เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 2 ม.ค. 2560 ร.ต.อ.วชิรวิทย์ จันทนา รอง สว.(สอบสวน) สภ.เกษไชโย อ.ไชโย จ.อ่างทอง รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์พ่วงข้างเสียหลักตกคลอง โดยที่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวบรรทุกหัวจระเข้จำนวนเกือบ 100 หัว มาด้วย เหตุเกิดภายในคลองชลประทาน ริมถนนสายอ่างทอง-สิงห์บุรี (สายเก่า) หมู่ที่ 3 ต.ไชโย อ.ไชโย จ.อ่างทอง หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สมาคมนักวิทยุสมัครเล่นกู้ภัยจังหวัดอ่างทอง
เมื่อไปถึงพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีแดง-ดำ ดัดแปลงเป็นลักษณะรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ร่วงลงไปในคลองชลประทาน โดยมีนายกิตติ สุวรรณภา อายุ 26 ปี ชาว ต.พระงาม อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี เป็นผู้ขับขี่ แต่ที่ต้องทำเอาผู้คนตกใจก็เมื่อพบว่ารถจักรยานยนต์พ่วงข้างคันดังกล่าวได้บรรทุกซากหัวจระเข้หัวเขื่อง ประมาณ 80 หัวมาด้วย
โดยหัวจระเข้กระเด็นร่วงกระจัดกระจายอยู่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องช่วยกันเก็บและนำขึ้นมาบนถนน ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามถึงที่มาที่ไป นายกิตติไม่สามารถให้การได้กระจ่างชัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ให้ขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างที่บรรทุกหัวจระเข้ ไปตรวจสอบยัง สภ.เกษไชโย
จากการสอบสวนนายกิตติ เล่าว่า หัวจระเข้ดังกล่าวนั้น เป็นของเพื่อนของตนที่เป็นสาวประเภทสอง ชื่อ นายสุนันทา เอี่ยมประไพ อายุ 30 ปี โดยนายสุนันทานั้นได้นำมาจากฟาร์มจระเข้แห่งหนึ่งในจังหวัดอุทัยธานี เพื่อจะนำมาสตาร์ฟขาย โดยหัวจระเข้ดังกล่าวเก็บดองมานานเกือบเดือน กระทั่งจะนำออกมาตากแดด แต่ปรากฏว่ากลิ่นมันเหม็นแรงรบกวนเพื่อนบ้าน
นายสุนันทาจึงวานให้นายกิตติขับรถมารับเพื่อนนำไปตากไว้ที่บ้านของตนแทน เนื่องจากนายสุนันทาเห็นว่าบ้านของตนอยู่ห่างไกลจากชุมชน แต่ระหว่างทางขับรถได้มีตัวเงินตัวทองวิ่งมาตัดหน้า ทำให้รถเกิดเสียหลักตกลงไปในคลองดังกล่าว ซึ่งอ้างว่าหัวจระเข้มาจากฟาร์มจระเข้ที่ถูกต้องตามกฎหมายที่เลี้ยงไว้เพื่อจำหน่าย โดยตนนั้นมีหน้าที่แค่ประสานติดต่อให้
นายสุนันทา เผยว่า หัวจระเข้ทั้งหมดนี้เป็นของตน ตนมีความชอบจระเข้และชอบของแปลกๆ และตนได้เข้าไปตามเฟซบุ๊ก จนไปเจอกับ นายกิตติพงษ์ ที่มีอาชีพขายปลาอยู่ที่สวนจตุจักร โดยนายกิตติพงษ์นั้นรู้จักฟาร์มที่ทำจระเข้ส่งออก และได้ประสานเรื่องหัวจระเข้ให้กับตน ตอนแรกตนจะเอามาแค่นิดเดียว แต่ทางฟาร์มบอกว่าให้เอาไปให้หมด ตนจึงได้ไปรับมา และนำกลับมาดองเกลือไว้ในโอ่ง
พอถึงกำหนดจะนำออกมาตาก เมื่อเปิดโอ่งออกปรากฏว่ากลิ่นหัวจระเข้ที่ตนดองไว้นั้น ส่งกลิ่นเหม็นรุนแรง ตนไม่กล้าตากไว้ที่บ้าน เพราะกลัวชาวบ้านจะมาว่าเอาได้ ตนเห็นว่าบ้านของนายกิตตินั้น อยู่ห่างไกลชุมชน จึงได้ให้นายกิตติมาเอาหัวจระเข้ไปตากที่บ้าน ตอนแรกจะเอาไปตอนกลางวัน แต่เกรงว่าคนอื่นเห็นแล้วจะตกใจ จึงให้ขนตอนกลางคืน แต่ก็ยังขนไปไม่ถึงที่ รถกลับมาเสียหลักตกคลองเสียก่อน
ในส่วนเรื่องคดีความจะถูกหรือผิดนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบสวนความถูกต้องของฟาร์มดังกล่าว ว่ามีจริงตามที่พูดหรือไม่ ส่วนเรื่องความผิดเรื่องของการขนย้ายหัวจระเข้ซึ่งถือว่าเป็นซากสัตว์นั้น จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2499 และแก้ไขฉบับเพิ่มเติมฉบับที่ 2 พ.ศ. 2542 ในหมวดที่ 4 ว่าด้วยการควบคุมการฆ่าสัตว์และซากสัตว์หรือไม่ หากมีความผิดจริงก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป