลวงและทหารปีละครั้ง ชาวบ้านเล่าว่า ดวงวิญญาณของขุนหลวงจะสถิตอยู่ ๓ แห่งได้แก่ บนดอยคว่ำหล้อง ศาลที่บ้านเมืองก๊ะ อำเภอแม่ริมและอีกแห่งหนึ่งคือ บริเวณดอยคำ อำเภอเมือง ซึ่งตั้งอยู่ทิศใต้ของดอยสุเทพ ปัจจุบันบนยอดดอยมีวัดชื่อว่า วัดพระธาตุดอยคำ บนวัดแห่งนี้มีอนุสาวรีย์ขุนหลวงวิรังคะประดิษฐานที่ลานวัดใกล้เจดีย์ และที่ดอยคำแห่งนี้เป็นที่สถิตดวงวิญญาณของหัวหน้าลัวะซึ่งเป็นบรรพบุรุษของขุนหลวงวิรังคะ ชื่อว่า ปู่แสะ ย่าแสะ ซึ่ง จะมีการเลี้ยงผีปู่แสะย่าแสะ ด้วยควายทุกปี หรือ ๓ ปีครั้ง...


Source://www.songsakarn.com/forum/viewthread.php?tid=1388





0552. หนุ่มหล่อ และ สาวสวย แห่ง บ้านแม่ก๊ะ





0546. ศาลขุนหลวงวิรังคะ




0547. คำกราบไหว้พ่อขุนหลวงวิรังคะ




0548. คนเดินทางมากราบนมัสการบูชา อนุสาวรีย์ขุนหลวงวิรังคะ




0549. น้ำบ่อ ภายในบริเวณอนุสรณ์สถานของ ขุนหลวงวิรังคะ




Moonfleet ได้มาเยือน อนุสาวรีย์ พ่อขุนหลวงวิลังคะ เจ้าเมืองระมิงค์นคร กษัตริย์องค์ที่ 13 ณ.บ้านเมืองก๊ะ ม.5 ต.สะลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

วันอังคาร ที่ 29 เดือนธันวาคม พ.ศ.2552




เวียงนพบุรีพิงค์ชัยใหม่ นครแห่งชีวิตและความมั่งคั่ง




 

Create Date : 31 ธันวาคม 2552
14 comments
Last Update : 20 ธันวาคม 2553 22:11:32 น.
Counter : 12509 Pageviews.

 

มาเก็บความรู้ครับ

 

โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา 4 มกราคม 2553 21:00:03 น.  

 

ได้ความรู้ใหม่มากมาย


เลยค่ะ ที่ไม่รู้ ก้ได้รู้


ประวัติของท่านขุนหลวงวิลังค่ะ


นี่ น่าสนใจจริงๆ ค่ะ


ขอบคุณมากนะค่ะ


มาเก็บความรู้เช่นกันค่ะ


^^ --- ^^

 

โดย: TI พายัพเทคโนโลยี IP: 192.168.1.104, 113.53.96.219 9 กุมภาพันธ์ 2553 20:34:01 น.  

 

ขอบคุณที่ถ่ายทอดความรู้ให้แก่คนรุ่นหลังให้ได้ศึกษานะครับ ชอบมากครับ

 

โดย: onelove101 IP: 118.172.37.169 17 พฤษภาคม 2553 1:52:14 น.  

 

*-*

 

โดย: nucknick IP: 113.53.189.3 22 สิงหาคม 2553 9:49:51 น.  

 

รักษาไว้ประเพณีของเฮา

 

โดย: เจ้าพ่อลุงแสนแมือง จอมทอง IP: 182.52.197.54 20 ธันวาคม 2553 21:21:28 น.  

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่ดีดีค่ะ

ที่ทำให้รู้ถึงประวัติศาสตร์ของชนชาติตนเองมากขึ้น

รู้สึกภูมิใจมากค่ะ สักวันจะหาโอกาสไปสักการะบูชาใน

ในไม่ช้าค่ะ ^^

ขอบคุณจริงจริง

 

โดย: ศึกษา มช. IP: 10.0.3.244, 223.206.211.29 4 กุมภาพันธ์ 2554 23:33:45 น.  

 

รูปปั้นขุนหลวงมีที่บ่อหลงด้วย

 

โดย: นิดจัง IP: 192.168.1.109, 118.175.182.203 20 กุมภาพันธ์ 2554 10:37:20 น.  

 

ขอบคุณข้อมูลนะคะอยากรู้มานานแล้ว

 

โดย: นภัส IP: 118.172.108.230 6 มิถุนายน 2554 16:36:41 น.  

 

กระผมได้อ่านในประวัติของพ่อขุนหลวงวิลังคะ รู้สึกดีใจมากครับ ก็พอดีกับกระผม มีนามสกุล วิลังคะ สักวันจะมากราบอนุสาวรีย์พ่อขุนหลวงวิลังคะครับ
ปัจจุบันผมรับราชการเป็นตำรวจอยู่ สภ.บุญเรือง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ครับ โทร. 089-7014825

 

โดย: ด.ต.จำลอง วิลังคะ IP: 118.172.93.173 14 สิงหาคม 2554 19:18:45 น.  

 

เทศบาลตำบลบ่อหลวงได้สร้างอรุสาวรีย์ขุนหลวงวิลังคะไว้ให้ลูกหลานชาวลั๊วะทางได้กราบใหว้ ที่บ้านบ่อหลวง อำเภอฮอดนะครับ เพื่อเป็นที่พึ่งของลูกหลานชาวลั๊วะเมืองฮอด

 

โดย: หลานขุนหลวง IP: 58.9.101.210 25 มิถุนายน 2555 9:02:12 น.  

 

ลูกหลานขุนหลวง ก้อจะได้สร้างรูปปั้นท่านไว้บูชาที่ อุโบสถวัดบ้านเปียง ตำบลบ้านแม อำเภอสันป่าตองครับ

 

โดย: นคร สะสมจิตต์ IP: 223.207.7.122 13 พฤษภาคม 2556 11:54:22 น.  

 

ในวันที่ 25 - 26 กุมภาพันธ์ 2557 นี้มีงานสมโภชพ่อขุนหลวงวิลังคะ ขอเรียนเชิญนะคะ ณ เทศบาลตำบลหลวง

 

โดย: หลานพ่อขุนหลวงคะ IP: 118.174.131.13 23 กุมภาพันธ์ 2557 10:14:10 น.  

 

ผ่านไปอีก1ปี งานสมโภชพ่อขุนหลวง ทางเทศบาลตำบลบ่อหลวงจัดขึ้น ยิ่งใหญ่เช่นทุกปี ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้มาร่วมงาน ได้บุญกุศลกันถ้วนหน้าครับ

 

โดย: หลานขุนหลวง IP: 118.174.131.13 8 มีนาคม 2557 20:13:47 น.  

 

ได้ทราบแล้วครับที่มาของนามสกุลผม ขอบคุณครับ

 

โดย: วันพรรษา ระมิงค์วงศ์ IP: 49.230.191.56 5 พฤษภาคม 2557 4:40:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


moonfleet
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]




ไม่มีสิ่งใดจะเกิดขึ้นมาได้ หากไม่เคยเป็นความฝันมาก่อน
New Comments
Friends' blogs
[Add moonfleet's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.