ความประทับใจและอาถรรพ์

สำหรับความประทับใจ ที่ข้าพเจ้ารู้สึกประทับใจคือ ในทุกๆส่วนของทริปนี้ไม่ว่าจะเป็นท่านอาจารย์ที่สั่งสอนความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม เหล่าเพื่อนนักศึกษาด้วยกันทั้ง 24 ท่าน แต่ถ้าจะให้กล่าวถึงวัดที่ข้าพเจ้าประทับใจมากที่สุดเห็นจะเป็นวัดหน้าพระเมรุ ซึ่งชื่อเดิมทีคือวัดหน้าพระเมรุราชิการาม และโดยเฉพาะที่ท่านอาจารย์ได้กล่าวถึงเรื่องของพระพุทธรูปทั้งสององค์ที่ไม่ได้ถูกพม่าเผาไหม้ข้าพเจ้ารู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่พม่าไม่สามารถเผาวัดนี้ได้ ซึ่งถือเป็นความอัศจรรย์ยิ่งนักที่วัดกลางเมืองเช่นนี้รอดพ้นเงื้อมือพม่ามาได้ให้ลูกหลานได้เห็นและกราบไหว้ในลักษณะคงเดิม โดยเฉพาะพระประธานนั่งห้อยพระบาทนั้นท่านอาจารย์ได้กล่าวว่ามีเพียง 6 องค์ในโลกนี้เท่านั้น และลักษณะของวัดนี้ก็เป็นวัดเฉพาะของกษัตริย์ ซึ่งในปัจุบันนี้ยังเป็นวัดที่พระองค์ภาได้เสด็จเข้ามากราบไหว้ขอพรอีกด้วย ซึ่งถ้านักประวัติศาสตร์ได้ศึกษาค้นคว้าและพบว่าเป็นวัดเฉพาะของกษัตริย์ พวกเราสามัญชนคงไม่ได้มีโอกาสเข้ามากราบไหว้ขอพรอย่างในวันนี้เป็นแน่แท้ ในขณะที่ท่านอาจารย์เล่าประวัติของวัดนั้นข้าพเจ้าก็ได้เปิดมือถือเข้าโหมดกล้องเพื่อทำการถ่ายภาพ ไม่รู้ด้วยเหตุผลกลใด มือถือของข้าพเจ้าไม่สามารถทำการถ่ายภาพได้เลย(สามารถเข้าโหมดกล้องได้ แต่ไม่ปรากฏภาพใดใดเลย) ข้าพเจ้าได้ลองพยายามปิดแล้วเข้าใหม่ แต่ไม่สามารถทำได้ จนท่านอาจารย์เล่าจบและปล่อยโอกาสให้นักศึกษาไหว้พระขอพร ข้าพเจ้าจึงได้อธิษฐานขอให้มือถือของข้าพเจ้าสามารถถ่ายภาพเพื่อเก็บเป็นอนุสรณ์ว่าครั้งหนึ่งได้เข้ามากราบไหว้ จากนั้นข้าพเจ้าก็ทำการเปิดโหมดถ่ายภาพอีกครั้ง ไม่น่าเชื่อจากที่ข้าพเจ้าพยายามมาหลายหน แต่ครั้งนี้ข้าพเจ้าสามารถถ่ายภาพได้ปกติเหมือนที่ถ่ายที่วัดอื่นๆที่ผ่านมา (โดยก่อนหน้านั้นไม่มีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นเลย) ข้าพเจ้าเข้าใจเอาว่าอาจจะเป็นเพราะ ข้าพเจ้าถ่ายภาพมากเกินไปทำให้เครื่องอาจจะน็อก แต่เพื่อนๆที่ทราบเรื่องต่างก็ถามเป็นเสียงเดียวกันว่าข้าพเจ้าได้กราบขอถ่ายภาพก่อนล่วงหน้าหรือเปล่า? ข้าพเจ้าก็ตอบด้วยความสัตย์จริงว่าไม่ได้ขอ ทุกคนก็เลยสรุปความว่าเป็นเพราะความมหัศจรรย์ของพระพุทธรูปเป็นแน่แท้
ซึ่งการเดินทางในทริปนี้ ถือเป็นความโชคดีเป็นอย่างมากที่เราทั้ง 24 คนได้รับความรู้ในทางโลกและทางธรรมจากท่านอาจารย์ ดร.อุทิส ได้มีโอกาสทำบุญร่วมกัน โดยที่ท่านอาจารย์ยังเน้นย้ำว่าเมื่อเราทำการไหว้ขอพรแล้วนั้นเราก็จะต้องไม่ลืมที่จะเป็นคนดีและคืนสิ่งที่ดีมีประโยชน์ต่อสังคมด้วย ไม่เอื้อประโยชน์ส่วนตนเพียงอย่างเดียว เหมือนดั่งที่บรรพบุรุษของเราพยายามหวงแหนและรักษาสมบัติของชาติไว้เพื่อลูกหลานไม่ยอมให้อริราชศัตรูหน้าไหนเข้ามาทำลายชาติโดยไม่คำนึงถึงชีวิตของตนเอง แม้ตัวจะตายก็ตาม ท่านทั้งหลายก็ไม่ย่อท้อ สามารถยอมตายเพื่อชาติได้ จนสามารถเหลือร่องรอยอารยธรรมให้เราได้ดูและตระหนักถึง
สุดท้ายนี้ข้าพเจ้าและเพื่อนนักศึกษาต้องขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ ดร.อุทิส เป็นอย่างสูงที่ได้เอื้อเฟื้อเมตตาแนะนำข้อมูลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นความรู้ทางวิชาการ และความรู้ทางธรรมมาบรรยายให้เราได้ทราบเป็นอย่างดี

 

Create Date : 21 มกราคม 2549		1 comments
Last Update : 1 มีนาคม 2549 22:59:26 น.
Counter : 476 Pageviews.
Share Tweet