Jump หนังจีนที่ให้ข้อคิดดี ๆ เรื่องความพยายาม
เพิ่งดูเรื่อง Jump จบ ซื้อมาแบบไม่รู้เลยว่าเป็นหนังเกี่ยวกับอะไร รู้แค่ว่ามันเคยเข้าที่ลิโด้ก็เท่านั้น
เพิ่งมารู้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นหนังจีน เห็นหน้านางเอกกระโดดในโปสเตอร์นึกว่าหนังญี่ปุ่นซะอีก แต่ชื่อเรื่องก็คงบอกเป็นนัย ๆ อยู่แล้วว่าหนังมันน่าจะเกี่ยวกับการพยายามทำอะไรซักอย่างให้สำเร็จ
เราไม่ชอบดูหนังจีนนะ เพราะรู้สึกว่ามันเว่อร์ เว่อร์ทั้งคำพูด หน้าตาคนแสดง แล้วก็เรื่องเว่อร์ ๆ ที่จะดูเป็นไปไม่ได้ในหนัง หนังเรื่องนี้ก็เหมือนกัน มันเว่อร์มากที่นางเอกบ้านนอกทำนาจะมาคบกับนักธุรกิจไฮโซ มีชีวิตที่หรูหรา
แต่ถ้าตัดเรื่องนี้ไป มันเป็นหนังที่มีข้อคิดดีเรื่องนึงเลยล่ะ
เพราะนางเอกชอบการเต้นมาก เข้าเมืองมาก็โดนหลอกเอาเงิน มาทำงานโรงงานตอนกลางวัน แล้วก็เป็นแม่บ้านทำความสะอาดโรงเรียนสอนเต้นตอนกลางคืนเพื่อที่จะได้เรียนรู้วิธีการเต้น
มีความอดทนและพยายามอย่างแรง แต่ในเรื่องนางเอกเป็นคนมีทัศนคติดีมากนะ ยิ้มสู้ตลอด หรือว่าการที่เราได้ทำตามฝัน เข้าใกล้ความฝันของเรามากขึ้นเรื่อย ๆ มันทำให้เราไม่รู้สึกเหนื่อยกับอุปสรรคต่าง ๆ ก็ไม่รู้
แต่ก็ใช่ว่าไม่ท้อเลยนะ ก็มีอยู่ช่วงนึงที่เค้าท้อเหมือนกัน เพราะวัยรุ่นมีตังที่มาเรียนเต้นก็หมั่นไส้ที่เป็นแม่บ้านแล้วมาสะเออะเรียนเต้นแบบครูพักลักจำ ไม่มีปัญญาจ่ายเงินเรียนก็ไปทำความสะอาดของตัวเองโน่น ได้รับคำสบประมาท เอ้ย อาจจะเรียกว่าคำปลอบใจจากเจ้าแม่ที่คุมคนงานทำให้จะถอดใจ เช่น
"เด็กที่มีความฝันมีอยู่กลาดเกลื่อน ยอมรับซะเถอะว่าคนอย่างเธอไม่มีสิทธิ์จะฝัน ความฝันมันไม่อิ่มท้อง เด็กบ้านนอกอย่างเธอจะไปรู้อะไร มีโอกาสเข้าเมืองแล้ว ก็ควรตั้งหน้าตั้งตาขยันทำงาน ความจริงมันเป็นสิ่งที่โหดร้าย คิดถึงสิ่งที่ฉันพูดให้ดี"
แต่นางเอกก็กลับมาฮึดกับผู้ชายที่เรียนเต้นคนนึง ที่เค้าไม่มีพรสวรรค์ในการเต้นแต่ก็พยายาม เค้าพูดกับนางเอกว่า
"คนที่มีพรสวรรค์ในการเต้น หาได้ยาก ฉันรู้ดีว่าไม่มีพรสวรรค์ แต่ก็ทำใจให้ล้มเลิกไม่ได้ซะที เธอมีสิ่งนั้นอยู่ในตัว อย่ายอมแพ้ซะล่ะ"
แล้วนางเอกก็อัดเทปไปส่งข่าวพ่อตอนนึงว่า
"ช่างง่ายเหลือเกินที่จะถอดใจ แต่การกลับมาฮึดสู้นี่สิที่ยากกว่า ตอนนี้หนูรู้แล้วว่าควรจะทำอะไร ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ขอแค่หนูเชื่อมั่นในตัวเอง"
แล้วเราก็ชอบอีกตอนนึงที่นางเอกอกหักจากพ่อหนุ่มนักธุรกิจไฮโซเจ้าของโรงเรียนเต้นอันนี้
เธอกลับบ้านนอกไปร้องห่ม ร้องไห้กับพ่อ บอกพ่อว่ารักครั้งแรกของหนูจบลงแล้ว แล้วพ่อก็บอกว่า
"พ่อเข้าใจแกดี แต่นี่แหละชีวิต ทุกอย่างมีครั้งแรกเสมอ ครั้งแรกที่แกหัดเดิน ครั้งแรกที่แกหัดพูด ครั้งแรกที่แกเกี่ยวข้าว ในชีวิตเรา มีเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกมากมาย แต่เราก็ลืมมันไปในไม่ช้า ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่สุขหรือเศร้า มันจะพัดผ่านไปเหมือนสายลม"
คนเราก็แบบนี้ บทจะคิดเองได้ก็ฮึด บทจะคิดเองไม่ได้ด้วยความทุกข์ที่ประดังเข้ามา มันก็ต้องพึ่งคนอื่นมาปลอบใจหรือกระตุ้นในกลับมาฮึด
ชอบตรงนี้แหละ ที่นางเอกทุกข์ เธอกลับบ้านให้พ่อเธอปลอบ เพราะการที่เราทุกข์ คนแรกที่เราจะนึกถึงคือคนในครอบครัว
Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2554 |
|
3 comments |
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2554 14:55:38 น. |
Counter : 4210 Pageviews. |
|
|
|
ชอบคำพูดบางประโยคของหนังเรื่องนี้ค่ะ