บันเทิงเริงใจ132กรี๊ดวันแรกCome 2 Me Gig/ไอเลิฟหมาหน้าย่น/Love in Disguise/AfterSchock/เบบี้หลีจือ คุณเรย์ฟงเก็บตัวฝึกซ้อมคอนเสิร์ตเพื่อต้อนรับแม่ยกข้าน้อย (โลกมันเอียงเข้าหาตัวเองหรือไงห๊า) ก่อนที่เตรียมล้างตาไปพบกับของจริง เสียงจริง และไฟไหม้จริง ขอเก็บภาพตอนซ้อมกับเพื่อนซี้นายรอน มาจิกกัดพอชื่นจายย.....แต่ใครจะแอบเคือง ขอซอหรีล่วงหน้า ภาคซ้อมศึกกำปั้นวันชิงชัย Come 2 me Concert (มือจูออนที่เกาะอยู่ ปล่อยมาน) อืม ! เมื่ออดีตกาล ตรูก็เป็นตัวประกอบให้เพื่อนฟงตอนเล่นเป็นพระเอก และเมื่อนี้ ตรูรีเทิร์นกลับมาประกอบให้เมิงในคอนเสิร์ตอีก.....ตรูพยายามไม่ให้ขวดน้ำในมือกระเด็นไปโดนหัวแกร ไอรู้ดีว่าเป็นคอนเสิร์ตเพื่อนฟง เพราะงั้นไอจะแดะมากกว่าเพื่อนไม่ด๊ายย ชักหมดสมาธิแล้วว่ะ ข้างหลังแกรมีไรผิดปกติฟระ ตรูเหม็นตาหลอดเว อย่าได้นึกว่าระหว่างเพื่อนเลิฟจะต้องมากอปปี้ท่าเต้นกันเอง ก็มานสั่งมาให้ตรูกำหมัด แต่อย่าเสยคางฝ่ายตรงข้ามเป็นอันขาด หนุ่มบอสโก้ Bosco Wong (หวังจงเจ๋อะ) ตอนนี้มีผลงานล่าสุด Female Fist ที่กำลังถ่ายทำ อะนี้ก็ม่ายรู้ยังไงฮ่ะ ถึงได้มาเดินในเรื่องที่เค้าดันผู้หญิงให้เกิด ส่วนผู้ชายก็ไม่รุเอาไปวางไว้ตรงไหน เข้าเรื่องคนรักหมาเป็นชีวิตจิตใจอีกคนหนึ่ง ที่ผ่านมาหนุ่มบอสเคยเลี้ยงหมามาแล้วหลายสายพันธุ์ (เดี๊ยนเลี้ยงพันธุ์ middle of road) แต่หนุ่มบอสได้ค้นพบแล้วว่าชอบ dog พันธุ์ชาเป่ย ตอนนี้ที่บ้านเลี้ยงเจ้าชาเป่ยแสนน่าลากอยู่ 2 ตัว (ขอเรียกหมาหน้าย่น) ชื่อเสียงเรียงนามของมันคือ เจ้า Kapun และ Sawa เนื่องจากหนุ่มบอสเป็นลูกชายสุดรักคนเดียวของบ้าน พ่อแม่ก็กลัวลูกชายจะเหงา เลยให้อยู่กับหมามาตั้งแต่เด็ก ๆ (โตมากับหมาค่ะ) หนุ่มบอสกล่าวว่า ผมชอบหมาแสนรู้ ตอนนี้เลี้ยงเจ้า Kapun ผมซื้อมันมาจากร้าน Pet เมื่อ 5 ปีที่แล้ว มันเป็นหมาสุภาพเรียบร้อย (ซึ่งผิดกับเจ้าของ) ถ้าผมไม่กลับบ้าน 2-3 วัน ผมจะคิดถึงมัน ตอนผมไปถ่ายละครที่ปักกิ่ง คุณย่าโทรมาหาผมเล่าถึงวีรกรรมของมันให้ฟังว่า มันทำน้ำมันหกไปครึ่งขวด และกินเป๋าฮื้อแห้งหมดไปครึ่งถุง (บุญแล้วที่เหลือไว้ให้ดูอย่างละครึ่ง) ผมคิดว่าอยากให้เจ้า Kapun มีเพื่อนเล่น จึงตัดสินใจหาเจ้าหมาชาเป่ยมาเพิ่มอีกหนึ่งตัว ผมเลือกหมาตัวเมียมาเป็นเพื่อนมัน ชื่อ Sawa (จับหมาคลุมถุงชนกันด้วยล่ะ) แต่ภายหลังพบว่าเจ้า Sawa กระดูกเชิงกรานเล็ก ไม่สามารถมีลูกหมาน้อยได้ ผมก็อยากให้ Sawa กับ Kapun เป็นเพื่อนกัน เจ้า Sawa มักชอบรังแกเจ้า Kapun (จะไปรอดกันมั้ย สังคมหมาบ้านนี้) พูดถึงเจ้า Kapun มันเป็นดาราหมานะคร้าบ ผมพามันไปเข้ากล้องละครมาแล้วหลายเรื่องอย่างเช่นเรื่อง Dicey Business ,Canopy of Love และ Burning Flame 3 ผมส่งมันไปโรงเรียนฝึกหมา จะได้มีมูฟเม้นท์ที่หลากหลายเวลาแสดง เมื่อก่อนผมสอนมันจนเหนื่อย ถ้าเป็นแอ็คชั่นที่ยากต่อการควบคุม ผมคิดว่าควรจะให้ครูฝึกหมาช่วยเทรนจะดีกว่า........หนุ่มบอสโชว์รูปถ่ายเจ้า Ka และ Sa ที่ออกเดทกันเมื่อวันวาน แล้วเล่าให้ฟังว่า เมื่อสองสามปีที่แล้ว เจ้า Sawa โดนรถชน ผมหัวใจแทบสลาย คุณแม่ผมพามันไปออกไปข้างนอก แล้วไม่ทันระวังรถ หมอผ่าตัดที่รักษามันบอกว่า กระดูกมันยาว หลังจากผ่าตัดแล้วจะออกกำลังได้ไม่มาก ตอนนี้เจ้า Sawa อาการดีขึ้นแล้ว แต่เวลาส่วนใหญ่มันจะนอน Kapun ดูเหมือนรู้ว่าเพื่อนมันบาดเจ็บ มันก็ลงนอนข้าง ๆ Sawa ผมหวังว่ามันจะหายในไม่ช้านี้ (ไอ้รถอุบาทว์คันนั้น ขอให้มันไม่รอดพ้นจากสิ่งที่มันได้กระทำ......ไปแช่งเค้าทำไม) เจ้าหมาชาเป่ยมีลักษณะพิเศษตรงที่มีรอยย่นตามตัวตลอดเว ทำให้ต้องมีการดูแลระวังกันเป็นพิเศษ เพราะไม่เช่นนั้น มันจะเป็นโรคเกี่ยวกับผิวหนังได้ง่าย คนที่เลี้ยงหมาชาเป่ยจะพบปัญหาเรื่องกลิ่น เพราะตามรอยพับของผิวหนังมันจะเกิดเชื้อแบคทีเรียได้ ก็ต้องดูแลคอยซื้อยาฆ่าเห็บหมัดให้มันดี ๆ หนุ่มบอสโก้จะพาคุณ dog แสนรักไปสถานเสริมความงามหมาทุกอาทิตย์ ผมต้องพามันไปทำสปาทุกเดือน (คนอย่างเรายังไม่ได้แม้แต่เอาเท้าแหย่เข้าไปในสปา) เรื่องอาหารก็มีความสำคัญด้วย ผมจะซื้อ snacks ลองชิมก่อนว่าอร่อยเปล่า ?? อิคุณบอสล้อกานเล่นม้าง Bosco & Fala ร่วมงานวันไหว้เจ้าละคร Female Fist นัดกันมากิน ไม่ต้องคิดไรมาก ผ่านด่านหมา เข้าสู่เรื่องแมว ๆ กันหน่อย เพราะเจ้าของเป็นสาวสวยอย่าง Fala Chen เฉินฝ่าร่า ตอนนี้ได้ขึ้นแท่นเป็นนักร้องไปอีกคนแล้ว ขอให้น้องฝาได้ขยับลูกคอให้สมใจอยากกันนะเคอะ ผลงานสุดล่าก็เรื่องเดียวกับหนุ่มบอสโก้คือ Female Fist เรื่องละครก็ปล่อยให้เธอได้ถ่ายทำกันไปตามสะดวก ส่วนเรื่องดี ๆ ที่จะต้องเปิดโปงเล่าสู่กันฟังว่า เมื่อไว ๆ นี้ ไวขนาดไหน สาวฝ่าร่าได้ช่วยเหลือแมวที่น่าสงสาร พเนจรมาจากถิ่นใดไม่ทราบ แต่ขอให้ส่งไปที่ศูนย์ช่วยเหลือเจ้าเหมียวในฮ่องกงที่ชื่อว่า AFCD ความดีของสาวฝ่าร่าเป็นที่โจษขานและชื่นชมยินดีกันในหมู่ชาวออนไลน์ว่าเธอเป็นคนใจดีมีเมตตาต่อสัตว์ จึงพลาดไม่ได้ที่จะมีนิตยสาร My Pet Leisure มาขอสัมภาษณ์สาวฝ่าร่า เข้าสู่หัวข้อเรื่องสัตว์แสนรัก สาวฝ่าร่าคุยให้ฟังถึงเรื่องการอุปถัมภ์แมวอย่างมีความสุขว่า ย้อนกลับไปสมัยถ่ายทำละครเรื่อง ศึกชิงมรดกราชาเป๋าฮื้อ (Heart of Greed) ฉันให้อาหารแมวจรจัดที่เดินป้วนอยู่ด้านนอกเมืองทีวีบี ต่อมาคุณเหมียวได้มาชุมนุมเพิ่มมากขึ้น ๆ (ซึ่งไม่ผิดกฎหมาย แต่หนูเลี้ยงไม่ไหว) หรือว่าจะติดใจคนให้รึไงไม่ทราบ รปภ.ทีวีบี เลยติดต่อศูนย์ AFCD เพื่อให้มารับแมวไปทั้งหมด ตอนนี้ฉันเลี้ยงแมว 2 ตัว (แต่ขอถ่ายแบบกับน้องหมาซะงั้น) พวกมันจะตามฉันไปอ่านหนังสือแล้วก็นอนหลับ (แมวอ่าน และคนนอนหลับ) แต่เมื่อไหร่ที่พวกมันซน มันจะวิ่งออกจากบ้านและปีนขึ้นไปเล่นบนระเบียง ฉันรู้สึกตกใจกลัวจนร้องไห้ (ขวัญเอ้ยขวัญมา) นิสัยส่วนตัวของฉันก็เหมือนแมวค่ะ ไม่ชอบอยู่ใกล้ชิดคนอื่นมากเกินไป เมื่อถึงเวลาจัดการกับสถานการณ์ใด ๆ จะไม่มีการประนีประนอม รุ่นพี่เฉินหาว Moses Chan พูดแซวฉันว่า แมวเป็นสัตว์ที่เห็นแก่ตัว เธอต้องเหมือนมันอยู่แล้ว (พี่โมหาวหลอกชมตบท้ายอีกต่างหาก) จากเรื่องคุณเหมียวของสาวฝ่าร่า วนกลับมาที่เรื่องคุณหมาอีกรอบ (ไม่ต้องไปไหนกัน ให้อยู่แต่กับหมากับแมว) เป็นที่ทราบกันดีในวงการว่าดาราสาวเลี่ยวปิเอ๋อ Bernice Liu เป็นอีกผู้หนึ่งที่มีจิตใจเครซี่ dog เป็นอย่างมาก (ความบ้ากับความรักมันหมายฟายเดียวกันป่าว) สาวเลี่ยวเลี้ยงหมาไว้ถึง 7 ตัว (ชื่อเป็นรสกาแฟทั้งบ้าน อย่าง มอคค่า ลาเต้ เอ็กเพรสโซ่ คาปูชิโน่ โอ้ว ! ไปเก็บมาจากไร่กาแฟล่ะป่าวไม่รุ) เลี้ยงกันจนเชี่ยวชาญจนถึงกับออกหนังสือเกี่ยวกับคุณหมาออกมาถึง 2 เล่มด้วยกัน กิจกรรมวันนี้ไม่ได้มาปล่อยหมาทิ้ง แต่มาโปรโมทหนังสือที่เขียนเองเกี่ยวคุณหมา ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติของฮ่องกง หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มที่ 3 ให้ชื่อว่า Benji's Centre เรื่องราวข้างในยังมีเขียนเกี่ยวกับวิธีการทำเองได้ง่ายจั้ง (DIY) การทำเสื้อผ้าให้คุณหมาแสนรักได้ใส่โชว์ความน่ารักน่าถีบไงอ่ะ รายได้จากการจำหน่ายหมา เอ๊ย หนังสือหมา จะบริจาคเป็นการกุศลให้กับมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือเด็กให้มีโอกาสได้เรียนหนังสือในโรงเรียนที่ดี สาวเลี่ยวกล่าวเพิ่มอีกว่า ยังมีอีกหลายครอบครัวที่มีความเป็นอยู่อย่างลำบาก เด็ก ๆ ไม่มีเงินจะซื้อสิ่งของที่มีราคาแพงอย่างเช่น ของเล่น หนังสือ และคอมพิวเตอร์ ฉันอยากช่วยเหลือพวกเด็ก ๆ ค่ะ (นางงามไม่เกี่ยวค่ะ นางเอกจะขอรักเด็ก ๆ เอ้ง สวยแล้วก็ใจบุญ ถึงได้สวยเลือกได้แบบนี้) คู่บ่าวจ๋าวประจำวีคนี้ แหล่มเริ่ดที่ซู้ดละคร่า นางเอกโปเยโปโลเยคนล่าสุด หลิวอวี้เฟยมาแปลงกายเป็นเจ้าสาวแสนสวยเพื่อแต่งงานกับสุดหล่อ ศิลปินอารมณ์ติสเป็นเอกอีกผู้หนึ่งของวงการเพลงไต้หวัน จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก หวังลี่หง หรือที่ชอบเรียกกัน ลีฮม ๆ น่ะแระ ณ บัดนาว เจ้าบ่าวหวังและเจ้าสาวหลิว กำลังมีภาพยนตร์ที่ประกบคู่กันเรื่อง Love in Disguise ซึ่งจะเข้าฉายที่เมืองจีนในเดือนหน้าตรงกับวันแม่แห่งชาติไทยแลนด์พอดี และเข้าโรงฉายที่ไต้หวันตามหลังมาติด ๆ (โรงหนังที่เมืองไทยดูตุ๊กแก เอ้อ ตุ๊กกี้เจ้าหญิงขายกบไปพลาง ๆ) คู่พระนางจึงต้องโปรมดความรักกันให้ฉ่ำจิตซะหน่อย โดยถ่ายแฟชั่นเว็ดดิ้งหล่อเริ่ดและสวยกระฉูดให้กับนิตยสาร Cosmopolitan ปล่อยไฟฟ้าในตากันวูบวาบ ใครเห็นใครก็อยากอิจฉาริษยา รูปคู่รักหวานกันตามระเบียง จ้องตา จูงมือขึ้นเขาลงห้วยลำธารกันละค่า ดูราวกับเจ้าหญิงเจ้าชายกำลังพลอดรักให้ทั้งโลกได้อิจฉา (แม้จะแต่งกันแค่ในแมกกาซีน) การควงคู่ถ่ายแบบของทั้งลี่หงและอวี้เฟย มีที่มาจากภาพยนตร์เรื่อง Love in Disguise ซึ่งหนุ่มลี่หง ได้ขอให้นางเอกหลิวอวี้เฟยช่วยมาเป็นนางเอกให้ผมหน่อยนะครับ สุดสวยอวี้เฟย ผมจะทำหน้าที่เป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิต (ให้โลกได้ประจักษ์ในความรักของเรา) ลี่หงรับบทเป็นนักร้องซุปเปอร์สตาร์ที่มีชื่อเสียงในหนัง แล้วมักจะแกล้งปลอมตัวเป็นผู้ชายมาดเฉิ่มไปอยู่ใกล้ ๆ ผู้หญิงที่ตัวเองแอบปิ๊ง ซึ่งก็คือหลิวอวี้เฟยที่รับบทเป็นนักศึกษา ผกก.มือใหม่ยอมรับตามตรงว่า คาแรกเตอร์ของผมในหนังเป็นผู้ชายแบบบ้าน ๆ คนหนึ่ง เพราะฉะนั้นการแสดงที่ออกมาจะซึมซับอารมณ์ความรู้สึกความเป็นตัวเอง ผสมผสานกับความมีพรสวรรค์ทางด้านดนตรี ในฐานะที่ผมเป็นผู้กำกับครั้งแรก ผมไม่ค่อยพอใจกับบทหนังจนต้องมีการแก้ไขถึง 53 ครั้ง (ใครไม่เปื่อย แต่กระดาษเปื่อยชัวร์) ผลงานของผมไม่ได้คิดขึ้นมาแบบฟาสฟู้ดนะครับ แต่เป็นสิ่งที่ผมได้วางแผนเอาไว้นานแล้ว (ศิลปินติสอันดับหนึ่ง จะไม่มีคำว่า สุกเอาเผาแฮมเบอร์เกอร์เด็ดขาด) เรื่องราวในหนังเป็นการนำเสนอแรงบันดาลใจของคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ รวมทั้งมีความเป็นคอมมาดี้ด้วย เป็นผลงานที่แสดงให้เห็นถึงภารกิจของความเป็นคนสร้างหนังและนักดนตรีเอาไว้ด้วยกัน หวังว่าทุกคนจะมีความสุขที่ได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ กดชมตัวอย่างได้จากคลิป จะทุกข์หรือสุขก็ตามใจ โปสเตอร์มีทั้งแบบเวอร์ชั่นจีนโบราณและแบบสมัยใหม่ พาลจะเอ้อระเหยไปว่านี่มันหนังโปเยฯ ไปอีกแน่ะ จัดว่าเป็นภาพยนตร์ที่โดดเด่นประจำเดือน July ของจีนแผ่นดินใหญ่เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะไปเปิดฉายแห่งหนมณฑลไหน เรียกน้ำตาได้ท่วมโรงเมื่อนั้นค่ะ ภาพยนตร์ AFTER SHOCK หนังแนวดราม่าสุดยิ่งใหญ่แห่งปีของ ผกก.ยอดฝีมือของจีนนามว่า เฝิงเสี่ยวกัง ที่จะถ่ายทอดความทรงจำที่ไม่เคยลบเลือนไปจากใจ นำแสดงโดยดาราเมืองจีน ได้แก่ ซูฝาน , หลี่เฉิน , จางกั๋วเฉียง และที่รู้จักหน้าและชื่อได้แก่ จางจิ้งหยู และ ลู่อี้ เห็นจากโปสเตอร์ก็ดูจะบอบช้ำสุดหดหู่ แต่ขอให้หดหู่ผ่านแผ่นฟิล์มก็พอค่ะ เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้น มันเป็นภัยพิบัติที่โหดร้ายอย่างชนิดที่ว่าใครที่ไม่เคยได้ประสบหรือไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ จะไม่มีวันซึ้งอย่างแน่นอน หนังนำเสนอเรื่องราวเหตุการณ์แผ่นดินไหวซึ่งเกิดขึ้นจริงในตอนเช้าตรู่ของวันที่ 28th July 1976 ที่เมือง Tangshan วัดแรงสั่นสะเทือนปฐพีได้ถึง 7.8 ริคเตอร์ เหตุการณ์แผ่นดินไหวได้คร่าชีวิตประชาชนชาวจีนไปมากกว่าสองแสน (242,769 คน) บาดเจ็บอีกเป็นแสนกว่าคน ตัวหนังโฟกัสไปที่ครอบครัวของเด็กน้อย Fang Deng พ่อแม่ลูกสาวลูกชายอยู่ด้วยกันอย่างอบอุ่น แต่เมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหว ทุกอย่างสลายภายในไม่กี่ชั่วโมง ทำให้ต้องสูญเสียพ่อซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัว ลูกทั้งสองคนถูกฝังอยู่ใต้ซากซีเมนต์ที่ถล่มพังลงมา การช่วยชีวิตใครคนใดคนหนึ่ง จะต้องเสี่ยงกับอีกหนึ่งชีวิตและอีกหลายชีวิตที่ไม่รู้ชะตากรรมว่าจะรอดพ้นจากความเป็นความตายอย่างไร แม่ของลูกสาววัย 7 ขวบชื่อ Fang Deng ได้ยินเสียงร้องของลูกชายดังลอดออกมาจากซากปรักหักพัง ผู้เป็นแม่มีความหวังว่าจะช่วยลูกชายให้รอดชีวิต และเลือกที่จะละทิ้ง Fang Deng โดยที่ไม่เคยคาดคิดว่า ลูกสาววัย 7 ขวบของเธอจะมีสำนึกรู้ในสิ่งที่แม่ตัดสินใจทำลงไปมันมีผลต่อชีวิตของเธอมากเพียงใด สาวน้อย Fang Deng รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้น และได้เติบโตไปสู่วัยผู้ใหญ่จนเข้าสู่สถานะมีครอบครัว จนกระทั่งเกิดเหตุแผ่นดินไหวในอีก 32 ปีต่อมา ทำให้เธอต้องสูญเสียครอบครัวอีกครั้ง......... ด้าน ผกก.เฝิงเสี่ยวกัง กล่าวถึงความรู้สึกเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ว่า ตามปกติอารมณ์ของคนดูจะรู้สึกช็อคและก็ร้องไห้เมื่อได้ชม แต่ผมเชื่อว่าผู้ชมที่เดินออกจากโรงภาพยนตร์ จะกลับไปพร้อมด้วยหัวใจที่อบอุ่น ด้านสเปเชี่ยลเอฟเฟ็คก็ไม่ได้มีฮอลลีวู้ดหรืออะไรใด ๆ มาสนับสนุน ผมก็บรรเลงเองเท่าที่สามารถจะทำได้ ดาราสาวหลีจือ Gigi Lai ประกาศอำลาวงการบันเทิงเมื่อปี 2008 กับผลงานละครทิ้งทวนความสวย หรูเริ่ดอลังการ Gems of Life ชื่อไทย “เกมธุรกิจ ชีวิตมายา” เริ่มฉายตอนแรกช่องวิกพระราม 4 ไปเมื่อวันที่ 23 ก.ค. (บังเอิญได้ดูมันซะงั้น) ผ่านมาแล้ว 2 ปีฝ่า ๆ แต่เธอยังอยู่ในความสนใจของเหล่านักข่าวฮ่องกงตลอดเวค่ะ เริ่มตั้งแต่ตามติดชีวิตหลังแต่งงานกับเศรษฐีหม่าถิงเฉียง เธอกับสาละมีจะไปไหน นักข่าวจะแอบเกาะติดไปด้วย เธอจะเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนแซ่ เธอจะมีลูกยังไง วิธีไหน ไปทำไสยศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์อย่างไร เราควรจะสอดรู้ ซึ่งก็ได้รายงานเป็นระยะมัชชะปะมา......มาตาลอด ๆ ย้อนเหตุการณ์วันประกาศอำลา ให้กดไปตามลิงค์นี้เจ้าค่ะ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=lamfungpavilion&month=23-10-2008&group=6&gblog=49 ณ บัดนาว มีข่าวน่ายินดีของหลีจือ ที่เธออุตส่าห์ทุ่มเทแบกท้องโย้เย้ไปมา (ปาป้ามีหน้าที่ตามแชะ) จนได้คลอดลูกแฝดเพศหญิงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เดิมทีจะกำหนดคลอดในเดือนสิงหาคม แต่เธอตัดสินใจเลือกวันดีเป็นศรีแก่ลูกหลานคือวันที่ 24th July 2010 ให้เบบี้แฝดอุแว้ออกมาชมความงามของโลกใบนี้ หรืออยากให้ลูกเห็นหน้าคุณแม่สุดสวยอย่างไว ผลการคลอดเป็นไปด้วยดี ทั้งแม่และลูกปลอดภัย ก่อนหน้านั้น หลีจือได้แอบไปเตรียมตัวจะคลอดที่ Canossa Hospital พร้อมด้วยคุณสามีหม่าถิงเฉียง คอยเฝ้าดูแลภรรยาข้างเตียงไม่ห่าง (พวกเมิงไปเห็นกันตอนไหนอ่ะ ตรูก็บ้าบรรยายไปตาม) หลังจากหลีจือคลอดแล้วเรียบร้อย คุณสามีหม่า ก็เดินออกมาหน้า รพ.เพื่อประกาศข่าวดีกับนักข่าวที่มารุมรอทำข่าวกันอย่างเนืองแน่น......ไมค์จากทุกสำนักบันเทิงได้กรูกันมาจ่อที่ปาก (คิดว่าเขาจะกลับ แต่โดนนักข่าวรุมหรือเปล่า ไม่ได้จะเดินมาให้ข่าว โดนล้อมกรอบเป็นคนดัง ทำหน้าที่แทนภรรยา) เมื่อเวลาประมาณสามทุ่มยี่สิบนาที คุณสามีหม่าเดินออกจาก รพ. พร้อมด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขที่มิอาจเอาใบบัวมาปิดให้มิดได้ (จะเอามาทำซากไร) รายละเอียดที่ให้กับนักข่าวคือ หลีจือให้กำเนิดลูกแฝดฮ่องกงเรียบร้อยแล้ว แฝดคนพี่หนัก 6 ปอนด์ แฝดคนน้องหนัก 3 ปอนด์ ผมยังไม่ได้ตั้งชื่อให้ลูก แต่จะขอเรียกเล่น ๆ ไปก่อนว่า เจี่ยเจีย และ หมุยหมุย ตอนนี้หลีจือมีความสุขมาก แต่เธอเหนื่อยและต้องการพักผ่อน เหล่าญาติและเพื่อน ๆ จะมาเยี่ยมเธอเร็ว ๆ นี้ (ลูกแฝดเหมือนใครมากกกว่ากัน) เหมือนพ่อแม่ทั้งคู่ จะเหมือนใครก็ไม่สำคัญ ที่สำคัญขอให้ปลอดภัย (ครบ 32 ก็โล่งแล้วค่า) หลีจือเพิ่งจะเป็นคุณแม่ครั้งแรก เธอได้ส่งข้อความ SMS เป็นอิงลิช ไปให้เพื่อน ๆ ได้รับทราบข่าวดีกันถ้วนหน้าด้วย ซึ่งมันก็ยังคว้ามือถือมาได้อีกนั่นแหละ ความว่า “นางฟ้าคู่แฝดของเราไม่สามารถคอยจนถึงวันนั้นได้ พวกเธออยากออกมากล่าวเซฮัลโหลกับพวกคุณทุกคน ขอบคุณพระเจ้าที่ประทานของขวัญอันมีค่าที่สุดมาให้เรา ลูกแฝดสุขภาพแข็งแรงและน่ารักมาก เราอยากจะแบ่งปันความสุขนี้ร่วมกับพวกคุณ” รุ่งขึ้นอีกวันเป็นเวลาบ่ายสองโมง คุณสามีหม่าก็มาปรากฏตัวที่ รพ. เพื่อทำหน้าที่ดูแลศรีภรรยาไม่ห่าง ต้องบำรุงร่างกายกันเต็มที่หลังคลอด และที่หวังจะได้เห็นแฝดสยามน่ะ คงไม่ได้ งานนี้จะไม่ตั้งวงแชร์รูปถ่ายของเบบี้แฝด ขอความเป็นส่วนตัวกันซักน้อย แต่นักข่าวก็ยังมีคำถามมากมายที่รอคำตอบ จะพยายามให้มีลูกชายอีกหรือไม่ ? ปล่อยไปตามธรรมชาติ คุณให้ของขวัญอะไรกับภรรยา ? อะไรก็ได้ที่เธอชอบ ผมใส่พานให้หมด เธอจะออกจาก รพ.เร็ว ๆ นี้ แต่หมอยังไม่บอกวันที่แน่นอน ฝ่ายพ่อแม่และเพื่อนของหลีจือก็ไปเยี่ยมที่ รพ. ได้เป็นอากงอาม่าแล้ว รู้สึกจาตื่นเต้นกันมั่ก ๆ (มันก็ไปรู้เค้าอีก) อารมณ์ของแม่กับลูกเป็นไงบ้างตอนนี้ ? พวกเขายิ้มไม่หุบ ขอบคุณทุกคนครับ และแล้วทั้งคณะ (เศรษฐีและบอดี้การ์ดเศรษฐี) ก็รีบจากไปอย่างรวดเร็ว เพื่อให้รอดพ้นจากกรงเล็บมหากาฬของนักข่าว ปิดท้ายด้วยการแห่นางงามโบราณ ตลาดวายไปพักนึง ตอนนี้มีเวลาขุดโกดังภาพ เลยงัดออกมาวางแผงให้ชมความงาม เจ้าหย่าจือ หลี่ไซ่ฟ่ง หลีเหม่ยเสียน หลันเจี๋ยอิง หยวนเจี๋ยอิ๋น เหลียงเสี่ยวปิง ไช่เส้าเฟิน   Create Date : 27 กรกฎาคม 2553 2 comments Last Update : 27 กรกฎาคม 2553 14:10:33 น. Counter : 5895 Pageviews. Share Tweet

วันนี้ประเดิมคัมทู้มี รอบแรก วันแรก เตรียมกรี๊ดตั้งแต่วันนี้ อัพบ้านไว้ เผื่อมีคนคิดถึง (คิดไปเอง) อาคุงเกอร์ ไปเตรียมกรี๊ดอยู่ที่หนาย ???   โดย: ข้าน้อยคาราวะ (ข้าน้อยคาราวะ ) 27 กรกฎาคม 2553 14:18:14 น.

อัพตอนไหนอ่ะ ทำไมตรูไม่เห็น อิอิ กรี๊ดคอแตกไปแล้วมั้งพี่น้อง ขอเรียกตัวนัดออกรอบเม้าท์ด่วนนะตัวเอง   โดย: มิโดริ IP: 124.122.169.112 1 สิงหาคม 2553 21:41:35 น.