เมษายน 2552

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
14
15
17
18
19
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
13 เมษายน 2552
All Blog
Kurama คุรามะ : Kyoto
วันที่ 12 แล้ว
มานี่ตั้งแต่วันที่ 6 แต่ยังไม่ได้เขียนอะไรบันทึกไว้เลย
เวลาผ่านไปเร็วจัง กว่าจะถึงตอนนี้ก็นึกบางเรื่องไม่ออกแล้ว สงสัยจะแก่แล้วจริงๆ

ช่วงนี้อากาศเริ่มอุ่นขึ้นแล้ว บางวันช่วงกลางวันนี่ร้อนเลย
เสื้อโค้ตและรองเท้า ugg ที่เอามาเลยได้ใช้แค่แป๊บเดียว
อากาศอุ่นขึ้นก็ดี แต่ก็รู้สึกว่า แหม เสียของที่เอามาจริงๆ 555 (หนัก)

บ้านที่มาอยู่ home stay เป็นบ้านของอาจารย์ที่ รร. พอดี
ครอบครัว Nagai มีด้วยกัน 5 คน คือ อาจารย์ Kuniaki, ภรรยา Makiko, และลูกสาวอีกสามคน ซึ่งน่ารักมากทั้งสามคน ชื่อ Satomi (20), Rie (17), Riho(8) ชื่อของทั้งสามคน คันจิตัวแรกเขียนเหมือนกัน ซึ่งมาจากคำว่า Furusato เขียนเหมือนกัน แต่อ่านได้หลายแบบ

Home stay ที่ได้พักอยุ่ใกล้ รร.
ปั่นจักรยานไปประมาณ 8 นาที
(พอๆกับเมื่อก่อน ตอนที่อยู่ mansion ของ Kyoko แล้วปั่นจักรยานไป รพ. เลย)
อยู่ด้านตะวันตกของเกียวโต บริเวณที่เรียกว่า Nishigyogoku
ทำเลค่อนข้างจะนอกเมืองหน่อย ไม่พลุกพล่าน แต่ก็สะดวกมาก เพราะว่า เดินไปนิดเดียว ตรงข้ามกับซอยเข้าบ้าน ก็คือ Aeon Mall ที่มี Jusco และร้านค้าต่างๆมากมาย
ตอนแรกคิดว่าจะเหมือน Lotus บ้านเรา แต่มันไม่ใช่... มันเหมือน Central ลาดพร้าว มากกว่า ก็เลย เยี่ยมไปเลย ..
เดินไปประมาณสิบนาทีจากบ้านก็ถึงสถานี Hankyu นั่งรถเข้าเมืองหรือว่าไปโอซาก้าเลยก็ได้
ทางไป รร. ก็เป็นจุดชมวิวซากุระที่ดีมาก ริมแม่น้ำเลย บางวันเป็นคนมานั่ง hanami กันด้วย

บ้านที่มาอยู่ เป็นตึกสามชั้น ซึ่งก็เป็นตึกของครอบครัวนี้ แต่ว่าชั้นหนึ่ง ให้เขาเช่าทำเป็นร้านราเม็ง (จนถึงบัดนี้ยังไม่ได้ไปกินเลย) ชั้นที่สอง คุณตาทำเป็นโต๊ะเล่น mah-jong หรือว่า ไพ่นกกระจอกนั่นเอง ตกเย็นก็จะเห็นว่าที่จอดรถตรงชั้นหนึ่งมีแต่รถไฮโซของคนที่มาเล่นไพ่ .. ซะงั้น ส่วนที่พักอาศัยเป็นชั้นสาม
ห้องที่เราได้พัก เป็นห้องเดิมของลูกสาวคนโตของครอบครัวนี้ คือ Satomi เป็นห้องแบบฝรั่ง
Satomi รักการท่องเที่ยว, Mr. Children และ Tohoshinki
กำลังเรียนจิตวิทยา และอยากจะเรียนต่อด้านจิตวิทยาอาชญากรรม
เพิ่งจะไปเมืองไทยมาเมื่อ กพ. ที่ผ่านมา ที่บ้านก็เลยยังมีของที่ซื้อมาอยู่บ้าง อย่างเช่น poster และ พวงกุญแจ Super Junior, Tohoshinki รวมไปถึง CD เพลงไทยอย่าง Potato ที่ Satomi สามารถออกเสียง – มันฝรั่ง – ได้ชัดมาก ของกินอย่าง หมากฝรั่ง เลย์ มะม่วงกวน ก็มี และยังดูตกใจที่เราบอกว่าชอบมะม่วงกวนมาก เพราะ Satomi บอกว่า คนที่ช่วยเป็น guide ให้ตอนที่อยู่เมืองไทย ซึ่งเคยเป็นลูกศิษย์ของคุณพ่อเขามาก่อน ตอนพาไปซื้อของก็เชียร์อันนี้มากเลย บอกว่าซื้อเถอะๆๆๆ อร่อยนะ ก็เลยซื้อมาซะห่อใหญ่

พอเข้ามาในห้องก็จะเห็นว่ามี Poster Mr. Children และ Tohoshinki (ซึ่งซื้อมาจากเมืองไทย!) เต็มห้องไปหมด
แล้วก็มี Piano ด้วย ทำให้นึกถึงละคร Nodame ขึ้นมาทันที
Satomi ดูจะเล่นเป็นหลายอย่าง ทั้ง เปียโน กีต้าร์ และ กีต้าร์เล็กๆแบบของชาวฮาวายก็สามารถ
เคนโด้ก็เล่นเป็น
นอกจากนี้ยังรู้หลายภาษา อย่างตอนนี้กำลังเห่อเกาหลี ก็เรียนภาษาเกาหลีเองที่บ้าน แต่ว่าที่มหาวิทยาลัยก็ลงเรียนวิชาภาษารัสเซีย .. ดีจังน้อ ..

Rie ลูกสาวคนที่สอง เป็นนักเรียนมัธยมปลาย ดู typical style สาวญี่ปุ่นมากมาย
ผมหน้าม้า ขนตาปลอม และ เจาะหูหลายๆรู โทรศัพท์แพรวพราว (สวยมาก)
ดูเผินๆคงไม่คิดว่าเป็นคน friendly เท่าไหร่ แต่ที่จริงแล้ว น่ารักและตลกดี
คอยเป็นห่วงเป็นใย สอนนู่นนี่ในบางเรื่อง แต่ออกจะติดโทรศัพท์ไปสักหน่อย เลยทำให้ดูเหมือนเป็นสาวติดเพื่อนจัดๆไปซะงั้น ทั้งๆที่จริงๆแล้วรักครอบครัวทีเดียว

Rie เล่นเครื่องดนตริไม่ได้ แต่ว่าร้องเพลงเพราะ
เล่นกีฬาไม่ได้ แต่น่ารัก (อ้าว)

นั่งคุยกันสามคน เรา, Satomi, Rie ทีไร มีเรื่องให้ฮาได้ทุกที
อย่างเมื่อวานนี้ กลับมาจากไปดูซากุระที่ Kiyomizu-dera Rie ก็ถามว่าเป็นไงบ้าง มีแค่ Obaa-san รึเปล่า (ประมาณว่ามีแต่ทัวร์คุณยายรึเปล่าน่ะ เพราะคุณเธอเพิ่งไป Hanami ที่ Arashiyama มา แต่ว่าหนวกหูทัวร์คุณยาย ก็เลยแอบเซ็ง) เราก็เลย ตอบไปว่า Iie. Iie. Kakkoii-hito ga arimashita. (ป่าวๆ คนหล่อๆก็มีนะ) แล้วก็เลยว่า จะเอารูปแอบถ่ายที่ไปถ่าย staff ของวัดหล่อๆให้ดูสักหน่อย ระหว่างกำลังเปิด file Rie ก็เดาถูกพอดี ... Shashin o totta.. (เฮ้ย ถ่ายรูปมาด้วยเรอะ!) แล้วก็เลยนั่งหัวเราะกันอยู่สองคน
ซึ่งตลกมาก เพราะว่ารูปนั้น พอดีใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำ คนอื่นๆที่กำลังเดินก็เลยมัวไปหมด มีสุดหล่อ staff คนเดียวเท่านั้นที่คมชัด… 555 Rie เลยบอกว่า เฮ้ย นี่มันโกงนี่กว่า .. ทำไมคนอื่นมัวหมดเลยล่ะ.. 5555 เลยเรียกคนในครอบครัวมาดูกันหมด ทั้งพ่อแม่พี่น้อง .. อ้าวเฮ้ย ..ตรูกลายเป็น stalker ไป ณ บัดดล ..

อีกครั้งที่ฮามากคือ คุยเรื่องการ์ตูน แล้วเราก็บอกว่า เนี่ย ในการ์ตูนชอบมีคำว่า Ryogai นะ แบบว่า รับทราบครับพ้ม.. ในการ์ตูนทหารน่ะ สองคนก็บอกว่าเหรอๆ ไม่เคยได้ยินเลย ไปเอามาจากไหนน่ะ เราก็บอกว่า ก็ตั้งหลายเรื่องน่ะ Gundam ก็มี Full metal panic ก็มี แต่ Full metal panic น่าจะเยอะกว่า ..แต่ทำเอาสองคนงง เพราะไม่รู้จักเรื่อง Full metal panic แล้วก็ใบ้กันไปใบ้กันมา จนไปออก Fumoffu เอา.. จั่น เฮ้ย นั่นมันภาษาญี่ปุ่นเรอะ อะไรทำนองนี้ แล้วก็ขำท่า Ryogai ของเราซะจนโต๊ะสะเทือน ..

แล้วก็ยังมี Ponyo อีก
ใครๆก็น่าจะออกเสียงว่า Pon-yo ใช่มะ
(เหมิอนเราไง)
แต่ที่จริงมัน Po-nyo ตะหากเฟร้ย
สองคนนั่น(Satomi, Rie) หัวเราะกันใหญ่ตอนได้ยินเราเรียกว่า Pon-yo
ฮ่วย ตรู
แต่ก็ยังดี หลังจากฮา ก็ได้มาสองร้องเพลง Po-nyo ท่อนฮุคให้ เนื้อเพลงตลกดี

ส่วนน้องนุชสุดท้องชื่อ Riho อายุ 8 ขวบ
สงสัยเด็กวัยนี้มันจะฉลาดเหมือนกันทุกประเทศรึเปล่าวะ
Riho ฉลาดมาก เกือบเท่า Rose (เด็กอังกฤษ สมัยที่เคยไปอยู่ homestay อายุประมาณนี้เช่นกัน แต่ฉลาดเป็นกรดจนน่ากลัว)
Riho ชอบเล่น Nintendo DS มาก เล่นจนพังไปแล้วหนึ่งเครื่อง คอหัก แต่เอา sellotape มาแปะ ก็ยังพอใช้ได้ แต่ลำบาก เลยซื้อเครื่องใหม่มอีกเครื่อง
เพิ่งรู้ว่าทำไมคนญี่ปุ่นชอบเล่น Nintendo DS มากกว่า PSP เพราะว่ามันทำอะไรได้มาก เล่นเกมทั่วๆไปก็ได้ เล่นเกมประเทืองปัญญาก็ได้ อัดเสียง แปลงเสียงได้ ถ่ายรูปได้ แปลงรูปเป็นรูปแบบต่างๆ แบบฮาๆก็ได้ ยืดๆหดๆหน้าก็ได้ ตลกดี แล้วก็ยังสื่อสารระหว่างเครื่องได้อีกด้วย
เยี่ยมไปเลย
อยากได้สักอัน แต่ว่า อะไรต่อมิอะไรก็เป็นภาษาญี่ปุ่นไปซะหมดนี่สิ ท่าทางคงจะลำบากสักหน่อยถ้าจะซื้อมาใช้จริงๆ
หนูน้อยมีความพยายามในการอธิบายเรื่องต่างๆให้เราเป็นอย่างมาก ถึงแม้ส่วนมากการอธิบายจะไม่ใช่การทำให้ภาษาง่ายขึ้น แต่ว่าเป็นการพูดให้ช้าลงก็ตาม




วันนี้ไป Kurama กับ Kibune
ขับรถไปกันห้าคนสนุกดี จากบ้านไปแวะกินข้าวก่อนที่ร้านอาหารเล็กๆทางตอนเหนือของเมือง แล้วก็ไปถึง Kurama ช่วงบ่าย
ทางไปก่อนถึง Kurama วกวนจนหลงไปออกที่ แถว Kamigamo jinja แทน
เราเองตกใจตัวเองที่จำแถบนั้นได้ ตอนที่นั่งในรถหลงทางอยู่ อยู่ดีๆก็รู้สึกคุ้นขึ้นมา ก็เลยบอกไปว่า นี่มันแถว Kamigamo รึเปล่าคะ? Sensei ก็เลยบอกว่าใช่ ด้วยอารมณ์ตกใจเล็กๆว่าจำได้ด้วยเหรอ .. ทั้งๆที่ตรงนั้น ตอนนั้นยังไม่ถึงวัดแล้วก็บ้านแบบ samourai (เอกลักษณ์ของแถบนั้น)เลย แต่ว่า อยู่ดีๆก็คุ้นขึ้นมาเองซะงั้น ..แปลกดี
กว่าจะไปถึง Kurama ก็ทำเอางงและเมากันหมด
มาถึง Kurama ก็ต้องถ่ายรูปกับนี่สินะ . Tengu หัวแดง จมูกยาว อันนี้ ใหญ่จัง



Tengu ที่เห็นนี่ จะอยู่หน้าสถานี Kurama พอดี
จากในเมือง สามารถนั่งรถไฟมาได้ ซึ่ง อันที่จริง นั่งรถไปมาช่วงนี้ก็จะวิวสวยพอดี แต่ว่า เรามากันหลายคนเพื่อความสะดวกก็เลยขับรถมากันดีกว่า ..



ในสถานี เล็กๆมีคนรออยู่มากมาย



ด้านข้างของสถานีก็มี ที่ให้ถ่ายรูปเล่นกัน
เป็นรูป Tengu กับใครสักคน ไม่รู้จัก ..
Rie กับ Riho ทำหน้าตาตลกดี



บริเวณรอบๆก็จะมีขายหน้ากาก (o-men)



แล้วก็เข้าสู่ส่วนของวัด
ทางขึ้น



บริเวณทางเข้า



เข้าวัดต้องล้างมือก่อนเสมอ



น้ำเย็นกำลังดี สดชื่นๆ

ทางเดิน ต่อจากนี้ต้องขึ้นเขากันละนะ



ระหว่างทางขึ้นไปยัง ropeway มี รูปแกะหินเป็นรูป Jizou น่ารักๆแบบนี้
พระที่ญี่ปุ่นต้องคาดผ้ากันเปื้อนแบบเด็กๆทุกที น่ารักมากมาย



Riho ของเราก็ไม่อยู่เฉย หนูขอน่ารักแบบ Jizou บ้างนะคะ



ทางขึ้น ropeway เป็นอาคาร ไม่ใหญ่มาก ด้านในมี model ของภูเขาไว้ให้ดู และกดเล่นได้ว่า อะไรอยู่ตรงไหนบ้าง



บังเอิญว่า อ่านไม่ออก เลยขอผ่าน ให้เด็กๆเขาเล่นกันดีกว่า

ส่วนเราก็ไปไหว้พระที่อยู่ในตัวอาคาร



ธูปของที่นี่ เป็นแบบหักครึ่งตรงกลางได้ แล้วเอามาจุดสองอัน(หลังจากหักแล้ว) พอปักลงไปมันก็จะไหม้จนหมด ก็เลยไม่มีก้านธูปเหลือ ก็ดีไปอย่างเนอะ เป็นมีคนไหว้ ดอกเดียวบ้าง สองดอกบ้าง ไม่รู้แล้วแต่ศรัทธารึเปล่า ..55



จากด้านล่างนี้ จะเดินขึ้นเขาไปก็ได้ แต่คงใช้เวลาสักหน่อย
แต่พวกเรา จะขึ้น cable car ไป ค่าขึ้น เที่ยวละ 100 Y ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีก็ถึง มี cable car ชั่วโมงละสี่เที่ยว จึงต้องรอสักหน่อย แต่ละเที่ยว(ตอนที่เราไป) ก็คนเต็มจนต้องยืนกันแน่นทีเดียว

ตั๋วเป็นรูปกลีบดอกไม้



ลักษณะคล้ายกับ tram ของฮ่องกง แต่ว่าเล็กกว่ามาก แล้วก็ไม่มีพักระหว่างทาง

ทางขึ้น ropeway



ด้านใน คนเยอะเชียว



วิวระหว่างทาง มีต้นไม้ ส่วนใหญ่เป็นต้นโดดๆ สูงมาก ของ Cedar ญี่ปุ่น



ขึ้นมาถึงด้านบน แล้วมองลงไปก็สวยดี แต่แสงจ้ามาก เนื่องจากยังถ่ายไม่ค่อยเป็นภาพก็เลยไม่เห็นถึงสถานีด้วนล่าง ต้องขออภัยด้วย



ออกจากสถานี ropeway ก็มีที่ให้แวะถ่ายรูปเล็กน้อยพอเป็นพิธี ก่อนจะต้องเดินกันต่อไปอีกประมาณ 15 นาที ขึ้นเขา แต่มีทางเดินให้ปลอดภัยดี
คนเยอะมาก มีเพื่อนเดินตลอดเวลา





ป่าระหว่างทาง
สวยมาก



มีที่แวะพักระหว่างทางขึ้นให้ชมวิวเมืองได้



ก่อนเข้าสู่ตัว complex ใหญ่ของวัด ก็มีที่ให้ล้างมืออีก (จะสะอาดไปถึงไหนเนี่ย)
คราวนี้เป็นรูปมังกร เหมือนที่ Kiyomizu เลย



ลานหน้าวัด





ซากุระสวย แต่ถ่ายยาก เพราะคนเยอะ

Hanami



ด้านหน้าตัว hall



ด้านใน hall



หน้าเทียน



Stainglass ของ Cannon



รอบ hall มีโคมไฟสวยๆ



ทางออก ด้านข้างของ hall



มีแสดงดนตรีอยู่พอดี
เป็นเครื่องดนตรีญี่ปุ่นคือ Koto กับ Shakuhachi คล้ายกับปี่ของไทย แต่เสียงทุ้มกว่า นุ่มกว่า
เล่นด้วยกันแล้วเพราะ เหมาะกับสถานที่เป็นอย่างมาก





เดินเล่นด้านบนนิดหน่อยแล้วเราก็พากันกลับลงมา
ทางลงค่อนข้างชันทีเดียว
หินเยอะ เดินต้องระวังมาก Rie ลื่น เกือบล้มไปสองรอบ



ระหว่างทางลง มีศาลเล็กๆ อยู่หน้าต้น Cedar ใหญ่ ดูท่าจะมีความสำคัญ แต่ก็... อย่างไรนั้น ... มิทราบได้



อีกที่คือต้น cedar ที่ถูกฟ้าผ่าเหลือแต่ซาก เป็นตำนานของที่นี่



ลงมาถึงด้านล่าง Satomi กับ sensei รออยู่แล้ว
ขึ้นรถแล้วไปต่อกันที่ Kibune ซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน
อันที่จริง ถ้าขึ้นไปถึงวัด Kurama ด้านบนแล้วมันจะมีทาง hiking ต่อไปยัง Kibune ได้ แต่ต้องใช้เวลาเดินอีกประมาณ 1-2 ชั่วโมง ส่วนพวกเรา ลัดไปโดยขับรถไป อิอิ
วิวสองข้างทางสวย มีลำธารและต้นไม้มากมาย แต่ไม่ได้แวะเลยเพราะว่า ทางแคบมาก ถ้าหากมีรถสวนมาจะขับลำบาก เราเลยลิ่วๆๆๆ ไปที่ศาลเจ้ากันเลย
ทางขึ้นศาลเจ้า



และบริเวณรอบๆ





มี Ryokan และ onsen มากมาย
บริเวณแถบนี้ ไม่มีอะไรให้ทำมากนักนอกจากกิน อาบน้ำ แล้วก็นอน
แถมที่พักยังแพงจัด
ถ้าต้องการมาพักผ่อนแบบพักสบายๆจริงๆ+ ตังค์เหลือ ก็เป็นทางเลือกที่ดี eco สุดๆ

เราไม่ได้พัก แต่ก็แอบถ่ายหน้า Ryokan หนึ่งมาแทน อยู่ริมแม่น้ำเลย ทางเข้าลงไปใต้ดินเล็กน้อย มองทะลุออกไปอีกด้านจะเป็นแม่น้ำเล็กๆที่สะอาดมาก



แล้วก็ไหลเป็นน้ำตกชั้นเตี้ยๆ เป็นช่วงๆตลอดทาง



พวกเราไม่ได้ขึ้นไปที่ศาลเจ้ากัน
เพราะต้องรีบกลับไปให้ทันเวลาทำงานพิเศษ ของ Satomi

น่าเสียดายที่วันนี้ Satomi เมารถซะงั้น เลยไม่ได้ขึ้นเขาไปกับพวกเราด้วย sensei ก็อยู่เป็นเพื่อน ก็เลยขึ้นเขาไปกันแค่สี่คน แต่ก็สนุกดี



Create Date : 13 เมษายน 2552
Last Update : 22 พฤษภาคม 2553 13:27:56 น.
Counter : 3926 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

blueschizont
Location :
ประจวบคีรีขันธ์  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



รักญี่ปุ่น