<<<Nantes en automne>>>
ใคร ๆ ก็ว่า ฤดูใบไม้ร่วง เป็นฤดูกาลของการสิ้นสุด ใบไม้เปลี่ยนสี แห้งกรอบ ร่วงหล่น อากาศหนาวเย็น อึมครึม หดหู่
แต่สำหรับฉัน...มันเป็นการเริ่มต้น
.
นี่เป็นสัปดาห์แรกที่ฉันย้ายมาอยู่ที่เมือง Nantes ในแคว้น Pays de la loire ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส Nantes เป็นเมืองไม่ห่างจากทะเลมากนัก จึงรับลมและฝนจากมหาสมุทรแอตแลนติคตลอดทั้งปี และได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแคว้นที่ฝนตกตลอดเวลา
ฉันไม่ได้เป็นสมาชิกชมรมคนเกลียดฝนหรอก บางทีก็โรแมนติคดีเหมือนกัน แต่ก็ต้องยอมรับว่าการไปไหนมาไหนไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ และฟ้าที่หม่นตลอดทั้งปี ก็พาลส่งผลกระทบถึงจิตใจให้หดหู่ได้เหมือนกัน เมือง Nantes จึงเป็นเมืองที่ฉันไม่คิดจะเลือกมาเรียนหรือมาอยู่เลยตั้งแต่ตั้งท่าจะมาฝรั่งเศส
แต่คงโทษอะไรไม่ได้นอกจาก 'ชะตา' ที่โคจรไปมาทำให้ในที่สุดต้องเลือกเมืองนี้ด้วยเหตุผลทุกประการ แล้วก็จริงว่า เนื่องจากไม่เคยคิดจะเลือก ก็ไม่เคยคิดมาเยี่ยมเยียนเที่ยวหาที่นี่มาก่อนเลย แม้ว่าจะไปเที่ยวหาเมืองทุกเมืองที่เลือกสมัครเรียนหมดแล้ว อย่างนี้จะเรียกอะไรอื่นได้นอกจาก 'ชะตา' ที่พาให้ต้องมาที่นี่

แล้วก็แน่ล่ะ...ตั้งแต่มาเหยียบเมืองครั้งแรกจนได้นั่งรถรางวนรอบ ๆ ฉันอดไม่ได้ที่จะหยิบมือถือขึ้นมากดอัพสเตตัสในเฟซบุคว่า "บางทีก็ดีกว่า ที่ไม่รู้ว่าต้องเจอกับอะไร"
แสงแดดแรงกล้าที่เผลอ ๆ จะแรงกว่าเมืองไทย ฟ้าใส ๆ สีฟ้าจัดมาต้อนรับฉันสู่เมืองแห่งฝนตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ เกือบ ๆ จะอาทิตย์นึงแล้ว ฉันยังไม่เห็นเมฆสีเทาหรือเม็ดฝนสักเม็ด ทั้งที่เป็นต้นฤดูใบไม้ร่วง อากาศอุ่นและแดดจ้า ๆ อย่างตอนนี้ นับว่าไม่ใช่ปกติที่จะมีให้เห็นง่าย ๆ แน่ ๆ แต่ไม่ว่าจะเป็นด้วยภัยธรรมชาติที่ทำให้สภาพอากาศปั่นป่วนทั่วโลกหรือ 'โชคชะตา' ของฉันที่แดดออกแรง ๆ สวย ๆ ทำให้ฉันรู้สึกถูก 'ชะตา' กับเมืองนี้ทันที รู้ตัวเลยว่าจะอยู่อย่างมีความสุขได้ไม่ยาก
เวลาที่รู้สึกว่า 'ใช่' ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก แค่ความรู้สึกเท่านั้นแหละ ที่มันจะบอก แล้วก็นั่นแหละ ที่ฉันรู้สึก...

.
แดดแรง ๆ วันอาทิตย์ คนเมืองออกมาเดินเล่นตากแดด ซื้อของจับจ่าย ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว ออกกำลังกาย ฉันก็หาเรื่องออกจากบ้านเหมือนกัน เค้าว่ากันว่า แดดนี้อาจเป็นแดดสุดท้ายของปีก็ได้ จากนี้จะมืดลง ๆ และเย็นลง ๆ แล้ว ก็เป็นข้ออ้างที่ดีที่จะหยิบแว่นดำใส่ขาสั้นออกไปตากแดดกับเขาบ้าง
ตั้งแต่เช้า ก็ออกไปจ่ายตลาด ดูชีส ซื้อขนมปัง นั่งกินกาแฟ เดินสวนสาธารณะ เลี้ยงเป็ด จับหญ้า หญ้าเขียว ๆ กระทบแดดใส ๆ เย็นใจและอุ่นตัวดีจริง

และวันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายที่มีงาน La fête foraine ที่น้องต์หรือว่าสวนสนุกกลางแจ้ง ซึ่งจะจัดเป็นประจำทุกปีในช่วงปลายฤดูร้อน และจัดตามเมืองต่าง ๆ รวมเวลาประมาณหนึ่งเดือน งานที่ดังก็เช่น Ocktoberfest หรืองานเทศกาลเบียร์ที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมัน เป็นต้น ซึ่งงานที่น้องต์ก็มีมาตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนมาจนถึงเดือนตุลาคมนี้แหละ และจัดขึ้นหลังปราสาท Duchess-Anne
ผ่านไปผ่านมาอยู่หลายวันก็เล็งๆอยู่แล้ว หมายหมั้นปั้นมือว่าจะต้องมาเดินเล่นให้ได้ โชคดีที่เมื่อวานลองเข้าอินเตอร์เนทเช็คดูถึงรู้ว่าวันนี้เป็นวันสุดท้าย ถ้าปล่อยชะล่าใจไปงานหมดก็อดเที่ยวเล่นกัน
ภายในงาน มีม้าหมุน สไลเดอร์ยางลม บ้านผีสิง รถไฟเหาะ ชิงช้าสวรรค์ เกมปาเป้าต่าง ๆ บูทขายอาหาร ขนม ไอติม และอื่น ๆ อีกมากมาย แม้จะเป็นบริเวณงานไม่ใหญ่มากนัก แต่ว่าอัดแน่นไปด้วยกิจกรรมทุกประเภท เหมาะสำหรับคนทุกวัย
ในบ่ายเย็นวันอาทิตย์ที่แดดดี และเป็นวันสุดท้ายของงานอีกต่างหาก คนก็เลยเยอะแบบอัดแน่น แถมด้วยว่าเครื่องเล่นทุกชนิดลดราคาหั่นครึ่ง คิวแถวของการขึ้นไปถูกเหวี่ยงอยู่บนอากาศของเครื่องเล่นแต่ละชนิดก็ยาวไม่น้อย ฉันก็เดินเล่นรอบงาน ดูคน ดูครอบครัว ดูเด็กร้องกับพ่อแม่จะเล่นนู่นนั่นนี่ ดูกลุ่มวัยรุ่นเฮฮาส่งเสียเอะอะ ดูคู่รักยิงเป้าตุ๊กตาให้กัน
เห็นแล้วนึกถึงงานวัดอินทร์ วัดภูเขาทองบ้านเรา กลิ่นอายโดยรวมไม่ต่างอะไรกันกันเท่าไหร่ ถ้ามีขนมจีน ถังแตกและตู้ทำบุญก็เหมือนกันเด๊ะ!
ที่เห็นว่าจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษเห็นจะเป็นบ้านผีสิง ที่คลุมผ้าดำมืดแล้วติดภาพน่ากลัวอยู่ด้านหน้าเต็มไปหมด ให้คนแต่งหน้าแต่งตัวเหมือนผีมาเรียกแขกและติดป้ายว่า Live Horror Show คนเข้าคิวแน่นขนัด มีเสียงวี้ดว้ายดังออกมาเขย่าขวัญคนในคิวเป็นระยะ มีสีหน้าหวาดผวาของผู้ออกมาเป็นสิ่งการันตี ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะน่ากลัวขนาดไหน เพราะก็ได้แต่ยืนเก็บบรรยากาศอยู่ข้างนอก อยากจะพิสูจน์อยู่เหมือนกัน ว่าจะสมกับเสียงกรี๊ดกร๊าดที่ดังมาเป็นระยะ ๆ นั่นหรือเปล่าหรือจะเป็นแค่ 'โชว์ผีกระสือ' หรือ 'โชว์นางเงือก' บ้านเรากันแน่
เครื่องเล่นอีกอย่างที่ฉันยืนหยุดแหงนคออ้าปากดูอยู่เป็นนานสองนาน คือ เจ้าเครื่องที่ชื่อว่า Toxic เป็นแท่งยาว ๆ ที่โฆษณาว่าสูงถึง 50 เมตร คนนั่งอยู่ปลายสุดสองด้านแล้วก็เหวี่ยงขึ้นนลงไปมาด้วยความเร็ว 5G ที่ว่าเท่าเครื่องบินรบอะไรประมาณนั้นเชียว! ฉันยืนหงายหน้าอมยิ้มไปกับจินตนาการว่าได้ขึ้นไปนั่งอยู่ตรงนั้นบ้าง แค่นี้ก็สนุกจะแย่โดยไม่ต้องเสียตังค์แล้ว แล้วก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเพื่อนสาวคนนึงที่ชอบเล่นเครื่องเล่นหวาดเสียวทุกประเภท ใจพาลกระหวัดไปหาว่าถ้าเธอมาอยู่ตรงนี้ด้วยกันฉันคงไม่ต้องยืนจินตนาการอยู่คนเดียวแต่คงได้ขึ้นไปเหวี่ยง ๆ สัมผัสอากาศโหวง ณ ความสูง 50 เมตรนั่นกับเพื่อนฉันแล้วแน่ ๆ

เดินเล่นด้วยความเพลินเพลินสักพัก ซื้อน้ำแข็งปั่นกินไปแก้ว ตัดสินใจเล่นเครื่องเล่นข้าง ๆ ตัวเหวี่ยงมหากาฬนั่นในที่สุด
ชิงช้าสววรค์นั่นเอง
หลังจากเสียค่าเสียหายที่ลดราคาแล้วเหลือ 2 ยูโร 50 ก็ยืนถือตั๋วรอคิว
ปกติแล้วชิงช้าสวรรค์เป็นเครื่องเล่นที่น่าหวาดเสียวน้อยที่สุดในบรรดาเครื่องเล่นต่าง ๆ ในสวนสนุก คนกลัวความสูงก็เล่นได้ หมุนช้า แน่นหนา ปลอดภัยและเติมความโรแมนติคในการได้ชมวิวมุมสูงสวย ๆ ด้วย

ไม่รู้จะเป็นเพราะเสียงกรี๊ดของคนในเครื่องเล่นข้าง ๆ หรือเปล่า ที่ทำให้วันนี้ฉันรู้สึกว่าชิงช้าสวรรค์น่าหวาดเสียวกว่าปกติอย่างประหลาด ไม่ได้สูงไปกว่าชิงช้าที่เคยนั่งมา หรือเครื่องเล่นหวาดเสียวอื่นที่เคยเล่นมาเลย เป็นไปได้ว่ามองลงไปข้างล่างแล้วเห็นคนตัวจิ๋วเดียว แต่มองไปที่กระเช้าอื่นข้าง ๆ ก็ไม่เห็นใครจะตื่นเต้นเหมือนฉัน จึงเป็นไปได้อีกเช่นกันว่ากระเช้าของฉันมันเอียงอยู่ข้างเดียว และก็เป็นเพราะชิงช้าสวรรค์...คงไม่ได้ถูกออกแบบมาให้นั่งคนเดียว
ความสูงบวกความเหงาก็กลายเป็นความหวาดเสียวได้ไม่ยาก...

.
ฉันเดินออกจากบริเวณงานเวลาที่พระอาทิตย์กำลังทอแสงสุดท้ายพอดี ใบไม้ที่กำลังเปลี่ยนสี กำลังออกสีสดจัดล้อรับกับแสงอาทิตย์สีส้มสวย อาจจะไม่มีภาพแสงอาทิตย์แบบนี้อีกแล้วก็ได้นะ ฉันเก็บภาพสวย ๆ ไว้แล้วในความรู้สึก อดไม่ได้ที่จะยิ้มให้กับความรู้สึกปนเหงาปนสุขที่กรุ่นอวลกับกลิ่นใบไม้กรอบ
ความไม่รู้ว่าจะต้องเจออะไร ไม่ได้ทำให้เกิดความกลัวเสมอไป มันอาจซ่อนความตื่นเต้น ท้าทาย น่าค้นหาเอาไว้เบื้องหลัง...อย่างน้อย ฉันในวันนี้ ก็มองชีวิตได้อย่างนั้น
แม้ใครจะว่าฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูแห่งการสิ้นสุด แต่สิ่งที่กำลังจะเริ่ม ก็คือฤดูกาลนี้นี่แหละและฉัน ก็จะเริ่มชีวิตใหม่ที่นี่...ไปพร้อมกับการร่วงหลุดของใบไม้
Create Date : 03 ตุลาคม 2554 |
Last Update : 4 ตุลาคม 2554 19:38:34 น. |
|
13 comments
|
Counter : 2200 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: inmemoir วันที่: 6 ตุลาคม 2554 เวลา:16:05:50 น. |
|
|
|
โดย: nikanda วันที่: 7 ตุลาคม 2554 เวลา:17:57:38 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 ตุลาคม 2554 เวลา:5:42:34 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 ตุลาคม 2554 เวลา:6:54:53 น. |
|
|
|
โดย: ณ ขณะหนึ่ง วันที่: 13 ตุลาคม 2554 เวลา:11:35:37 น. |
|
|
|
โดย: ณ ขณะหนึ่ง วันที่: 13 ตุลาคม 2554 เวลา:11:38:50 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 ตุลาคม 2554 เวลา:5:40:08 น. |
|
|
|
โดย: คนบ้า(น)ป่า (nulaw.m ) วันที่: 14 ตุลาคม 2554 เวลา:19:41:20 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 ตุลาคม 2554 เวลา:22:14:16 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 ตุลาคม 2554 เวลา:6:31:54 น. |
|
|
|
โดย: BeCoffee วันที่: 15 ตุลาคม 2554 เวลา:8:31:26 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 ตุลาคม 2554 เวลา:5:33:11 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:5:30:41 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
" เวลาที่รู้สึกว่า 'ใช่' ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก
แค่ความรู้สึกเท่านั้นแหละ ที่มันจะบอก
แล้วก็นั่นแหละ ที่ฉันรู้สึก... "
ถูกต้องเลยคุณ เวลาที่ ใช่ ไม่ต้องอธิบายมาก
ความรู้สึกมันบอกได้เองจริง ๆ
แล้วก็เชื่ออย่างที่คุณคิดเช่นกัน มันเป็นเรื่องของโชคชะตา
แค่เชื่อนะ แต่ไม่ได้งมงายว่ามันจะต้องเป็นนั้นเสมอ
แต่เมื่อเราพยายามฝืนสิ่งที่ควรจะเป็น หลายครั้ง หลายหนแล้ว
ก็จะรู้ได้เองว่า .. มัน ไม่ ได้
ชอบรูปใบไม้มาก ๆ คม ชัด กริ๊บ บาดใจเสียจริง