คุณคือป้อมปราการของฉัน 
(You are my HERO)
| 你是我的城池营垒

 นักแสดง: หมอหมี่ /หมี่ขา          -หม่าซือฉุน
                 ผู้กองสิง/สิงเค่อเหล่ย  -ไป่จิ้งถิง
                 หวังหยาง     เจียงเพ่ยเหยา เฉินเฮ่า　 จางเหยา
WETV จำนวน 40 ตอน 2020

 

      โรงพยาบาลมีแผนในการฝึกซ้อมปฏิบัติการฉุกเฉินโดยมีโรงเรียนนายร้อยตำรวจเป็นผู้จัดอบรมให้ หมี่ข่าเพิ่งจบได้เขารับการฝึกอบรมเป็นเวลา 2 อาทิตย์ โดยห้ามออกค่าย แต่เป็นห่วงคนไข้เคสที่ต้องทำการผ่าตัดวันนี้ตอนบ่ายคุณหมอเซ่า จะเข้ามาบรรยายเกี่ยวกับการผ่าตัดศัลยกรรมประสาทหมอหมี่จึงไม่อยากพลาดโอกาสนี้เลยคิดหาวิธีนี้ออกค่าย เธอได้โบกรถขอความช่วยเหลือจากผู้กองสิง เธอไปที่โรงพยาบาลพบคุณหมอเซ่าตลอดทางผู้กองได้หลอกถามว่ารู้จักหัวหน้าครูฝึกไหมหมอหมี่ตอบว่าเจ้าระเบียบเป๊ะทุกอย่างผู้กองได้แต่ยิ้ม พอตกค่ำมาผู้กองได้ดักรอหมอหมี่ที่หน้าประตูกองร้อย แต่ไปเจอกันที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตหมอหมี่แสดงความใจกว้างตอบแทนน้ำใจโดยจ่ายเงินค่าของให้กับผู้กอง  ทั้งสองเดินมาถึงหน้าประตูกองร้อยตำรวจที่เฝ้าประตูก็เรียก ผู้กองสิงทำให้หมอหมี่เรื่องตกใจเล็กน้อย ในค่ำคืนนั้นเองมีการแนะนำหัวหน้าชุดสุดๆคือผู้กองสิงเค่อเหล่ย  ผู้กองสั่งลงโทษคนที่มาช้า และมีหนึ่งคนที่หนีออกค่ายทำให้ทุกคนถูกลงโทษด้วยกันทั้งหมด
          ผู้กองสิงทบทวนครั้งหนึ่งเคยช่วยเด็กที่เรียนหมอชื่อว่าหมี่ข่า ลองทั้งหยิบของขวัญที่เป็นการ์ดและตุ๊กตาทีเด็ดคนนั้นส่งมาให้ดูคลับคล้ายคลับคลากับหมอหมี่มาก ผู้กองสิงลงโทษเธอ ตัดคะแนนและด้วยการให้ทำความสะอาดห้องน้ำทุกห้องจนเธอไม่ได้อาบน้ำ ผู้กองเลยสั่งให้หมอหมี่ไปทำความสะอาดห้องอาบน้ำเพื่อให้เธอได้อาบน้ำนั่นเอง
       หมอหมี่แอบมาสระผมในอ่างล้างมือ ผู้กองมาเจอตอนเธอกำลังควานหาน้ำล้างผมจึงช่วยเธอ นางสะบัดผมเจอหน้าเป็น
ผู้กองตกใจทำให้ลื่นล้มทับกัน
      เมื่อเรียนบทเรียนตอนฝึกลำเลียงผู้ป่วยจากที่สูงกลุ่มของหมอหมี่ไม่ผ่านจำเป็นต้องซ่อม หมอหมี่ตั้งใจแกล้งส่งหมวกกันน็อกให้ผู้กองแบบหลุดจากมือ แต่ผู้กองใช้เข่าเดาะหมวกขึ้นมาได้ หมอหมี่ ขอโทษที่มือสั่น ผู้กองบอกว่า
     “เป็นหมอศัลยกรรมจะมือสั่นไม่ได้”  หมอหมี่นึกถึงคำพูดที่คุนเคยได้ยินลุงตำรวจพูดกับเธอตอนที่จะกู้ระเบิดในตอนที่เธอกำลังเรียนหมอแล้วถูกจับเป็นตัวประกัน  แต่หมอหมี่ความจำเป็นต้องรีบไปพบหมอเซ่าที่โรงพยาบาลเพื่อรักษาเสี่ยวหม่านและส่งต่อไปเมืองนอกเพราะมีคนช่วยเหลือแล้ว และกลับมาตั้งใจจะขอโทษผู้กองสิง แต่ผู้กองบอกว่าเธอถูกปลดออกจากการฝึกเพราะนำเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องการฝึกในครั้งนี้  เธอไม่ยอมถอยขออยู่ฝึกแบบไม่ได้เกียรติบัตรก้อได้
     ในช่วงเย็นหมอหมี่พักเล่นกับเพื่อเสี่ยวเซี่ย ได้เจอคุณลุงหลี่เอาของมาฝากผู้กองสิงและกำลังจะกลับบ้าน เธอจึงอาสาช่วยขนของไปส่งคุณคุณลุงแต่ปรากฏว่าระหว่างทางเกิดพายุฝน ฟ้าคะนองเธอหลงทาง ผู้กองสิงรู้ว่าเธอไปส่งคุณลุงเขาออกตามหา หมอหมี่ลื่นล้มกอดกับผู้กองสิงอีกครั้ง และ ขี่หลังกลับกองฝึก
ผู้กองรู้ความจริงใจที่หมอหมี่ช่วยตรวจลุงหลี่และช่วยเหลือ
การผ่าตัดของเสี่ยวหม่าน จึงในเขาฝึกต่อได้  กลุ่มของหมอหมี่ได้รับคำชมเชย เพราะผู้กองตั้งใจจะฝึกให้หมอหมี่โรยตัวแต่หมอหมี่ฝึกกับครูฝึกหลี่ ทำให้ผู้กองมีเคืองเล็กน้อย
       ในการทดสอบ การฝึกกระโดดจากที่สูง ซึ่งหมอหมี่กระโดดเป็นคนสุดท้าย และเป็นลมกลางอากาศผู้กองสิงช่วยเหลือไว้ทัน
เมื่อถึงเวลาผู้กองสิงลำบากใจในการรวบรวมคะแนน หมอหมี่ข่าผู้สอบไม่ผ่านกระโดดจากที่สูงทำให้ไม่ได้รับเกียรติบัตรเพียงคนเดียว ผู้กองสงสารหมอหมี่ที่แยกตัวออกมาอยู่คนเดียวจึงตั้งใจมาปลอบ แต่นางไม่เป็นไร กลับเล่าเรื่องราวตอนที่คุณอาตำรวจสุดหล่อไปช่วยกู้ระเบิดจากมือเธออย่างชื่่นชม ผู้กองสิงแอบยิ้ม และแซวว่าในหน่วยSWATไม่มีคนแก่นะ   ในค่ำคืนเลี้ยงอำลามีเกมหนึ่งที่เป็นการแข่งขันระหว่างผู้กองสิงกับหมอหมี่คือจ้องตากัน แต่เพือนผลักหมอหมี่เข้าสู้อ้อมกอดผู้กอง ทำให้ผู้กองสิงมีอัตราการเต้นหัวใจ เกิน100 หมอหมี่ชนะทำให้ทุกคนรู้
ความในใจ ผู้กองส่งหมอหมี่เข้าห้องน้ำ บังเอิญมีอุบัติเหตุอยู่ใกล้ๆ ทั้งสองไปช่วย นางกลัวความสูง ด้วยจรรยาบรรณหมอ
"แต่ชีวิตสำคัญกว่า" ในที่สุดก้อช่วยผู้ป่วยออกมาได้  และหมอหมี่ใช้เสื้อทัพของตนเองพันแผลที่ศรีษะให้ผู้กองสิง 
กองสิงเห็นคุณความดีที่หมอหมี่ทำจึงขอให้หัวหน้าออก
เกียรติบัติการอบรมให้หมอหมี่ และนำไปให้พร้อมทั้งเสื้อทับตัวใหม่ที่ผู้กองสิงไปซื้อเองทั้งเขินและ อาย 

ช่วงจีบกัน
       นัดออกเดททานข้าวกันครั้งแรกชวดเพราะชายรีบกลับไปทำงานด่วน หมอหมี่ข่าได้รับคัดเลือกทำงานที่แผนกศัลยกรรมตามคำของหมอเซ่า ลูกน้องของผู้กองสิได้รับบาดเจ็บมาก แต่หมอเซ่ายังมีคิวผ่าตัดอยู่ ต้องรอ สุดท้ายหมอเซ่าสั่งผ่าตัดพร้อมกันทั้ง 2 เคสเลย หมอหมี่่อยู่ปลอบใจผู้กองจนดึก และแล้วอาการตำรวจเสี่ยวเชาไม่ได้ หมอหมี่เห็นว่าต้องดำเนินการเร่งด่วนแต่เป็นการลัดคิวทำให้เกิดความไม่พอใจ ทำให้ทางโรงพยาบาลย้ายเธอไปแผนกฉุกเฉิน ผู้กองสิงรู้สึกผิด และหมอหมี่บอกว่าพบกันให้น้อยลง เพราะเจอกันทีไรมีแต่เรื่องทุกที  ผู้กองแอบดักรอหมอหมี่ตอนออกเวรปั่นจักรยานกลับที่พัก ผู้กองจึงขอไปส่ง นางของีบระหว่างทาง นางเน้นย้ำต้องอยู่ห่างกันไว้ แต่ก้อแชทคุยกันตลอด ผู้กองดักหมอหมี่แต่เธอมากับอาจารย์หมอเซ่า
      เมื่อหมอหมี่ต้องทำการรักษาเด็กน้อยที่ใช้ยาเยอะมาก อย่างเร่งด่วน ผู้กองสิงและตำรวจรวมถึงอาจารย์เซ่าได้ช่วยกันระดมยาจากที่ต่างๆมาช่วยชีวิตเด็กจนสำเร็จ
     เมื่อเสี่ยวเซี่ยจะย้ายออกจากห้องเช่า หมอหมี่จำเป็นต้องออกหาที่อยู่ใหม่ เพื่อนหมอได้แนะนำห้องปล่อยเช่าที่ถูกใจนาง เพราะอยู่ใกล้ที่ทำงานด้วย
       และแล้วพี่สาวสิงเค่อเหย่า ได้กลับมาและเจอกับหมอเซ่าที่งานสัมมนาเครื่องมือแพทย์  หมอเซ่าขึ้นรถผิดคันเพราะเหมือนกัน รุ่นเดียวกัน แท้จริงทั้งคู่คิดแฟนเก่ากัน มีรสนิยมเหมือนกันนั่นเอง หมอหมี่เช่าห้องของผู้กองสิงอยู่ โดยห้ามเปิดห้องหนึ่ง ผู้กองซู่เป็นคนเฉลยบอกเองว่าห้องที่หมอหมี่เช่าเป็นห้องของผู้กองสิง  ผู้กองซู่และเสียวเซี่ยแอบคบกัน ผู้กองแอบมาเปลี่ยนหลอดไฟให้ทำให้เจอกัน ผู้กองยอมรับว่าปล่อยเช่าห้องจริง และจัดเตรียมเครื่องอำนวยความสะดวกให้อย่างเต็มที่ 
      หมอหมี่อยู่เวรฉุกเฉินต้องออกไปช่วยตัวประกันที่ชานเมือง ผู้กองสิงเป็นคนสวมชุดเพื่อความปลอดภัย พร้อมใส่ไมค์ และปลอบนางว่า “มีผมอยู่คุณไม่เป็นอะไรแน่นอน”หมอหมี่มองผู้กองตอนมีผ้าปิดจมูก และพร้อมเดินไปหาตัวประกัน เมื่อช่วยเหลือตัวประกันได้แล้ว หมอหมี่ทำแผลให้ผู้กองแล้วลองเอามือบังจมูกลงมา ทำให้นึกถึงคุณอาตำรวจที่เคยช่วยชีวิตเธอไว้ 
ผู้กองได้รับอนุญาตให้พักรักษาตัว 3 วัน วางแผนรับส่งและจีบหมอหมี่ ทำอาหารให้ทานอ้อนให้ใส่กันเปื้อนให้ หมอหมี่ถามการปฏิบัติการที่จดจำ เขาตอบครั้งที่ช่วยตัวประกันเด็กผู้หญิง และเขายิงโจรตาย
      วันรุ่งขึ้นผู้กองดักรอหมอหมี่และไปทำแผลที่โรงพยาบาล หมอเซ่าชวนหมอหมี่ไปทานข้าวร่วมกับเพื่อที่บ้านทำให้เพื่่อนสาวของเธออิจฉา ส่วนผู้กองสิงพี่สาวพามานัดบอด เมื่อกลับมาถึงบ้านพี่เปิดประตูห้องน้อง เจอหมอหมี่จึงเข้าไปดูพบข้าวของเธอถูกยกมาใช้ ก่อนกลับผู้กองบอกว่าพรุ่งนี้วันหยุดไปเที่ยวกัน

ออกเดท ครั้งที่ 1 ภาระกิจเร่งด่วน
ผู้กองสิงได้มีโทรศัพท์แจ้งภาระกิจด่วน ผู้กองขอโทษหมอหมี่ที่ต้องให้นางลงระหว่างทางทั้งๆที่ฝนตกหนัก และมีเพื่อนมารับแทน แต่หมอหมี่ให้เสี่ยวเซี่ยมา เพื่อนผู้กองก้อมาทั้ง 3 คนพากันไปทานอาหาร ทำให้เพื่อนปิ๊งเสี่ยวเซี่ย ผู้กองเข้ารับการฝึกหลายวันแอบโทรบอกพี่ให้เปิดห้องเขาให้หมอหมี่เข้าไปใช้โน๊ตบุคเขาทำงานได้ 
 
ออกเดท ครั้งที่ 2 พร้อมเลี้ยงรับลูกน้องใหม่
     เมื่อเลิกการฝึกพิเศษผู้กองสิงนัดหมอหมี่มารับประทานอาหารเย็นที่ร้านใกล้ค่าย แต่ลูกน้องจัดเลี้ยงต้อนรับสมาชิกใหม่จึงจำเป็นต้องให้หมอหมี่ทานด้วย
      ตำรวจสาว- หมอหมี่เป็นแฟนผู้กองสิงซินะ
      ผู้กองสิง - ไม่ตอบ
      หมอหมี่ - เป็นครูฝึก
 ทำให้ทุกคนในโต๊ะเริ่มอืดอัด เพราะทุกคนรู้ว่าผู้กองกำลังจีบหมอหมี่เมื่อทานเสร็จทุกคนรวมทั้ง ผู้กองสิงรีบกลับกองร้อย หมอหมี่กลับบ้านเองทั้งที่ฝนตก
     ชายบอกว่าถึงบ้านให้โทรหา ชายคิดทบทวนแล้วคุยแชทกันหลายอย่าง ชายตัดสินใจโทรไปขอโทษ และนัดหมายอีก 2 วันจะเดทกันใหม่

เหตุการณ์แผ่นดินไหว
    แต่แล้วมีเหตุแผ่นดินไหว หมอเซ่า หมอหมี่พร้อมทั้งหมอ พยาบาลอาสาไปช่วยเหลือ เช่นเดียวกับหน่วยSWATได้ไปช่วยผู้ได้รับบาดเจ็บด้วย จนเกิดเหตุเหมืองแร่ถล่ม ผู้กองสิงติดอยู่ภายใน หมอหมี่อาสาเข้าไปช่วย แต่อากาศเหลือเพียง 10 %
ผู้กองสิงได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก แต่เสียสละออกซิเจนที่มีอยู่ให้กับหมอหมี่ แต่หมอหมี่พยายามจะให้เขาใช้ด้วยแต่ออกซิเจนหมด   ผู้กองตัดสินใจบอกรักหมอหมี่ เพราะกลัวจะหมดโอกาสจึงพูดกับหมอหมี่ว่า
       "ผมรู้ว่า...ผมไม่เพอเฟกต์ แต่เพื่อคุณแล้ว
        ผมยินดีที่จะเป็นป้อมปราการที่แข็งแกร่ง..
       ไม่ว่าลม ฝน พัดกระหน่ำผมก็จะยืนหยัดเพื่อคุณ
       ท้องฟ้าที่สดใสไร้เมฆหมอก
       ผมอยากให้คุณอยู่ใต้แสงอาทิตย์
       ท่ามกลางดอกไม้ใบหญ้ามีความสุขไร้ความกังวล
       ถ้าคุณเองก็ชอบผมสักนิดนะ
       รับปากผมได้ไหมทนเพื่อผมสักครั้ง
      “เราจะต้องออกไปให้ได้นะ
      ผมชอบคุณ จะคบกับผมได้ไหม”
   หมอหมี่ - ชอบ ชอบมานานแล้ว
   ซาบซึ้งท่ามกลางความเป็นตายของทั้งสองคน
เมื่อรอดจากเหมืองสู่เต้นท์พักผู้ป่วย
    ผู้กองสิง - “เป็นแฟนผมได้ไหม” พร้อมโชว์ตุ๊กตาที่หมอหมี่เคยมอบให้ลุงตำรวจคือเขานั้นเอง

       “ผมก็ช่วยชีวิตคุณครั้งหนึ่ง
        คุณเคยช่วยชีวิตผมครั้งหนึ่ง”

       “ฉันชอบสิงเค่อเหล่ย” ทั้งสองจึงตกลงปลงใจที่จะคบกัน อยู่ในค่ายช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวต่างเป็นห่วงกัน
ดูแลกัน
  
ผู้กองชายกลับมาเซอร์ไพรส์ --
  กลับมาพร้อมแขนที่บาดเจ็บชายทนไม่ได้ที่เห็นห้องเลอะเทอะ ทำความสะอาดเรียบร้อย  ออกเดทกันหลังจากที่ไปดูหนัง ยิงปืน ในขณะเดินเล่นกันรถจะชนผู้กองหมอหมี่รีบขวางให้ ปกป้องดูแลกัน ซาบซึ้งไปอี้๊ก และแล้วจากการทำผลงานความดีในการออกช่วยเหลือผู้ประสบภัย หมอหมี่ได้กลับไปทำงานที่แผนกศัลยกรรมคนเดิม ทั้งสองมีโอกาสไปออกกำลังกายด้วยกัน
หมอหมี่ปั่นจักรยานไม่ทันระวังจะโดนรถเฉี่ยวผู้กองสิงกอดไว้ทัน ทั้งสองเริ่มรักกัน คุยกัน หมมอหมี่ขยันฝึกฝนโดยการปลอกเปลือกไข่เพื่อให้มือนิ่ง  ส่วนผู้กองก็ฝึกสมาธิโดยการร้อยลูกปัด ทั้งสองเปลี่ยนแปลงตนเองจากไม่ค่อยเล่นโทรศัทพ์ก้อเล่นไปยิ้มไป อาบน้ำ แต่งตัวหอมๆ
 หมอหมี่: สิงเค่อเหล่ย ฉันขอถาม ครั้งแรกที่ฉันเจอคุณฉันก็น้ำหู
              น้ำตาไหลไปหมด ร้องแบบกระจกงอแงเลย
               จากนั้น  พอมาเจอคนอีกครั้ง ฉันก็มอมแมมดูโง่มาก   
               คุณชอบอะไรในตัวฉันหรอคะ
ผู้กองสิง : ชอบทุกอย่าง ยิ้มๆๆๆ
          พี่สาวมาเจอทั้งสองคนกำลังสวีทกัน
 ผู้กองสิง-  นี่แฟนผม
 พี่สาว -  เขารู้กันหมดแล้ว ต่อไปให้แนนำเป็นทางการนะ

ผู้กองมอบช่อดอกไม้ ชดเชยครั้งก่อนให้ทานตะวัน ครั้งนีจึงเป็นดอกเล็กๆ หมอหมี่kiss กันและกัน หมอหมี่ร่วมผ่าตัดให้คนไข้ แต่คนไข้ไม่รักษาต่อแล้ว หมอหมี่อ่านจดหมายแล้วเศร้ามาก ไปหาผู้กองที่กองร้อย กอดขอกำลังใจ

เดทกัน ครั้งที่ 3  Happy Birthday
  เมื่อถึงวันเกิดหมอหมี่จึงวางแผนกับผู้กองสิง เพื่อให้หหมอเซ่า กับ สิงเค่อเหย่าพี่สาวได้คืนดีกัน  ผู้กองซู่และเสี่ยวเซี่ยไปเที่ยวด้วยกัน ผู้กองแฮปปี้เบิร์ดเดย์หมอหมี่อย่างโรแมนติก

การ์ด
  “วันนี้เป็นวันเกิดแรกที่ผมได้ฉลองกับเธอหวังว่าต่อจากนี้ไปทุกวันเกิดของเธอคงจะได้อยู่ข้างๆเธอทุกครั้ง”

 “หมอหมี่ชอบปกป้องคนอื่น ต่อไปผมจะดูแลคุณเอง”

    ผู้กองสารภาพรักผ่านนกกระดาษที่พับไว้ อย่างลึกซึ้งเลยนะ
     ต่อมาผู้กองสิงฝึกซ้อมเพื่อแข่งขันระหว่างทีมหน่วยพยัคฆ์ทมิฬ กับ หน่วยพลพยัคฆ์ เขามือสั่น และเบลอ ไปหาหมอจึงรู้ว่าตนเองเป็นเนื้องอกในสมอง ทั้งสองมีภาระงานมีความเครียดมาก ประกอบกับหมอหมี่ถูกลบข้อมูลวิทยานิพนธ์ แต่หมอเซ่าช่วยเหลือนางได้ทัน

      เมื่อผู้กองบอกหมอหมี่ว่าตนเป็นเนื้องอกในสมอง
นางจัดการดำเนินการผ่าตัดโดยหมอเซ่า ได้อย่างเรียบร้อย
ซึ่งผู้กองสิงขอหมอหมี่ว่า เมื่อเขาฟื้นจากการผ่าตัดขอให้ได้เจอะหน้าหมอหมี่เป็นคนแรก โมเม้นต์ให้กำลังใจกันน่ารัก
       หลังผ่าตัดเสร็จผู้กองสิงรีบกลับค่ายเพื่อทำการฝึกแต่เขายังไม่สามารถควบคุมได้มือสั่นไม่นิ่ง ประกอบปืนจนได้รับบาดเจ็บเขามีความเครียดสูงมาก จึงตำหนิหมอหมี่ว่าบอกเรื่องมือสั่นกับเพื่อนร่วมงานเขา ทำให้หมอหมี่น้อยใจ
      แต่เมื่อผู้กองถามผู้กองซู่จึงรู้ความจริงว่าไม่ได้คุยกัน
เขาจึงรีบกลับมาขอโทษหมอหมี่ แต่เกิดเรื่องเกี่ยวกับคนไข้หมอหมี่คิดฆ่าตัวตาย จึงต้องร่วมมือกันช่วยเหลือผู้ป่วย ปรับความเข้าใจกันเรียบร้อย ผู้กองขอโทษที่เข้าใจผิดที่คิดว่าหมอหมี่บอกเรื่องมือสั่น  กับผู้กองซู่

  หมอหมี่ : ฉันไม่ได้เก็บมันมาใส่ใจ ฉันก็แค่กลัวคุณ
                  ทุกข์ใจ  ต่อไปฉันจะเข้าใจคุณให้มากขึ้น
                  งั้นตอนนี้เราดีกัน หรือยัง                   
ผู้กองสิง : เราก็ไม่ได้ทะเลาะกันไหมอะ

   ผู้กองสิงได้พักเพื่อฟื้นฟูร่างกาย แต่มีแผนเอาเครื่องออกกำลังกายไปติดไว้ที่ห้องเช่าหมอหมี่ หมอหมี่ให้กำลังใจผู้กองไม่บอกวิธีการที่จะทำให้มือหายสั่นได้
      หมอหมี่นวดมือ : มือของคุณมีเอาไว้จับปืน จะต้องใช้มันปกป้องคนตั้งมากมาย จะบาดเจ็บอีกไม่ได้แล้วนะ

เอาเครื่องออกกำลังกายมาไว้ในห้องของหมอหมี่ บอกเพื่อนว่า “ไม่เจอ ไม่เลิกลาจะเพราะความรักไง”
        และแล้วพระเจ้าก็ส่งบทพิสูจน์รักแท้    ส่งสองพี่น้องที่เคยเล่นกันตั้งแต่สมัยเด็กและพ่อของนางก็เป็นตำรวจที่มีบุญคุณกับผู้กองสิงตอนนี้เธอไม่เหลือใครและไม่มีที่พักจึงต้องม าพึ่งพิงเขาและเพื่อให้พี่สาวรักษาตัวแต่ 2 สาวมีแผนที่จะให้จับผู้กองสิงเพื่อไว้เลี้ยงดู แต่ผู้กองสิงฉลาดจัดการได้รอดจากเงื้อมมือสองสาวโดยมีพี่สาวช่วยอีกทาง ผลการแข่งขันประเภททีมชนะเลิศ และเดี่ยวผู้กองได้ที่ 3 เป็นช่วงที่สวีทกันมาก เข้าใจกันถึงอาชีพที่แตกต่างกัน หาเวลาพร้อมกันได้ยากมาวางแผนไปเที่ยวทะเลกัน 
     หมอหมี่ขอให้ผู้กองอวยพร “วันนี้อย่ามีโอทีนะ” แต่แล้วผู้กองมีงานด่วนเกี่ยวกับการค้าอาวุธเถื่อน ได้แต่ส่งข้อความว่าไม่กลับไปหา ส่วนหมอหมี่ทำงานผ่าตัดเร่งด่วนไม่ได้อ่านแชท ขาดการติดต่อกัน ส่วนหมอหมี่ถูกกักตัวเพราะติดเชื้อจากผู้ป่วยอาการแย่มาก ๆ  นางได้แต่รอ อ่านแชทสุดท้าย ….วันนี้ที่กองมีธุระไม่กลับไปแล้วนะครับ... ผู้กองสิงทราบเรื่องป่วยของหมอหมี่จากเพื่อนสาวจึงได้มาดูแล ผู้กองเห็นหมอหมี่ลงมาตักซุปทาน เขาได้แต่ขอโทษที่ไม่รู้ว่าหมอหมี่ป่วยถูกกักตัว เป็นแฟนที่ดีไม่ได้เลย
      ผู้กอง - กลัวมากไหม
      หมอ -  ฉันไม่กลัวหรอกค่ะ แค่วันแรกกลัวนิดหน่อยว่า
                 จะได้รับเชื้อ  แต่ที่จริงฉันกลัวมากกว่าก็คือ
                 ออกปฏิบัติภารกิจจะบาดเจ็บไหม
                  ไม่เป็นไรใช่ไหม
      ผู้กอง- ไม่เป็นไรครับ
       หมอ - งั้นก็ดีแล้ว
       ……..
       ……
     ผู้กอง- คุณนี่ เป็นไข้ก็ไม่บอกผมสักคำ
     หมอ - ที่จริงแล้ว โทรหาคุณแล้ว
                แต่มือถือคุณปิดเครื่อง
               ฉันจึงรู้ว่า คุณออกปฏิบัติภารกิจฉันไม่กล้า
               บอกคุณแล้ว ฉันกลัวฉันกลัวว่าคุณจะเป็นห่วงฉัน
      ผู้กอง-  ผมรู้สึกผิดมากเลยนะ ไม่ใช่แฟนที่ดีเลยสักนิด
     หมอ- ไม่ใช่หรอก
   
     ทั้งสองเข้าใจกัน ดูแลกัน  เมื่อทั้งสองว่างตรงกัน วางแผนไปเที่ยวขับรถวางแผนเที่ยวอย่างมีความสุขแต่สุดท้ายผู้กองมีภาระกิจด่วนอีกแล้ววว
      ผู้กอง - ขอโทษ
     หมอ- จะขัดคำสั่งเพราะคบกับฉันได้อย่างไร
     ผู้กอง-ที่ว่าโลกของคนสองคน แต่ใช้ชีวิตตัวคนเดียว
                ที่พูดถูกเป๊ะเลยนะครับ

ความรักของผู้กองซู่ กับเสี่ยวเซี่ย ก้าวหน้ามาก จนหมอหมี่อิจฉา
และแล้วหมอเซ่าก็แจ้งข่าวดีให้กับหมอหมี่ว่าสอบผ่านชิงทุนไปเรียนต่ออ้ายหลุนเรียนหนักมาก 2 ปี  หมอเซ่าแนะนำว่ามันคือความก้าวหน้าของอาชีพนะ นางเริ่มเครียด
      ผู้กองสิงรูปแหวนให้หมอหมี่แสดงความคิดเห็น ว่าเลือกวง ทำให้เธอเข้าใจผิดคิดว่าผู้กองสิงจะซื้อแหวนหมั้นให้เธอ 
ความจริงแล้วเป็นผู้กองซู่จะซื้อแหวนหมั้นเสี่ยวเซี่ย ผู้กองบอกกับหมอหมี่ว่ามาเลือกซื้อแหวนหมั้นเป็นเพื่อนผู้กองซู่  หมอหมี่แอบน้อยใจจึงเข้าเวรต่อ  ผู้กองกลับไปคิดไม่ตก พี่สาววนับสนุนให้ขอหมอหมี่ได้แล้ว
       พี่สาว     - คบกันนานแค่ไหน
       ผู้กองสิง -อยู่ด้วยกันมา 4-5 เดือนแล้วและรู้จักกันมา
                     ก็รวมเป็น 3 ปี
 เดี๋ยวพี่จัดการเรื่องแหวนให้หมอหมี่กลุ้มใจเรื่องไปเรียนต่อปรึกษาหมอเซ่า ปรึกษาเสี่ยวเซี่ย
     หมอเซาและ สิงเค่อเหย่าก็ได้ตกลงคบกัน
      ด้านเสี่ยวเซี่ย ผู้กองซู่ขอแต่งงาน
ที่จริงผมชอบคุณมาตั้งนานแล้ว แต่ผมไม่กล้าพอที่จะบอกคุณ

…….. ไม่ว่าเวลาที่เหลือของเราสองคน
          จะเหลือแค่ 5 นาที หรือว่า 50 ปี
        ผมก็ตัดสินผมก็ใจได้แล้ววันเวลาต่อจากนี้ไป
        ให้ผมอยู่เป็นเพื่อนคุณนะครับ
        ขอบคุณมากที่สอนให้ผมรู้จักความรัก
                                                             ผู้กองซู่

        ผู้กองสิงเข้ามาได้ยินตอนที่พี่สาว คุยกับหมอเซ่าเรื่องที่
ส่งเสริมให้หมอหมี่ไปเรียนต่อที่เมืองนอก ทั้งสองจึงอธิบายถึงความก้าวหน้าที่ของหมอหมี่ได้ทุนไปเรียนต่อ ผู้กองสิงคิดมาก จนไม่กล้ากลับไปที่ห้อง ในขณะเดียวกันหมอหมี่เห็นแหวนในห้องของผู้กอง แต่นางคิดไม่ตกเรื่องได้ทุนไปเรียนต่อ เมื่อเปิดประตูเจอหมอเซ่าและพี่สาว บอกว่าเขารู้เรื่องเธอจะไปเรียนต่อแล้ว หมอหมี่ได้บอกกับเขาว่าเธอได้ทุนไปเรียนต่อเมืองนอก 

หมอหมี่- ฉันไม่ไปแล้ว …… เขาได้แต่กอดเธอไว้

•  ฉันขอโทษ
• ฉันไม่ควรปิดบังคุณ
• ฉันไม่ได้คิดว่าตัวเองจะสอบติด
• แต่การได้ไปสถาบันวิจัยก็คือความฝันของฉัน
• ฉันพบว่าฉันเองไม่ได้ดีใจขนาดนั้น
• ฉันกลัวจะต้องแยกจากคุณมากกว่า
• เพราะงั้นฉันตัดสินใจว่าจะไม่ไปแล้วพรุ่งนี้จะไปบอกหมอเซ่า

แผนขอแต่งงานพัง ไม่อยากให้หมอหมี่กดดันเกินไป และถือโอกาสการไปเรียนต่อเพราะการแต่งงาน ไหนๆคุณก็รู้แล้วเอาไงต่อดี


หมอหมี่ - สิงเคอเหล่อ คุณยินดีจะรับฉันเป็นภรรยาไหมคะ
             ไม่ว่าจะยากจนหรือร่ำรวย   
             ไม่ว่าจะเจ็บป่วยหรือแข็งแรง
           คุณก็จะรักฉันดูแลฉัน เคารพฉัน ยอมรับฉัน
           จนถึงวันสุดท้ายของชีวิต
          ถ้าคุณยินดีเอานิ้วก้อยของเกี่ยวก้อยกับฉัน
       คุณสัญญากันว่าอีก 2 ปีหลังจากฉันเรียนจบ
       คุณจะขอแต่งงานอย่างเป็นทางการ
ผู้กอง -ในฐานะผมเป็นตำรวจจุดยืนของผมหนักแน่นผมจะรอคุณครับ
 
 วันหนึ่งหมอหมี่ไปส่งเพื่อนลองชุดแต่งงาน เสี่ยวเซี่ยวคะยั้น คะยอให้นางรองสวมชุดแต่งงานดู ผู้กองสิงเขามาเจอ
ผู้กอง- ผมพลาดแล้วที่ให้คุณไปเรียนต่อเมืองนอก แต่คุณต้องไปในนามผู้หญิงของสิงเค่อเหล่ย ผู้กองเอาแหวนใส่สร้อยคอคล้องให้เธอ สวีทอีกแล้วววว
          ใกล้วันออกเดินทางหมอหมี่เริ่มเป็นกังวลกับการจากลาจะมาปลอบโยนและเล่าอดีตที่เคยไปเรียนที่ศูนย์การแพทย์อ้ายหลุนและต้องเลิกรากับสิงเค่อเหย่า เขายินดีแนะนำเธอเพราะเธอเป็นหมอที่ดี  ในขณะที่สิงเค่อเหย่าก้อเล่าเรื่องในอดีตต้อนแยกจากกันกับหมอเซ่าให้ฟัง ในงานแต่งเพื่อนเสี่ยวเซี่ย กับผู้กองซู่

- หมอหมี่ทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย เดินมาหาเขาที่หน้าประตู กอดเขาแล้วร้องไห้ เพราะไม่ต้องพูดอะไร กอดแล้วสบายใจ กอดแล้วอบอุ่น

ผู้กองสิง - คุณชอบเศร้าเพราะโรคภัยไข้เจ็บของคนอื่น
                ตลอด เลยแต่ถึงอย่างไร 
               ผมก็ชอบท่าทีตอนคุณยิ้มมากกว่าอยู่ดี
               ทุกครั้งที่ทำภารกิจต่อให้เป็นเรื่องที่อันตรายแค่ไหน                   ขอแค่นึกถึงรอยยิ้มของคุณ
               ผมก็สามารถเผชิญหน้าได้สบายๆเลย
               เพราะอย่างนั้นยิ้มเยอะๆนะครับ

ผู้กองขอให้หมอหมี่เดินไปตรงจุดที่เคยกระโดดสูงก็พบว่า
                   “หมอหมี่แต่งงานกับผมนะครับ”

ผู้กองสิง ขอแต่งงาน 
    "การได้พบคุณ คือสิ่งที่ทำให้มีความสุขที่สุดในโลกแล้ว       ผมอยากยืดเวลาของความสุขนี้ออกไปอีก
     ไม่รู้ว่า แหวนวงนี้ บวกกับความหล่ออย่างผมอีกคน
     พอจะขอ  ให้หมอหมี่มอบสถานะหนึ่งให้ผมได้หรือเปล่า
   ให้ผมเดินไปเป็นเพื่อนคุณจนวันสุดท้ายของชีวิตนะครับ      ยินดีจะแต่งงานกับผมไหมครับ
 หมอหมี่-ฉันยินดี

ผู้กองสิง - ผมได้เลือกสถานภาพ การเป็นตำรวจ
                แต่ก็เพราะสถานการณ์แบบนี้
                ผมเลยรู้สึก ผิดต่อคุณนิดหน่อยเพราะ
                ผมไม่สามารถยกคุณสำคัญเป็นอันดับแรกได้ 
                ตลอดเวลา 
               คุณจะยินดียอมรับคนอย่างผมที่ไม่ได้เป็นของ                   คุณโดยสมบูรณ์แบบหรือไม่ 
               Happy Ending