๐ กฤตยา/ทมยันตี ๐





ประพันธ์โดย : ทมยันตี
สำนักพิมพ์ : ณ บ้านวรรณกรรม
ราคา : 300 บาท



จากปกใน

จากอดีตกาล จากความหลังอันยาวนาน พิภพเป็นของจริงแท้แน่นอนหรือ? สิ่งใดที่กำเนิดในพิภพมิเคยเที่ยง การอุบัติและการสิ้นสุดเป็นธรรมดา หากในโลกแห่งวิญญาณสิ…มั่นคง เรื่องราวของชาติภพที่ไม่อาจพิสูจน์ได้ว่ามีจริงหรือไม่? แต่กระนั้น “ทมยันตี” ก็ยังคงสรรค์สร้างจินตนาการให้ก่อเกิดเป็นนวนิยายที่ชวนติดตาม น่าค้นหาได้อยู่เสมอ ด้วยลีลาการเขียนที่มีเหตุผล จนรู้สึกประหนึ่งว่า ได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้น จึงไม่เคยผิดหวังกับบทประพันธ์ภายใต้นามปากกา “ทมยันตี”

เรื่องราวของเจ้าหญิงผู้พิลาสล้ำ ที่ยอมตายอย่างทรมาน เพียงเพื่อความรักเดียวแห่งเธอ! โดยไม่คำนึงว่าผลแห่งการกระทำนั้นจะเป็นเช่นไร เสียงร่ำไห้ของเธอ สวรรค์มิได้รับรู้ มนุษย์มิได้รับฟัง สิ่งที่เธอรอคอย…เวลา…ที่ดวงวิญญาณจะได้อิสระเพื่อพบปะดวงวิญญาณแห่งพระสวามีอันเป็นที่รัก!

ผู้ใดทำให้ดวงวิญญาณหลับไหล
ผู้นั้นเท่านั้น ต้อง “ปลุก” ให้ตื่น…

สำหรับเขา “อัย” หรือ “ไอลวิล” ณ บัดนี้ เขาต้องทำหน้าที่ปลดปล่อยวิญญาณดวงนั้นให้เป็นอิสระให้ไปสู่วัฏจักรแห่งกรรม เขาต้องการกระทำโดย “หน้าที่” จะหวังผลตอบแทนใดๆ มิได้ แม้กระทั่ง…"กฤตยา" เพราะ…
กรรม เป็นเครื่องกำเนิด
กรรม น้อมนำไป
กรรม มิมีที่สิ้นสุด …



ข้าเจ้าเอง

"ความรัก" ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใคร ยากนักที่จะหลีกเลี่ยงได้ แต่..ผลแห่งความรักนั้นจะกอปรด้วยความสุข หรือความทุกข์ ขึ้นอยู่ที่ว่าใครจะเรียกร้องสิ่งใดจาก"รัก"นั้นมาก-น้อยเพียงใด

"กฤตยา" เรื่องราวที่เกิดจากความรักที่ไม่สมหวังของ "อัย" หรือไอลวิล..ฟาโรห์องค์ที่ 19 แห่งนครธีบิส ผู้ที่มีทุกอย่างอยู่ในกำลังมือ แต่..อัยไม่สามารถเอาชนะหัวใจของเจ้าหญิงเมอริตาเตนได้ "ดวงตาที่มีไว้มองสเมนกาเรอย่างหลงใหล ดวงตางามที่ไม่แลทอดมองใครในพิภพ" และนั่นคือจุดเริ่มต้น แห่งโศกนาฏกรรมอันก่อให้เกิดความผูกพันด้วยระแสกรรมมาสี่พันปี ด้วยโทสะ ด้วยความผิดหวังอย่างรุนแรง ได้ผูกพันดวงวิญญาณหลายดวงให้วนเวียนรอคอยการกลับมาแก้ไขบ่วงกรรมที่อัยได้กระทำไว้ ด้วยการปลดปล่อยวิญญาณสเมนเกเรให้เป็นอิสระ

"กฤตยา" หรือตีน้อย หญิงสาวผู้เดินทางระหว่าสองภพ คือภพความเป็นและความตาย รอบขโมยพระศพของฟาโรห์สเมนกาเร โดยรู้ดีว่าการผลตอบแทนแห่งการกระทำนั้นจะเป็นเช่นไร ความงามในหัวใจและความเสียสละแห่งเธอจะสามารถเอาชนะ ความอาฆาตรแค้น ชิงชัง ที่อัยมีได้หรือไม่ และตีน้อยจะรอดพ้นเงื้อมมือเทพีเซลเค็ต ผู้แลและป้องพระศพฟาโรห์ อย่างไร?..ต้องลองไปหาอ่านกันดูนะคะ

..โคมทองเฉิดฟ้าแสงฉาย
เวิ้งรายเมฆเกลื่อนเลื่อนฝัน
ดาริการะยับนับพัน
แนบฝัน แนบจิต สนิทวิญญา…






ขอบคุณภาพจาก ↔ เว็บ ณ บ้านวรรณกรรม ↔ ค่ะ


Published on: 25 มิถุนายน 2552 20:24:48 น.
-แก้ไขตัวหนังสือ





Create Date : 25 มิถุนายน 2552
Last Update : 20 กันยายน 2552 22:58:31 น.
Counter : 1441 Pageviews.

12 comments
  
สวัสดีคุณฝน
ยังจำได้ไหมเอ่ย เพื่อนคนนี้
คิดถึงน๊า

...อยากอ่านบ้างจังเนื้อเรื่องน่าสนเชียว

ฝันดีนะจ๊ะ
โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 25 มิถุนายน 2552 เวลา:22:25:01 น.
  
ชอบที่ตัวเองลงความคิดเห็นส่วนตัวไว้นะ... อืม...
แต่จะดียิ่งขึ้น ถ้าไม่เป็นตัวเอียง เพราะอ่านยากน่ะ
...

เค้าอ่านคอมเม้นต์ฝนเรื่องเวลากลับ/กับวันหยุดแล้วงง ๆ

ช่วยอธิบายเป็น shot ได้ป่าว หรือเค้าเบลอเองนะ แง้ว ๆ ๆ

แล้วถ้าเค้าซื้อซิมได้ ควรจะโทรไปหาในจังหวะไหนดี จะได้ไม่กวนให้ฝนงงชีวิต อิ ๆ ๆ ไม่ได้คุยกันนาน ๆ แล้ว ชักจะหาจังหวะเข้าไม่ถูกซะแล้วสิ ..เหงื่อตก..

อ้อ... อีกอย่าง เม้นต์นี้เค้าพิมพ์รวดเลย ขี้เกียจจัดบรรทัดแล้ว 555+
โดย: ปลิวตามลม วันที่: 25 มิถุนายน 2552 เวลา:22:29:25 น.
  
มาจดไว้ก่อนค่ะ ต้องไปหามาอ่านบ้าง
โดย: หวานเย็นผสมโซดา วันที่: 26 มิถุนายน 2552 เวลา:10:09:38 น.
  
ฝน...

เป็นอันว่า เข้าใจตามนั้น... ..ยิ้ม..
แต่เค้าไม่ได้บอกนะว่าจะซื้อเมื่อไหร่
อาจเป็นเดือนหน้าโน้นก็ได้ ไม่แน่
แต่ของขวัญฝน คงจะรีบหาเวลา
จัดการให้ก่อน ในเร็ววัน ..ยิ้มกว้าง..

ถ้ากลับมาแล้วแจ้งให้ทราบด้วยจ้า
จะได้หายห่วงเรื่องการเดินทาง
ของฝน
โดย: ปลิวตามลม วันที่: 27 มิถุนายน 2552 เวลา:9:10:16 น.
  
ตามคุณอัลมาติดๆ

ท่าทางเนื้อหาจะหนักนะคะ
เห็นด้วยกับคุณอัลค่ะ...เกี่ยวกับตัวหนังสือ
เวลานางอ่าน...ต้องทำหัวเอียงขวา...อิอิ

ขอบคุณคุณฝนนะคะ สำหรับพรวันเกิด
อุตส่าห์แวะมาก่อนเดินทาง...น่ารักจริงเนาะ
ขอให้คุณฝนมีความสุขกับวันหยุด
ทั้งกับเพื่อน และ กับครอบครัวนะคะ
โดย: เพรง.พเยีย วันที่: 27 มิถุนายน 2552 เวลา:10:06:56 น.
  


ฝนจ๋า

กลับบ้านเหรอคะ ดีจัง
มีความสุขกับครอบครัวเน้อ
สำหรับนกในทุกวันนี้
มีความสุขดีกับพ่อ แม่
และพี่ๆ น้องๆ นะคะ

มาบอกจากใตเช่นเคยคือ
คิดถึงฝนนะคะ

โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 28 มิถุนายน 2552 เวลา:21:50:08 น.
  
ฝนเอ๊ย!

เค้าขอโทษที่ทำให้ตัวเองรอเก้อ
ตอนแรกก็ตั้งใจจะหาเวลาปลีกตัว
ไปซื้อซิมให้ได้ ปรากฏว่า ตอนที่
อยู่ที่ทำงานเค้าไม่มีเวลาเลยน่ะ

ยิ่งตอนนี้เค้ายิ่งยุ่งกว่าเดิมอีก...
โอกาสที่จะออกไปไหนต่อไหน
แทบจะไม่มีเลย แต่จะเห็นบน
หน้าจอคอมฯ ได้ก็เพราะเค้าต้อง
ติดต่อธุระทางเน็ตด้วยน่ะ เลยถือ
โอกาสแอบเล่น แอบพักผ่อน...

ของขวัญของตัวก็ยังอยู่ในรถเค้า
อยู่เลย ไม่ถึงไปรษณีย์สักที เฮ้อ...
ปีที่แล้ว เค้าส่งให้ตัวล่วงหน้า ปีนี้
เค้ากลับส่งให้ตัวช้าสุด ๆ

อย่างอนเน้อ... ..ยิ้มเอาใจ..
โดย: ปลิวตามลม วันที่: 29 มิถุนายน 2552 เวลา:21:43:53 น.
  
แค่ตัวเองมาเค้าก็ดีใจแระ มาเมื่อไหร่ ก็ดีใจหมดเลย
โดย: tai (taibangplee ) วันที่: 30 มิถุนายน 2552 เวลา:14:21:50 น.
  
เอ๊... ฝน ภาพ bg ใหม่นี่แปลกดีแฮะ...

เหมือนว่า ฝนยืนอยู่ แล้วให้..พระ..
พายเรือให้ เห็นเป็นจีวรเหลือง ๆ
555+ แซวเล่นเน้อ


อ๋อ... หลังจากที่ถามตัวแล้ว เค้าก็
ได้ไป กทม. อีกจ้า แต่หาโอกาสไป
แถวที่ฝนแนะนำไม่ได้เลยนะ... เพราะ
ต้องไปทำธุระหลายที่ในช่วงเวลา
แค่ ครึ่งวันกว่า แล้วรีบบินกลับ...

เค้าก็เลยว่า เอาไว้เที่ยวอื่นแล้วกัน
..ยิ้มแย้ม..
โดย: ปลิวตามลม วันที่: 1 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:02:47 น.
  
พออ่านเจอเมนต์คุณอัล...ก็ต้องปล่อยขำออกมา
ช่างจินตนาการจริงๆ เลยเนอะคุณอัล
วันก่อนก็แปลงเพลงให้นางฟังใหม่
คุณสมบัติแบบนี้...มักมีอยู่ในตัวศิลปิน
คุณฝนว่ามั้ยคะ
โดย: เพรง.พเยีย วันที่: 2 กรกฎาคม 2552 เวลา:5:43:27 น.
  

มาแวะดูครับ
โดย: Ahoahoman IP: 114.162.165.205 วันที่: 6 สิงหาคม 2552 เวลา:21:17:41 น.
  
จำได้ว่าตอนอ่านเล่มนี้จบ
นี้ดอยากไปอียิปต์มาก
อ่านมาไม่รู้กี่รอบแต่ชอบทุกรอบค่ะ
โดย: รุ้งล้อมดาว วันที่: 20 กันยายน 2552 เวลา:2:05:52 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไลเดเลีย
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



ร้อยรส...กลอนกานท์




O ฤดูลม...O

O ฉับพลันฝนก็เร้นเก็บเส้นสาย
ดวงวันฉายแสงช่วงโลมห้วงหน
ขับความชื้นลบเลือนรอยเปื้อนปน
ลบหมองหม่นแผ่นฟ้าจนพร่าเลือน

O คล้ายเมฆสีเทาทึมเมื่อครึ้มฝน
ถูกแสงสรวงเบื้องบนเข้าปนเปื้อน
ย้อมสีเทาเป็นขาว..เมื่อหนาวเยือน
มาตามเตือนเลื่อนยามให้งามตา

O ลมต้นหนาวเกรียวกรูเสียงวู่ไหว
โลมกิ่งใบไม้ตื่นทั้งผืนป่า
เขยื้อนขยับยวบไหวอยู่ไปมา
เหมือนบอกลาล่วงพ้น..คาบฝนปลาย

O ความเปลี่ยนแปลงผ่านสู่..ให้รู้เห็น
จากเมื่อสีเลื่อนเส้น..แล่นเป็นสาย
เสียงครืนครั่นก้องอยู่ไม่รู้วาย
แปลบปลาบว่ายเวียนย้ำโลมค่ำคืน

O จนฟ้าเปลี่ยนไม้ใบสั่นไหวระริก
น้ำก็พลิกแผ่นผิว..เป็นริ้วตื่น
จึงบัดนั้น..ภูมิทัศน์ก็หยัดยืน
ด้วยสายลมเย็นชื่น..เพื่อฟื้นตัว

O ถึงคราลมเย็นรื่น..วกคืนย้อน-
พรมสายอ่อนโอนระลอกเข้าหยอกยั่ว
ยอดหญ้าเรียวโค้งนั้น..ย่อมสั่นรัว
รอเกลือกกลั้วรับรู้..ฤดูลม

O จากยึดโยงรากแทงลงแหล่งดิน
ตราบฝนรินหยาดหลั่งลงสั่งสม
คลายความชุ่มความชื้นเหนือพื้น, พรม-
ภาวะอันอุดม..ห้อมห่มไพร

O เหยียดยอดเสียดขึ้นแทงรับแรงฝน
ที่คอยหล่นร่วงหยาด..ก่อนลาดไหล
ยืนต้นตั้งเป็นแถว..เป็นแนวไป
รอลมไหววาดวี..จักมีมา

O ไม่นานเลย..จากฝนฟ้าหม่นหลัว
จนยอดไม้ส่ายรัวอยู่ทั่วหน้า
โลกต่ำ-ใบขาบเขียวทุกเรียวคา-
จะออดอ้อนลมถา..อยู่คาพื้น

O ระบำแถวยอดหญ้าตรงหน้านั้น
จะค่อยสั่นใบพลิ้วเป็นริ้วตื่น
เขียวจากฝนฝากตอนจะย้อนคืน-
เป็นแพรผืนโยนระลอกยั่วหยอกลม

O ร้อนจะรุมสุมมาจากฟ้าไหน
เรียวจะไหววาดรับช่วยขับข่ม
รอค่ำคืนน้ำค้างมาพร่างพรม
เพื่อรับฉมชื่นมาลย์..กลิ่นซ่านซ้อน

O กาลย่อมผ่านโดยช่วงของดวงวัน
จากเม็ดพันธุ์แตกหน่อเป็นช่ออ่อน
จนกลีบใบเรียวแรกเริ่มแตก..ชอน-
ไชขึ้นอ้อนออดรู้ฤดูกาล

O ฝน..หนาว..ร้อนรุ่มถึงขุมขน
แล้วเวียนรอบให้ฝน..อีกฝนผ่าน
เพื่อหยัดกลีบเรียวช่อ..ขึ้นรอบาน
พร้อมเรณูหอมซ่านขึ้นหว่านรส

O ช้าเร็ว..มวลผึ้งภู่ย่อมรู้กลิ่น
เมื่อลมรินรวยเท..หันเหบท
คอยดูเถิดอีกประเดี๋ยว..การเลี้ยวลด-
เข้าจ่อจดหวานหอม..จะพร้อมแล้ว

O ฤดูลมพรมพรำ..อยู่ค่ำเช้า
อาจรุมเร้า, อ่อนโรย..จนโชยแผ่ว
รอกวัดใบหญ้าเต้นจนเป็นแนว
ซ้ำบทแล้วบทเล่า..แต่เช้าวัน

O เมื่อสายลมผ่านสู่..ฤดูล่อง
และฟ้าผ่องแผ้วงามสีครามนั่น
ก็เมื่อผิวต้องหนาวจนหนาวครัน
จึงบัดนั้นโลกกว้างย่อมวางรอ

O ให้ฟังเสียงลมเท..มาเห่กล่อม
สูดกลิ่นหอมเรณูที่ชูช่อ
ทั้งเสียงไม้เสียดยอด..แสงทอดทอ-
ลอดพุ่มกอก้านใบ..ที่ไหวรับ

O พอลมล่องลาดเทมาเห่กล่อม
โลกที่ล้อมรอบล้วนคล้ายครวญขับ-
ผ่านบทเพลงร่ายรำ..เพื่อสำทับ-
การเขยื้อนการขยับลำดับนั้น

O ก็ใช่- เป็นเพียงฤดูลม
หมุนรอบมาห้อมห่มให้ซมสั่น
เปลี่ยนผ่านสภาพธรรมเข้าค้ำยัน
ให้จิตใจทั้งนั้นรู้ผันแปร

O เมื่อเม็ดน้ำขาดช่วงจากห้วงหน
เมฆขาวบนฟ้าพลอย..เลื่อนลอยแผ่
เมื่อขาวครามกลมเกลียวให้เหลียวแล
ก็เห็นแต่ภาพงามของยามนี้

O โอบโลกให้งดงามอยู่ท่ามกลาง-
ดวงวันพร่างแสงพร้อยเรียงสร้อยสี
ลมหนาวร่ำสายผ่านลงคว้านตี
เมื่อปีกผีเสื้อลายบินบ่ายย้อน

O ช่องโสตก็จะแว่วเสียงแจ้วเจื้อย-
ของนก, ลมโชยเฉื่อยคล้ายเหนื่อยอ่อน
ผืนแผ่นน้ำครวญครางในต่างตอน
จักซ้ำซ้อนภาพลวงอีกดวงวัน

O ให้มองเห็นลอยดวงบนสรวงฟ้า
ทั้งแจ่มจ้ายิ่งล้ำกลางน้ำนั่น
เท็จ-จริง..ที่มองผ่านก็ปานกัน
ย่อมแปรผันโดยจิต..การคิดตรอง

O ก็ใช่ – ที่เป็นเพียงธรรมชาติ
ทั้งดวงวันโอภาสคอยสาดส่อง
หรือคลื่นน้ำไหลลาดลงฟาดฟอง
และปีกผีเสื้อล่องบนท้องฟ้า

O เห็นไหมเล่ากลีบผการะย้าย้อย
ทุกช่อที่เคยช้อยอยู่คอยท่า
รอฝน..ต้องฝน..หมดฝนพา-
กันอ่อนโรยอ่อนล้า..ซบคาพื้น

O ฤๅ - อาจรู้ลูบโลมด้วยลมหนาว
หรือแสงงามวับวาวจากดาวดื่น
ครั้นสิ้นรอบลมร่ำกลางค่ำคืน
ฤๅ – อาจรู้ฉ่ำชื้นของพื้นดิน

O เพียงกาลผ่านเวียนแล้วเปลี่ยนช่วง
งามทั้งปวงถ้วนบทก็หมดสิ้น
ปีกลวดลายลมโชยเคยโบยบิน
อาจลาถิ่นไพรเถื่อนลับเลือนแล้ว

O ที่ไหนเล่าโลกกว้างและทางแคบ
เพียงหนีบแนบกลีบใบที่ไหวแผ่ว
ที่ไหนเล่าดีร้ายที่ปลายแนว-
ของเทือกแถวดอกมาลย์หอมหวานนั้น

O ก็นั่นแหละรูปธรรมในธรรมชาติ
ลมไหววาดแสงฉายน้ำพรายสั่น
ปีกลวดลายบินหยุด..ดอมบุษบัน
เกสรกลั่นหวานรส..อาจหมดฤๅ

O หากอีกสภาพธรรมในธรรมชาติ
เมื่อลมลาดล่องอยู่อาจรู้หรือ-
ว่าร้อน..ฝน..จนหนาว..อีกหนาวคือ-
การยึดถือตีความเอาตามใจ

O ฤดูลม-ยอดไม้ส่ายไหวอยู่
ปีกลวดลายหรุบชูก่อนลู่ไหล-
ลอดกลีบดอกนุ่มบางแทรกร่างไป
หวานเยี่ยงไรเล่าหนอ..จึ่งพอเพียง ?

O ฤดูลม..หวนระลอก, ดวงดอกไม้-
ก็หอมให้แถวถิ่นรู้กลิ่น, เสียง-
นกไพรเถื่อนก้องกรู..คล้ายอยู่เคียง-
ศัพท์สำเนียงก้องรัว..บางหัวใจ !



จากบล็อกพี่ สดายุ ค่ะ

Group Blog
  •  
  •  
  •  
  •   
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
มิถุนายน 2552

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
26
27
28
29
30
 
 
25 มิถุนายน 2552
All Blog