" เรื่องราวต่างๆเป็นดั่งทองคำในเทพนิยาย เมื่อคุณแจกจ่ายไปมากขึ้น คุณก็ได้รับกลับมามากขึ้น " พอลลี แมคไกวร์
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
23 สิงหาคม 2552
 
All Blogs
 
050. ศูนย์การค้า 12 ห้วยแก้ว

ศูนย์การค้า 12 ห้วยแก้ว




1471. ศูนย์การค้า 12 ห้วยแก้ว

Moonfleet ได้ถ่ายภาพนี้ ในวันอาทิตย์ที่ 21 เดือนมิถุนายน พ.ศ.2552





1472. อาคารพาณิชย์ด้านขวาของ ศูนย์การค้า 12 ห้วยแก้ว คือ ช.ชินวัตรไหมไทย






1473. พื้นที่ว่างเปล่าด้านขวาของ ศูนย์การค้า 12 ห้วยแก้ว





1474.




1475.




1476.




1477.




1478.





1479.





1480.




1481.





Create Date : 23 สิงหาคม 2552
Last Update : 23 สิงหาคม 2552 10:50:19 น. 2 comments
Counter : 4207 Pageviews.

 
ศูนย์การค้า 12 ห้วยแก้ว
ที่อยู่ : 12 ต ช้างเผือก ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่ 50300
โทรศัพท์ : 05320-2
โทรสาร : 05324


โดย: ศูนย์การค้า 12 ห้วยแก้ว (moonfleet ) วันที่: 23 สิงหาคม 2552 เวลา:10:55:03 น.  

 
ศูนย์ข่าวเชียงใหม่- กรมบังคับคดีเชียงใหม่เผยผลผลักดันขายทรัพย์ทอดตลาดไปได้แล้วกว่า 2 พันล้านบาท เผยมูลค่าทรัพย์ที่ขายไปได้ส่วนใหญ่เป็นทรัพย์ขนาดใหญ่โดยมีศูนย์การค้า 2 แห่ง ทั้งสีสวนพลาซ่า และศูนย์การค้า 12 ห้วยแก้ว ทั้งที่ดินเปล่า และโรงเรียนรวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 800 ล้านบาท ระบุทรัพย์สินที่รอการขายเหลืออีกไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท หวังระบายทรัพย์ได้เกือบหมดหลังเปิดขายภายในปีนี้ทั้ง 4 ครั้ง


กรมบังคับคดีฯมีทรัพย์เตรียมขายกว่าหมื่นล.

นายญธรรม ทองขลิบ ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่าในปีงบประมาณ 2551 สำนักงานเชียงใหม่ได้ตั้งเป้าในการผลักดันทรัพย์ออกขายทอดตลาดให้ได้ประมาณ 7,789 ล้านบาท จากมูลค่าทรัพย์สินที่ค้างทั้งหมด 10,601 ล้านบาท

ในช่วง 2 ไตรมาสของปีนี้คือ เดือนตุลาคม 2550-มีนาคม 2551 สามารถผลักดันทรัพย์สินได้เพียง 2,841 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 1,000 ล้านบาทเศษ สาเหตุที่ขายทรัพย์ทอดตลาดต่ำกว่าเป้าเนื่องจากสถานการณ์การขายทอดตลาดทรัพย์ในปัจจุบันค่อนข้างชะลอตัวโดยเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่ผู้ซื้อทรัพย์ส่วนใหญ่จะอาศัยสินเชื่อจากสถาบันการเงิน แต่เมื่อผู้ซื้อทรัพย์ไม่ผ่านการพิจารณาจากสถาบันการเงินทำให้ผู้ซื้อทรัพย์เองต้องปล่อยให้มีการริบเงินมัดจำประกอบกับสถาบันการเงินเองยังไม่มีนโยบายในการซื้อทรัพย์ไว้เองจึงต้องปล่อยสินทรัพย์ไว้ที่สำนักงานกรมบังคับคดี

“นอกจากผู้ซื้อทรัพย์ส่วนใหญ่หวังจะใช้สินเชื่อจากสถาบันการเงินมาซื้อทรัพย์ แต่ไม่สามารถผ่านการพิจารณาได้แล้ว กลุ่มผู้ซื้อทรัพย์บางรายก็มักจะเป็นนายหน้าที่เข้ามาซื้อทรัพย์ และมีการวางมัดจำไว้ก่อน หลังจากนั้นก็ตระเวนขายต่ออีกทอดหนึ่ง แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องนำเงินมาวางทั้งหมด ก็ไม่สามารถนำมาได้หรือไม่สามารถขายต่อได้ สำนักงานฯจึงต้องริบเงินมัดจำดังกล่าว และเมื่อเห็นว่าไม่ได้มีการซื้อขายจริงก็จะรีบประกาศขายทอดตลาดใหม่อีกครั้งหนึ่ง สาเหตุดังกล่าวเหล่านี้จึงทำให้ทรัพย์ต่าง ๆ ยังคงไม่สามารถระบายออกไปได้”นายบุญธรรมกล่าว

3 เดือนแรกยึดทรัพย์เพิ่มกว่า 1 พันล.

ปี 2551 สำนักงานบังคับคดีจังหวัดเชียงใหม่มีคดียึดทรัพย์จำนวน 670 เรื่อง ทุนทรัพย์ในการฟ้องร้อง 1,737 ล้านบาท ยึดทรัพย์สินเป็นมูลค่า 1,236 ล้านบาท แบ่งเป็นที่ดินว่างเปล่า 61 % ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 34 %ห้องชุด 3 %ทรัพย์สินหรือสิทธิการเช่า 1 %

นายบุญธรรมกล่าวอีกว่า หลังจากนี้ไปคาดว่าสถานการณ์การขายทอดตลาดน่าจะดีขึ้นเนื่องจากภาครัฐได้ออกมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียน และโอนกรรมสิทธิ์จากร้อยละ 2 หรือ0.01 ค่าธรรมเนียมการจำนองจากร้อยละ 1 เหลือ 0.01 และภาษีธุรกิจเฉพาะจากร้อยละ 3.3 เหลือ 0.11 เป็นเวลา 1 ปี

นอกจากนี้ในส่วนของกรมบังคับคดีเองได้มีการแก้ไขกฎหมายในเรื่องของการลดค่าธรรมเนียมชั้นบังคับคดี การลดระยะเวลาในเรื่องของการขับไล่ การขยายระยะเวลาการวางเงินกรณีผู้ซื้อทรัพย์จำเป็นต้องใช้สินเชื่อของสถาบันการเงิน การคืนภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย โดยจังหวัดเชียงใหม่จะมีการเปิดขายทอดตลาดบ้าน และที่ดินจำนวน 4 ครั้ง โดยครั้งที่ 4 กำหนดวันที่ 27 มิถุนายน 2551 ที่สำนักงานฯ


สีสวนพลาซ่า- 12 ห้วยแก้ว ขายทอดตลาดเฉียด 500 ล.


สำหรับสินทรัพย์ขนาดใหญ่ของเชียงใหม่ที่ได้มีการขายทอดตลาดไปได้แล้ว มีจำนวน 6 รายการโดยมีห้างสรรพสินค้าสีสวนพลาซ่า ทรัพย์ที่ยึด คือ สิ่งปลูกสร้างพร้อมที่ดิน ที่ดินแปลงที่ 3-7เป็นที่ดินว่างเปล่า ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เนื้อที่ 9 ไร่ 0 งาน 85 ตารางวา ขายให้แก่นางมยุรี วัฒนโภคาสิน เมื่อวันที่ 9 เมษายน 51 ในราคา222,000,000 บาท

ทั้งนี้ ห้างสรรพสินค้าสีสวนพลาซ่าเป็นของบริษัทสีสวนพี.ซี.วอง ของตระกูล "เหลืองไชยรัตน์" มีฐานธุรกิจเดิมเป็นเจ้าของโรงงานผลิตรองเท้ารายใหญ่ในภาคเหนือ เริ่มขยายการลงทุนมาสู่ธุรกิจค้าปลีกสีสวนพลาซ่า บนถนนช้างคลานขนาดพื้นที่มากกว่า 4,000 ตารางเมตร เป็นอาคารสูง 3 ชั้น บนพื้นที่ 3 ไร่ จากจำนวนที่ดินทั้งหมด 9 ไร่ ในปี 2530 ซึ่งในระหว่างที่ยังไม่ได้มีการขายทอดตลาด มีกระแสข่าวว่าทางกลุ่มสีสวนได้พยายามวิ่งขายทรัพย์ให้แก่เทสโก้โลตัส แต่ไม่เป็นที่ตกลงจนต้องถูกขายทอดตลาดในที่สุด

ศูนย์การค้า 12 ห้วยแก้ว ซึ่งเป็นศูนย์การค้าเน้นในเรื่องของบันเทิงเป็นหลักบน เนื้อที่ 6 ไร่ 3 งาน 92 ตารางวา ย่านถนนห้วยแก้ว ขายให้บริษัทพิชญ ประมวลกร จำกัด เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2551 ในราคา 210,100,000 บาท โดยศูนย์การค้า 12 ห้วยแก้วเป็นของตระกูลสุขสวัสดิ์เจ้าของโรงแรมพรพิงค์ทาวเวอร์ โดยสร้างในนามบริษัทพรพิงค์พาวิลเลี่ยน

สำหรับศูนย์การค้า 12 ห้วยแก้วมีกระแสข่าวออกมาตลอดเวลาว่า มีการทาบทามซื้อขายให้กลุ่มเบียร์ช้างแต่ก็ไม่ปรากฏมีการซื้อขายจริงสุดท้ายธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ได้ยื่นฟ้องในที่สุด

สนามไดรฟ์กอลฟ์สันทราย ถนนเชียงใหม่พร้าว เป็นของกลุ่มช้างม่อยเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้รับเหมารายใหญ่ของเชียงใหม่ ขายให้แก่บริษัทฟลายไฮย์ มันนี่ จำกัดในราคา 58,210,000 บาท

นอกจากนี้ ยังมีร้านขายเฟอร์นิเจอร์บ้านถวาย ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างจำนวน 6 แปลง ราคาประเมินที่ 23,992,000 บาท ซึ่งเคยมีการขายทรัพย์แต่ผู้ซื้อไม่วางทรัพย์ส่วนที่เหลือจึงเตรียมกำหนดวันขายใหม่

สำหรับ โรงเรียนพาณิชย์การนครพิงค์ ย่านตำบลช้างเผือกโดยราคาประเมินอยู่ที่ 157,682,000 บาทโดยอยู่ระหว่างการแจ้งยึด และ รายการสุดท้าย คือ ที่ดินว่างเปล่าตำบลป่าแดด จำนวนทั้งหมด 13 ไร่ 1 งาน 29 ตารางวา ของบริษัทครีเอชั่น เดอพีเรียดไทม์ จำกัด โดยธนาคารกรุงไทยเป็นผู้ซื้อในราคา40 ล้านบาท



โดย: กรมบังคับคดีฯมีทรัพย์เตรียมขายกว่าหมื่นล. (moonfleet ) วันที่: 23 สิงหาคม 2552 เวลา:10:57:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

moonfleet
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]




ไม่มีสิ่งใดจะเกิดขึ้นมาได้ หากไม่เคยเป็นความฝันมาก่อน
New Comments
Friends' blogs
[Add moonfleet's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.