สายลม และแสงแดดอันอบอุ่นในฤดูหนาวคือที่มาของยนตรกรรมเปิดหลังคา Roadster เมื่อนั่งอยู่บนเบาะคนขับของ BMW Z4 E89 รุ่นปี 2013 ซึ่งเป็นรถสปอร์ตในอนุกรม Z

เบาะหนังกลับแบบ Alcantara บวกภายในสีเหลืองสลับดำสอดประสานความลงตัวในรูปแบบสปอร์ต แม้จะอึดอัดจากพื้นที่อันคับแคบสไตล์รถสองที่นั่งเปิดหลังคา แต่ความรู้สึกดังกล่าวจะจางหายไปทันทีที่พับหลังคาเก็บ สัมผัสที่เปิดโล่งและเชื่อมโยงคนขับไปบนเส้นทางได้อย่างกลมกลืนจากการขับขี่ ที่ดี คือคุณลักษณะอันโดดเด่นของรถเปิดประทุน อารมณ์และความรู้สึกที่แปลกแยกและแตกต่างไปจากการขับรถหลังคาแข็งจะทำให้ผู้ ที่ได้ลิ้มลองยากที่จะลืมเลือน ตำแหน่งของการนั่งที่ค่อนไปทางด้านท้ายโดยคร่อมอยู่บนแกนเพลาหลัง เบาะที่ต่ำเตี้ยกับกระจกหน้าแบนโค้งและเสา Roll Over เหนือพนักพิงศีรษะกับมาตรวัดทรงกระบอก นี่คือยนตรกรรมของค่ายใบพัดที่พยายามสื่อให้เห็นถึงการเชื่อมโยงธรรมชาติ รอบๆ ตัวไปกับการขับขี่ จากรุ่น 507 ในยุค 50 จนมาถึง Z1 ในช่วงเวลาของการเปลี่ยนถ่ายรูปทรง สิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในของ BMW Z Car ทุกคันคือประสิทธิภาพของการขับ เครื่องยนต์ ระบบส่งกำลังและช่วงล่างรวมถึงการกระจายน้ำหนักคือหัวใจของการขับเคลื่อนที่ หลอมรวมเรือนร่างอันงดงาม มันเป็นได้ทั้งสปอร์ตคูเป้และรถเปิดหลังคาภายในเวลาเพียง 20 วินาที

BMW Z4 E89 S-Drive 20i TwinPower Turbo ให้ความคุ้นเคยกับผมเหมือนเดิม จากที่เคยได้ขับรุ่น 23i ที่ออกขายในปี 2009 ตามด้วย 35is ตัวแรงเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา สัมผัสของความเป็น Z Car ยังคงไม่จืดจางเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ห้องโดยสารในรุ่น Highline ของ Z4 20i TwinPower Turbo รุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นที่มีชื่อเรียกว่า Pure Impulse ราคา 4.39 ล้านบาท มีความพิเศษจากวัสดุที่ใช้ตกแต่งที่แปรเปลี่ยนไปจากรุ่นปกติ ส่วนรูปลักษณ์ภายนอกแบบกระโปรงหน้ายาว โอเวอร์แฮงค์สั้น ฐานล้อยาวขึ้น (เมื่อเปรียบเทียบกับโมเดล E85) สีเหลือง Atacama Yellow เบอร์ B21 แสบตาจัดจ้านเมื่อกระทบกับแสงแดด ความแรงของสีและเรือนร่างทำให้มันเด่นมากเมื่ออยู่บนถนน ผิวพื้นส่วนโค้งและบั้นท้ายที่งดงามกับเรือนร่างแบนกว้างเกิดจากดีไซน์ที่ เรียกกันว่า Three Dimensional Surface เบาะนั่งที่เลื่อนมาด้านหลังมากขึ้นจากการออกแบบเพื่อให้ความรู้สึกที่ดียาม ควบคุม ระยะโอเวอร์แฮงค์หลังที่ถูกปรับให้ชิดกับขอบตัวถังมากที่สุดโดยไม่กระทบกับ ดีไซน์เพิ่มความกระฉับกระเฉงยามควบคุม และให้ความรู้สึกแบบสปอร์ตอย่างเต็มที่เมื่อเข้าสู่โหมดสูงสุด ไฟหน้าแบบโปรเจกเตอร์ไบซีนอน มีไฟหรี่แบบวงแหวนล้อมกรอบกระบอกไฟหน้า มันคือไฟหรี่ตามกฎหมายของยุโรปที่ BMW เลือกใช้ไฟแบบนี้แทนหลอด LED โคมไฟหน้ามีออฟชั่น Adaptive Curve Light ซึ่งต้องจ่ายเงินเพิ่ม ระบบนี้จะคอยปรับทิศทางของลำแสงให้สอดรับกับสภาพทางโดยจะมีการทำงานที่ สัมพันธ์ไปกับความเร็วและองศาของการหลักเลี้ยวพวงมาลัย

หลังคา โลหะอัลลอยน้ำหนักเบาได้เข้ามาแทนที่หลังคาผ้าใบที่ดูแลได้ยากกว่า หลังคาแบบใหม่นี้พับได้ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า โดยใช้เวลาในการพับเก็บหรือกางออก 20 วินาที กลไกของการพับถูกออกแบบให้ทำงานได้อย่างรวดเร็วขณะทำการพับ ส่วนประกอบทั้งหมดของชุดหลังคาค่อนข้างกินพื้นที่ในห้องเก็บสัมภาระส่วนฝา ท้าย หลังคาถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนแต่ละส่วนมีขนาดที่เล็กกะทัดรัด เมื่อกดปุ่มพับหลังคา ส่วนแรกของชิ้นหลังคาที่อยู่ด้านบนรับหน้าที่ประกบเสาหน้าขณะที่ส่วนหลัง รับหน้าที่เป็นเสาท้ายซึ่งเป็นจุดยึดของกระจกบังลมบานหลัง ชิ้นส่วนหลังคาด้านหลังจะยกตัวเองขึ้นไปซ้อนทับกับชิ้นหลังคาส่วนแรก ฝาท้ายจะเปิดขึ้นในมุมสูง กลไกไฮดรอลิกจะยกหลังคาทั้งสองส่วนลงไปเก็บที่ฝาท้าย เมื่อพับหลังคาเก็บ พื้นที่ฝาท้ายสำหรับขนสัมภาระจะเหลือเพียงแค่ 180 ลิตร เพียงพอสำหรับกระเป๋าเดินทางขนาดเล็ก และลืมการยกถุง Golf ใส่ท้ายรถรุ่นนี้ไปได้เลย ถึงแม้จะขับโดยกางหลังคาปิด ฝาท้ายก็ยังมีพื้นที่ไม่มากนัก เป็นไปตามลักษณะของการออกแบบซึ่งเจ้า Z4 รุ่นนี้มีส่วนท้ายที่ค่อนข้างสั้นพอสมควร กระจกบังลมบานหน้าใหญ่ขึ้น 14% ส่วนกระจกบานประตูก็ยังมีพื้นที่เพิ่มขึ้นอีก 40% รวมถึงกระจกบานหลังที่โตขึ้นอีก 52% เมื่อนำไปเปรียบมวยกับ Z4 E85 รุ่นที่แล้ว แม้สัดส่วนของการมองเห็นจะดีขึ้น แต่การวิ่งปิดหลังคา เสาท้ายที่โค้งมนได้เข้ามาบดบังทัศนวิสัยการมองเห็นด้านข้างและด้านหลังให้ ด้อยลงไปพอสมควร การเปลี่ยนทิศทางอย่างฉับพลันทันทีจึงต้องมองกันให้ขาดและแน่ใจว่าไม่มีรถ อยู่ในมุมอับสายตาบริเวณข้างตัวถังเลยซุ้มล้อหลังออกไป

จุด ศูนย์ถ่วง ของตัวรถเน้นไปที่ตัวเลขของการกระจายน้ำหนักที่มีความสมมาตร น้ำหนักของเครื่องยนต์และชุดเกียร์ถูกขยับให้ตกลงไปยังกึ่งกลางมากที่สุด ตัวเลข 50/50 ส่งผลโดยตรงต่อความรู้สึกในการควบคุมที่ดี ชิ้นส่วนของระบบรองรับที่อยู่ใต้สปริงถูกลดทอนลงด้วยการใช้วัสดุอะลูมินั่ม อัลลอย เช่น ปีกนกและจุดยึดต่างๆ อาการกระเด้งกระดอนที่เคยเกิดขึ้นกับรถยนต์ประเภทนี้ถูกปรับแก้ให้ลดลงจนมี ค่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ในส่วนของระบบบังคับเลี้ยวแบบ Electro Hydraulic Servo Valves ใช้วงจรไฮดรอลิกกับปั๊มน้ำมันหล่อลื่นแบบไฟฟ้า ที่จะช่วยผ่อนแรงการหมุนรวมถึงปรับหน่วงน้ำหนักของพวงมาลัยให้มากขึ้นเมื่อ ความเร็วเพิ่มสูงขึ้น ระบบดังกล่าวคล้ายกันกับพวงมาลัยของรถ Series 5 โมเดล F10 โดยจะปรับน้ำหนักให้เบาสบายมือที่ความเร็ว 0-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และจะเพิ่มความหนักขึ้นเรื่อยๆ ไปตามความเร็วที่แท้จริง โหมดการขับแบบ Sport หรือ Sport + พวงมาลัยจะถูกเซนเซอร์ของระบบ Servotronic หน่วงน้ำหนักตั้งแต่ผู้ขับขี่กดสวิตช์เข้าสู่โหมดการขับดังกล่าว ออฟชั่น Adaptive M Sport Suspension ที่ต้องจ่ายเพิ่มคือความเป็นไดนามิกในระดับสูงสุด ช่วงล่างของออฟชั่นนี้จะปรับลดความสูงลงอีก 10 มิลลิเมตร โช้กอัพพิเศษถูกควบคุมการปิดเปิดของวาล์วภายในกระบอกโช้กด้วยระบบไฟฟ้า มันสามารปรับระดับของการหน่วงหรือ Bump-Rebond ได้อย่างอิสระตามความเร็วและสภาพของเส้นทางที่วิ่งผ่าน ระบบ Drive Dynamic Control คอยตรวจสอบและรักษาสมดุลระหว่างความสบายในการเดินทางและความสปอร์ตจากการตอบ สนองที่ออกแนวหนึบแน่นของ BMW ล้ออัลลอยลาย M ขนาด 19 นิ้ว ห่อรัดด้วยยางซิ่งราคาแพงยี่ห้อ Bridgestone รุ่น Potenza RE 050 A เป็นยางรันแฟลตที่วิ่งได้แม้ลมยางจะรั่วออกมาจนหมด ล้อหน้าใส่ยางไซส์ 225/35/ZR19 ส่วนล้อคู่หลังซึ่งเป็นล้อที่ใช้ขับเคลื่อนใส่ยางไซส์โตขึ้นมาอีกหน่อยที่ 255/30/ZR19

Drive Dynamic Control รับหน้าที่ประมวลผลของการเชื่อมโยงโหมดการขับขี่เอาไว้ทั้งหมดเช่น ระบบควบคุมการทรงตัว Dynamics Stability Control = DSC ระบบควบคุมการเบรกขณะรถเข้าโค้งหรือ Cornering Brake Control = CBC ระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อขับเคลื่อนหรือล้อคู่หลัง Dynamics Traction Control แถมยังมีระบบ Start Off Assistant ระบบห้ามล้อบนทางลาดชันเพื่อป้องกันการไหลสำหรับการออกตัวบนทางลาดชัน รวมถึงระบบรีดน้ำจากจานเบรกหรือ Brake Drying โดยระบบ Drive Dynamic Control จะผสมผสานระบบต่างๆ ตามที่ได้โปรแกรมเอาไว้อย่างเป็นธรรมชาติ สำหรับโหมดการขับนั้น จากการที่เป็นรถสปอร์ตทำให้โหมด ECO-PRO ถูกตัดออกไปและเหลือเพียงแค่ 3 โหมดให้เลือกใช้คือ Normal Mode / Sport Mode / Sport + Mode สำหรับโหมดสุดท้าย ระบบควบคุมการทรงตัว Dynamics Traction Control จะถูกตัดออกไปเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้แสดงฝีมือของตัวเองในการควบคุม โหมดสูงสุดนี้จะให้อารมณ์ที่ดิบเถื่อนมากกว่าโหมดอื่นๆ ท้ายรถที่ปราศจากระบบรองรับการทรงตัวจะไวเป็นพิเศษและเปิดโอกาสให้ขับแบบด ริฟต์กันเลยทีเดียว

เครื่อง ยนต์ของ Z4 20i TwinPower Turbo ปี 2013 เป็นเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว ปริมาตรความจุกระบอกสูบ 1,997 ซีซี บล็อกล่าสุดมาพร้อมกับระบบอัดอากาศแบบ Twin-Scroll Turbo กับเทคโนโลยี EfficientDynamics กลไกของวาล์วแปรผัน Double VANOS / VALVETRONIC สร้างแรงม้าได้ 184 ตัวที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิด 270 นิวตันเมตรที่ 1,250-4,500 รอบต่อนาที เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรใน 7.2 วินาที และมีความเร็วปลายคันเร่งที่ 232 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองที่วิศวกรของ BMW แจ้งมาอยู่ที่ระดับ 14.5 กิโลเมตรต่อลิตร และคาย CO2 ในปริมาณ 159 กรัมต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร ระบบส่งกำลังที่เคยเป็นเกียร์ออโต้ 6 สปีดในรุ่นแรกๆ ที่ออกขายรวมถึงเกียร์ M 7 สปีดคลัตช์คู่ในรุ่น 35i เมื่อมาประจำการอยู่ในโมเดลไมเนอร์เชนจ์รุ่น 20i TwinPower Turbo กลายเป็นเกียร์ 8 สปีดของ ZF เป็นเกียร์ลูกเดียวกันกับ Series 5 F10 / 320d F30 ซึ่งเป็นระบบส่งกำลังที่ปรับอัตราทดให้กว้าง และครอบคลุมทุกๆความเร็ว มิติตัวถังกว้าง 1,790 มิลลิเมตร ยาว 4,239 มิลลิเมตรและสูง 1,291 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1,420 กิโลกรัม ระบบจ่ายเชื้อเพลิง High Precision Injection เป็นระบบฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบตรงหรือไดเรคอินเจคชั่น ใช้แรงดันในหัวฉีดสูงถึง 200 บาร์ ซึ่งนับว่าสูงมากในเครื่องยนต์เบนซิน จุดเด่นของหัวฉีดแบบใหม่อยู่ที่การฉีดเชื้อเพลิงตรงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้ อย่างละเอียดและแม่นยำ สำหรับการควบคุมปริมาตรของอากาศจะแตกต่างไปจากเครื่อง 6 สูบรุ่นเก่าด้วยระบบอัดอากาศแบบใหม่ล่าสุดซึ่งเข้ามาแทนที่เครื่องยนต์แบบ หายใจเองที่หนักกว่า มีขนาดใหญ่โตกว่าและสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูงกว่า

ชุด ส่งกำลัง Steptronic ส่งถ่ายอัตราทดของเกียร์อัตโนมัติ ZF 8 สปีดใน BMW Z4 sDrive 20i กลไกของอัตราทดในเกียร์ถูกเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมความสามารถในการประหยัดเชื้อ เพลิงที่รอบต่ำ ลดช่วงรอบของเครื่องยนต์ระหว่างการเปลี่ยนเกียร์ โดยออกแบบให้ทำงานได้อย่างนิ่มนวลในโหมดปกติและกระชับฉับไวในโหมดสปอร์ต เกียร์ Over Drive ที่ตำแหน่ง 6-7-8 ช่วยลดรอบเครื่องยนต์ไม่ให้สูงจนเกินไปและส่งผลไปถึงอัตราสิ้นเปลืองที่ดี กว่าเกียร์ 6 สปีดรุ่นแรก ระบบส่งกำลังรุ่นก้าวหน้ายังใช้คลัตช์ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ทำให้การถ่ายเทแรงบิดจากเครื่องยนต์ไปยังเพลากลางลงสู่เฟืองท้ายมีการสูญ เสียแรงน้อยมาก กำลังทั้งหมดจึงลงไปสู่ล้อคู่หลังซึ่งเป็นล้อขับเคลื่อนแบบเต็มๆ เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทคโนโลยี EfficientDynamics และ TwinPower Turbo ย่อขนาดและความจุให้เล็กลงแต่มีพละกำลังมากขึ้น น้ำหนักที่เบาลงบวกกับขนาดของเครื่องยนต์กับชุุดส่งกำลังที่มีความกะทัดรัด ทำให้ลดน้ำหนักที่เพลาหน้าลงได้ถึง 15 กิโลกรัม เทอร์โบแบบ Twin-Scroll Turbo ใช้วิธีแยกไอเสียจากสูบที่ 1-4 ออกมาจากไอเสียของสูบที่ 2-3 แล้วส่งตรงไปยังกังหันกลีบใบของเทอร์โบ ช่วยลดแรงดันย้อนกลับเมื่อใช้รอบเครื่องต่ำ ทำให้การตอบสนองของคันเร่งดีขึ้น เครื่อง 4 สูบรุ่นล่าสุดของ BMW Group มีการออกแบบให้ลดแรงเสียดทานได้ดีกว่าเครื่อง 6 สูบ เพลาถ่วงสมดุลที่มีขนาดไม่เท่ากันดูดซับแรงสั่นสะเทือน ฟลายวีลแบบ Dual-Mass ทำให้ชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวมีความนิ่มนวลในรอบต่ำ เทคโนโลยี EfficientDynamics ยังเข้ามาควบคุมระบบคอมพิวเตอร์ของชุดปั๊มน้ำมันหล่อลื่นและระบบหล่อเย็น ซึ่งจะทำงานเฉพาะเวลาที่จำเป็นเท่านั้น

ย่าน ของกำลังที่อยู่ในระดับพอดิบพอดีไม่แรงจนเกินไปนั้น ทำให้ขับขี่ได้อย่างสนุกสนานเร้าใจแม้จะขับด้วยความเร็วต่ำ การตอบสนองต่อการกดคันเร่งในโหมดต่างๆ เป็นไปด้วยความฉับไว ไดนามิกที่ดีของตัวรถเกิดจากขั้นตอนของการพัฒนาที่ไม่หยุดยั้งโดยวิศวกร BMW Group ระบบขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หลังทำให้การจัดการบนทางโค้งมีความสมดุลด้วยแชสซี ที่ออกแบบมาเป็นอย่างดีสำหรับการเพิ่มสมรรถนะในการวิ่ง ระบบความปลอดภัยใช้ห้ามล้อพร้อมตัวช่วยมากมาย  เช่น ระบบป้องกันล้อล็อกและระบบกระจายแรงเบรกรวมถึงระบบเสริมแรงเบรกแบบอัตโนมัติ ถุงลมนิรภัยด้านหน้าและด้านข้าง คานกันกระแทกด้านข้าง เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด ระบบเซนเซอร์พร้อม Roll Over ป้องกันศีรษะหากเกิดการพลิกคว่ำ เซนเซอร์ตัดเชื้อเพลิงและปลดล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อเกิดการชนปะทะ

BMW Z4 sDrive20i Pure Impulse Automatic 2013
engine type...................................turbocharged petrol
engine manufacturer....................BMW
engine code..................................N20B20U0
cylinders Straight........................4
capacity.......................................2 litre1997cc (121.864cu in)
bore×stroke.................................84 × 90.1mm 3.31 × 3.55 in
bore/stroke ratio..........................0.93
valve gear...................................DOHC 4 valves per cylinder16 Total valves
maximum power output.............183.5PS(184 bhp) (135kW) at 5,000rpm
specific output............................90.6bhp/litre 1.49 bhp/cu in
maximum torque........................270Nm(199ft·lb) (27.5kgm) at 1,250-4,500 rpm
specific torque............................135.2Nm/litre
engine construction
sump.............................................Wet sumped
compression ratio.........................10:1
fuel system...................................direct petrol injection
bmep (brake mean effective pressure)1,699 kPa (246.4psi)
maximum rpm..............................
crankshaft bearings......................
engine coolant..............................Water
cylinder volume...........................499.25
aspiration.....................................Turbo
compressor...................................Non.
intercooler.....................................Yes
catalytic converter.........................Yes
2011 BMW Z4 sDrive20i Automatic performance
acceleration 0-80km/h (50mph)....5.7
acceleration 0-60mph....................6.9
acceleration 0-100km/h.................7.2
topspeed.........................................232 km/h


standing quarter-mile
standing kilometre.......................27.80
maximum speed...........................232 km/h (144mph)
power-to-weight ratio.................121.07bhp/ton
fuel consumption.........................9.1/5.5/6.8 l/100 km urban/extra-urban/combined
carbon dioxide emissions............159g/km
longitudinaldrive wheels..............rear wheel drive z
steering.........................................rack & pinion VPAS
turns lock-to-lock..........................?
turning circle.................................?
front suspension.............................Double wishbone spring strut tiebar axle in aluminium with displaced castor, small positive steering roll radius, compensation of lateral forces, anti-dive Adaptive M Suspension with electronically controlled dampers
rear suspension.............................Central arm axle, separate springs and dampers, anti-squat and anti-dive, BMW Z4 sDrive Adaptive M Suspension with electronically controlled dampers
wheel size front............................8J x 19 ET29
wheel size rear.............................8J x 19 ET29
tyres front.....................................225/35/ZR 19 Bridgestone Potenza RE 050 A
tyres rear.......................................255/30/ZR 19 Bridgestone Potenza RE 050 A
front brake diameter.....................300 mm
rear brake diameter......................300 mm

gearbox.........................................8 speed automatic
top gear ratio................................0.67
final drive ratio.............................3.08


wheelbase.....................................2,496 mm 98.3 in
track (front)..................................1,511mm 59.5 in
track (rear)....................................1,559 mm 61.4 in
length............................................4,239 mm 166.9 in
width.............................................1,790 mm 70.5 in
height............................................1,291 mm 50.8 in
ground clearance..........................130 mm 5.1 in

length:wheelbase ratio....................1.7
kerb weight.....................................1495 kg 3296 lb
fuel tank capacity............................55 litres 12.1 UK Gal 14.5 US Gal

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom