๐ ดั่งดวงหฤทัย/ลักษณวดี ๐




ประพันธ์โดย : ลักษณวดี
สำนักพิมพ์ : ณ บ้านวรรณกรรม
ราคา : 420 บ."


ส่วนตัว

ความรักที่งดงามของ “เจ้าหลวงรังสิมันต์” แห่งกาสิก ที่มีต่อ “องค์เจ้าฟ้าหญิงทรรศิกา” แห่งพันธุรัตน์ ผู้เป็น”ดังดวงหฤทัย” ที่มีต่อกันนั้น ถึงแม้ว่าทั้งสองพระองค์จะมีหน้าที่ความรับผิดชอบที่แตกต่างกัน แต่หัวใจสองดวงยังจะหลอมรวมเป็นดวงเดียวกัน

นิรันดรนั้น นานนัก แต่รักนี้นาน กว่านั้น..แด่เธอ ผู้เป็น ”ดั่งดวงหฤทัย”




จากปก


"เธอมิใช่สายน้ำ.............แต่เธอเย็นฉ่ำชื่นหวาน
เธอมิใช่ลำธาร...............แต่เธอไหลผ่านเนื้อหัวใจ
ความรักเสลา................สลักสวยใส
งามใดเล่างามใด............เทียบได้งดงามความรัก
จรดลึกในความทรงจำ.....ลึกล้ำย้ำรอย สลัก
นิรันดรนั้นนานนัก...........แต่รักนี้นาน กว่านั้น...”


พระโอษฐ์แย้มสดใสกับความทรงจำอันอ่อนหวาน..”เพลง” นี้ร้องประทาน
ครั้งแรกในอุโมงค์น้ำแข็ง เพลงที่อ่อนหวานที่สุดของกาสิก เพลงที่ที่ผู้ชายจะร้องให้ผู้หญิงคนพิเศษสุดฟังตอนรับสั่งอย่างนั้นยังเข้าพระทัยว่าผู้หญิงพิเศษสุดคือพระคู่หมั่น และแล้ว กาลเวลาผ่านมา “ผู้หญิงพิเศษสุด” คือใครเล่า?

“หม่อมฉันไม่เคยสาบาน เพราะศักดิ์แห่งเจ้าหลวงย่อมเหนือคำพูดใดๆ ทว่าวันนี้ “ทรรศิกา” ทรงฟังไว้ หม่อมฉันสาบานจะมีชีวิตเพื่อรอ ฝ่าบาท องค์เดียว ”พระสุรเสียงคลับคล้ายสะดุดนิดๆ “ยามใดเสร็จกลับพันธุรัตน์ ยามใดที่ทอดพระเนตรข้ามทิวเขามา ขอให้ทรงรำลึกว่าหม่อมฉันอยู่บนยอดอิสินทรมองลงไป แลหา พระองค์เดียว สิ่งที่มีค่าสุดในชีวิตของหม่อมฉัน..ฝ่าบาท”

วรองค์สูง ปราดเปรียว ก้าวตรง เร็ว มั่นพระทัย สุดปรายทางคราวนี้ “ทรรศิกา” ยอดรักจะรออยู่ “หัวใจ” อยู่ ณ ที่ใดก็ตามวันหนึ่ง ร่างกายย่อจะ “เดิน” มารวมกับหัวใจจนได้ ในดวงเนตรดำสนิท มิได้ฉายเฉพาะภาพผู้ใด นอกจากผู้ทรงเป็น “ดั่งดวงหฤทัย” “รังสิมันต์” มิได้ฉายฉานเฉพาะประชาชนเท่านั้น หากจะธำรงความอบอุ่นให้ “ดวงหฤทัย” ด้วย


“หม่อมฉันจะไม่กราบทูลอะไร นอกจาก จรดลึกในความทรงจำ ลึกล้ำย้ำ
รอยสลัก นิรันดรนั้นนานนัก แต่รักนั้นนานกว่านั้น!” “หม่อมฉันก็จะไม่ทูลว่าจะจำ เพราะสิ่งใดที่จำ แปลว่ามีเวลาลืม หากจะทูลว่า หม่อมฉันรู้ เพราะความรู้ไม่มีวันลืม หม่อมฉันรู้...” กะแสรับสั่งหวานนัก..”ว่าจะเป็นเช่นนั้น..แน่นอน!











Create Date : 11 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 27 กันยายน 2552 15:34:09 น.
Counter : 1219 Pageviews.

18 comments
  
... นุชก็ชอบเรื่องนี้เหมือนกันค่ะอ่านกี่รอบก็ยังคงความประทับใจ ...
โดย: Vannessa วันที่: 11 พฤศจิกายน 2550 เวลา:17:59:05 น.
  
ภาษาสวยงามมากค่ะ อ่านแล้วประทับใจ แนะนำว่าอ่านเรื่องนี้แล้วแวะไปอ่าน มงกุฎที่ไร้บัลลังก์ ไปทำความรู้จักกับ ศัลยา และจุฬาเสาวภาคแล้วจะปลื้มมากมาย อีกเรื่องก็เลือดขัตติยา อโณทัย กับ หญิงดารา ปลื้มกว่าดูละครที่พี่ติ๊กพี่อ้อมเล่นอีกค่ะ คอนเฟริม
โดย: ฝ้าย (goto_fai ) วันที่: 11 พฤศจิกายน 2550 เวลา:18:09:35 น.
  


คุณไลคะ..

เป็นนวนิยายเล่มโปรดเล่มหนึ่งของนกเหมือนกันค่ะ เรื่องนี้ใช้ภาษาสวย บรรยายบุคลิกของตัวละคร และ ฉากของเรื่องได้อย่างงดงาม จนแทบจะมองเห็นทั้ง 3 เมืองอยู่ตรงหน้าเลย ไม่ว่าจะเป็น กาสิก พันธุรัฐ ทานตะ

การบรรยายถึงความรักก็แสนจะอ่อนหวานจากเจ้าหลวงรังสิมันต์แห่งเมืองกาสิก ไปสู่เจ้าหญิงทรรศิกาแห่งเมืองพันธุรัฐ

ความรัก.............เสลาสลักสวยใส
งามใดเล่า..........งามใด
เทียบได้งดงาม...ความรัก
จรดลึก.............ในความทรงจำ
ลึกล้ำ...............ย้ำรอยสลัก
นิรันดรนั้น.........นานนัก
แต่รักนี้.............นานกว่านั้น

เป็นบทกวีที่หวานนะคะ

โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 11 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:07:49 น.
  

คุณVannessa..1
หญิงอ่านไปประมาณ3รอบแล้วคะ
ประมาณว่าพอไม่มีอะไรอ่าน
ก็หยิบขึ้นมาอ่านอีก





คุณฝ้าย (goto_fai)..2
ฮ่าๆๆ อ่านมาหมดแล้วค่ะ
ที่บอกมาทั้งหมดนั่น แต่เสียดาย
เลือดขัตติยา ที่อโณทัย..
อ่านแล้วสนุกกว่าที่เอามาทำเป็นละครตั้งเยอะเน้อ






คุณนก..3
เสียดายที่มีบทของเจ้าหญิง
แห่งทานตะนิดเดียว

นั่นซิคะเป็นบทกวีที่หวานม๊ากมาก
อ่านแล้วเคลิ้ม คิดว่าตัวเองเป็น
เจ้าหญิงทรรศิกาซะงั้น
โดย: ไลเดเลีย วันที่: 11 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:14:16 น.
  
เห็นเขียนอย่างนี้ แล้วอยากหาหนังสือมาอ่านบ้างจัง เคยดูแต่ที่เป็นละครที่นัทกะหนุ่มแสดงไว้อย่างเดียว ประทับใจมากๆ หนังสือน่าจะบรรยายได้ประทับใจกว่าใช่ไหมคะเนี่ย
โดย: HarryAnnePotter วันที่: 11 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:42:25 น.
  
เป็นนิยายเรื่องแรกที่ทำให้เราประทับใจ และเริ่มต้นอ่านนิยายค่ะ
โดย: kornnakarn วันที่: 11 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:04:49 น.
  
เล่มโปรดเหมือนกันค่ะ
โดย: มณฑารัตน์ วันที่: 11 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:08:23 น.
  
คุณHarryAnnePotter..5
ใช่คะ ในละครทำได้ประทับใจ
คนดูแค่ไหน ในหนังสือประทับ
ยิ่งว่าในละครหลายเท่านนัก
อ่านแล้วทำให้เกิดเพ้อฝันขึ้น
จนอยากให้มีเจ้าชายดีๆเข้ามา
ในชีวิตซักคน





คุณkornnakarn..6
แสดงว่าเป็นชอบพ้อฝันเหมือน
กันนะเนี่ย





คุณมณฑารัตน์..7
คอเดียวกันหมดเลย ดีใจที่เจอ
พวกเดียวกันคะ
โดย: ไลเดเลีย วันที่: 12 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:59:01 น.
  
เล่มนี้มีแต่คนชอบ
แต่ทำไมเราเฉยๆน้อ
ชอบในฝันมากกว่าค่ะ
โดย: BoOKend วันที่: 13 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:14:59 น.
  
สมัยเด็ก ๆ เคยชอบนะคะ พอโตมาแล้วกลับเฉย ๆ แฮะ...หรือต่อมเพ้อฝันหยุดทำงานแล้วก็ไม่รู้...
โดย: แม่ไก่ IP: 203.113.51.103 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:57:40 น.
  

คุณBoOKend..9
คนเราต่างจิตต่างใจคะ ความชอบ
ของแต่ละคนเลยต่างกัน
เรื่อง"ในฝัน"ต้องใช้จิตนการ
ในการทำความเข้าใจกับเนื้องเรื่อง
เพราะตัวละครไม่ได้คุยกันโดยตรง
แต่คุยกันผ่านการเขียนจดหมาย
เท่านั้น เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่
หญิงไลชอบ "เจ้าชายโอริสา"
ไม่น่าเลย





คุณแม่ไก่..10
เห็นชื่อที่บ้านสาวปลิว บ่อยๆ
คุณแม่ไก่อาจจะหลุดออกจากความ
เพ้อฝันแล้วมั่งคะ
โดย: ไลเดเลีย วันที่: 15 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:29:35 น.
  
ชอบจังเลยๆ

อยากได้เป็นหนังสือเก็บไว้อ่ะ
โดย: ดั่งดวงหฤทัย IP: 58.8.110.57 วันที่: 28 ธันวาคม 2550 เวลา:19:30:22 น.
  
เราขอบมากมายเรยล่ะ เรื่องนี้
ชอบทุกๆคนเรยทั้งพี่เวียร์กะพี่ขวัญแสดงคู่กานแระน่าร้ากกกมากมาย
ที่ชอบที่สุดคือราชิดอ่า....
หร่อโคตรเรย เหนว่าได้ที่2 จากการประกวด CLEO 2006 ด้วยล่ะ
ชอบมากมายเรยคร่า...
โดย: ยากูซ่า น่าร้ากกก IP: 203.113.51.137 วันที่: 7 มกราคม 2551 เวลา:18:10:37 น.
  
ยิ่งดูยิ่งทราบซึ้งในความรักของ2พระองค์ ทำมัยราชิดมัยดัยคู่กับมีนาล่ะ แล้วเบนลีล่ะคู่กะคัย เพลงเพราะมากๆๆๆ ถ้าคัยฟังก็ต้องรู้ว่า เจ้าหลวงรังสิมันส์บอกรักเจ้าฟังหญิงทรรสิกา
โดย: หมิว IP: 203.113.34.12 วันที่: 9 มกราคม 2551 เวลา:16:08:09 น.
  
เป็นหนังสือที่ประทับใจมากค่ะ

แล้วพอมาทำเป็นละคร (หนุ่ม นัท) ก็ปลื้มมากค่ะ
โดย: CatmaniaBoom IP: 96.238.70.89 วันที่: 23 ธันวาคม 2551 เวลา:3:30:11 น.
  
ชอบเรื่องนี้มากเลยค่ะฝันว่าได้เป็นเจ้าหญิงกับบทด้วยอินมากๆๆๆอ่านเท่าไหร่ไม่เบื่อ ภาษาสวยมากๆค่ะ อยากเป็นทรรศิกาค่ะ
โดย: ทัศ IP: 117.47.221.243 วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:15:36:21 น.
  
เรื่องนี้ชอบมากๆๆๆค่ะ โรแมนติกสุดๆ เป็นหนังสือที่ประทับใจมากๆเรื่องนึงเลยค่ะ
โดย: bookgang วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:15:40:18 น.
  
เป็นอีกเรื่องค่ะที่จะหามาเก็บ
แต่ตอนนี้ไม่มีตังค์ T_T
โดย: พวงพะยอม (D-novel ) วันที่: 4 พฤศจิกายน 2553 เวลา:9:10:32 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไลเดเลีย
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



ร้อยรส...กลอนกานท์




O ฤดูลม...O

O ฉับพลันฝนก็เร้นเก็บเส้นสาย
ดวงวันฉายแสงช่วงโลมห้วงหน
ขับความชื้นลบเลือนรอยเปื้อนปน
ลบหมองหม่นแผ่นฟ้าจนพร่าเลือน

O คล้ายเมฆสีเทาทึมเมื่อครึ้มฝน
ถูกแสงสรวงเบื้องบนเข้าปนเปื้อน
ย้อมสีเทาเป็นขาว..เมื่อหนาวเยือน
มาตามเตือนเลื่อนยามให้งามตา

O ลมต้นหนาวเกรียวกรูเสียงวู่ไหว
โลมกิ่งใบไม้ตื่นทั้งผืนป่า
เขยื้อนขยับยวบไหวอยู่ไปมา
เหมือนบอกลาล่วงพ้น..คาบฝนปลาย

O ความเปลี่ยนแปลงผ่านสู่..ให้รู้เห็น
จากเมื่อสีเลื่อนเส้น..แล่นเป็นสาย
เสียงครืนครั่นก้องอยู่ไม่รู้วาย
แปลบปลาบว่ายเวียนย้ำโลมค่ำคืน

O จนฟ้าเปลี่ยนไม้ใบสั่นไหวระริก
น้ำก็พลิกแผ่นผิว..เป็นริ้วตื่น
จึงบัดนั้น..ภูมิทัศน์ก็หยัดยืน
ด้วยสายลมเย็นชื่น..เพื่อฟื้นตัว

O ถึงคราลมเย็นรื่น..วกคืนย้อน-
พรมสายอ่อนโอนระลอกเข้าหยอกยั่ว
ยอดหญ้าเรียวโค้งนั้น..ย่อมสั่นรัว
รอเกลือกกลั้วรับรู้..ฤดูลม

O จากยึดโยงรากแทงลงแหล่งดิน
ตราบฝนรินหยาดหลั่งลงสั่งสม
คลายความชุ่มความชื้นเหนือพื้น, พรม-
ภาวะอันอุดม..ห้อมห่มไพร

O เหยียดยอดเสียดขึ้นแทงรับแรงฝน
ที่คอยหล่นร่วงหยาด..ก่อนลาดไหล
ยืนต้นตั้งเป็นแถว..เป็นแนวไป
รอลมไหววาดวี..จักมีมา

O ไม่นานเลย..จากฝนฟ้าหม่นหลัว
จนยอดไม้ส่ายรัวอยู่ทั่วหน้า
โลกต่ำ-ใบขาบเขียวทุกเรียวคา-
จะออดอ้อนลมถา..อยู่คาพื้น

O ระบำแถวยอดหญ้าตรงหน้านั้น
จะค่อยสั่นใบพลิ้วเป็นริ้วตื่น
เขียวจากฝนฝากตอนจะย้อนคืน-
เป็นแพรผืนโยนระลอกยั่วหยอกลม

O ร้อนจะรุมสุมมาจากฟ้าไหน
เรียวจะไหววาดรับช่วยขับข่ม
รอค่ำคืนน้ำค้างมาพร่างพรม
เพื่อรับฉมชื่นมาลย์..กลิ่นซ่านซ้อน

O กาลย่อมผ่านโดยช่วงของดวงวัน
จากเม็ดพันธุ์แตกหน่อเป็นช่ออ่อน
จนกลีบใบเรียวแรกเริ่มแตก..ชอน-
ไชขึ้นอ้อนออดรู้ฤดูกาล

O ฝน..หนาว..ร้อนรุ่มถึงขุมขน
แล้วเวียนรอบให้ฝน..อีกฝนผ่าน
เพื่อหยัดกลีบเรียวช่อ..ขึ้นรอบาน
พร้อมเรณูหอมซ่านขึ้นหว่านรส

O ช้าเร็ว..มวลผึ้งภู่ย่อมรู้กลิ่น
เมื่อลมรินรวยเท..หันเหบท
คอยดูเถิดอีกประเดี๋ยว..การเลี้ยวลด-
เข้าจ่อจดหวานหอม..จะพร้อมแล้ว

O ฤดูลมพรมพรำ..อยู่ค่ำเช้า
อาจรุมเร้า, อ่อนโรย..จนโชยแผ่ว
รอกวัดใบหญ้าเต้นจนเป็นแนว
ซ้ำบทแล้วบทเล่า..แต่เช้าวัน

O เมื่อสายลมผ่านสู่..ฤดูล่อง
และฟ้าผ่องแผ้วงามสีครามนั่น
ก็เมื่อผิวต้องหนาวจนหนาวครัน
จึงบัดนั้นโลกกว้างย่อมวางรอ

O ให้ฟังเสียงลมเท..มาเห่กล่อม
สูดกลิ่นหอมเรณูที่ชูช่อ
ทั้งเสียงไม้เสียดยอด..แสงทอดทอ-
ลอดพุ่มกอก้านใบ..ที่ไหวรับ

O พอลมล่องลาดเทมาเห่กล่อม
โลกที่ล้อมรอบล้วนคล้ายครวญขับ-
ผ่านบทเพลงร่ายรำ..เพื่อสำทับ-
การเขยื้อนการขยับลำดับนั้น

O ก็ใช่- เป็นเพียงฤดูลม
หมุนรอบมาห้อมห่มให้ซมสั่น
เปลี่ยนผ่านสภาพธรรมเข้าค้ำยัน
ให้จิตใจทั้งนั้นรู้ผันแปร

O เมื่อเม็ดน้ำขาดช่วงจากห้วงหน
เมฆขาวบนฟ้าพลอย..เลื่อนลอยแผ่
เมื่อขาวครามกลมเกลียวให้เหลียวแล
ก็เห็นแต่ภาพงามของยามนี้

O โอบโลกให้งดงามอยู่ท่ามกลาง-
ดวงวันพร่างแสงพร้อยเรียงสร้อยสี
ลมหนาวร่ำสายผ่านลงคว้านตี
เมื่อปีกผีเสื้อลายบินบ่ายย้อน

O ช่องโสตก็จะแว่วเสียงแจ้วเจื้อย-
ของนก, ลมโชยเฉื่อยคล้ายเหนื่อยอ่อน
ผืนแผ่นน้ำครวญครางในต่างตอน
จักซ้ำซ้อนภาพลวงอีกดวงวัน

O ให้มองเห็นลอยดวงบนสรวงฟ้า
ทั้งแจ่มจ้ายิ่งล้ำกลางน้ำนั่น
เท็จ-จริง..ที่มองผ่านก็ปานกัน
ย่อมแปรผันโดยจิต..การคิดตรอง

O ก็ใช่ – ที่เป็นเพียงธรรมชาติ
ทั้งดวงวันโอภาสคอยสาดส่อง
หรือคลื่นน้ำไหลลาดลงฟาดฟอง
และปีกผีเสื้อล่องบนท้องฟ้า

O เห็นไหมเล่ากลีบผการะย้าย้อย
ทุกช่อที่เคยช้อยอยู่คอยท่า
รอฝน..ต้องฝน..หมดฝนพา-
กันอ่อนโรยอ่อนล้า..ซบคาพื้น

O ฤๅ - อาจรู้ลูบโลมด้วยลมหนาว
หรือแสงงามวับวาวจากดาวดื่น
ครั้นสิ้นรอบลมร่ำกลางค่ำคืน
ฤๅ – อาจรู้ฉ่ำชื้นของพื้นดิน

O เพียงกาลผ่านเวียนแล้วเปลี่ยนช่วง
งามทั้งปวงถ้วนบทก็หมดสิ้น
ปีกลวดลายลมโชยเคยโบยบิน
อาจลาถิ่นไพรเถื่อนลับเลือนแล้ว

O ที่ไหนเล่าโลกกว้างและทางแคบ
เพียงหนีบแนบกลีบใบที่ไหวแผ่ว
ที่ไหนเล่าดีร้ายที่ปลายแนว-
ของเทือกแถวดอกมาลย์หอมหวานนั้น

O ก็นั่นแหละรูปธรรมในธรรมชาติ
ลมไหววาดแสงฉายน้ำพรายสั่น
ปีกลวดลายบินหยุด..ดอมบุษบัน
เกสรกลั่นหวานรส..อาจหมดฤๅ

O หากอีกสภาพธรรมในธรรมชาติ
เมื่อลมลาดล่องอยู่อาจรู้หรือ-
ว่าร้อน..ฝน..จนหนาว..อีกหนาวคือ-
การยึดถือตีความเอาตามใจ

O ฤดูลม-ยอดไม้ส่ายไหวอยู่
ปีกลวดลายหรุบชูก่อนลู่ไหล-
ลอดกลีบดอกนุ่มบางแทรกร่างไป
หวานเยี่ยงไรเล่าหนอ..จึ่งพอเพียง ?

O ฤดูลม..หวนระลอก, ดวงดอกไม้-
ก็หอมให้แถวถิ่นรู้กลิ่น, เสียง-
นกไพรเถื่อนก้องกรู..คล้ายอยู่เคียง-
ศัพท์สำเนียงก้องรัว..บางหัวใจ !



จากบล็อกพี่ สดายุ ค่ะ

Group Blog
  •  
  •  
  •  
  •   
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
พฤศจิกายน 2550

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
12
13
14
15
16
18
19
20
21
22
23
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog