Nick Dhapana's Blog
|
|||
Digital Photograph Asset Management ตอน 1 ในการถ่ายภาพ ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าภาพถ่าย ...นั่นก็จริง แต่ในกระบวนการถ่ายภาพทั้งกระบวนการ พอจะกล่าวได้ว่าการบริหารจัดการคลังภาพถ่ายมีความสำคัญเหนือยิ่งไปกว่าการถ่ายภาพเองด้วยซ้ำ เพราะหากไม่มีการบริหารจัดการคลังภาพ เราอาจจะไม่มีภาพถ่ายเหลือเลยก็ได้ หากจะเรียก Digital Photography Asset Management เป็นภาษาไทยว่า "การบริหารจัดการคลังภาพ" ก็ดูเหมือนว่าจะแคบไปหน่อย และไม่ค่อยครอบคลุมสักเท่าไหร่ เพราะเนื้อหาของเรื่องนี้มันกว้างมาก ขนาดเป็น Textbook เล่มโตๆ เรียนเอาปริญญาโทกันได้เลย เรื่องนี้จะครอบคลุมกระบวนการทำงานตั้งแต่ การเตรียมระบบตั้งแต่ก่อนภาพถูกบันทึกลงบนเมมโมรี่การ์ด ไปจนกระทั่งชั่วฟ้าดินสลายนั่นเลยทีเดียว เพื่อให้ภาพนั้นสร้างผลตอบแทนได้มาก และนานเท่าที่เป็นไปได้ ทั้งผลตอบแทนในรูป เงินทอง ชื่อเสียง ความสุขทางใจ ความทรงจำ หรืออะไรก็แล้วแต่ตามที่ต้องการเรื่องนี้ยังครอบคลุมไปถึงเรื่องของกฎหมาย และบัญชี เรื่องภาษี เรื่องอื่นๆ อีกเยอะ นอกเหนือไปจากเทคนิค และศิลปะอีกด้วย ผมคิดว่าบทความตอนนี้จะยาวมากเป็นพิเศษ และผมไม่ได้รู้เรื่องนี้อย่างกระจ่างแจ้ง นอกจากที่ได้ถูกเทรนมาบ้างนิดๆ หน่อยๆ จะพยายามเขียนให้เท่าที่นึกได้ และหาข้อมูลเพิ่มเติมมาได้ ผิดถูกอย่างไร มาช่วยกันเสริมเติมต่อแก้ไขกันได้ และผมคาดว่าจะเขียนไม่เสร็จง่ายๆ อาจจะเป็นปีกว่าจะใกล้จบ คงเขียนไปเรื่อยๆ ตามแต่ความขยัน และความขี้เกียจจะบงการ ใครนึกอะไรได้ก็ถามๆ มา จะเขียนเพิ่มไปเรื่อยๆ แล้วกันนะ หัวข้อเรียงตามลำดับที่นึกได้ครับ ไม่ได้มีหลักการอะไรทั้งนั้น
ใช้สองการ์ด มั่นใจสองเท่า ก่อนจะไปเรื่องอื่น ผมเริ่มจากในกล้องเลย อย่างหนึ่งที่เราจะสังเกตได้สำหรับกล้องที่จัดประเภทได้ว่าเป็นกล้องโปร คือสามารถใส่เมมโมรี่การ์ดได้ 2 ใบ เราสามารถจะเลือกให้การ์ดสองใบนี้บันทึกต่อเนื่องกันทีละการ์ด จะบันทึกพร้อมกันสองการ์ด หรือแยกบันทึก jpg กับ RAW ก็ได้ จุดประสงค์หลักที่กล้องต้องมีสองการ์ด ไม่ใช่เรื่องของการเพิ่มความจุ หรือแยก raw/jpg อย่างที่เราเข้าใจ อันนั้นเป็นเพียงผลพลอยได้เท่านั้น เพราะเรื่องแรกสามารถแก้ได้ง่ายๆ ด้วการใช้การ์ดความจุสูง หรือมีการ์ดสำรองเยอะๆ เปลี่ยนการ์ดเป็นระยะๆ เรื่องหลังก็มันไม่ได้ยากเย็นอะไรในการแยก jpg/raw ในคอมพ์ มันเป็นเรื่องหมูๆ สำหรับโปรแกรมจัดการคลังภาพ สาเหตุหลักของการมีสองการ์ดคือ การแบ๊คอัพข้อมูลภาพเดียวไว้สองก็อปปี้ตั้งแต่ในกล้อง เพื่อป้องกันปัญหาการ์ดชำรุด หรือการ์ดหายใครจะไปบอกได้ว่าการ์ดที่ใช้ได้ดีๆ อยู่เมื่อวานนี้ วันนี้มันจะดีอยู่ หรือเสียหายไปแล้ว หรือการ์ดที่เพิ่งถ่ายภาพรับปริญญาใส่ไว้เต็มปรี่เมื่อเช้านี้ พอถึงบ่ายดันทำหล่นหายไปไหนไม่รู้ดังนั้นหากกล้องเราสามารถใส่ได้ 2 การ์ด ให้ใส่ทั้งสองการ์ด อย่าปล่อยว่างไว้ และให้ตั้งเป็นแบบ Mirror ไว้เสมอ ถ่าย 1 รูป เขียนลง 2 การ์ดพร้อมๆ กัน และเวลาเอาการ์ดออกจากกล้อง ให้เก็บ 2 การ์ดนี้ แยกจากกันคนละที่เสมอ ใบหนึ่งอาจจะใส่กระเป๋าเสื้อ หรือกระเป๋ากางเกงไว้ อีกใบหนึ่งใส่ไว้ในกระเป๋ากล้อง จนกว่าจะไปถึงบ้านค่อยเอาการ์ดหนึ่งในนั้น สำเนาภาพถ่ายลงคอมพ์ เมื่อสำเนารูปออกไปแล้ว อย่าเพิ่งฟอร์แมทการ์ดทั้งหมด ให้ฟอร์แมทแล้วเอาไปใช้ใหม่การ์ดเดียวพอ แล้วเก็บอีกการ์ดนึงเอาไว้ใกล้ๆ คอมพิวเตอร์ก่อน อย่าเพิ่งเอาไปใช้ อย่าเพิ่งย้ายที่ไปไหนไกล จนกว่าจะแน่ใจได้ว่าไม่มีเหตุที่ต้องให้ก็อปกันอีกแล้ว ค่อยเอาการ์ดที่สำรองนั้นไปฟอร์แมทใช้ใหม่ เมื่อไหร่ที่จะแน่ใจว่าไม่ต้องใช้แล้ว?
ถ้ามีอย่างใดอย่างหนึ่งใน 2 อย่างนี้แล้ว ถึงจะเอาการ์ดนั้นมาฟอร์แมท เอาไปใช้ใหม่ได้อย่างสบายใจ
Label, Label, Label ความผิดพลาดอย่างหนึ่งเกี่ยวกับเมมโมรี่การ์ดที่เจอโคตรบ่อย คือเอาการ์ดใบที่เพิ่งถ่ายมา ไปฟอร์แมทใช้ใหม่โดยที่ยังไม่ทันสำเนาลงคอมพ์ หรือจำไม่ได้ว่าไอ้ที่เพิ่งถ่ายไปวันก่อน มันคือการ์ดใบไหน ต้องมาไล่หากันทีละการ์ด วิธีแก้คือ หากมีการ์ดหลายใบ ทุกใบ ต้องใส่เลขไว้เสมอ ว่าเป็นการ์ดหมายเลขที่เท่าไหร่ อย่าใช้วิธีจำ เพราะมันจะพลาดแน่นอน และทุกคนเคยพลาดมาแล้วแน่ และเวลาใช้การ์ด ให้ใช้เรียงลำดับเลขไปทางเดียวเสมอ ห้ามใช้การ์ดย้อนศร จนกว่าจะสุดทาง ค่อยกลับมาเริ่มต้นที่การ์ดเลข 1 ใหม่ คราวนี้ก็จะง่าย พอเอาการ์ดออกมาจากกล้อง ใบนึงใส่กระเป๋ากล้อง ใบหนึ่งใส่กระเป๋ากางเกง แล้วเอาการ์ดหมายเลขต่อไปขึ้นมาใช้ได้เลย ไม่ต้องจำว่าอันไหนใช้แล้ว อันไหนยังไม่ใช้ อันไหนมีงานค้างอยู่ หรือไม่มี เพราะมันจะเรียงลำดับกันเรียบร้อยตามหมายเลขอยู่แล้ว ต่อให้การ์ดปนกันมั่ว ก็ยังไล่ลำดับหาภาพได้ไม่ยาก ควรก็อปไฟล์ออกจากการ์ดทันทีที่เสร็จงานในวันนั้น ไม่ต้องรอวันอื่น ไม่งั้นจะลืม และก่อนเอาการ์ดไปใช้ ให้ฟอร์แมทการ์ดก่อนจะยัดใส่กระเป๋ากล้องเสมอ อย่าไปคิดว่าเดี๋ยวค่อยฟอร์แมทกันหน้างาน เพราะรับประกันได้ว่าจะลืม แล้วก็ถ่ายไปโดยที่เหลือพื้นที่ในการ์ดนิดเดียว ต้องมาไล่ลบรูปเก่าๆ ทีละรูป
RAW เท่านั้น มีการถกเถียง และเหตุผลมากมายระหว่าง RAW กับ JPG แต่หากเป็นช่างภาพอาชีพ และทำงานอาชีพแล้ว ให้ถ่าย RAW เท่านั้นครับ ไม่ว่าจะฝีมือขั้นเทพมาจากไหน ก็จะไม่มีการถ่าย JPG เพียวๆ เด็ดขาด RAW+JPG ก็ดูจะไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่ ยกเว้นในกรณีงานบางอย่างที่ต้องการรูปด่วนหลังกล้องเลยเท่านั้น อย่าไปหวังว่าถ่ายแล้วจะเอามา “แก้ไข” ทีหลัง ควรจัดการให้ภาพออกมาสมบูรณ์แบบให้มากที่สุดในขั้นตอนการถ่ายภาพ ยิ่งได้ต้นฉบับมาดี ขั้นตอน post-processing ก็จะยิ่งราบลื่น ง่าย เร็ว และได้คุณภาพ output ที่ดี ช่างภาพได้ค่าจ้างถ่ายภาพนะครับ การแต่งภาพ หรือแก้ไขภาพ เป็นงานที่ไม่มีค่าตอบแทน อย่าไปให้เวลาตรงนั้นเยอะ ประณีตตั้งแต่การถ่าย ชีวิตจะสบายในภายหลัง |
อะธีลาส
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 44 คน [?] Photographer, photo educator, writer and more....... อนุญาตให้ ใช้ ดัดแปลง แก้ไข ตัดต่อ ทำสำเนา เผยแพร่ อ้างอิง จำหน่าย จ่ายแจก ภาพ และบทความในบล็อกนี้ ส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมด เพื่อสาธารณะประโยชน์ เพื่อการศึกษา เพื่อกิจส่วนตัว และเพื่อการค้าได้ โดยไม่ต้องขออนุญาต ตามสัญญาอนุญาตใช้งาน Creative Commons: Attribution. Website http://mister-gray.bloggang.com https://twitter.com/nickdhapana http://500px.com/NickDhapana https://plus.google.com/+NickDhapana http://nickdhapana.tumblr.com http://instagram.com/nickdhapana https://www.facebook.com/dhapana/about Skype & Email cmosmyp@gmail.com Line nickdhapana My Project's Page Public Telephone https://www.facebook.com/PublicTelephoneProject They didn't say that. https://www.facebook.com/pages/They-didnt-say-that/116827521834600 Exposure to the RIGHT https://www.facebook.com/pages/Exposure2the_RIGHT/538556252881951 Thailand Perspective Project https://www.facebook.com/ThailandPerspective Dead on Arrival https://www.facebook.com/pages/Dead-on-Arrival/666461363385961 Group Blog All Blog
Friends Blog |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |