เมนูขึ้นสำรับวันนี้คงถูกใจบรรดาคออาหารรสแซบ หรือบรรดาคอน้ำพริกทั้งหลาย โดยเฉพาะใครที่ชอบทานเนื้อย่างจิ้มแจ่ว ขอบอกว่า ลองหันมาทานเนื้อย่างจิ้มน้ำพริกตาเพชร สูตรเฉพาะของบ้าน พลเอก พระยาเทพหัสดิน สยามพิชิตินทร์สวามิภักดิ์ อุดมศักดิ์เสนีย์พิริยะพาหะ ดูบ้าง แล้วคุณจะติดใจ
พลเอกพระยาเทพหัสดินฯ ท่านเป็นแม่ทัพที่ในหลวง รัชกาลที่ 6 ทรงส่งไปร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 ยังมีภาพของท่านถือธงชาติไทยเดินนำขบวนทหารไทย ที่ถนนฌองเอลิเซ่ ประเทศฝรั่งเศส และสมัยก่อนที่นิยมการล่าสัตว์ ทุกครั้งที่พระยาเทพหัสดินออกล่าสัตว์ จะต้องพกน้ำพริกตาเพชร ซึ่งปรุงโดยนายพรานของท่านที่ชื่อ เพชร ติดไปด้วย เพื่อไว้ทานกับเนื้อย่างที่ล่ามาได้ โดยน้ำพริกตาเพชรนี้ จะมีเคล็ดลับอยู่ว่า เครื่องปรุงจะต้องไม่ให้มีสัตว์อื่นๆเจือปนอยู่ด้วยเลย คือไม่ใส่น้ำปลา แต่จะใช้เกลือแทน เพื่อไม่ให้เสียรสชาติของเนื้อที่จะนำมาจิ้ม และพริกขี้หนูที่ใช้จะต้องใช้พริกขี้หนูสีเขียวล้วนๆ เพื่อให้สีสันออกมาเขียวสดใส ไม่ใช่สีช้ำเลือดช้ำหนอง
น้ำพริกตาเพชร สูตรโปรดของพระยาเทพหัสดินฯ ก็ได้ตกทอดต่อกันเรื่อยมา ถึงรุ่นลูก หลาน และเหลน คือ คุณปูภญ.ดร.นฤพร สุตัณฑวิบูลย์ ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิจัย คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเคยได้ลิ้มรสชาติมาตั้งแต่เด็ก โดยคุณยาย (ผัสพร เทพหัสดิน ภักดีกุล) จะทำให้ลูกหลานได้รับประทานอยู่เสมอ คุณปู เล่าว่า คุณยายจะมีฝีมือทางด้านการบ้านการเรือน สมัยก่อนคุณยายจะเป็นเลขาฯประจำตัวของคุณตาทวด (พระยาเทพหัสดินฯ) รวมถึงเป็นผู้ปรุงข้าวปลาอาหารให้รับประทานด้วย และเธอก็จะได้รับการถ่ายทอดวิชา ทั้งทำอาหาร และเย็บปักถักร้อยมาจากคุณยายนี่แหละ
เครื่องปรุงน้ำพริกตาเพชร : ผักชีพร้อมราก 1 ถ้วย / พริกขี้หนูสีเขียวล้วน 1/4 ถ้วย / กระเทียม 1/2 ถ้วย / น้ำมะนาว 1/4 ถ้วย / เกลือ 1/2 ชช./....วิธีทำ ตำกระเทียม ผักชีพร้อมราก และพริกขี้หนูเข้าด้วยกันพอแหลก จึงปรุงรสด้วยน้ำมะนาว และเกลือ
สมัยก่อนน้ำพริกตาเพชรจะต้องทานกับเนื้อย่างเท่านั้น แต่พอมาถึงสมัยนี้ลูกหลานดัดแปลงมาเป็นน้ำจิ้มสารพัดประโยชน์ ทานกับเนื้อสัตว์ทุกชนิดรวมถึงซีฟู้ด หรือถ้าเป็นพวกมังสวิรัติ ก็อาจจะใช้จิ้มกับเห็ดหอมสดชุบแป้งทอด ก็ได้รสชาติความอร่อยไม่แพ้กัน.