๐ บ่วงบรรจถรณ์/กีรตี ชนา ๐


ชื่อเรื่อง : บ่วงบรรจถรณ์
ประพันธ์โดย : กีรตี ชนา
สำนักพิมพ์ : อรุณ



ปกหลัง

กระแสกาล...ซ้อนสานด้วยจิตแห่งรัก
...เพราะเตียงโบราณซึ่งพ่อผู่ล่วงลับของ"แพรนวล"เก็บไว้รอผู้เป็นเจ้าของนานนับครึ่งศตวรรษ สิ่งแปลกประหลาดได้เกิดขึ้นกับความฝันและจิตใจของหล่อนเริ่มจากยามหลับถึงยามตื่น

แพรนวลได้พบบุคคลและเหตุการ์ที่หล่อนไม่เคยนึกคิดว่าจะเป็นไปได้ หญิงสาวได้พบความรักด้วยจิตผูกพันลึกซึ้งกับ"หลาวเปิง" หนุ่มชาวไทยเขินผู้ทีหัวใจมั่นคงด้วยศรัทธาต่อเสรีภาพแห่งเชื้อสายภูมิ

...ประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นและมีพยานหลักฐานบันทึกไว้แล้ว ซ้อนสานกับปัจุบันอย่างน่าพรั่นพรึงพิศวง ยากที่จะบอกใคร แม้กระทั่ง"เขตต์"สามีหนุ่มรูปงามผู้ทำให้หล่อนผิดหวังกับชีวิตคู่ กาลเวลาที่แตกต่างกันว่าห้าสิบปี มาผสานกันได้อย่างไร..ในจิตของแพรนวล..หรือเป็นความจริง..และอานุภาพของความรักจะเชื่อมกระแสแห่งเวลาได้หรือไม่..



ความเห็นส่วนตัว


‘ความรัก’ มักเล่นตลกกับเราเสมอ คำพูดนี้คงพอจะได้ยินกันมาบ้างนะคะ และก็อีกเช่นกัน ก็ทำให้เกิดสิ่งมหัศจรรย์ได้มากมาย ทั้งที่เรารู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม..เกี่ยวอะไรกับเนื้อเรื่องไหมเนี่ย

‘บ่วงบรรจถรณ์’ เป็นนิยายอิงประวัติศาสตร์ผสมกับจินตนาการเรื่องการเลื่อมซ้อนของเวลา โดยมีเตียงโบราณอายุกว่า100ปี เป็นผู้นำพาให้ผู้อ่านไปพบกับความมหัจรรย์ของควารักที่มั่นคง แม้ว่าเวลาจะต่างกันถึงห้าสิบปี ยังไม่อาจขว้างกั้นคนทั้งสองไว้ได้

     ‘คุณรู้ไหมคุณเขตต์ จิตใจของคุณจะเข้มเข็งและอบอุ่น ถ้าคุณเปลี่ยนความคิดถึงที่ทำให้เกิดความทุกข์ให้เป็นความคิดถึงซึ่งทำให้มีความสุข มันอาจจะยากเย็นเหลือเกิน แต่ถ้าเราทำได้ การพลัดพรากจากคนเรารักจะเป็นการเพิ่มคุณค่าของชีวิตแทนที่จะเป็นการบั่นทอน’

หลังจากอ่านจบชอบประโยคนี้มากเลยค่ะ เพียงแค่เปลี่ยมุมมองจากความทุกข์ก็จะพบกับความสุข อดีตที่ไมอาจแก้ไขกลับอนาคตที่ยังอีกยาวไกล ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง ว่าจะลือกมองในมุมไหนและจะเดินไปข้างหน้าพร้อมกับอนาคตที่สดใสหรือเดินถอยหลังไปกับอดีตที่ไม่อาจหวนคืน




บ่วงรัก-ศรัญย่า/ประกอบละครบ่วงบรรจถรณ์






Create Date : 04 เมษายน 2553
Last Update : 4 เมษายน 2553 18:39:42 น.
Counter : 1061 Pageviews.

13 comments
  
โดย: จีนี่ในกระจกแก้ว วันที่: 4 เมษายน 2553 เวลา:21:55:56 น.
  
ชอบค่ะเรื่องนี้
หยิบละครมาดูนี่ ความรู้สึกเหมือนเป๊ๆมากๆอ่ะค่ะ (หรือเพราะว่าเราดูละครก่อนก็ไม่รู้)
โดย: a00152 วันที่: 5 เมษายน 2553 เวลา:3:15:39 น.
  
เรื่องนี้เคยดูทางช่อง 7
แต่จำไม่ได้แล้วค่ะว่าใครแสดง
เนื้อเรื่องก็จำได้ไม่แม่นแล้ว
รู้สึกว่า...พอนอนที่เตียงแล้ว
นางเอกจะย้อนกลับไปหาพระเอกได้

นางประเภทความจำสั้น...แต่รักฉันยาว

อิอิ
โดย: เพรง.พเยีย วันที่: 5 เมษายน 2553 เวลา:5:25:10 น.
  
สวัสดียามเช้าครับ

ขอบคุณที่ไปให้กำลังใจพี่ก่าถึงที่งานเลยนะครับ

เมื่อวานพี่ก๋าออกจากงานทุ่มนึงครับ
ซื้อกระจุยเลยครับ

งานนี้กินแกลบไปอีกสามเดือนครับ 5555


เดี๋ยวผมจะนำภาพบรรยากาศงานหนังสือฯมาฝากนะครับ







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 เมษายน 2553 เวลา:7:59:31 น.
  
เจอบล็อกหน้านี้แล้วแทบตกเก้าอี้...
รู้ปะว่า เมื่อวานเค้าก็คิดจะเปิดเพลงนี้
อีกรอบ!!! ใจตรงกันนะ... เพื่อนฉัน

คุณนางคะ
อัลว่า ช่องสามรึเปล่า มาช่า+ชาคริต
ถ้าจำไม่ผิดนะคะ...
โดย: ปลิวตามลม วันที่: 5 เมษายน 2553 เวลา:8:54:55 น.
  
เอ้อเกือบลืมไป จะเข้ามาบอกว่า เปลี่ยนหน้าให้แล้ว ฝนจะได้หายเบื่อ
โดย: ปลิวตามลม วันที่: 5 เมษายน 2553 เวลา:8:56:03 น.
  
คุณจีนี่ในกระจกแก้ว
สวัสดีตอนเกือบจะเที่ยงค่ะ






คุณa00152
เจ้าของบล็อกไม่เคยดูละครค่ะ แต่รู้ว่าใคร
แสดง ตอนนั้นไม่ค่อยชอบชาคริตก็เลยไม่
ดูซะงั้น แต่ชอบมาช่ามากค่ะ







คุณนาง
"นางประเภทความจำสั้น...แต่รักฉันยาว"
ค่ะ ถ้าคุณนางบอกอย่างนี้ ฝนว่าคุณนางน่า
จะเข้าข่ายนี้ล่ะ..อิอิ

ฝนไม่เคยดูเลยค่ะ จำได้แต่ว่าใครแสดง
นี่ขนาดไม่ได้ดูยังจำได้อีกว่าเล่นช่องไหน
ใครแสดง







พี่ก๋า
หญิไลก็ต้องขอบคุณพี่ก๋าด้วยนะคะ ที่ให้
หญิงไลเป็นหนึ่งใน30คน ที่ได้รับของที่
ระลึก แม้จะไปช้ากว่าคนอื่นๆ

เมื่อวานรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เจอกันจริงๆค่ะ
คุยอะไรไปบ้างจำไม่ได้ด้วย







อัล
โอ๊โอ..ไม่น่าเชื่อว่าเราจะตรงกันได้ขนาดนี้
งั้น..ตอนนี้ตัวก็ฟังเพลงบ้านเค้าไปพลางๆ
ก่อนนะ

ที่คุณนางบอกนะถูกแล้ว เล่นทางช่อง7 ไม่
ใช่ช่องสาม ส่วนนักแสดงก็ตามตัวบอกนั่น
แหละมาช่ากับชาคริต..แต่เค้าไม่เคยดูหรอก
โดย: ไลเดเลีย วันที่: 5 เมษายน 2553 เวลา:11:09:40 น.
  
นั่นสิครับ

เวลาน้อยไปหน่อยนะครับ
พี่ก๋าก็ลุยซื้อหนังสือจนเกือบๆทุ่มเลยครับ

กว่าจะถึงบ้านก็ห้าทุ่มเลยครับ


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 เมษายน 2553 เวลา:13:10:00 น.
  
เอ...ทำไมคุณฝนถึงเห็นด้วยล่ะคะ
ว่านางเข้าข่ายประเภท
"ความจำสั้น...แต่รักฉันยาว"

เป็นฉงนยิ่งนัก...
โดย: เพรง.พเยีย วันที่: 6 เมษายน 2553 เวลา:5:34:25 น.
  
ฝน

เมื่อคืนเค้าคิดพล็อตได้อีกหน่อยแล้ว
...

เป็นเรื่องที่เกิดในป่า ดีไหม? ให้นางเอกเป็นสาวชาวป่า ลูกสาวนายพราน
แล้วให้พระเอกเป็นลูกครึ่งไทยอังกฤษที่ต้องการค้นหาวัฒนธรรม
โบราณที่สาปสูญ... ต้องอาศัยนางเอกนำทางไปยังดินแดนนั้น...

ส่วนเล่ห์ร้ายต่าง ๆ ก็ใส่เข้าระหว่างการเดินทางนั่นแหละ... ดีป่าว

คาแรคเตอร์พระเอกร้ายแบบสนุก ๆ...
ส่วนนางเอกดูเรียบร้อย แต่ร้ายกว่า...
เหมือนที่คุยกันไว้แล้ว...

เค้าว่า ฝนน่าจะเอาเพชรพระอุมามาช่วยได้นะ...เรื่องการเดินป่าน่ะ

ถ้าสนใจตามนี้เค้าจะเริ่มอ่านวัฒนธรรมโบราณอีกรอบ
คงผสมผสานหลาย ๆ แห่งเข้าด้วยกัน... แล้วตั้งเป็นเมืองใหม่

โอเค?


คุณนาง
อายหน้าแดงเลย อิอิ
โดย: ปลิวตามลม วันที่: 6 เมษายน 2553 เวลา:7:11:20 น.
  
สวัสดียามเช้าครับน้องไล





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 เมษายน 2553 เวลา:7:39:36 น.
  
พี่ก๋า
หญิงไลว่าวันอาทิตย์ที่แล้ว คนน้อนนะคะ
ปกติช่วงวันหยุดคนจะเยอะกว่านี้ วันนั้น
หญิงไลเดินแบบสบายๆ สงสัยจะเป็นพราะ
สถานการณ์ที่ไม่ปกติ ที่ไปช้าก็เพราะมัวดู
ข่าวนี่แหละ







คุณนาง
ก็ต้องเห็นด้วยสิคะ ในเมื่อเจ้าตัวบอกอย่างนั้น
เองนี่นา ฝนจะค้านก็ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอ ก็
เลยต้องเชื่อตามที่คุณนางบอกน่ะสิ..อิอิ







อัล
เค้าลองคิดชื่อเรื่องไว้หลายชื่อ แต่พอลองเสิร์ชดู
ชื่อซ้ำกันเยอะมาก เอาเป็นว่าวางโครงเรื่องกัน
ก่อนดีกว่า..เดี๋ยวคุยกันต่อหลังบ้านนะ

ขำคุณนาง..เขินเลย
โดย: ไลเดเลีย วันที่: 6 เมษายน 2553 เวลา:9:52:51 น.
  
ยังไม่มีหนังสือเรื่องนี้ แต่ตอนสร้างเป็นละครนี่ชอบมากเลยค่ะ
โดย: lavender_jam วันที่: 15 เมษายน 2553 เวลา:15:43:58 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไลเดเลีย
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



ร้อยรส...กลอนกานท์




O ฤดูลม...O

O ฉับพลันฝนก็เร้นเก็บเส้นสาย
ดวงวันฉายแสงช่วงโลมห้วงหน
ขับความชื้นลบเลือนรอยเปื้อนปน
ลบหมองหม่นแผ่นฟ้าจนพร่าเลือน

O คล้ายเมฆสีเทาทึมเมื่อครึ้มฝน
ถูกแสงสรวงเบื้องบนเข้าปนเปื้อน
ย้อมสีเทาเป็นขาว..เมื่อหนาวเยือน
มาตามเตือนเลื่อนยามให้งามตา

O ลมต้นหนาวเกรียวกรูเสียงวู่ไหว
โลมกิ่งใบไม้ตื่นทั้งผืนป่า
เขยื้อนขยับยวบไหวอยู่ไปมา
เหมือนบอกลาล่วงพ้น..คาบฝนปลาย

O ความเปลี่ยนแปลงผ่านสู่..ให้รู้เห็น
จากเมื่อสีเลื่อนเส้น..แล่นเป็นสาย
เสียงครืนครั่นก้องอยู่ไม่รู้วาย
แปลบปลาบว่ายเวียนย้ำโลมค่ำคืน

O จนฟ้าเปลี่ยนไม้ใบสั่นไหวระริก
น้ำก็พลิกแผ่นผิว..เป็นริ้วตื่น
จึงบัดนั้น..ภูมิทัศน์ก็หยัดยืน
ด้วยสายลมเย็นชื่น..เพื่อฟื้นตัว

O ถึงคราลมเย็นรื่น..วกคืนย้อน-
พรมสายอ่อนโอนระลอกเข้าหยอกยั่ว
ยอดหญ้าเรียวโค้งนั้น..ย่อมสั่นรัว
รอเกลือกกลั้วรับรู้..ฤดูลม

O จากยึดโยงรากแทงลงแหล่งดิน
ตราบฝนรินหยาดหลั่งลงสั่งสม
คลายความชุ่มความชื้นเหนือพื้น, พรม-
ภาวะอันอุดม..ห้อมห่มไพร

O เหยียดยอดเสียดขึ้นแทงรับแรงฝน
ที่คอยหล่นร่วงหยาด..ก่อนลาดไหล
ยืนต้นตั้งเป็นแถว..เป็นแนวไป
รอลมไหววาดวี..จักมีมา

O ไม่นานเลย..จากฝนฟ้าหม่นหลัว
จนยอดไม้ส่ายรัวอยู่ทั่วหน้า
โลกต่ำ-ใบขาบเขียวทุกเรียวคา-
จะออดอ้อนลมถา..อยู่คาพื้น

O ระบำแถวยอดหญ้าตรงหน้านั้น
จะค่อยสั่นใบพลิ้วเป็นริ้วตื่น
เขียวจากฝนฝากตอนจะย้อนคืน-
เป็นแพรผืนโยนระลอกยั่วหยอกลม

O ร้อนจะรุมสุมมาจากฟ้าไหน
เรียวจะไหววาดรับช่วยขับข่ม
รอค่ำคืนน้ำค้างมาพร่างพรม
เพื่อรับฉมชื่นมาลย์..กลิ่นซ่านซ้อน

O กาลย่อมผ่านโดยช่วงของดวงวัน
จากเม็ดพันธุ์แตกหน่อเป็นช่ออ่อน
จนกลีบใบเรียวแรกเริ่มแตก..ชอน-
ไชขึ้นอ้อนออดรู้ฤดูกาล

O ฝน..หนาว..ร้อนรุ่มถึงขุมขน
แล้วเวียนรอบให้ฝน..อีกฝนผ่าน
เพื่อหยัดกลีบเรียวช่อ..ขึ้นรอบาน
พร้อมเรณูหอมซ่านขึ้นหว่านรส

O ช้าเร็ว..มวลผึ้งภู่ย่อมรู้กลิ่น
เมื่อลมรินรวยเท..หันเหบท
คอยดูเถิดอีกประเดี๋ยว..การเลี้ยวลด-
เข้าจ่อจดหวานหอม..จะพร้อมแล้ว

O ฤดูลมพรมพรำ..อยู่ค่ำเช้า
อาจรุมเร้า, อ่อนโรย..จนโชยแผ่ว
รอกวัดใบหญ้าเต้นจนเป็นแนว
ซ้ำบทแล้วบทเล่า..แต่เช้าวัน

O เมื่อสายลมผ่านสู่..ฤดูล่อง
และฟ้าผ่องแผ้วงามสีครามนั่น
ก็เมื่อผิวต้องหนาวจนหนาวครัน
จึงบัดนั้นโลกกว้างย่อมวางรอ

O ให้ฟังเสียงลมเท..มาเห่กล่อม
สูดกลิ่นหอมเรณูที่ชูช่อ
ทั้งเสียงไม้เสียดยอด..แสงทอดทอ-
ลอดพุ่มกอก้านใบ..ที่ไหวรับ

O พอลมล่องลาดเทมาเห่กล่อม
โลกที่ล้อมรอบล้วนคล้ายครวญขับ-
ผ่านบทเพลงร่ายรำ..เพื่อสำทับ-
การเขยื้อนการขยับลำดับนั้น

O ก็ใช่- เป็นเพียงฤดูลม
หมุนรอบมาห้อมห่มให้ซมสั่น
เปลี่ยนผ่านสภาพธรรมเข้าค้ำยัน
ให้จิตใจทั้งนั้นรู้ผันแปร

O เมื่อเม็ดน้ำขาดช่วงจากห้วงหน
เมฆขาวบนฟ้าพลอย..เลื่อนลอยแผ่
เมื่อขาวครามกลมเกลียวให้เหลียวแล
ก็เห็นแต่ภาพงามของยามนี้

O โอบโลกให้งดงามอยู่ท่ามกลาง-
ดวงวันพร่างแสงพร้อยเรียงสร้อยสี
ลมหนาวร่ำสายผ่านลงคว้านตี
เมื่อปีกผีเสื้อลายบินบ่ายย้อน

O ช่องโสตก็จะแว่วเสียงแจ้วเจื้อย-
ของนก, ลมโชยเฉื่อยคล้ายเหนื่อยอ่อน
ผืนแผ่นน้ำครวญครางในต่างตอน
จักซ้ำซ้อนภาพลวงอีกดวงวัน

O ให้มองเห็นลอยดวงบนสรวงฟ้า
ทั้งแจ่มจ้ายิ่งล้ำกลางน้ำนั่น
เท็จ-จริง..ที่มองผ่านก็ปานกัน
ย่อมแปรผันโดยจิต..การคิดตรอง

O ก็ใช่ – ที่เป็นเพียงธรรมชาติ
ทั้งดวงวันโอภาสคอยสาดส่อง
หรือคลื่นน้ำไหลลาดลงฟาดฟอง
และปีกผีเสื้อล่องบนท้องฟ้า

O เห็นไหมเล่ากลีบผการะย้าย้อย
ทุกช่อที่เคยช้อยอยู่คอยท่า
รอฝน..ต้องฝน..หมดฝนพา-
กันอ่อนโรยอ่อนล้า..ซบคาพื้น

O ฤๅ - อาจรู้ลูบโลมด้วยลมหนาว
หรือแสงงามวับวาวจากดาวดื่น
ครั้นสิ้นรอบลมร่ำกลางค่ำคืน
ฤๅ – อาจรู้ฉ่ำชื้นของพื้นดิน

O เพียงกาลผ่านเวียนแล้วเปลี่ยนช่วง
งามทั้งปวงถ้วนบทก็หมดสิ้น
ปีกลวดลายลมโชยเคยโบยบิน
อาจลาถิ่นไพรเถื่อนลับเลือนแล้ว

O ที่ไหนเล่าโลกกว้างและทางแคบ
เพียงหนีบแนบกลีบใบที่ไหวแผ่ว
ที่ไหนเล่าดีร้ายที่ปลายแนว-
ของเทือกแถวดอกมาลย์หอมหวานนั้น

O ก็นั่นแหละรูปธรรมในธรรมชาติ
ลมไหววาดแสงฉายน้ำพรายสั่น
ปีกลวดลายบินหยุด..ดอมบุษบัน
เกสรกลั่นหวานรส..อาจหมดฤๅ

O หากอีกสภาพธรรมในธรรมชาติ
เมื่อลมลาดล่องอยู่อาจรู้หรือ-
ว่าร้อน..ฝน..จนหนาว..อีกหนาวคือ-
การยึดถือตีความเอาตามใจ

O ฤดูลม-ยอดไม้ส่ายไหวอยู่
ปีกลวดลายหรุบชูก่อนลู่ไหล-
ลอดกลีบดอกนุ่มบางแทรกร่างไป
หวานเยี่ยงไรเล่าหนอ..จึ่งพอเพียง ?

O ฤดูลม..หวนระลอก, ดวงดอกไม้-
ก็หอมให้แถวถิ่นรู้กลิ่น, เสียง-
นกไพรเถื่อนก้องกรู..คล้ายอยู่เคียง-
ศัพท์สำเนียงก้องรัว..บางหัวใจ !



จากบล็อกพี่ สดายุ ค่ะ

Group Blog
  •  
  •  
  •  
  •   
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
เมษายน 2553

 
 
 
 
1
2
3
5
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog