Love is All Around.
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
7 ธันวาคม 2555
 
All Blogs
 
ลองขับ"ซิตี้ CNG"ประหยัดดีแต่เติมบ่อย

ลองขับ

โดย...นิธิ ท้วมประถม

จะ ว่าไปแล้วปัจจุบันนี้ มีรถยนต์ที่ติดตั้งระบบก๊าซซีเอ็นจี หรือก๊าซธรรมชาติ จากโรงงานออกสู่ตลาดกันมาไม่ใช่น้อยแล้วนะครับ ซึ่งสาเหตุหลักที่ค่ายรถยนต์ยอมดัดแปลงรถให้ติดตั้งระบบก๊าซมาจากโรงงาน พร้อมการรับประกันรถยนต์เหล่านี้ เหมือนกับรถยนต์ปกติ คือ 3 ปี 1 แสนกิโลเมตร ก็เพราะว่าราคาก๊าซซีเอ็นจีนั้นต่ำเหลือเกิน คือ กิโลกรัมละ 10 กว่าบาทเท่านั้น ขณะที่ราคาน้ำมันไม่ว่าจะเป็นอีอะไรก็แล้วแต่ ทะลุ 30 บาทไปเกือบ 40 บาทต่อลิตรแล้วทั้งนั้น

ราคา พลังงานที่แสนถูกนี่เอง ทำให้ลูกค้าต้องการรถยนต์ที่ติดระบบก๊าซซีเอ็นจีมากขึ้นเรื่อยๆ และค่ายรถยนต์เองก็ตอบสนองในเรื่องนี้เช่นกัน

ฮอนด้า ซิตี้ ซีเอ็นจี คือ รถติดก๊าซซีเอ็นจีรุ่นแรกที่บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) พัฒนาออกมาทำตลาด และเชื่อว่าจะทำออกสู่ตลาดเพียงรุ่นเดียวเท่านั้นครับ เน้นเรื่องของความประหยัดกันไปเลย

ฮอนด้า ซิตี้ ซีเอ็นจี นั้นมีรูปร่างหน้าตาเหมือนซิตี้รุ่นปกติทุกประการ ไม่มีอะไรแตกต่าง จะมีก็แต่เพลต โลโก้ คำว่า CNG ที่ฝากระโปรงท้ายเท่านั้น ที่จะเป็นตัวบอกให้เรารู้ได้ว่า ซิตี้ ที่เห็นอยู่เป็นรุ่นซีเอ็นจี

สำหรับ ถังบรรจุก๊าซซีเอ็นจีนั้นถูกติดตั้งอยู่บริเวณที่เก็บสัมภาระด้าน หลัง โดยขนาดของถังนั้นมีขนาดความจุ 65 ลิตร ซึ่งผมเปิดฝากระโปรงท้ายดู ก็เห็นว่ามีการเก็บงานที่เรียบร้อยมากครับไม่เห็นถังก๊าซเลย มีแผงกั้นป้องกันการกระแทกของสัมภาระหลังเป็นอย่างดี แต่สิ่งที่เสียไปแบบต้องยอมรับคือพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังที่เหลืออยู่ ไม่มาก แต่ผมเชื่อว่าก็พอเพียงสำหรับการใช้งานทั่วไปแน่นอน

แต่ ถ้าไปเที่ยวต่างจังหวัดแบบทั้งก๊วน 4 คน ก็อาจจะมีปัญหากับพื้นที่เก็บของฝากกับกระเป๋ากันบ้าง ก็แก้ปัญหากันไปเป็นครั้งคราวแล้วกันไม่ใช่เรื่องใหญ่


ก้าว เข้ามาภายใน ทุกอย่างเหมือนกับซิตี้ รุ่นท็อป ครับ แผงหน้าปัด คอนโซล เครื่องเสียง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน นั่นหมายความว่าฮอนด้านำฮอนด้า ซิตี้รุ่นท็อปมาติดตั้งซีเอ็นจี ไม่ใช่เอารุ่นธรรมดามาติดตั้ง ก็แน่นอนครับ เป็นหลักการตลาดที่ต้องการให้ซิตี้ ซีเอ็นจีนั้นมีราคาสูงที่สุดในกลุ่มของซิตี้ เพื่อไม่ให้ซิตี้ ซีเอ็นจีไปกินตลาดซิตี้รุ่นธรรมดา

ภาย ในจะมีแตกต่างกัน ก็บริเวณคอนโซลด้านขวามือที่จะมีแป้นควบคุมระบบเชื้อเพลิงว่าเราจะใช้ พลังงานจากน้ำมัน หรือซีเอ็นจี โดยแป้นนี้จะเป็นมาตรวัดระดับก๊าซซีเอ็นจีไปในตัวด้วย ซึ่งก็ไม่มีปัญหาครับ ถ้าเรากดใช้ก๊าซซีเอ็นจี ไฟแอลอีดีก็ขึ้นสว่างเรียงกัน 4 จุด นั่นหมายความว่าก๊าซเต็มถัง พอใช้ไปเรื่อยๆ เมื่อปริมาณก๊าซลดลง ไฟก็จะดับลงไปทีละจุดครับ

สตาร์ต เครื่องก่อนเลย ยังไม่ต้องไปกดปุ่มปรับมาใช้ก๊าซนะครับ เพราะระบบตั้งไว้อัตโนมัติอยู่แล้วว่าให้สตาร์ตด้วยน้ำมันก่อน และพอขับออกตัวไปได้สักระยะระบบจะตัดไปที่ระบบก๊าซเองครับ

ซึ่ง การตัดระบบไปที่ระบบก๊าซนั้นก็ตัดได้อย่างราบเรียบดีทีเดียว ไม่ปรากฏอาการสะดุดของเครื่องยนต์ให้ได้เห็นเลย ก็ต้องยอมรับกับฝีมือของวิศวกรฮอนด้า ที่ปรับจูนกล่อง ECU ที่ควบคุมการจ่ายก๊าซให้กับหัวฉีดในเครื่องยนต์ได้เป็นการลงตัวมาก


ใน ช่วงแรกของการลองขับ แน่นอนครับ ยังเป็นการขับในเมืองเพื่อจะดูในเรื่องของความนุ่มนวลของช่วงล่างว่าจะยัง เหมือนกับซิตี้รุ่นปกติหรือเปล่า ก็ต้องบอกได้เลยครับว่าน้ำหนักถังที่เพิ่มขึ้นมาอีก 80 กก.นั้น ไม่ได้ทำให้ช่วงล่างของซิตี้ ซีเอ็นจี เปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด

ทั้ง นี้ เพราะฮอนด้าได้ออกแบบและตั้งค่าระบบรองรับแรงสะเทือนใหม่ทั้งหน้าและหลัง พร้อมกับการยัดคานเสริมความแข็งแกร่ง (Cross Bar) ภายใต้โครงสร้างตัวรถด้านท้าย เพื่อให้รถยังนุ่มนวลดีอยู่ครับ จะมีก็เวลาลงจากลูกระนาดหรือคอสะพานคม ก็จะรู้สึกได้ว่าด้านท้ายรถหนักๆ อยู่ แต่การใช้งานจริงแยกไม่ออกครับ

มี หลายคนถามว่าแล้วในเรื่องของอัตราเร่งล่ะ มีปัญหาหรือเปล่า ก็ต้องบอกว่าเครื่องยนต์ -VTEC 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 102 แรงม้าที่ 6,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 12.9 กก./ม.ที่ 4,800 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ Grade Logic Control ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เดิมของซิตี้นั้น ก็ทำงานเหมือนเดิมครับ แต่อาจจะไม่ปรู๊ดปร๊าดเท่าเดิม ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเมื่อใช้เชื้อเพลิงซีเอ็นจีแล้ว รถก็จะตื้อๆ ไปบ้าง แต่ไม่ตื้อถึงขนาดน่ารำคาญ หรือเร่งแซงไม่ออก ยังคงเร่งแซงได้ แต่ต้องกะระยะหน่อยเท่านั้น

นอก จากนี้ สาเหตุที่ทำให้ซิตี้ ซีเอ็นจี ไม่ปรู๊ดปร๊าดเหมือนรุ่นปกติ ก็เพราะเจ้าน้ำหนักถังซีเอ็นจีที่ประจำการอยู่ 80 กก.ด้านท้ายรถอยู่ตลอดเวลา ก็ทำให้เกิดอาการแบกน้ำหนักกันไปบ้างครับ

การ ขับทางไกลทำได้ดีพอสมควร ผมอัดเจ้าซิตี้ ซีเอ็นจี นี้ไปแก่งกระจาน เพื่อขับบริโอ้ อเมซ 4 ประตู ก็ไปได้แบบสบายๆ ไปด้วยความเร็วประมาณ 140 กม./ชม. ซึ่งก็ถือว่าเป็นความเร็วที่ใช้งานได้ในการเดินทางเส้นทางต่างจังหวัด

การ ทรงตัวไม่มีปัญหาครับ แต่ระยะเบรกอาจจะต้องเพิ่มระยะเบรกเอาไว้สักหน่อย เพราะรถหนักครับใช้ระยะเบรกมากกว่าปกตินิดหน่อย การทรงตัวดีครับ ไว้ใจได้เลย

มา ถึงเรื่องของการสิ้นเปลืองกันบ้าง เวลาเติมก็เติมเหมือนกับเติมน้ำมันครับ เพราะช่องใส่ก๊าซอยู่ตรงนั้น ไม่ต้องเปิดฝากระโปรงหน้าให้เสียกิริยา ส่วนค่าก๊าซเตรียมแบงก์ร้อยใบเดียวพอ เต็มถัง 90 บาทหรือ 100 บาทนิดๆ ในชีวิตไม่เคยเข้าปั๊มแล้วจ่ายเงินแค่นี้เลย ถูกจริงครับ แลกกับระยะทางหากวิ่งแบบไม่ซิ่งมากนักก็ประมาณ 160 กิโลเมตรก็หมดแล้ว แต่ถ้าวิ่งแบบหนักๆ ระยะทางก็ลดลงมาเหลือประมาณ 145 กิโลเมตรครับ


ส่วน ตัวแล้ว ผมประทับใจกับราคาก๊าซที่แสนจะถูกอย่างนี้ เข้าปั๊มก๊าซแบบมีความสุขเวลาจ่ายจริงๆ แต่ปัญหาคือหาปั๊มเอ็นจีวียากครับ แถมคิวยาวเสียอีก และก็ต้องเติมบ่อยพอสมควร เฉลี่ยแล้วต้องเติมสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ถ้าเส้นทางการขับรถของท่านผู้อ่านมีปั๊มเอ็นจีวีอยู่และมีเวลาจอดรอเติม ครั้งละ 20-30 นาที ล่ะก็เอาเลยครับ

ถามว่าแล้วเครื่องจะทนหรือเปล่า ฮอนด้าบอกว่าได้พัฒนาวาล์ว บ่าวาล์ว และเลือกใช้หัวเทียนที่ทนต่อสภาวะการใช้ก๊าซมาเรียบร้อยแล้วครับ

สนนราคา ฮอนด้า ซิตี้ ซีเอ็นจี มีให้เลือก 2 รุ่น คือ S CNG ราคา 6.59 แสนบาท และรุ่น V CNG ราคา 7.06 แสนบาท ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้สามารถคืนภาษีรถคันแรกได้ 1 แสนบาท

ลอง คิดดูครับว่าเมื่อบวกราคาที่ติดตั้งก๊าซไป 5 หมื่นบาทจากราคารถรุ่นปกติ แล้วคำนวณกับค่าก๊าซที่ถูกกว่าน้ำมัน ผมว่าถ้าใช้รถเยอะคุ้มแน่ แต่ถ้าใช้แค่ขับบ้าน-ที่ทำงาน หรือแค่รับส่งลูก ไปตลาด ซื้อกับข้าววิ่งปีละหมื่นกว่ากิโลเมตร ไม่คุ้มครับ



By
Posttoday

//www.roddb.com/images/banners/RodDB_88x31.gif




Create Date : 07 ธันวาคม 2555
Last Update : 7 ธันวาคม 2555 9:39:39 น. 0 comments
Counter : 5901 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

poprockcool
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]




พื้นที่โฆษณาพิเศษ
Friends' blogs
[Add poprockcool's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.