ตอนที่สองกับการขับขี่ทดสอบเต็มรูปแบบ จากกรุงเทพฯ สู่อำเภอหัวหินในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ บนตัวรถซีดานรุ่นล่าสุด All New Camry 2.5G เพื่อพิสูจน์สมรรถนะและประสิทธิภาพอันแท้จริง...

มัน เหมือนกับคนที่หิวข้าวแล้วมีอาหารอย่างดีมาตั้งตรงหน้า แต่ยังกินไม่ได้เนื่องจากยังไม่ถึงเวลา หลังจากที่ผมต้องทนนั่งอยู่ในรถ Fortuner แล้วมองเพื่อนๆ สื่อมวลชนขับทดสอบเจ้า New Camry 2.5G กันอย่างเมามันส์ตั้งแต่หน้าโรงแรมเรเนซองส์ในช่วงเที่ยงของวันที่ 2 เมษายน ยาวตลอดกว่า 190 กิโลเมตรจนมาถึงโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหินเอาเมื่อเวลาล่วงเลยมาจนเกือบจะถึงบ่าย 4 โมงเย็น จำนวนรถทดสอบ New Camry 2.65G ที่มีเพียงแค่ 6 คัน น้อยกว่าจำนวนของสื่อมวลชนหลากหลายสำนักพิมพ์เกือบ 20 คน ทำให้การขับทดสอบถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม โดยกลุ่มแรกขับจากกรุงเทพฯ จนมาถึงหัวหิน แล้วเปลี่ยนให้กลุ่มที่ยังไม่ได้ขับเข้ามารับหน้าที่ต่อในวันรุ่งขึ้น แต่ใครล่ะจะไปอดใจรอไหว ทันทีที่ถึงหัวหินผมคว้ากุญแจไปจากมือคุณสมบูรณ์ มูลหลวง หรือคุณเอก เจ้าหน้าที่ Pr ของบริษัท Toyota Motor Thailand co,ltd. ซึ่งทำหน้างงผสมกับความแปลกใจ ว่าทำไมผมไม่ขึ้นห้องไปพักผ่อนเหมือนคนอื่น ก็อย่างที่บอกล่ะครับว่าใครจะไปอดใจไหว ในเมื่อมีรถซีดานขนาดกลางสุดฮิตรุ่นใหม่ล่าสุดของ Toyota จอดรอให้เอาไปควบถึง 5 คัน 5 สี บริเวณหน้าโรงแรมอินเตอร์คอนฯ หัวหิน สำหรับพวกบ้าขับแล้ว นี่คือสถานการณ์ที่ลงตัวอย่างที่สุด และผมจะไม่มีวันรอให้ถึงตอนเช้าของวันพรุ่งนี้อย่างแน่นอน

All New Toyota Camry 2.5G มีรูปลักษณ์ใหม่ด้วยไฟหน้า กระจังหน้า ไฟท้าย และบั้นท้ายแบบใหม่หมดจด ไฟหน้าทรงเหลี่ยมที่ออกแบบให้เข้ากับกระจังหน้าโครเมี่ยมเงาวาว มันคือมุมมองที่สะดุดตามากที่สุดบนรถคันนี้ ผมเปิดประตูบานโตแล้วก้าวเข้าไปนั่ง เมื่อคุณเข้าไปในห้องโดยสารของ New Camry ในตำแหน่งคนขับ สิ่งแรกที่คุณต้องพบเจอคือพวงมาลัยวงโตแบบสี่ก้าน หุ้มด้วยหนังแท้พร้อมสวิตช์มัลติฟังก์ชั่น แม้มันจะให้ความรู้สึกว่ามีขนาดของวงใหญ่โตกว่าปกติ แต่การจับยึดเพื่อหมุนไป-มา กลับทำได้อย่างคล่องตัวเบาสบายมือ เบาะคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้ายังสามารถปรับได้กว้างมาก จากพื้นที่ของห้องโดยสารที่มีขนาดใหญ่ ทั้งพื้นที่ในการวางเท้าและพื้นที่เหนือศีรษะ ผมสตาร์ตเครื่องยนต์แล้วยัดเกียร์ D เพื่อนำเจ้าซีดานคันหรูของค่ายสามห่วงออกไปวิ่งทดสอบยามเย็น เพื่อเก็บเกี่ยวความรู้สึกในการขับขี่ให้ได้มากที่สุด ผมใช้เส้นทางหัวหิน-ชะอำ ที่มีช่องทางการจราจรกว้างขวางสะดวกต่อการทดสอบการหาอัตราเร่ง การทรงตัวบนทางตรงยาวและระดับของการยึดเกาะที่ย่านความเร็วสูง มีเวลาเหลืออีกไม่มากนักก่อนที่แสงจะหมดลง ผมจึงต้องรีบพาเจ้านี่ไปขับแล้วหาทำเลถ่ายรูปเหมาะๆ เหมือนทุกครั้งที่ได้มาขับทดสอบในแถบนี้

เบื้อง หน้าของผมคือพระอาทิตย์ดวงกลมโต ที่คล้อยต่ำลงช่วงบ่ายแก่ๆ ในเดือนเมษายนที่ร้อนแรง แม้จะใกล้ค่ำแล้วแต่อุณหภูมิของหัวเมืองท่องเที่ยวชายทะเลสุดฮิตในเขตอำเภอ หัวหินยังคงสูงถึง 33 องศา ผมใช้ความเร็วในระดับปกติเพื่อทำความคุ้นเคยกับตัวรถ คันเร่ง เบรก และการตอบสนองต่างๆ ของพวงมาลัยกับช่วงล่างรวมถึงชุดส่งกำลังแบบใหม่ เพื่อจับความรู้สึกต่างๆ บนตัวรถ มาถ่ายทอดให้ผู้ที่สนใจรถซีดานรุ่นใหม่คันนี้ ให้ได้รับทราบถึงสมรรถนะที่แท้จริงของมัน ใน New Camry 2.5G คุณไม่จำเป็นต้องอัดต้องเค้นมันอย่างเต็มที่ เพื่อค้นหาคำตอบดังกล่าว เพียงแค่ขับไปเรื่อยๆ ตามสภาพการที่เป็นจริง ตัวรถจะบอกอะไรบางอย่างที่แปรเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น อย่างชัดเจนและแจ่มแจ้ง All New Camry ดีขึ้นกว่ารุ่นที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด เครื่องยนต์ใหม่รหัส 2AR-FE ปริมาตรความจุ 2.5 ลิตรหรือ 2,494 ซีซี ทำงานได้อย่างเงียบงันหากไม่ลงคันเร่งลึกๆ เพื่อเรียกกำลัง เรี่ยวแรง 181 ตัวของฝูงม้าในเครื่องตัวใหม่ที่มีระบบ Dual VVT-i แปรผันกลไกของวาล์วไปตามระดับความเร็วรอบ เกินพอสำหรับถนนของเมืองไทยในทุกเส้นทาง ระบบส่งกำลังแบบ 6 สปีด Sequential มันคืองานทดกำลังแบบอัตโนมัติ ที่ส่งถ่ายแรงบิดอย่างนุ่มนวลไปยังเฟืองทด แล้วควบคุมด้วยสมองกลไฟฟ้าที่ฉลาดมากขึ้น มันดีขึ้นมากกว่ารุ่นเก่าที่มีเกียร์ออโต้เพียงแค่ 4 ระดับเท่านั้น (รุ่น 2.0G ยังคงใช้เกียร์ 4 สปีดอยู่เหมือนเดิม) อัตราทดที่กว้างขึ้น ทำให้การส่งกำลังมีมิติที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และส่งผลไปถึงอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ลดลงเล็กน้อย

สนาม กอล์ฟปาล์มฮิลล์ในยามเย็นย่ำค่ำคือเส้นทางที่เงียบสงบ เหมาะกับการเก็บภาพเจ้า New Camry 2.5G อย่างที่สุดแล้ว สำหรับพื้นที่รอยตะเข็บของอำเภอหัวหิน ที่เชื่อมต่อกับอำเภอชะอำในจังหวัดเพชรบุรี ทางโล่งข้างหน้าพร้อมเนินเขาเตี้ยๆ สลับกับบ้านพักตากอากาศภายในสนามกอล์ฟปาล์มฮิลล์เชื่อมโยงอารมณ์และความ รู้สึกในการขับทดสอบครั้งนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ พวงมาลัยไฟฟ้า EPS กึ่งกลไกกึ่งไฮดรอลิกส์ ส่งถ่ายความแม่นยำในการหักพวงมาลัยลัดเลาะไปตามเส้นทาง มันให้ความรู้สึกที่มั่นคงมากขึ้น สัมผัสที่ให้ใกล้เคียงกับยนตรกรรมซีดานขนาดกลางของยุโรปเข้าไปทุกที จากระดับของการพัฒนาที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะไม่แน่นหนึบเท่า จากราคาค่าตัวและวัสดุที่ใช้ทำช่วงล่างที่แตกต่างกันค่อนข้างมาก ช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท พร้อมด้วยสปริงเส้นเขื่องกับโช้คอัพที่ปรับเซ็ตค่าการยืด-ยุบตัวมาเป็นอย่าง ดี กับช่วงล่างด้านหลังที่เป็นแบบอิสระดูอัลลิ้งค์ เมื่อระบบรองรับทั้งด้านหน้าและด้านหลังจับคู่กับล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วพร้อมด้วยยาง Bridgestone รุ่น Turanza ไซล์ 215/55/R17 มันสามารถส่งถ่ายระดับของการยึดเกาะที่ดี มอบความมั่นใจยามอัดเข้าโค้งด้วยความเร็วที่มากกว่าปกติ และมันเจ๋งกว่าตัวเก่าแบบเห็นๆ การพัฒนารถซีดานขนาดกลางให้มีช่วงล่างที่มอบทั้งความนุ่มนวลและหนึบแน่นไป พร้อมๆ กันนั้น นับได้ว่าเป็นเรื่องที่ยากพอสมควรในเชิงวิศวกรรม แต่ Toyota ทำออกมาได้ดีอย่างน่าชมเชย

ลืม เรื่องพลาสติกลายไม้ราคาถูกในห้องโดยสารไปได้เลยหากคุณไม่ชอบมัน ระบบเครื่องเสียงของ All New Camry 2.5G และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการใช้งานอื่นๆ จะเข้ามาชดเชยในเรื่องนี้ แทนที่คุณจะมานั่งจับผิดเจ้าซีดานตัวหรูของค่ายสามห่วง ก็ขอให้มององค์ประกอบโดยรวมของ Cockpit ผมทำการทดสอบคุณภาพของเสียงจากชุุดลำโพงทั้ง 6 ดอกทันทีที่มีโอกาส จอสั่งการแบบสัมผัสกับโปรแกรมเมนูภาษาไทย ช่วยให้การใช้งานมีความง่ายและสะดวกในการปรับตั้ง เสียงเพลงที่ส่งผ่านลำโพงภายในห้องโดยสารมีมิติที่ชัดเจน มันยังสามารถปรับตั้งระดับของความคมชัดในย่านต่างๆ ได้ค่อนข้างกว้างไกล ให้ระดับของความดังและพลังในการขับเสียงที่ดี เหมาะสมกับการขับขี่เดินทางไปพร้อมกับเสียงเพลงที่คุณชอบ จอแบบ Touch Screen มีความคมชัดพร้อมปุ่มปรับระดับเสียงที่ออกแบบได้สวยงามสมราคา ในส่วนของระบบนำทางและกำหนดพิกัดด้วยดาวเทียม มีความละเอียดอ่อนสูงมากจากแผนที่และทิศทางที่ปรากฏบนจอภาพ ส่วนชุดควบคุมอุณหภูมิแบบดิจิตอลแยกส่วนที่อยู่ต่ำลงมา ผู้ขับหรือผู้โดยสาร สามารถปรับระดับของพัดลมและความเย็นจากน้ำยาแอร์ โดยแยกจากกันได้ ตำแหน่งผู้โดยสารบริเวณเบาะหลังยังคงได้รับลมเย็นจากช่องแอร์ด้านหลังที่มี มาให้เหมือนเดิม ซุ้มเกียร์ออโต้ที่ใช้พลาสติกสีเงินเป็นกรอบ มีชิ้นงานหัวเกียร์ออโต้ที่ละเอียดอ่อน มันคืองานลายไม้ที่ห่อหุ้มด้วยหนังบนก้านคันเกียร์โลหะสีเงิน ทำออกมาได้ดีและช่วยส่งให้บรรยากาศของห้องโดยสารในเจ้า New Camry 2.5G คันทดสอบ มีความหรูหราสมกับการเป็นพาหนะของผู้บริหารยุคใหม่ได้อย่างไม่เคอะเขิน

เครื่อง ยนต์ 4 กระบอกสูบรุ่นใหม่ล่าสุดตัวนี้มีสมรรถนะที่ดีขึ้นมาก เมื่อผมบ่ายหน้าออกสู่ถนนเส้นหลักหัวหิน-ชะอำ เพื่อทดลองหาอัตราเร่งก็พบกับทางโล่งๆ สามเลนให้ได้ทดลองกำลังของเครื่องยนต์ 2AR-FE จากจุดหยุดนิ่งแล้วออกตัวด้วยความรวดเร็ว โดยกดคันเร่งแบบฉับพลันทันทีแล้วคาตำแหน่งของเกียร์ไว้ที่ตัว D เจ้า New Camry 2.5G สีดำ Alttitude Black Mica พุ่งทะยานไปตามแรงกดของฝ่าเท้าอย่างมั่นคง พร้อมกับเสียงเครื่องยนต์ในรอบสูงที่ดังคล้ายกับเครื่อง V6 ทั้งๆ ที่มันคือเครื่อง 4 สูบ ยิ่งเมื่อเปิดกระจกเพื่อจงใจฟังเสียงของเครื่องยนต์เบนซินก็ครางโหยหวนดัง กระหึ่มขึ้นมาอย่างชัดเจน พร้อมกับความเร็วของตัวรถทดสอบที่ไต่ขึ้นสู่ระดับ 140-160-180 ไปจนใกล้ระดับ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยร่นเข้าไปหาท้ายรถบรรทุกคันข้างหน้าอย่างรวดเร็วจนผมต้องถอนคันเร่งแล้ว แตะเบรกเพื่อความปลอดภัย ม้าทั้ง 181 ตัวกับแรงบิด 231 นิวตันเมตรที่มาในรอบเครื่องยนต์ต่ำเพียงแค่ 2,000-4,100 รอบต่อนาที ใช้เวลาไม่นานในการวิ่งเข้าใกล้ย่านความเร็ว 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สภาพของพวงมาลัยยังคงให้ความรู้สึกที่ดี ไม่เบาจนน่ากลัวหรือหนักจนน่ารำคาญ จากการปรับเซ็ตค่าความหน่วงที่เหมาะสมมาจากโรงงาน ระบบเบรกแบบดิสเบรกทั้ง 4 ล้อพร้อมตัวช่วยพวก ABS/EBD/BA สามารถหยุดมวลน้ำหนักกว่า 1.5 ตันให้ชะลอลงได้ตามใจนึก แต่คุณต้องไม่ห้าวหรือขับแบบดูดจี้ติดท้ายรถคันข้างหน้ามากจนเกินไป เบรกของ Camry 2.5G ยังคงให้ความรู้สึกที่มั่นคง แต่ก็ขึ้นอยู่กับระดับการขับขี่ของแต่ละคน ว่าจะชอบเบรกแบบลึกๆ หรือแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยส่วนตัวแล้วสำหรับรถซีดานขนาดกลางที่มีมวลน้ำหนักมากกว่ารถเล็ก ผู้ขับขี่ควรทิ้งระยะห่างจากรถคันข้างหน้าอย่างน้อย 20-30 เมตร เพื่อความปลอดภัยจากการชนท้าย หากรถคันข้างหน้าเกิดใช้เบรกอย่างกะทันหัน การเบรกที่นิ่มนวลด้วยการทิ้งระยะจากรถคันนำ ดูจะเหมาะสมกว่าการขับแบบจี้ติดท้ายแล้วเบรกลึกชนิดหัวทิ่มหัวตำ ซึ่งบางครั้ง ในการขับขี่รถทดสอบผมมักเจอกับสถานการณ์แบบนี้บ่อยครั้ง เมื่อต้องนั่งไปกับเพื่อนๆ สื่อมวลชนบางท่านที่ชอบขับแนวนี้ เล่นเอาหัวโยกหัวคลอนกันไปตลอดทางเลยทีเดียว

ผม ควบมันจากหัวหินจนเกือบถึงทางแยกชะอำแล้ววกกลับ ระหว่างทางขากลับมุ่งหน้าสู่ตัวอำเภอหัวหิน บนระยะทางจากแยกชะอำที่เหลืออีกประมาณ 18 กิโลเมตรเศษก็จะเข้าเขตอำเภอหัวหินซึ่งเป็นทางตรงยาวๆ ผมก็พบกับเพื่อนร่วมทางที่มีกำลังพอฟัดพอเหวี่ยงกัน รถคันนั้นคือ Mercedes Benz New E-Class 250 CGI สีเงินติดฟิล์มดำมืด ที่เข้ามาประกบท้ายอย่างรวดเร็วพร้อมกับการยกไฟสูงไล่ ผมยกคันเร่งแล้วหลบเข้าเลนกลางเพื่อให้ทาง แต่เจ้าตราดาวซาลูนคันงามยังคงจี้ติดไม่ยอมไปไหน แถมยังกะพริบไฟสูงใส่อย่างต่อเนื่อง ผมจึงเพิ่มความเร็วเป็น 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและคงความเร็วนั้นไว้ เจ้า  E-Class 250 CGI ยังคงตามติดและเริ่มแซงขึ้นทางด้านขวา ความเร็วในขณะนั้นเพิ่มขึ้นเป็น 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมงโดยเจ้า New Camry 2.5G ยังคงให้ความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวได้อย่างน่าทึ่งพร้อมๆ กับการเปลี่ยนจากหนีมาเป็นไล่กวด หลังจากไล่ตามกันมาได้สักพักคนขับ E-Class 250 CGI ก็ลดกระจกบังลมลงแล้วโบกมือให้อย่างร่าเริง ก่อนเลี้ยวเข้าสู่โรงแรมเชอราตัน คงจะเป็นเพราะรถทดสอบคันนี้ไม่ได้ติดแผ่นป้ายทะเบียน หรือความสดใหม่ของมันที่สามารถเรียกร้องความสนใจจากผู้ขับขี่ร่วมทางที่อยาก ประลองกำลังกับเจ้าซีดานตัวใหม่คันนี้ก็ได้ 18.45 น. เหลือเวลาอีกแค่ 15 นาที ก่อนที่งานเลี้ยงรับรองจะเริ่มต้นขึ้นที่ชายหาดของโรงแรมอินเตอร์คอนติ เนนตัล หัวหิน ผมขับช้าๆ ผ่านตัวเมืองและตลาดฉัตรไชย เพื่อซึมซับบรรยากาศยามเย็นก่อนจะเลี้ยวเข้าสู่ที่จอดรถของโรงแรมที่พักซึ่ง อยู่ห่างออกไปเพียงแค่อึดใจเดียวเท่านั้น

เช้า วันรุ่งขึ้นบนเส้นทางมุ่งหน้ากลับคืนสู่กรุงเทพมหานครกับเพื่อนร่วมทริปที่ ยังไม่ได้ขับอีกสองท่าน นั่นก็คือคุณสมบัติ วัฒนวิไลกุล จากหนังสือโลกวันนี้ และ Kingsley Wijayasinha จาก The Nation โดยไม้แรกเป็นหน้าที่ของคุณสมบัติหรือคุณเล็ก เพื่อนสื่อมวลชนอารมณ์ดีที่ผมคุ้นเคย สภาพการขับทดสอบในช่วงขากลับแบบตัวใครตัวมัน เป็นการวิ่งชนิด Free-run ม้วนเดียวเข้าสู่ร้านอาหารทะเลชื่อ แดง ในจังหวัดสมุทรสาครโดยใช้ความเร็วไปตามสภาพการจราจรของบ่ายวันเสาร์ ที่เบาะผู้โดยสารตอนหน้า ผมเก็บภาพเพื่อนร่วมทริปในระหว่างการทดสอบ พร้อมกับนั่งคิดคำนึงถึงการขับทดสอบเจ้า Camry เมื่อวันวาน บนตัวรถซีดานขนาดกลางที่กำลังทำตลาดอยู่ในช่วงเวลานี้ All New Camry 2012 เปลี่ยนแปลงไปจากตัวเดิมพอสมควร มันดีขึ้นแทบทุกด้าน ทั้งการทรงตัว กำลังของเครื่องยนต์ ช่วงล่างที่ปรับแก้มาเป็นอย่างดี และอุปกรณ์ใหม่ๆ ที่เสริมเติมแต่งเข้ามาเพื่อเอาอกเอาใจลูกค้า ระบบส่งกำลังแบบ 6 สปีด มีอัตราทดที่เหมาะสม ช่วยให้การใช้เชื้อเพลิงมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากระดับของอัตราทดที่กว้างขึ้นโดยมีตำแหน่งเกียร์ 6 เป็นเกียร์ Overdrive มันช่วยประหยัดเชื้อเพลิงได้มากกว่าเกียร์อัตโนมัติแบบ 4 สปีดของรุ่นที่แล้วซึ่งใช้รอบสูงกว่าในเกียร์สุดท้ายหรือเกียร์ 4 ห้องโดยสารยังคงมอบความหรูหราที่จัดวางอุปกรณ์และโทนสีในสไตล์ของ Toyota อันคุ้นเคย คอนโซล มาตรวัดบนหน้าปัด เบาะทุกตำแหน่ง สวิตช์และปุ่มปรับโหมดต่างๆ เชื่อมโยงสภาพการใช้งานได้ดีจากการออกแบบและจัดวาง พื้นที่ในการวางเท้าของผู้โดยสารตอนหลังมีมาให้อย่างพอเพียง แม้จะเลื่อนเบาะคู่หน้าให้ร่นถอยหลัง ก็ยังมีพื้นที่ว่างมากพอในการนั่งและวางเท้าสำหรับคนตัวสูง ที่โดดเด่นคือกำลังของเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ซึ่งให้สมรรถนะและประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนอย่างน่าประทับใจ ทั้งอัตราเร่งและความประหยัด น้ำมันหนึ่งถังสามารถเดินทางไป-กลับจากกรุงเทพฯสู่หัวหิน และกลับมายังโรงแรมเรเนซองส์โดยที่สัญลักษณ์แจ้งเตือนถึงระดับเชื้อเพลิงใน ถังยังไม่แสดง โดยเหลือระยะทางในการวิ่งอีกถึง 80 กิโลเมตร จากจอ MID-Multi information Display ที่คำนวณเชื้อเพลิงในถังกับระยะทางที่สามารถวิ่งไปถึง

หาก คุณมีความสนใจมันมากพอ ลองไปหาขับขี่ทดสอบตามโชว์รูมของค่ายสามห่วง เพื่อลองดูว่ามันเหมาะสม และตรงตามความชอบกับเงินในกระเป๋าของคุณหรือไม่ เพราะเท่าที่ผมบรรยายมาทั้งหมดนั้น คงเปรียบเทียบกันไม่ได้กับการที่คุณได้ไปลองขับด้วยตัวเอง บนตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดกลางของญี่ปุ่นในประเทศไทยนั้น Camry คือเจ้าแห่งการครอบครองตำแหน่งยอดขายสูงสุดมานานกว่า 10 ปี ซึ่งหากมันไม่ดีจริงแล้ว ตำแหน่งดังกล่าวคงต้องเปลี่ยนมืออย่างแน่นอน เหล่าบรรดาค่ายรถคู่แข่งที่ทำการพัฒนาตัวรถมาเป็นอย่างดี เพื่อแย่งแชมป์ยอดขายคงทำได้เพียงแค่อันดับที่สองเท่านั้น เพราะเจ้านี่คือยนตรกรรมที่ถูกสร้างขึ้นมา ไม่ไช่เพียงแค่ในบางแง่มุมของความสวยงาม มันยังมีประสิทธิภาพมากพอในการครองใจผู้ใช้ทั่วโลก และหลักแนวคิดนี้เองที่ทำให้ Toyota ก้าวขึ้นครองความเป็นเจ้าด้านการผลิตและยอดจำหน่ายรถยนต์ไปอีกนานแสนนาน.

Arcom roumsuwan
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom

Create Date : 20 เมษายน 2555
Last Update : 20 เมษายน 2555 9:22:12 น.		0 comments
Counter : 3686 Pageviews.
Share Tweet