Madeleine การส่งหนังสือพิมพ์ก็เหมือนกับการเดินเล่นในเมืองที่ว่างเปล่า
เพิ่งดูเรื่อง Madeleine จบ
หนังตั้งแต่ปี 2002 แน่ะ
เรื่องย่อ
Kang Ji-suk หนุ่มหงิมๆ ที่มีโลกส่วนตัว ผู้มีฝันอยากเป็นนักเขียน วันๆ เขาไม่ใส่ใจอะไรนอกจากการอ่านหนังสือ กิจกรรมที่สุดจะเร้าใจในชีวิตเขาคือการมุ่งตรงไปยังห้องสมุดในทุกครั้งที่มีโอกาส แต่แล้ววันหนึ่ง เมื่อเขาต้องการตัดผมเพื่อฉลองการอ่านหนังสือเล่มหนาจบ ตามที่ได้ตั้งใจกับตัวเองเอาไว้ เขาได้พบกับ Lee Hee-jin เพื่อนสาวที่เรียนมัธยมมาด้วยกัน และเธอกำลังทำงานในฝันของเธอ นั่นคือการเป็นช่างทำผม และเมื่อทั้งคู่ต่างรื้อฟื้นความทรงจำเก่าๆ ซึ่งกันและกัน Hee-jin ซึ่งเป็นสาวเปรี้ยวต้านระบบมาแต่ไหนแต่ไรก็เสนอเกมน่าสนุก (สำหรับเธอ) ขึ้นมาว่า ให้ Ji-suk มาลองคบเป็นแฟนกับเธอดูเป็นเวลา 1 เดือน โดยมีกฎหลัก 3 ข้อคือ
ต้องซื่อสัตย์ต่อกัน 100% ห้ามบอกเลิกก่อนครบ 1 เดือน และสุดท้ายคือ เลิกกันได้ตามใจเมื่อครบกำหนด
และเมื่อทั้งคู่ต่างก็ศึกษาซึ่งกันและกัน ความรักก็เกิดขึ้นตามครรลองที่ควรจะเป็น เพียงแต่ว่าอดีตของทั้งคู่กลับตามมาหลอกหลอน รักแรกแอบปิ๊งของ Ji-suk ปรากฏตัวขึ้นมา และปัญหาเก่าของ Hee-jin ที่หนักหนาสาหัสกว่ามาก นั่นคือเธอรู้ตัวว่าตัวเองตั้งท้อง แต่ว่าเด็กในท้องกลับเป็นของแฟนเก่าเธอเพิ่งถูกเขาทิ้งไป ทั้งคู่จะประคองความรักของพวกเขาไปได้อย่างไรเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวเหลือเกิน
เรื่องนี้ดูแล้วชุ่มชื่น ชื้นแฉะทั้งเรื่องเลย เพราะไม่ว่าช่วงเวลาไหน ทั้งเวลารัก เวลาเศร้า เหงา ก็ฝนตกทั้งเรื่อง
ชอบคาแร็คเตอร์นางเอกมาก ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่าคุ้นกับคาแร็คเตอร์นี้มาก 555 ที่เป็นคนร่าเริง ยิ้มเก่ง สนุกได้ทุกที่ ทุกเวลา ร่าเริงแบบจริงใจ ไม่ได้มีปมอะไรที่ต้องปกปิดกลบเกลื่อนความเศร้าใด ๆ เหมือนหนังเกาหลีหลาย ๆ เรื่อง เป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ มีพลังความสดชื่นมากมายมหาศาล คิดอะไรก็พูดอย่างนั้น ทำอะไรตามใจตัวเองไปซะหมดทุกเรื่อง เลยจู่โจมพระเอกให้เดทและเป็นแฟนกับตัวเองได้ด้วยไง (แหม อยากทำไอ้อย่างสุดท้ายได้มั่งจัง)
นางเอกเป็นตัวแทนของความเร่งด่วน ว่องไว ส่วนพระเอกเป็นตัวแทนของความสุขุม เนิบช้า
พระเอกเราก็แสนจะตรงข้ามกับนางเอกอย่างสิ้นเชิง เพราะเป็นคนติ๋ม ๆ ขี้อาย อยู่แต่กับห้องสมุด แอบรักใครก็ไม่กล้าบอก
นางเอกชอบเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ (เหมือนใครวะเนี่ย คุ๊น คุ้น) ส่วนพระเอกชอบอ่านหนังสือ แต่เค้า 2 คนก็ลองสลับกันดู ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่ารัก ดีนะที่เราชอบทั้ง 2 อย่าง (เกี่ยวอะไรเนี่ย)
นางเอกเป็นช่างออกแบบทรงผม ซึ่งก็แฟชั่นจ๋า
ส่วนพระเอกส่งหนังสือพิมพ์และอยากเป็นนักเขียน เลยต้องหาข้อมูลจากการอ่านเยอะ
ยังชอบที่นางเอกถามพระเอกเลยว่าทำไมถึงมาส่งหนังสือพิมพ์ตอนตี 4 ล่ะ พระเอกตอบว่า การส่งหนังสือพิมพ์ตอนเช้ามืด เหมือนการไปเดินเล่นในเมืองที่ว่างเปล่า แล้วอีกวันนางเอกเลยตื่นมาส่งหนังสือพิมพ์เป็นเพื่อนเลย โอ๊ยน่ารัก
กำลังคิดเหมือนกันว่า ในชีวิตจริง ถ้าเจอประโยคนี้ก็ยอมตื่นตี 3 แล้วมาส่งหนังสือพิมพ์ตอนตี 4 เลย อินได้อีก
เพราะขนาดว่าเจอประโยคว่าจากใครคนนึงที่บอกว่าเค้าต้องกลับมาอ่านหนังสือคู่นี้ทุกปี เรายังกระเสือกกระสนไปหาหนังสือคู่นี้มาอ่านในวันถัดไปเลย ทั้ง ๆ หนังสือมันพิมพ์มาเป็น 10 ปีแล้วอย่างที่เล่าไปในบล็อคนี้ อินตลอดเวลา แค่ประโยคเดียวก็เปลี่ยนทัศนคติของยัยนี่ได้ตลอด
ชอบตอนที่ 2 คนนั่งข้างกัน แต่ไม่พูดอะไรกัน แต่ใช้วิธี message หากันแทน เป็นฉากที่อบอุ่นดีเหมือนกัน แต่จริง ๆ ฉากนี้เศร้านะ
ความต่างของทั้งคู่ มันแสดงถึงนิสัยและบุคลิกที่ตรงกันข้ามแต่ทว่าก็เข้ากันได้ บางครั้ง เราไม่ควรเอาคนที่นิสัย(แย่ๆ)เหมือนกันมากนะ เพราะเราไม่ควรดูแลที่จุด ๆ เดียวกัน แต่เราควรดูและกันและกัน
แล้วเวลาเรามีความรักเนี่ย ไม่มีใครครองสติอยู่ได้หรอก แต่สุดท้าย ความอดทนของเรามีขีดจำกัด แม้ว่าความรักของเรามันอาจจะไม่มีขีดจำกัดก็ตาม (ไปไหนแล้วเนี่ย)
ไปหามาดูกันนะ ใส ๆ ไม่รันทดแบบที่หนังที่เราชอบดู ชอบคำพูดสุดท้ายของพระเอกที่เป็นนัยยะเรื่องความรักของคนทั้งคู่
อย่างว่าแหละนะ ไม่ว่าความรักมันจะเจ็บปวดยังไง ก็มีคนพร้อมที่จะเกิดและตายเพื่อมันได้ แต่ที่สำคัญ เราเริ่มใหม่ได้เสมอ
Create Date : 16 มกราคม 2554 |
|
4 comments |
Last Update : 16 มกราคม 2554 21:58:12 น. |
Counter : 2204 Pageviews. |
|
|
|
น่าดูนะคะเรื่องนี้