Nick Dhapana's Blog
|
|||
พหุรงค์ ตอนเอกรงค์คราวก่อน ผมเคยบอกไว้ว่าขาวดำ มันไม่ใช่แค่การเอาสีออก แล้วจบ เสร็จแค่นั้น แต่ต้องคุมโทนแสงของทั้งภาพ ตั้งแต่ขาว เทา ไปจนถึงดำให้มีน้ำหนักสวยงามพอเหมาะพอดีด้วย พูดว่าเป็นภาพสี ภาพมันก็ควรจะมีสีสัน แต่ว่าไม่ใช่แค่เร่งสีให้ภาพสี แล้วภาพจะสวยขึ้นเสมอไป บางภาพเร่งสีขึ้นนิดๆ จะสวยขึ้น บางภาพควรจะลดสีลง บางภาพก็เหมาะกับการเป็นภาพเอกรงค์มากกว่า มาดูพื้นฐาน แบบพื้นสุดๆ เหมือนจะห่างไกลจากชีวิตจริง และออกน่าเบื่อกันดีกว่า ถึงจะยาว น่าเบื่อ ซ้ำซาก เพราะมีคนพูดบ่อยแล้ว แต่เป็นพื้นฐานที่จำเป็นมาก ในการเล่นกับสี RGB กับ CYM เป็นเรื่องชวนสับสนมาก เพราะในตำราแยกว่า อันนึงเป็นแม่สีบวก แม่สีของแสง ผสมกันแล้วได้สีขาว อันนึงเป็นแม่สีรงค์วัตถุ หรือแม่สีลบ ผสมกันแล้วได้สีดำ ฟังแล้วมันไม่เหมือนกัน มันควรจะคนละเรื่องสิ มุมมองที่ว่าคือกลไกการเกิดสี แม่สีในระบบ RGB (Red, Green, Blue)เกิดจากการ 'เปล่งแสง' ความยาวคลื่นต่างๆ ออกมาจากแหล่งกำเนิดแสง เช่นจอภาพ หรือหลอดไฟ เช่นหากมีแสงที่ความยาวคลื่น 600 นาโนเมตร เปล่งออกมา เราก็จะมองเห็นเป็นสีแดง คลื่น 550 นาโนเมตร เราเห็นเป็นสีเขียว 500 นาโนเมตร เป็นสีน้ำเงิน หากปล่อยแสง 600 กับ 500 มาผสมกัน เราจะเห็นเป็นแสงสีม่วงแดง ถ้าเติม 550 เข้าไปอีก ก็จะเห็นแสงนี้เป็นสีขาว คือมีความยาวคลื่นในช่วงที่ตามนุษย์เห็น พอๆ กัน เสมอกันหมดทุกช่วงคลื่น สมองจึงแปลผลเป็นสีขาว
แต่หากมีช่วงไหนมากกว่าช่วงอื่น เราก็จะเห็นเป็นสีนั้น เช่นถ้ามีช่วง 570-590 นาโนเมตร เยอะกว่าช่วงอื่น ก็จะเห็นเป็นสีเหลือง หรือช่วงคลื่นไหนหายไป สีก็จะกลายเป็นตรงข้าม เช่นถ้า 590-610 นาโนเมตร (แสงสีส้ม) หายไป ช่วงอื่นยังอยู่ครบ เท่าๆ กัน เราก็จะเห็นแสงเป็นสีฟ้า แม่สีในระบบ CYM (Cyan, Yellow, Magenta)ในงานพิมพ์ กระดาษมันไม่สามารถเปล่งแสงได้เหมือนจอภาพ เราต้องเอาหมึกพิมพ์ หรือรงควัตถุที่มีสีไปทาไว้เพื่อให้เกิดเป็นสีขึ้น กลไกการเกิดสีของรงควัตถุนี้ จะเกิดสีโดยดูดแสงทั้งหมดเข้าไว้ แล้วสะท้อนออกมาเป็นบางช่วงคลื่นให้สายตาเราเห็น แต่ถ้าเราเอารงควัตถุอีกอย่าง ที่เก่งเรื่องดูดแสงในช่วงอื่น (รวมทั้ง 400 และ 500) แต่ไม่ค่อยดูดแสงช่วง 580 นาโนเมตร (ซึ่งถ้ามันอยู่เดี่ยวๆ มันคือรงควัตถุสีเหลือง) มาผสมเข้าไปอีก จะทำให้มันดูดแสงเยอะในทุกช่วงความยาวคลื่น เราก็จะเห็นสารผสมกลายเป็นสีดำ เทา หรือน้ำตาล ตุ่นๆ
CMY จึงมองการเอา 'รงควัตถุ' มาผสมกัน เพื่อให้มันดูดสีที่ไม่ต้องการ ปล่อยออกมาแต่สีที่ต้องการ ยิ่งผสมหลายอย่าง ยิ่งดูดเยอะ ยิ่งดำลง เมื่อ เอา รงควัตถุแต่ละสีของ CYM มาผสมกัน มันจะได้ออกมาเป็น RGB เราจึงเรียกว่า CMY เป็นแม่สี (primary) ในระบบสีลบ ในระบบงานพิมพ์ ส่วน RGB เป็นสีที่เกิดขึ้นจากการผสมแม่สี จึงเป็นสีทุติยภูมิ (secondary) ที่ต้องรู้ก็คือเวลาที่เราปรับ Saturation นั้น สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ไม่ว่าสีนั้น จะเป็นสีอะไร ก็จะถูกปรับให้ชิฟท์เข้าหาแม่สีที่อยู่ใกล้ที่สุดมากขึ้น ถ้าดูอัตราส่วนของสีแต่ละแชนแนล จะเห็นได้ว่า อัตราส่วนจะเปลี่ยนไป และสีแต่ละพิกเซลนั้น ถูกโปรแกรมมองว่าเกิดจากการผสมกันของแม่สี 3 หรือ 6 สี แล้วแต่เครื่องมือที่เลือกใช้ การเปลี่ยน Saturation นี้ จะเป็นการเปลี่ยนโดยการ เพิ่ม ปริมาณแชนแนลสีที่เป็นสีเด่นที่สุด ลดแชนแนลสีตรงข้ามที่ปะปนอยู่ ก็จะเกิดการหลอกตาว่าสีนั้นมีความสดใสมากขึ้น ผมเลือกภาพตัวอย่างภาพนี้ครับ เป็นภาพจากบึงฉวากสุพรรณบุรี เมื่อสักสามสี่ปีมาแล้ว สาเหตุที่เลือกภาพนี้เพราะ เป็นวันฟ้าหม่น ถึงจะเป็นโอลิมปัสที่ได้ชื่อว่าเป็นกล้องที่ให้ภาพสีสดใสก็ยังรับมือไม่ไหว พอแสงไม่เป็นใจ จิตใจก็หดหู่ สีสันก็ห่อเหี่ยว ทำให้สีเรือที่สดใส กลายเป็นหมองไป จำเป็นต้องมาปรับเพิ่มสี ให้สดใสดั่งใจเสียหน่อย
ก่อนจะอ่านต่อไปในหัวข้อหลัก เรามาทดสอบความศิวิไลซ์ของเบราเซอร์กันก่อน โปรดดูสองภาพนี้ ภาพข้างบน กับภาพล่าง เป็นภาพเดียวกัน โหมดสี aRGB เหมือนกัน ต่างกันที่ ภาพบนมี ICC-Color Profile ฝังไว้ในภาพ ส่วนภาพล่างไม่ได้ฝัง Color Profile
มาดูกันที่การเร่งสีด้วยเทคนิคแรก เป็นเครื่องมือแรกที่เราคุ้นเคยกันทุกคน และเป็นเครื่องมือเร่งสีที่ใช้กันบ่อยที่สุดคือ Saturation Toolsวิธีการใช้ง่ายมาก เลื่อนสไลเดอร์ปรับ Saturate ไปทางขวาจนกว่าสีจะสดปิ๊งปั๊ง ตามที่เราต้องการ แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อย...
เพราะมันก็เช่นเดียวกับการใช้ Saturation Tools ทำภาพขาวดำ (แล้วทำให้ภาพ Flat) ก็คือมันเป็นเครื่องมือที่ควบคุมให้พอเหมาะพอดีได้ยากมาก เราจะหยุดมือ ยั้งสไลเดอร์ไว้ตรงไหนถึงจะดี? เวลาที่สีมันล้น อาจจะไม่หนักขนาดตัวอย่างนี้ แต่มันจะทำให้สีต่างๆ เพี้ยนไป หรือเลอะล้ำเขตแดนไปในพื้นที่ของสีใกล้เคียง อาการหนึ่งที่เราจะเห็นก็คือการไล่น้ำหนักสีจะเสียไป สีจะดูแบนลง สีโทนใกล้ๆ กันจะรวมตัวกลายเป็นสีโทนเดียวกันมากขึ้น ทำให้ภาพเสียมิติชัดลึกไป อีกจุดหนึ่งที่เราจะเห็นได้ง่ายคือ สีรองที่ซ่อนอยู่ จะแสดงตัวให้เห็นชัดเจนมากขึ้น เช่นสีส้มแดงในส่วนเงาของผิวคน หรือสีเขียวเหลือง ที่ผิวน้ำของภาพนี้ ใน Preset ที่มีมาให้ เค้าปรับไว้ที่ 10 แค่นั้นแหละ แต่เราชอบสีจัดๆ แปร๋นๆ ให้มันกระโดดเตะเบ้าตาคนดูภาพเลย ชิมิล่ะ แต่โปรดสังเกตตรงส่วนโค้งของหลังคาสีแดง ที่มันเริ่ม Flat ไม่มีมิติแล้ว เพราะสีแดง สีเกือบแดง กับสีแดงกว่าๆ ที่เคยมีหลายๆ โทนประกอบกันให้เห็นส่วนโค้งของหลังคานี้ มันถูกบีบให้กลายเป็นสีแดงเดียวกันหมด ทำให้เรามีข้อจำกัดเวลาปรับสีว่า เราปรับขึ้นไปได้แค่เล็กน้อยเท่านั้น ประมาณ 10 แถวๆ นั้น หรือมากกว่านั้นอีกนิดหน่อย ตามแต่ความเข้มสีเดิม และคุณภาพไฟล์ ของภาพต้นทุน ถ้าดันทุรังปรับมากเกินไป ภาพของเราก็จะลดคุณภาพลง Vibranceเป็นเครื่องมือสำเร็จรูปใช้ง่ายกว่า Saturation เยอะมาก ตรงที่โอกาสสีล้น สีเลอะน้อยกว่า เพราะ Vibrance จะเพิ่ม Saturation ในส่วนที่สีจัดอยู่แล้วขึ้นไป แต่จะไม่เพิ่มในส่วนที่เป็นสีกลางๆ หรือเพิ่มขึ้นแค่เล็กน้อยลองดูเวลาที่เพิ่มความเข้มสูงๆ อย่างเช่นลองปรับไปที่ 100 ก็ยังไม่มีอาการสีล้น สีเลอะให้เห็น ส่วนโค้งหลังคาสีแดง ก็ยังดูมีมิติ มีส่วนโค้งดีอยู่ ผมเลือกที่ 20 ละกัน ดูว่าอยู่ในระดับที่ไม่มากเกินไป และก็สดใสขึ้นมาแล้ว ถึงจะไม่สดเข้มจี๊ดจ๊าด ขนาดกระโดดเตะเบ้าตาแตก แต่ก็เข้มพอที่จะได้บรรยากาศสดใสแล้ว ยังไม่สะใจ? ใช่แล้ว.. ยังไม่สะใจครับ เราคนไทย ภาพมันสีสันไม่สดใสเจ้มจ้น จะทนได้ไง
อันนี้มันต้องใช้เทคนิคหลายอย่างเข้าช่วยนะครับ เทคนิคหนึ่งที่ควรใช้ในการเร่งสีให้สดใส โดยไม่เลอะคือการ ใช้ Selective Color Toolเพื่อ Clean สีของ ภาพ หลักการของ Clean ก็คือ ในมุมมองของการจัดการสีด้วย Tool นี้ จะมองว่า แต่ละพิกเซล เกิดจากการรวมตัวของสี 6 สี (R,G,B,C,M,Y) ในอัตราส่วนต่างๆ กัน ซึ่ง 6 สีนี้ และแต่ละสีก็เกิดจากการผสมกันของ CMY 3 แชนแนล (tool นี้เป็นมรดกตกทอดมาจากระบบการพิมพ์ จึงใช้ระบบสี CMY)
เอา Color Wheel ไปดูอีกรอบ กันลืม บอกแล้วว่าสำคัญ ถ้าเราดูในแต่ละสี จะพบว่า ใน 3 แชนแนลนั้น จะมีสีคู่ตรงข้ามปนอยู่ด้วย เช่น ในสีเหลืองจะมีทั้ง C, M, Y ปนอยู่ ทั้งๆ ที่สีเหลืองจะเกิดจากแชนแนล Y เท่านั้น แชนแนล C, M ที่ปนอยู่ จะทำให้เกิดสีเทาปนอยู่ในสีเหลือง และทำให้สีไม่สดใส ถ้าเรากำจัดเอาสีคู่ตรงข้าม ที่ปะปนอยู่ในแต่ละแชนแนลออกไป ก็จะทำให้แต่ละแชนแนลมีสีสด สะอาดขึ้น เมื่อเอามาประกอบกัน ก็จะทำให้สีสันสดใสขึ้น เรียกว่าเทคนิคการ Cleanทำโดยเปิด Selective Color ขึ้นมา แล้วเลื่อนสไลเดอร์ ปรับแม่สีตรงข้ามให้เหลือ 0 เท่านั้น โดยปกติตามรสนิยมผม ในภาพทั่วๆ ไป หลังจาก Clean แล้ว ผมว่าภาพมันจะการ์ตูนไปนิดนึง ออกแนวสว่างใสหวานแหวว ผมมักจะปรับลด Opacity ของ Layer นี้ลงหน่อย จะมีภาพบางแนว ที่ Clean แล้วมักจะใช้ได้เลยอย่างภาพนี้ ที่เดิมดูหมองๆ พอ Clean แล้ว ดูสดใสดี บวกกับเรือพลาสติก ที่ดูการ์ตูนหน่อยๆ น่ารักดี ในทางกลับกัน ถ้าใครช่างคิดนิดนึงจะเห็นได้ว่า แทนที่เราจะลดสีตรงข้ามลงเหลือ 0 เราใช้วิธีเพิ่มสีที่ต้องการขึ้นแทนได้ป่ะ.. Boostวิธีก็ตรงกันข้าม กับ Clean เช่น สี Green เราก็เปิด Selective Color แล้วเพิ่มแชนแนลของ Cyan กับ Yellow ของ Green ขึ้นไปจนสุด เมื่อกี๊ผมบอกว่า Clean ทำให้สีกลายเป็นการ์ตูน แต่ Boost ทำให้สีเข้มดุ ดู Surreal หลอนๆ แรงยิ่งขึ้นไปอีก อ้อ.. ที่เรียกสี Green หรือ Yellow ไม่เรียกว่า เหลือง หรือเขียว แดง น้ำเงินนี่ ไม่ได้ดัดจริตนะครับ แต่อยากให้มันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน กับ RGBCMY จะได้นึกตามง่ายๆ ถ้าคิดต่อ.. เราจะใช้ Clean + Boost รวมกันในภาพเดียวกันได้หรือเปล่า ...โรคจิต ชอบความรุนแรงนะเราเนี่ย.. ได้ครับ และควรใช้ด้วย สมดุลย์สีจะออกมาดีกว่า เหมือนกับการปรับ Saturation ขึ้นสูงๆ โดยไม่ทำให้สีชิฟท์ หรือเพี้ยน เพียงแต่ว่าในการปรับนั้น เราจะไม่ปรับรวมกันไปใน Selective Color เลเยอร์เดียวกัน เพราะมันควบคุมความแรงได้ยาก ย้อนกลับมาแก้ไขได้ลำบาก ถ้าใช้วิธีปรับแยก Clean กับ Boost เป็นคนละชั้นจะควบคุมความเข้มสีของภาพได้ง่ายกว่า โดยการปรับ Opacity ของแต่ละชั้นเอา ถ้ายังนึกไม่ออกว่าจะใช้อะไรเท่าไหร่ ให้มาตั้งต้นกันที่ Opacity ของ Clean 60% และ Boost 30% ก่อน แต่อันนี้ไม่ไหวนะ แค่นี้ผมก็แสบตาแย่แล้ว ขอสีจืดๆ มั่งเหอะ ดูในการใช้งานจริงกันมั่ง ว่าผมจะทำอะไรกับภาพนี้ ดูจากภาพที่ทำสำเร็จเสร็จสิ้นแล้ว คือภาพนี้ครับ สองชั้นล่าง คือ Clean 60% กับ Boost 30% ผมแต่งภาพในสภาวะที่ไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ มีไฟในห้องส่องหน้าจอ เลยปรับหนักมือเกินไป มาดูทีหลัง ผมว่า Clean 50%, Boost 20% น่าจะพอดีกว่า ทำเสร็จแล้วก็จัดกรุ๊ปของสองชั้นนี้ ใส่ Mask เข้าไป เพื่อปรับสีเฉพาะด้านล่างของภาพ ไม่เกี่ยวกับด้านบน สามชั้นต่อมาเป็นการจัดการกับฉากหลังโดยเฉพาะ ตอนแรกผมใช้วิธีลด Saturation ลง แต่มันทำให้ภาพดุเกินไป เลยใช้วิธีซ้อนภาพขาวดำจาก Lab Color (อ่านวิธีทำในตอนที่แล้ว) ลงไปแทน ใส่ฟิลเตอร์สีน้ำเงินเข้มลงไปนิดๆ แล้วก็ลด contrast ลง ทั้งหมดนี้ใช้หลักการที่ว่า ของไกล จะสีจืดกว่า ดูเป็นสีน้ำเงินกว่า คอนทราท์ต่ำกว่า ของที่อยู่ใกล้ และดูเบลอ ไม่มีรายละเอียด ดังนั้นในสองชั้นบน ผมเลยใส่เบลอฉากหลัง และชาร์พเพ่นเฉพาะฉากหน้า คราวนี้ ลองเอาเทคนิคการปรับสีแต่ละแบบมาลองเทียบกันดู ลองเอาหลอดหยดจิ้มดูค่า RGB, CMY ของแต่ละช่องดูนะครับ แล้วจะได้เห็นพฤติกรรมของเครื่องมือปรับสีแต่ละแบบได้ชัดเจน หากลองเปิด Color Picker ดู เพื่อเทียบกับตำแหน่งก่อนปรับ จะเห็นได้ว่า การผสม Boost เข้ากับ Clean ในอัตราส่วนต่างๆ จึงสามารถเลือกปรับตำแหน่งความเข้ม สด ของสีได้หลายตำแหน่ง ไม่ได้เกาะบนเส้นแทยงมุมเส้นเดียวเหมือน Saturations หรือเส้นนอนเส้นเดียวเหมือน Vibrant และมีพื้นที่ในการปรับกว้างขวางกว่ามาก และเมื่อปรับสุดแล้ว ค่าสีก็ยังชิฟท์ไม่ได้ไปไกลมาก ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องสีเปลี่ยน หรือชิฟท์ ประกาศลิขสิทธิ์ เหมือนว่าโฟโต้ชอปรุ่นเก่าจะไม่มี vibrance ให้ใช้นะครับ เป็นของเล่นใหม่ที่เพิ่งมี
โดย: อะธีลาส วันที่: 17 เมษายน 2554 เวลา:13:26:42 น.
|
อะธีลาส
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 44 คน [?] Photographer, photo educator, writer and more....... อนุญาตให้ ใช้ ดัดแปลง แก้ไข ตัดต่อ ทำสำเนา เผยแพร่ อ้างอิง จำหน่าย จ่ายแจก ภาพ และบทความในบล็อกนี้ ส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมด เพื่อสาธารณะประโยชน์ เพื่อการศึกษา เพื่อกิจส่วนตัว และเพื่อการค้าได้ โดยไม่ต้องขออนุญาต ตามสัญญาอนุญาตใช้งาน Creative Commons: Attribution. Website http://mister-gray.bloggang.com https://twitter.com/nickdhapana http://500px.com/NickDhapana https://plus.google.com/+NickDhapana http://nickdhapana.tumblr.com http://instagram.com/nickdhapana https://www.facebook.com/dhapana/about Skype & Email cmosmyp@gmail.com Line nickdhapana My Project's Page Public Telephone https://www.facebook.com/PublicTelephoneProject They didn't say that. https://www.facebook.com/pages/They-didnt-say-that/116827521834600 Exposure to the RIGHT https://www.facebook.com/pages/Exposure2the_RIGHT/538556252881951 Thailand Perspective Project https://www.facebook.com/ThailandPerspective Dead on Arrival https://www.facebook.com/pages/Dead-on-Arrival/666461363385961 Group Blog All Blog
Friends Blog |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
ท่าทางผม จะสายตาฝ้าฟาง
แต่ใช้ Boost ชดเชยได้ครับ
ฝึกไป พร้อมกับอ่านไปทีละบันทัดครับ