Nick Dhapana's Blog
|
||||
[SR] รีวิวครึ่งๆ กลางๆ พา Olympus PEN E-P5 ไปเที่ยวนครนายก ไม่เชิงรีวิวสมบูรณ์แบบเท่าไหร่ เพราะได้เล่นรอบละนิดรอบละหน่อย หลายรอบ ไม่ได้เล่นยาวๆ สักที ได้เล่นทีนึง ก็เอามาเล่าให้ฟังทีนึง คราวนี้รวบรวมไว้ซะหน่อย น่าจะเป็นรอบสุดท้ายซะที หลังจาก Olympus PEN E-P5 เปิดตัว พวกเราหลายคนได้เล่นกล้อง pre producttion มาหลายรอบจนพอจะรู้จักกับมันพอสมควรแล้ว เหลือประเด็นที่ผมยังสงสัยอยู่ 2-3 เรื่องเท่านั้น ว่ากล้องที่ผลิตจริงจะออกมาเป็นอย่างไร ต่างจากตัวต้นแบบอย่างไร จนหลังจากวางขายอาทิตย์นึงจนน้าๆ หลายท่านซื้อไปลองเล่นบ้างแล้ว ผมก็เลยถือโอกาสลองยืมกล้องจากน้าในกลุ่มผู้ใช้โอลิมปัสไปลองเล่นสัก 3-4 วันว่าที่สงสัยนั้น ที่จริงแล้วมันเป็นอย่างไร เสียแต่ ได้กล้องไป 3 วัน ฝนตกทุกวัน... ![]() ดังนั้นไม่ค่อยมีรูปมาโชว์เท่าไหร่นะครับ อีกอย่างนึง ทริปที่ไปนี่ผมไปถ่ายรูปให้กับครอบครัวพี่แขก acj ที่เคยมาประกาศหาคนไปเที่ยวนครนายกด้วย รูปส่วนใหญ่ก็เลยเป็นรูปครอบครัวท่องเที่ยว ไม่มีรูปอะไรที่จะแสดงให้เห็นว่ากล้องมันต่างยังไง แต่ผมว่านะ ดูไปก็ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่หรอก เพราะภาพมันก็เหมือนๆ OM-D E-M5 นั่นแหละครับ ออกใสๆ กว่าหน่อยเดียว คิดซะว่าใส่รูปคั่นสายตาไม่ให้ตัวอักษรเป็นพรืดมากไปก็พอ อย่าไปเอานิยมนิยายอะไร เรื่องนี้เป็นความสงสัยข้อแรกมาตั้งแต่ก่อนได้กล้องตัวจริงไปเล่นแล้ว ว่ารูปมันจะออกมายังไงต่างแค่ไหนกับต้นแบบ เพราะในกล้อง pre production ที่หลายๆ คนได้เล่นกันตอนเปิดตัว สีสันมันเข้มดุเดือดยังกะโอลิมปัสเก่าๆ พอตัวจริงสีสันลดความเข้มไปเยอะ แต่ไล่โทนดีขึ้นมาก นุ่มเนียน ความคมชัดอะไรก็พัฒนาเพิ่มขึ้นกว่า E-M5 จึ๋งนึง แต่โดยรวมๆ ผมว่าภาพที่ได้ ไม่ได้ผิดตาจาก E-M5 ไปมากนัก ![]() รูปเก่าเล่าซ้ำ ไม่มีรีทัชใดๆ default จากกล้อง ข้อสงสัยในการใช้งานจริงอย่างที่สองคือ เวลาใช้งานจริงๆ แล้ว Wi-Fi มันจะเป็นอย่างไร อย่างแรกที่ต้องบอกเลยคือการเซ็ตอัพ Wi-Fi ง่ายโคตรๆ ง่ายสุดๆ มนุษย์ธรรมดาที่ใช้สมาร์ทโฟนเป็น สามารถเซ็ตอัพใหัทำงานได้ทันทีในครั้งแรก ด้วยเวลาไม่เกิน 1 นาที สิ่งที่ต้องทำคือ 1. เปิดกล้อง เปิดแอพ OI. Share ในโทรศัพท์ หรือแท็ปเลต (โหลดได้จาก App Store/ Play Store) 2. แตะไอคอน Wi-Fi ที่หน้าจอกล้อง ก็จะมี QR code โผล่มา 3. เลือก Remote Control หรือ Import Photos ก็ได้ จากในแอพ OI.Share 4. หันกล้องไปเล็งที่ QR code บนหน้าจอกล้อง แค่นี้แหละ ที่เหลือมันจะทำให้เสร็จโดยอัตโนมัติ จะคุมกล้องผ่านแอพ จะก็อปภาพจากกล้อง หรือจะติด Geo-tag ในภาพก็ได้ เทียบกับตอนที่ผมอ่านคู่มือ กดโน่นนี่กลับไปกลับมา กล้องที โทรศัพท์ที ตอนเซ็ตอัพ Wi-Fi ของ 6D หรือ FlashAir Card ที่มีมากับ E-PL5/E-PM2 ขอบอกเลยว่า นี่มันสวรรค์ชัดๆ ![]() อากาศแบบนี้ ไม่มีรูปสวยเลยยย แต่อย่าเพิ่งดีใจไป ธรรมชาติของโอลิมปัส มักจะมีอะไรที่ดีมากๆ กับแย่มากๆ มาพร้อมกันเสมอ ...ที่ว่าไปคือส่วนที่ดี ส่วนสิ่งที่แย่คือซอฟท์แวร์ OI.Share เหมือนจะยังทำไม่เสร็จดี Remote Control ผ่านมือถือสามารถจะทำได้แค่ถ่ายภาพนิ่งในโหมด iAuto ได้เท่านั้น การควบคุมกล้องทำได้จำกัดมาก ส่วนเวลาแปะแท็กนี่ง่ายเหมือนเสก กดปุ่มจึ้ก ทุกภาพจะมี location tag หมดทันที การติด geo-tag ก็เหมือนจะดี แต่ปัญหาคือโทรศัพท์จะต้องทำงานตลอดเวลาเพื่อเก็บ log ของ GPS เอาไว้ เพื่อเอาไปแปะใน meta-data ของรูป และการจัดการพลังงานก็ไม่ดีเสียด้วย โทรศัพท์ผมสูบแบตฮวบๆ เปิดค้างไว้ชั่วโมงเดียว พอเห็นเปอร์เซ็นต์แบตโทรศัพท์แล้วรีบปิดฟังก์ชั่นนี้แทบไม่ทัน ฟังก์ชั่นเดิมๆ อย่าง import photos หรือ edit photos ก็เหมือนเดิม สะดวก เล่นง่ายใช้สนุก เอารูปอะไรมาใส่อาร์ตฟิลเตอร์ก็ได้เหมือนเดิม และก็ไม่ได้ดีกว่าเดิม ถ้าเทียบแอพของ 6D กับ E-P5แล้ว ก็เหมือนนรกกับสวรรค์อีกนั่นแหละ แต่รอบนี้ใครเป็นอะไร ก็กลับกันกับรอบที่แล้ว เรื่องแอพนี่ก็ยังมีความหวังว่าในภายภาคหน้าอาจจะมีการอัพเดท หรืออัพเกรดอะไรให้มากกว่านี้ได้อยู่ แต่ในวันนี้ถ้าซื้อ E-P5 เพราะเหตุนี้ ผมว่ามันมีประโยชน์ไม่มากเท่าไหร่นัก ![]() ปรับแบบซอฟท์ๆ นุ่มๆ คอนทราสท์ต่ำๆ มากเท่าที่กล้องจะอำนวย เรื่องที่ 3 ที่ผมสงสัยคือ เวลาใช้จริง การคอนโทรลมันจะเป็นยังไงมั่ง E-P5 ออกแบบการจัดวางปุ่ม แป้น วงล้อใหม่ และยังเพิ่มคาน 2x2 มาอีกอันนึง ผมชอบปุ่มกระจายแบบนี้มากกว่าปุ่มเข้าแถวแบบเดิม เพราะมันทำให้กดได้โดยไม่ต้องมอง ไม่ต้องคลำนับปุ่ม ว่าจะกดปุ่มลำดับที่เท่าไหร่ในแถว แต่ว่ามันจะกดถนัดมั้ย เพราะเล่นเอาปุ่ม Play ไปหลบไว้มุมล่างขวา ผมก็กดบ่อยเสียด้วยแล้วเอาปุ่ม delete มาไว้ซะเด่นเลย ![]() เวลาใช้จริงกลับถนัดแฮะ ใช้โคนนิ้วโป้งกดปุ่ม Play ได้ ส่วนปุ่ม delete เป็นปุ่มที่อยู่ไกลนิ้วมากที่สุด กดได้ไม่ง่ายนักต้องปล่อยกริ๊ปก่อน ซึ่งก็สมเหตุสมผลดี ปุ่มส่วนใหญ่ก็อยู่ในที่ที่สมควรอยู่ ทำงานได้แบบที่สมควรทำ กดถนัดมือดี ไม่มีอะไรให้เซอร์ไพรซ์เหมือนกล้องบางรุ่น ปุ่มก็เยอะเหลือเฟือ ตั้งฟังก์ชั่นโน่นนี่แล้ว ยังเหลือปุ่มอีกแน่ะ ผมใช้ไม่ครบทุกปุ่มหรอก ส่วนของใหม่อย่างคานสวิชท์เปิดปิดกล้อง ก็ทำงานได้ดี รวดเร็วกว่าปุ่มกดแบบเดิม กล้องก็ start-up ได้เร็วทันใจ ตอบสนองการทำงานได้ทันที วงแหวนหน้าหลังที่ถนัดมือกว่า มาแทนวงแหวนทรงกระบอกที่นิ้วโป้ง และวงแหวนรอบปุ่มสี่ทิศทางเดิมๆ ที่ปรับไม่ค่อยถนัด คาน 2x2 ทำให้วงแหวนหน้าหลังเปลี่ยนหน้าที่ จากวงแหวนปรับการเปิดรับแสง กลายเป็นปรับ ISO/WB แทน ฟังดูดี แต่พอใช้จริง คานมันไวเกิน ชอบเคลื่อนอยู่เรื่อย ทำให้วงแหวนมันเปลี่ยนหน้าที่ไปๆ มาๆ จนไม่มั่นใจว่าตอนนั้นวงแหวนมันทำหน้าที่อะไรอยู่กันแน่ นอกจากนี้แล้ว เวลาใช้คานนี้ แล้วหมุนปรับ ISO กับ WB มันจะมี lag นิดๆ ชวนสับสนว่าปรับไปมากน้อยแค่ไหนแล้ว ผมว่าการปรับ exposure มันเป็นงานระดับ critical มากนะครับ จำเป็นจะต้องปรับได้อย่างรวดเร็วแม่นยำ สามารถไว้วางใจได้ทุกครั้ง ทุกสถานการณ์ ปรับได้โดยไม่ต้องคิด หรือกังวลใจ แต่ไอ้คานอันนี้มันเพิ่มความสะดวกก็จริง แต่ก็ทำให้กล้องอยู่ในสภาวะไม่น่าไว้วางใจ มีเรื่องต้องกังวลเพิ่มขึ้นอีกเรื่องนึง ถ้าต้องทำงานระดับพลาดไม่ได้ ผมว่าตั้งไว้ในโหมด 3, 4 จะดีกว่า 1, 2 แล้วย้ายการปรับ ISO/WB ไปไว้ที่ปุ่มอื่น หรือใช้ปุ่ม OK เปิด SCP ปรับเอาก็ได้ นั่นยังไม่เท่าไหร่ ถึงมีผลกับผม แต่ไม่ได้ส่งผลกับคนใช้กล้องที่เป็นเป้าหมายของกล้องรุ่นนี้เท่าไหร่ ส่วนที่น่ารำคาญที่สุดของกล้องคือปุ่มเปิดแฟลชครับ ที่ส่งผลกับทุกคนที่ใช้กล้อง มันเซ็นซิทีฟมากไป ไวสุดๆ แทบจะเป่าลั่น ใส่กล้องไว้ในกระเป๋า กระแทกไปมาแฟลชก็เด้งได้เอง ตลอดสามวันที่ผมเอากล้องออกจากกระเป๋า มีโอกาสอย่างมากที่เอากล้องออกมาจากกระเป๋า แล้วแฟลชเด้งเปิดอยู่แล้ว เรื่องนี้มันน่าหงุดหงิดสุดๆ นี่ถ้าเป็นกล้องของตัวเอง ไม่ได้ยืมใครมา ภายในสามวันแรก ผมคงตัดฟองน้ำแปะรอบปุ่มแฟลชไปแล้ว จะได้กดยากขึ้นอีกหน่อย จอเยี่ยมมากสวยคมชัด ถึงสีไม่สวยเท่า E-M5 แต่ก็ดูภาพได้สบายตากว่ามาก บางเฉียบ ง้างเปิดปิดง่าย สะดวก ลื่นดี ปิดแล้วก็แนบไปกับตัวกล้อง ดูกลางแจ้งได้ชัดเจนดี ไม่มีปัญหามองจอไม่เห็นเลย ตัวกล้องก็จับได้ถนัดดี น้ำหนักกำลังเหมาะมือในการใช้งานทั่วไป และการพกพาไปไหนมาไหนตลอดเวลา ถึงจะวางปุ่มไว้ทางขวาหมด แต่กล้องมันหนักเกินกว่าจะควบคุมสมดุลย์ได้ด้วยมือเดียว โดยไม่ใช้มือซ้ายประคอง การประกอบแน่นหนาแข็งแรง สัมผัสดี ไม่มีโยกคลอน เทียบแล้วดีกว่า E-M5 ไปอีกเยอะ ถือไว้ในมือแล้วมั่นใจดี แก้ไขข้อบกพร่องเรื่องการผลิตจากรุ่นเก่าๆ ไปหมดเลย แต่ว่าอย่างหนึ่งที่ผิดคาดมากๆ คือมันเป็นกล้องที่กินแบตโหดสุดๆ ผมใช้ได้ 3 ชั่วโมง ถ่ายไปร้อยกว่ารูปแบตหมดซะแล้ว ในขณะที่การใช้งานคล้ายๆ กัน แต่ใช้ EVF เป็นหลัก ผมถ่าย E-M5 ได้ค่อนวัน เกือบ 3 ร้อยรูป สาเหตุมาจากอะไร จริงหรือไม่ ผมไม่มีเวลาสำรวจให้ละเอียด ฝากไว้ให้คนอื่นทดสอบละกัน ผมได้ลองผลาญแบตแค่ 2 รอบเอง และเป็นแบตฯ ที่ใช้เป็นประจำอยู่กับ E-M5 ไม่ใช่แบตฯ ที่มากับกล้องเสียด้วย ผมว่ามันกินแบตเยอะกว่า E-M5 แน่นอน แต่ไม่รู้ว่ากินขนาดไหน เรื่องนี้ผมยกประโยชน์ให้ละกัน ![]() น่าซื้อมั้ย พิจารณาเฉพาะตัวกล้อง มันเป็นกล้องที่ดีมาก แทบจะหาข้อเสียร้ายแรงไม่ได้เลย ที่ผมพยายามยก พยายามหามา เป็นข้อบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ ของคนช่างจับผิดเท่านั้น แต่ถ้าเอาราคาเข้ามาเป็นปัจจัยด้วย มันกลายเป็นกล้องที่น่าซื้อน้อยลงไปเยอะสำหรับนักถ่ายภาพ อดไม่ได้ที่จะต้องเอาไปเทียบกับ OM-D E-M5 เพราะฟังก์ชั่น ฟีเจอร์ มันเหมือนกันแทบทุกกระเบียด แต่มันก็ไม่เชิงเป็นกล้องที่ใช้แทนกันได้เสียทีเดียว อย่างเช่นวันแรกที่ถ่ายทดสอบ ฝนตกปรอยๆ ผมก็ต้องเก็บกล้องหลบเข้าร่ม ซึ่งถ้าถือ OM-D มา ผมก็อาจจะเดินถ่ายต่อไปได้เลย ในทางการวางตำแหน่งการตลาดมันเป็นกล้องไลฟสไตล์ระดับหรู ซึ่งก็ไม่ได้โฟกัสไปที่นักถ่ายภาพเป็นหลักอยู่แล้ว ความคุ้มค่ามันไม่ได้อยู่ในเรื่องของการถ่ายภาพอย่างเดียว บางทีความคุ้มค่ามันก็อยู่ที่ได้ใช้กล้องหรูๆ สวยๆ แพงๆ ไม่เหมือนใคร สำหรับคนที่อยากได้กล้องแนวไลฟสไตล์ มันก็อาจจะคุ้มในแง่นี้ ถ้าถามความคุ้มค่าในมุมมองของช่างภาพ ผมว่าซื้อ OM-D E-M5 คุ้มค่าเงินกว่ามาก หากอยากได้จริงๆ ผมแนะนำให้ซื้อกล้อง gray market ครับ ราคาเท่ากันเป๊ะ แต่ได้เลนส์ 17 mm ราคาหมื่นห้า (ลดแล้ว) ในขณะที่โอลิมปัสประเทศไทยให้แค่เลนส์คิดมาก 14-42 ที่หลายคนมีในครอบครอง 2-3 ตัวแล้ว ถ้าอยากได้จริงๆ ขอเอาฟรีๆ หรือซื้อต่อมือสองสภาพใหม่กิ๊ก สามพันฝ่าๆ เอง เรื่องราคาแพงเว่อร์ บวกด้วยเรื่อง ผมไม่เห็นว่าทำไมเราควรซื้อกล้องจากตัวแทนจำหน่ายโอลิมปัสประเทศไทย ในขณะที่ซื้อกล้องประกันร้านคุ้มกว่าด้วยประการทั้งปวง หรือจะให้ดีกว่านี้ รออีกสัก 6 เดือน ให้มันลดราคาลงอีกสัก 5 พัน หรือหมื่นนึง ความน่าใช้จะดีกว่านี้อีกมาก เพิ่มเติม ความคิดเห็น หลังเปิดตัว E-P5 ในประเทศไทย //pantip.com/topic/30499644 ไปลอง Olympus E-P5 อีกที คราวมีโฟโต้สตอรี่ //pantip.com/topic/30687072 พา E-P5 ไปเที่ยวมาครับ //pantip.com/topic/30755010 ![]() |
อะธีลาส
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() Photographer, photo educator, writer and more....... อนุญาตให้ ใช้ ดัดแปลง แก้ไข ตัดต่อ ทำสำเนา เผยแพร่ อ้างอิง จำหน่าย จ่ายแจก ภาพ และบทความในบล็อกนี้ ส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมด เพื่อสาธารณะประโยชน์ เพื่อการศึกษา เพื่อกิจส่วนตัว และเพื่อการค้าได้ โดยไม่ต้องขออนุญาต ตามสัญญาอนุญาตใช้งาน Creative Commons: Attribution. Website http://mister-gray.bloggang.com https://twitter.com/nickdhapana http://500px.com/NickDhapana https://plus.google.com/+NickDhapana http://nickdhapana.tumblr.com http://instagram.com/nickdhapana https://www.facebook.com/dhapana/about Skype & Email cmosmyp@gmail.com Line nickdhapana My Project's Page Public Telephone https://www.facebook.com/PublicTelephoneProject They didn't say that. https://www.facebook.com/pages/They-didnt-say-that/116827521834600 Exposure to the RIGHT https://www.facebook.com/pages/Exposure2the_RIGHT/538556252881951 Thailand Perspective Project https://www.facebook.com/ThailandPerspective Dead on Arrival https://www.facebook.com/pages/Dead-on-Arrival/666461363385961 Group Blog All Blog
Friends Blog |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |