Love is All Around.
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
14 ธันวาคม 2554
 
All Blogs
 
TOYOTA GT86 IN TOKYO MOTOR SHOW 2011

Pic_223244


สิ้นสุดช่วงเวลาแห่งการรอคอยของขาซิ่งทั่วโลก นี่คือรถสปอร์ตคูเป้รุ่นล่าสุดของ Toyota ที่เข้ามาสานต่อตำนานของ Celica และ Corolla AE86 มันคือ Toyota GT86 รถสองประตูขับเคลื่อนล้อหลังเครื่องยนต์สูบนอนที่ใช้เทคโนโลยีร่วมกับ Subaru BRZ ซึ่งถูกนำมาจัดแสดงก่อนผลิตออกขายจริงในช่วงกลางปี 2012 ในงาน Tokyo Motor Show 2011...

หากคุณเป็นคนที่ชอบความเร็วของ Toyota supra / Toyota MR2 / Toyota Celica รถสปอร์ตในตำนานของค่ายสามห่วง นับจากปี 2012 ในช่วงกลางปีเป็นต้นไป คุณก็จะได้พบกับสปอร์ตคาร์สองประตู เครื่องยนต์สูบนอนวางด้านหน้าขับเคลื่อนล้อหลังพลัง 200 แรงม้าที่เข้ามาสานต่อประวัติศาสตร์มอเตอร์สปอร์ตของ Toyota และนี่คือรถ Toyota TG86 ซึ่งถือกำเนิดขึ้นจากความร่วมมือของวิศวกรจาก Toyota และ Subaru รังสรรค์รถคูเป้ที่ถูกออกแบบให้ขับขี่ได้สนุกสนานตามสไตล์รถเล็กน้ำหนักเบา แต่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพทั้งจากประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง ระบบกันสะเทือน รวมถึงอุปกรณ์ภายในที่ถูกออกแบบให้มีความเร้าใจยามขับขี่ใช้งาน




Toyota 2000GT 1967




Toyota Supra JZA 80 1991




Toyota MR2 SW20 1995




Toyota MRS ZZW30 2003




Toyota Celica T200 1997




Toyota Celica T230 2006
นับ เป็นเวลากว่า 40 ปีมาแล้วที่ Toyota เคยเป็นเจ้าแห่งรถสปอร์ต เริ่มตั้งแต่ตัวรถรุ่น GT2000 ในช่วงกลางยุค 1960 มาจนถึงสปอร์ตคาร์พลังสูงรุ่น Supra รถคูเป้สองประตูเครื่องยนต์แถวเรียง 6 สูบอัดเทอร์โบที่ร้อนแรงในยุค 90' ตามติดมาด้วยรถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางลำอย่าง Toyota MR2 ทั้งสามโมเดล โดยเริ่มจาก MR2 AW11 ในช่วงปลายปี 1984 ต่อมากับความงดงามปราดเปรียวและลงตัวในโมเดลที่ 2 นั่นก็คือ Toyota MR2 SW20 1989-1997 สปอร์ตคาร์เครื่องวางกลางที่ดุดันมากที่สุดในรุ่นเครื่องยนต์ติดเทอร์โบ ปริมาตรความจุไม่เกิน 2,000 ซีซี และ MR2 รุ่นสุดท้ายเจ้าของรหัส ZZW30 ซึ่งในเมืองไทยใช้ชื่อว่า MRS รวมถึง Toyota Celica อีก 7 โมเดล เช่น A20-35 Series 1970-1977 / A40-A50 1977-1981 / A60 Series 1982-1985 / T160 1985-1989 / T180 1989-1993 / T200 1993-1999 / T230 1999-2006 หลังจากนั้นค่าย Toyota จึงทำการยกเลิกสายการผลิตรถสปอร์ตทั้งหมดลงอย่างสิ้นเชิงเนื่องจากประสบกับ ปัญหาขาดทุน




Toyota Corolla AE86 1983-1987




Toyota FT 86 Concept 2009-2010




Toyota GT86 2011
หลัง จากขั้นตอนของการพัฒนา วิจัย และทดสอบอย่างหนักของวิศวกรจากค่าย Toyota และ Subaru ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากบริษัท Toyota เข้าไปร่วมทุนกับกลุ่มบริษัท Fuji Heavy Industries ผู้ผลิตยนตรกรรมคุณภาพสูงอย่าง Subaru ก่อกำเนิดสปอร์ตคาร์ทรงสวยสมรรถนะเป็นเลิศ ซึ่งตัวเลขสัญลักษณ์โมเดล 86 ของเจ้า GT ตัวใหม่คันนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากรถรุ่น Corolla AE86 ที่ Toyota ผลิตออกจำหน่ายในปี 1983-1987 และนับได้ว่า เจ้า AE86 คือรถคูเป้รุ่นสุดท้ายในตระกูล Corolla ที่ใช้ล้อคู่หลังเป็นล้อขับเคลื่อน มันเป็นรถยนต์ที่มีองค์ประกอบแบบง่ายๆไม่สลับซับซ้อน อุปกรณ์ต่างๆของ AE86 ถูกเน้นหนักไปทางกลไกมากกว่าระบบอิเล็กทรอนิกส์ตามยุคสมัยที่ผ่านมา ตัวถังน้ำหนักเบา เครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียงไม่ติดตั้งระบบอัดอากาศใดๆ ทั้งสิ้นแต่มีรอบที่จัดจ้านมากกว่าปกติ และขับขี่ได้อย่างสนุกสนานเร้าใจจนยากที่จะลืมเลือน






ประธาน บริหารของบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่แห่งโลกยนตรกรรม Mr. Akio Toyoda ผู้มีจิตใจที่หลงใหลในวงการมอเตอร์สปอร์ตมาช้านานก่อนที่จะเข้ามากุม บังเหียนค่าย Toyota ในเจเนอเรชั่นที่ 3 ของตระกูล Toyoda มีความต้องการอย่างแรงกล้าที่จะทำให้กลุ่มคนรุ่นใหม่หันกลับมานิยมชมชอบรถ สปอร์ตของ Toyota อีกครั้ง ความตั้งใจดังกล่าวจึงถูกส่งถ่ายผ่านมันสมองของวิศวกร Toyota ให้ทำการคิดค้นรถยนต์แบบ 2 ประตูที่สามารถสร้างจินตนาการในการขับขี่ที่สนุกสนาน ตอบสนองต่อความต้องการของผู้คนที่หลงใหลรถยนต์แบบ 2 ประตูทั่วโลก แผนแบบของรถ Concept FT86 จึงก่อกำเนิดขึ้นในแผนกออกแบบของ Toyota ตามมาด้วยการทดสอบอย่างหนักหน่วงทั้งในยุโรปและญี่ปุ่นเป็นเวลากว่า 3 ปี โครงการดังกล่าวจึงสิ้นสุดลงในช่วงปลายปี 2011 และพร้อมแล้วที่จะเข้าสู่สายการผลิตเพื่อออกขายให้ทันในไตรมาสที่ 2 ของปี 2012






สปอร์ต คาร์ขนาดกะทัดรัด Toyota GT 86 ที่จอดโชว์ความเข้มอยู่ในบูธของ Toyota ภายในงานแสดงรถยนต์ Toyota Motor Show 2011 ครั้งที่ 42 นี้ ใช้การออกแบบเพื่อกระจายน้ำหนักให้ตกอยู่ในตำแหน่งกึ่งกลางของตัวรถมากที่ สุด จากการวางเครื่องยนต์แบบสูบนอน 4 กระบอกสูบของ Subaru ปริมาตรความจุ 1,998 ซีซี 16 วาล์ว เครื่องยนต์ถูกวางไว้ที่ด้านหน้าในระดับที่ต่ำกว่าเครื่องยนต์ทั่วไป โดยวิศวกรของ Toyota และ Subaru ทำการร่นจุดยึดแท่นเครื่อง และแท่นเกียร์ให้ใกล้กับตำแหน่งห้องโดยสาร ส่งผลให้ตัวเลขอัตราการกระจายน้ำหนักของมันอยู่ในระดับ 50/50 และมีผลไปถึงการบังคับควบคุมที่เฉียบคม ระบบขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หลังผ่านเพลากลางไปยังเฟืองท้ายคล้ายรถสปอร์ตชั้น ดียังช่วยในเรื่องของพวงมาลัยไฟฟ้าให้ทำงานได้ฉับไวและคมมากขึ้นจากวิศวกรรม การออกแบบที่ประสานกันทั้งไดนามิกส์และอากาศพลศาสตร์ เครื่องยนต์ไม่มีระบบอัดอากาศตัวนี้ยังมีความคงทน หมดปัญหาเรื่องความร้อนและชิ้นส่วนที่เพิ่มมากขึ้น ระบบส่งกำลังแบบ 6 สปีดมีให้เลือกทั้งแบบอัตโนมัติและแบบแมนนวล น้ำหนักตัวทั้งคันที่ 1,210 กิโลกรัม เบากว่า Nissan 370 Z ถึง 400 กิโลกรัม สามารถเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรได้ใน 6.0 วินาที ควาเร็วสูงสุด 162.8 ไมล์ต่อชั่วโมงนับว่าเป็นตัวเลขที่ไม่เลวเลยทีเดียว







ภาย ในห้องโดยสารแบบ 4 ที่นั่งเน้นบรรยากาศแบบตัวแข่งยุคใหม่ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการใช้งานมีมาให้อย่างครบครัน เบาะแบบสปอร์ตหุ้มหนังแท้สีดำ เดินตะเข็บด้วยด้ายสีแดง คอนโซลสีดำ แผงหน้าปัดใช้มาตรวัดรอบเครื่องยนต์วางอยู่ในตำแหน่งของจุดศูนย์กลางที่ให้ มาถึง 9,000 รอบต่อนาที ด้านซ้ายมือเป็นมาตรวัดความเร็วที่มีตัวเลข 260 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วงพวงมาลัยแบบสามก้านหุ้มหนังแท้สีดำสลับแดง จอแสดงผลบริเวณกลางคอนโซลขนาด 7 นิ้ว ใกล้กับซุ้มเกียร์ยังมีปุ่มปรับการทรงตัว และปุ่ม VSC On-Off คันเบรกมือก็ยังสื่อให้เห็นถึงการออกแบบที่เอาใจวัยแรงเป็นพิเศษด้วยถุงหนัง แท้สีดำกับก้านเบรกมือหนังแท้สีแดงตัดกันอย่างลงตัว ส่วนแป้นคันเร่ง เบรก คลัตช์และแป้นพักเท้าใช้อัลลอยเซาะรูเพื่อเน้นบรรยากาศแบบสปอร์ตที่ร้อนแรง ตำแหน่งของเบาะหลังแม้จะคับแคบแต่ยังมีพื้นที่มากกว่า Audi TT ซึ่งตำแหน่งของการวางเท้าของผู้โดยสารตอนหลังจะนั่งได้สบายมากกว่า






limited slip มีให้เลือกใช้เป็นออฟชั่นเสริม และมันไม่มีระบบเกียร์แบบคลัตช์คู่มาให้เนื่องจากน้ำหนักที่มากขึ้นและราคา ที่สูงขึ้นของเกียร์แบบนี้จะส่งผลไปถึงน้ำหนักส่วนเกินที่ยากจะกำจัดบวกต้น ทุนการผลิตที่สูงขึ้น ส่วนอุปกรณ์ตกแต่งก็เตรียมพบกับชุดแต่งโหดๆ ของ TRD ซึ่งจะตามออกมาหลังจากวางขายอีกไม่นานเกินรอ รวมถึงรุ่นติดตั้งระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบที่จะมีม้ามากขึ้นแตะระดับ 300 ตัว พร้อมอัตราเร่งและความเร็วสูงสุดที่จะเพิ่มมากขึ้นกว่ารุ่นปกติ สิ่งที่เครื่องยนต์สูบนอนจากค่าย Subaru มอบให้กับเจ้าของรถ GT 86 คือจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำกว่าปกติและต่ำมากกว่าเครื่องยนต์แบบแถวเรียง 4 กระบอกสูบถึง 110 มิลลิเมตร วิศวกรระบบรองรับต้องปรับปรุงช่วงล่างของมันในขั้นตอนการทดสอบเพื่อไม่ให้มี การยึดเกาะกับผิวของถนนมากจนเกินไปและอาจขาดความรู้สึกตื่นเต้นในระหว่างการ สาดโค้งเมื่อท้ายรถเกาะเป็นตุ๊กแก การพัฒนาช่วงล่างของ Toyota GT 86 ที่กระทำกันในสนามแข่งรถของยุโรปส่งผลให้มันกลายเป็นตัวเลือกชั้นดีของ ลูกค้าที่มักเอารถไปขับแข่งในช่วงวันหยุด




สิ่ง ที่บริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการอุตสาหกรรมยานยนตของโลกอย่าง Toyota กำลังมอบกลับคืนให้ลูกค้าคือการกู้ชื่อเสียงในวงการมอเตอร์สปอร์ตที่เคยโด่ง ดังให้หวนคืนมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายในค่ายที่ใช้ความรู้ความสามารถ เทคโนโลยีล้ำอนาคตบวกกับแรงบันดาลใจและความมุ่งมั่น ส่งผลให้ Toyota กลายเป็นค่ายผู้ผลิตที่ยากจะตามทันในปัจจุบัน และมันจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานแสนนานเลยทีเดียว.




Toyota GT 86 Specifications
แบบ............................................สปอร์ต 2 ประตู 4 ที่นั่ง
ผู้ผลิต..........................................Toyota Motor + Fuji Heavy Industries (Subaru) Japan
เครื่องยนต์..................................Boxer สูบนอน 4 กระบอกสูบแบบ flat four ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮตแคมชาร์ป DOHC
ลักษณะการวางเครื่องยนต์.........เครื่องยนต์วางด้านหน้า-ขับเคลื่อนล้อหลัง
วาล์ว...........................................4 วาล์วต่อหนึ่งกระบอกสูบ=16 วาล์ว
ปริมาตรความจุ...........................2.0 ลิตร 1,998 ซีซี
กระบอกสูบxช่วงชัก.....................86.0 มิลลิเมตรx86.0 มิลลิเมตร
อัตราส่วนกำลังอัด........................12.50:1
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง.......................direct petrol injection
แรงม้าสูงสุด.................................199.7 แรงม้าที่ 7,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด.................................205.0 นิวตันเมตรที่ 6,600 รอบต่อนาที
รอบเครื่องยนต์สูงสุด.....................7,400 รอบต่อนาที
ระบบระบายความร้อน...................หม้อน้ำ+พัดลมไฟฟ้าแบบแปรผัน
ระบบส่งกำลัง.................................เกียร์ธรรมดา/เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
Unitary capacity............................499.5 c.c. per Cylinder
อัตราเร่ง.........................................0-100 กิโลเมตรใน 6.0 วินาที
ความเร็วสูงสุด...............................162.81 ไมล์ต่อชั่วโมง
ระบบกันสะเทือน
ด้านหน้า........................................แมคเฟอร์สันสตรัท สปริง โช้คอัพ เหล็กกันโคลง
ด้านหลัง........................................ดับเบิ้ลวิชโบน
ล้อและยาง.....................................อัลลอยขนาด 17 นิ้ว ยาง Bridgestone Potenza RE060 ไซล์ 215/45/R17 ทั้ง 4 ล้อ
ระบบเบรก
ด้านหน้า........................................จานดิสเบรกขนาด 320 มิลลิเมตร คาร์ลิปเปอร์อัลลอย พร้อมระบบช่วยเบรก ABS/EBD/BA
ด้านหลัง........................................จานดิสเบรกขนาด 300 มิลลิเมตร คาร์ลิปเปอร์อัลลอย พร้อมระบบช่วยเบรก ABS/EBD/BA
มิติตัวถัง
ความกว้าง.....................................1,775 มิลลิเมตร
ความยาว.......................................4,240 มิลลิเมตร
ความสูง.........................................1,285 มิลลิเมตร
น้ำหนักตัวรถ..................................1,210 กิโลกรัม
ปริมาตรความจุถังเชื้อเพลิง............50 ลิตร
ราคาในประเทศอังกฤษ..................ประมาณ 2,5000 ปอนด์


 


Arcom roumsuwan
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook //www.facebook.com/chang.arcom




Create Date : 14 ธันวาคม 2554
Last Update : 14 ธันวาคม 2554 12:43:35 น. 2 comments
Counter : 1684 Pageviews.

 
รถสวยครับ


โดย: **mp5** วันที่: 14 ธันวาคม 2554 เวลา:13:23:57 น.  

 


โดย: winza1 วันที่: 14 ธันวาคม 2554 เวลา:18:25:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

poprockcool
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]




พื้นที่โฆษณาพิเศษ
Friends' blogs
[Add poprockcool's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.