Bloggang.com : FaRaWaYGiRL : Subject: เรื่องรักอดีตแอร์ EK (น่ารักดี) อ่านแล้วอิจฉาจังเนอะ...

Subject: เรื่องรักอดีตแอร์ EK (น่ารักดี) อ่านแล้วอิจฉาจังเนอะ...

From : Eakkaluck
Sent : Monday, February 20, 2006 6:10 AM
----- Original Message -----
From: Osathee J.
Sent: Monday, February 20, 2006 11:06 AM
Subject: เรื่องรักอดีตแอร์ EK (น่ารักดี)

เรื่องเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 19 สิงหาคมปีที่แล้ว ตีห้าของวันนั้นเราถูกเรียกไปบินไฟลท์ Rome-Milan ไม่อยากบินเอาชะเลย เพราะแสตนด์บายแค่วันเดียว ไม่นึกว่าจะโดนไฟลท์ค้างคืน แล้วหลังจากแสตนบายวันนี้แล้วก็จะได้ไปร่าเริงกับวันหยุดที่ขอเอาไว้ เพราะวันที่ 29 เป็นวันเกิดของเรา วางแผนว่าจะไปเที่ยวอังกฤษ LA และซานฟรานซิสโก คำภาวนาไม่ได้ผลเลย เฮ้อ! เอ้า ก็ต้องแซะตัวเองออกจากเตียงในเวลาที่ชาวบ้านเค้านอนหลับอุตุอยู่ นั่งแต่งหน้าทำผมออกไปสู้รบปรบมือกะผู้โดยสาร ทำไงได้ล่ะ งานเรามันเป็นแบบนี้นี่นา

ไฟลท์ Dubai-Rome เหนื่อยมาก ไฟลท์เต็มเอี๊ยด พอถึงโรงแรมที่โรมก็สลบเหมือด ข้าวปลาไม่กินละ นอนเอาแรงดีกว่า เพราะพักที่โรมแค่ 24 ชั่วโมงเอง รุ่งขึ้นก็ทำจาก Rome-Milan-Dubai ตอน boarding ผู้โดยสาร จากมิลานจะไปดูไบ เราก็ยืนต้อนรับผู้โดยสารอยู่ ก็เห็นผู้โดยสารฝรั่งตัวสูงๆ หอบกระเป๋าขึ้นมาคนเดียว ที่นั่งของเค้าติดทางเดินอยู่ตรงหน้าที่เรายืนอยู่พอดี ก็ขยับให้เค้าเก็บกระเป๋า แล้วก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก พอเครื่องขึ้นไปได้ระดับเราก็เข็นรถออกมาเสิร์ฟเครื่องดื่ม มีความรู้สึกตลอดเวลาว่าถูกมอง ก็ทำเป็นไม่สนใจ ทำงานไปเรื่อยๆ พอเสิร์ฟเสร็จก็ออกมาเก็บแก้ว แล้วก็เข็นรถอาหารออกมาเสิร์ฟ ความรู้สึกอึดอัดว่าถูกจับตามองตลอดเวลา ชักจะทำให้ทนไม่ไหว ตอนออกไปเก็บถาด ก็เลยถามเค้ายิ้มๆ ว่า

"WHAT ARE YOU LOOKING?"

เค้าก็ออกอาการตกใจ คงไม่นึกว่านังแอร์คนนี้จะกล้าถามตรงๆ เค้าก็ปฏิเสธว่า

"NO,I AM WATCHING MOVIE"

โอเค ไม่ได้มองก็ไม่ได้มอง เราก็เข็นรถกลับเข้าครัว แล้วก็เมาท์เค้ากะเพื่อนแอร์เกาหลีว่าผู้โดยสารมอง ม้อง มอง จนชั้นนึกว่าตัวเองเดินผ่าน เครื่อง X Ray ซะอีกนะเธอ นินทาผู้โดยสารไป มือก็ทำงานไป เค้าก็เดินมาที่ครัว ถามหา duty free เราก็ตอบไปว่า คนที่รับผิดชอบเรื่องขายของยังทำงานไม่เสร็จ ถ้ารีบก็เขียนใบ Order มาให้เราก็ได้ เดี๋ยวเราจะเอาไปให้ แล้วเราก็แกล้งแซวเค้าโดยที่ไม่ได้คิดอะไรว่า อ๋อ กลัวเราจะไม่ไปขายของเหรอถึงได้มองอยู่ได้ เค้าก็ตอบกลับมาว่า เปล่านะไม่ได้มอง (แน่ะยังปฏิเสธอีกนะ) แล้วก็อ้ำอึ้งรับว่า ก็มองๆ อยู่เหมือนกัน แล้วเค้าก็เริ่มชวนคุย ถามว่าเป็นคนชาติไหน ทำงานมากี่ปีแล้ว คำถามพื้นๆ เค้าถามมาเราก็ตอบไป ก็คุยไปตามหน้าที่ ไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษ ยังนึกในใจอยู่ว่า ผู้ชายอะไร แต่งตัวเชยสุดๆ ใส่เสื้อนิตติ้งถักลายทางสีรุ้ง สเวตเตอร์ที่ผูกอยู่ที่เอวก็เชยพอกัน แล้วเค้าก็ถามถึงอายุ ไอ้เราก็ร้องว้าย มาถามอายุผู้หญิงได้ยังไงกัน หยาบคาย แล้วตัวเองล่ะอายุเท่าไหร่ (ยะ) พอเค้าบอกว่า 27 เราก็ร้องว้ายเป็นรอบที่สองแถมดังกว่าเดิม แล้วบอกไปว่า ชั้นแก่กว่าเธอจ้ะ ไม่คุยด้วยแล้ว เค้าก็ยังตื้อถามก็เลยบอกไปว่า วันที่ 29 สิงหานี้ ดิชั้นจะเต็ม 29 ปีค่ะ เค้าก็ว่าไม่เป็นไรแค่ ปีกับ 11 เดือนเอง โอ้ย เกือบ 2 ปี ไม่เอาล่ะ มิได้มีรสนิยมหลอกเด็ก ขอผ่าน อายุเท่าน้องชายเราเลย ก็คุยกันต่อเพราะเค้าไม่มีทีท่าว่าจะละความพยายาม เราก็ถามเค้าว่า เป็นคนชาติไหน ทำงานอะไร ไปดูไบทำไม เค้าก็ตอบว่า เป็นอิตาเลียน ทำงานเกี่ยวกับรองเท้า จะไปเปลี่ยนไฟลท์ที่ดูไบเพราะจะต่อไปการาจี ความที่เราเป็นคนชอบดูหนังมาก เราก็บอกเค้าไปว่า เอ้อ ! ทำให้เรานึกถึงหนังฝรั่งเรื่องนึงเป็นหนัง Romantic comedy ที่ไปถ่ายทำที่ โรม และเวนิส แล้วพระเอกก็ทำงานเกี่ยวกับรองเท้าอะไรเนี่ยแหล่ะ เราชอบมากเลยหนังสวยมาก หนังชื่อว่า ONLY YOU ก็ถามเค้าว่าเคยดูมั้ย เค้าบอกไม่เคย

ก็เลยเล่าเรื่องราวของหนังให้เค้าฟังว่า ตอนนางเอกเด็กๆ เล่นเกมกับน้องชาย คล้ายๆ ผีถ้วยแก้วบ้านเรา เป็นแผ่นกระดาน ที่มีตัวอักษรเขียนไว้ นางเอกก็ถามผีว่าใครคือ SOUL MATE ของตน ชื่ออะไร นามสกุลอะไร ผีก็บอกออกมาชื่อนึง

ตอนที่เราเล่าให้เค้าฟัง เราก็บอกว่า เราจำชื่อที่ผีมันบอกนางเอกในเรื่องไม่ได้ เอาเป็นสมมติว่าชื่อ DANIEL แล้วกันนะ หลังจากนั้นนางเอกก็จำฝังใจว่า โตขึ้นตัวเองจะต้องแต่งงานกับคนชื่อนี้ เพราะคนชื่อนี้คือคู่แท้ของตน กำลังจะเล่าต่อ เค้าก็สะกิดเรา ทำหน้าแปลกๆ แล้วบอกเราว่า เค้าชื่อ DANIEL เราก็ไม่เชื่อ ยังแซวเค้าว่า แหมมาอำกันได้ อยากมีส่วนร่วมเหรอ เค้าก็บอกว่า เปล่าพูดเล่นนะ แล้วก็ถามเราว่า เรารู้ชื่อเค้ามาก่อนรึเปล่า เราก็บอกไปว่า เราจะไปรู้ชื่อเค้าได้ยังไง จะเอาเวลาที่ไหนไปเช็ค ผู้โดยสารเต็มขนาดนี้ ยุ่งจะตาย ไม่มีเวลาว่างขนาดนั้นหรอก (พร้อมกับนึกในใจ ทำไมชั้นจะต้องไปเช็คชื่อเธอด้วยยะ) เค้าก็บอกว่ารอเดี๋ยว แล้วเค้าก็หายไป เรากะแอร์เกาหลีก็มองหน้ากันไปมา ยัยเพื่อนแอร์ก็พูดว่า ชื่อมีเป็นร้อยเป็นพัน ดันสมมติชื่อนี้ แล้วกลับกลายเป็นชื่อเค้าไปได้ แล้วชื่อนี้ก็ไม่ใช่ชื่อโหลๆ อย่าง มาร์ก เดวิด หรือจอนห์ ถ้าเค้าจะสมมติชื่อผู้ชายซักชื่อคงไม่คิดถึงชื่อนี้ เรานึกยังไงถึงพูดชื่อนี้ออกมา เราก็บอกว่า ไม่รู้เหมือนกันชื่อนี้มันโผล่ขึ้นมาในสมองเอง เพื่อนก็บอกว่า อย่างเนี้ยเค้าเรียกว่า destiny หรือบุพเพสันนิวาสนะจ๊ะเธอ ((มีต่อตอนสองค่ะ))

Create Date : 11 มีนาคม 2549

Last Update : 11 มีนาคม 2549 15:11:06 น.

4 comments

Counter : 431 Pageviews.

โดย: 9A

วันที่: 11 มีนาคม 2549 เวลา:15:59:37 น.

มารอตอนสองค่ะ

โดย: mungkood

วันที่: 11 มีนาคม 2549 เวลา:20:27:47 น.

อ่านเพลินๆ จบตอนแรกซะแล้ว รออ่านตอน 2 ค่ะ ...

ชอบรูปตรงคอมเม้นท์จังเลยค่ะ น่ารักดี ...

โดย: ตะกร้าหวายสีขาว

วันที่: 11 มีนาคม 2549 เวลา:22:36:33 น.

สนุกค่ะ...สนุกๆ

ขอมาแจมเล่าหน่อยได้ไม๊คะ
ไฟล์ทดูไบ-โรม เนี่ย อิชั้นเคยขออาศัยเค้าไปทีนึงค่ะ
มาพยักหน้าหงึกๆ...ขอยืนยันเห็นด้วยว่า...ไฟล์ทนี้เอี๊ยดค่ะ
เห็นลูกเรือเสริฟกันมือระวิงเลยค่ะ...

เรื่องนี้สนุกมากค่ะ...จะรอตอนที่ 2 นะค๊า

โดย: จันทร์สวย

วันที่: 12 มีนาคม 2549 เวลา:12:45:08 น.