|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | |
|
|
|
|
|
|
|
กระบี่รันทด 4.....จำพราก
กระบี่รันทด 4.....จำพราก
โดย GTW
++++++
ก่อนอื่นต้องหาห้องน้ำ
ไม่มีเวลาขบคิดว่านางไปที่ใด
ผู้ใดเอาเสื้อผ้ามาวางให้..กระบี่รันทดใช้ท่วงท่ารวดเร็วสุดชีวิตเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับสู่ชุดเดิมของมันอีกครั้ง
มันไม่กล้าเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่กลางห้องเด็ดขาด
เกิดว่าแม่นางของมันโผล่เข้ามาจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด ยิ่งโผล่มาตอนที่กำลังคาบลูกคาบดอกนั่นยิ่งเลวร้ายจนมิกล้าขบคิด
สภาพการที่น่าอับอายเช่นนั้นน่ากลัวทำให้มันตกตายไปจะสู้หน้ากับบรรพชนในปรภพได้อย่างไรกัน
มันเห็นภาพตนเองกำลังเปลื้องผ้าพลัดเปลี่ยน ทันใดนั้นดรุณีน้อยโผล่มามันต้องเผ่นตัวปลิวไปยังเตียงดึงผ้าห่มมาคลุมไม่คิดชีวิต
ภาพเช่นนี้แค่คิดก็สยดสยองพองเกล้าใจจะขาดแล้ว
มันนึกเสียดายที่ไม่ได้เรียนวิชา หน้าศิลา (หน้าด้าน) มา
ความจริงอาจารย์ของมันต้องการจะถ่ายทอดเคล็ดลับวิชาหน้าศิลาให้แก่มัน
แต่ตอนนั้นมันพลันคิดว่าเป็นวิชาชั้นต่ำโง่งม
หารู้ไม่ว่านั่นคือสุดยอดของแก่นวิชาแขนงหนึ่ง
คนที่ฝึกวิชาหน้าศิลาสำเร็จจัดว่าเป็นยอดคนในยุทธภพอย่างไม่ต้องสงสัย
ไม่ว่าท่านจะ่ด่าจะว่าเพียงไร มันล้วนสามารถรับได้
ต่อให้เป็นแม่เฒ่าปากปลาร้า จอมยุทธสุดยอดแห่งวิชาการด่า มาลงปากด่า มันล้วนสามารถต้านทานรับได้
ปรัชญาลึกล้ำวิชาหน้าศิลา คือ หน้าด้านเท่านั้นที่จะครองโลก
ปรัชญาลึกล้ำนี้ไม่กี่พยางค์ แต่แฝงไว้ด้วยความลึกล้ำสุดคาดคำนวณแปรเปลี่ยนพลิกแพลงสุดบรรยายกว้างใหญ่ไพศาลราวห้องมหรรณพ
กว่ากระบี่รันทดจะทราบความจริงเช่นนี้ก็นับว่าสายเกินไปแล้ว
คิดจะหน้าด้านไม่ง่ายดาย
คิดจะเป็นคนหน้าด้านยิ่งไม่ง่าย
เพียงบางคนเกิดมามีพรนรกมาตั้งแต่กำเนิด สามารถหน้าด้านอย่างเป็นธรรมชาติกลมกลืนไม่ขัดตา แต่คนส่วนใหญ่หาได้มีพรนรกแสนวิเศษเช่นนั้นทุกคนไม่
กระบี่รันทดย่อมไม่ใช่กระบี่หน้าศิลา
ดังนั้นมันจึงมองหาห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า
ในห้องนั้นมีห้องน้ำ
ห้องน้ำที่ว่างเปล่าไร้ผู้คน
พอกลับสู่สภาพเดิม ความอาจหาญมั่นคงพลันกลับคืนมา ชุดที่มันสวมใส่ดูไปทั้งเก่าทั้งราคาถูกแต่ความจริงคนเราย่อมมีสิ่งที่เหมาะสมกับบุคลิกภาพของตนเองอยู่หนึ่งอย่างทุกถ้วนทั่วตัวคน มันในชุดเช่นนี้ยังดูองอาจสง่างามมากกว่าชุดวิลิศมาหรามากมายหลายเท่านัก
มันเหน็บกระบี่ไว้ระหว่างเอว ปราดไปที่หน้าต่าง
เบื้องนอกมืดมนหม่นสลัวลางไม่ถึงกับมืดมิดเสียทีเดียว คันเคียวเสี้ยวจันทร์แขวนอยู่กลางฟากฟ้าราวโคมไฟกลางหมู่ดาราราย
คันเคียวเสี้ยวจันทร์ดูไปคล้ายริมฝีปากแย้มยิ้มของดรุณีน้อยนางนั้น
ทั้งคู่พบพานกันไม่นาน พูดคุยกันไม่กี่คำ แต่นั่นพอเพียงแล้ว
เรื่องราวบางประการสามารถสื่อด้วยใจและความรู้สึก
ยังไม่ทันกระโดดลงหน้าต่าง แต่หัวใจตกวูบลงไปก่อน
การพลัดพรากจากคนอันเป็นที่รักอย่างไรก็ไม่ใช่เรื่องปลอดโปร่งโล่งสบาย ดังนั้นพลังภายในของมันจึงทวีมากขึ้นตามระดับความรันทดครั้งนี้
บุรุษหนุ่มถอนใจ
.. ในที่สุดกระโดดปราดลง
+++++++
มันคำนวณออกว่าห้องนี้อยู่ไม่สูงนัก แต่ก็ไม่เตี้ยจนลงถึงพื้นอย่างสะดวกสบายเท่าใด
มันคำนวณออกว่าพื้นด้านล่างต้องไม่ใช่สระน้ำ
บางทีอาจเป็นพื้นดินทั้งเย็นทั้งแข็ง หรืออาจเป็นสุมทุมพุ่มไม้ ซึ่งประการหลังดีกว่าประการแรกมากมายหลายเท่า
แต่มันคาดไม่ถึงเด็ดขาดว่ามันร่วงลงไปในอ้อมแขนทั้งนุ่มทั้งอบอุ่นหอมกรุ่น
หัวใจของกระบี่รันทดพลันเย็นเฉียบยิ่งกว่าตกลงไปในสระน้ำมากมายหลายเท่า
ที่แท้เป็นดรุณีร่างสูงใหญ่เป็นพิเศษนางนั้นนั่นเอง
นางคว้าใส่ร่างของกระบี่รันทดซึ่งลอยลงมาจากความสูงจากชั้นที่สามของตึกใหญ่ได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ หมายถึงวิทยายุทธสูงส่งยิ่ง เช่นนี้โอกาสจะดิ้นรนหลุดรอดมีน้อยกว่าน้อย
อ๊าก
กระบี่รันทดแผดร้องอย่างไม่ตั้งใจเป็นครั้งที่เท่าไรไม่อาจทราบได้
ดรุณีร่างใหญ่ขมวดคิ้วส่ายหน้าอย่างจนใจร้องว่า
ท่านแผดร้องเป็นตัวอุบาทว์ซกมกอีกแล้ว เราอุตส่าห์รับท่านไว้ไม่ให้ชอกช้ำท่านกลับทำท่าแตกตื่นปางตาย เช่นนี้หมายความว่าอย่างไรกัน
นางไม่พูดเปล่า พลันพลิกข้อมือทุ่มเหวี่ยงบุรุษหนุ่มข้ามไล่ลงบนพื้น
คนของหมู่ตึกไร้รักฝีมือร้ายกาจทุกคน คนถูกการทุ่มท่านี้ไม่อาจลุกขึ้นมาในเวลาอันรวดเร็ว อย่างน้อยต้องนอนตัวแข็งบนพื้นนับชั่วยาม อย่างมากนอนนับดาวครึ่งค่อนคืน ต้มใบบัวบกดื่มเป็นเดือนไม่อาจน้อยไปกว่านี้
แต่กระบี่รันทดเพิ่งรันทดจากการลาร้าง พลังกายใจถึงขีดสุด
มันพลิกตัวกลางอากาศราวมัจฉาแหวกสายธารเอาเท้าแตะพื้นก่อนแฉลบพุ่งกายออกไปทางด้านข้าง
ดรุณีร่างใหญ่ร้องไล่หลังมาว่า
ท่านคิดว่าหมู่ตึกไร้รักเป็นอุทยานบุปผาเช่นไร นึกจะมามา นึกจะไปไป เกรงว่าไม่รวบรัดชัดเจนเด็ดขาด ท่านควรตะหนักให้มากเข้าไว้
นางดากล่าวไล่หลังไป
แต่คล้ายมีม่านเลือนลางบดบังตา
ม่านน้ำตา
ลำธารสายหนึ่ง สะพานหินโค้งข้ามไป
บนสะพานยามนี้มีทารกทาริกาคู่หนึ่งยืนอยู่ สายตาจับจ้องมองมาไม่กระพริบ
กระบี่รันทดมาตรว่ามึนงงสงสัย แต่ไม่ปราถนาตอแยกับสตรีและเด็ก ดังนั้นพลันวิ่งอ้อมไปด้านข้าง
มิคาดว่าพอเฉียดเฉียดใกล้ ทารกพลันตะปบมือคว้าใส่ข้อมือของมัน
เคยมีคนบอกว่าทารกทาริกาวัยเยาว์ มิว่าคว้าจับใส่สิ่งใดต่างคว้าจับไว้อย่างแนบแน่น เนื่องเพราะทารกย่อมมีจิตใจบริสุทธิ์ไร้เดียงสาพอกระทำเรื่องราวใดล้วนใจจรดจ่ออยู่กับเรื่องนั้น แต่มือของทารกคนนี้ทั้งแข็งทั้งเย็นผิดปกติ เรื่องเช่นนี้ไม่มีใครเคยบอกเด็ดขาด
ความสงสัยเพิ่งประทุข้อมือข้อทารกปลิดหมุนยกร่างของกระบี่รันทดขึ้นลอยคว้างกลางอากาศขณะที่ทาริกาหญิงเคลื่อนร่างตรงมาอย่างรวดเร็วมือทั้งคู่พุ่งเข้าใส่คอหอยของกระบี่รันทด มือคู่ที่แฝงพลังเกรี้ยวกราดไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าปลายทวนทมิฬของยอดฝีมือยุทธภพ
ท่วงท่าพิกลพิสดารของทารกทาริกาบันดาลให้ผู้คนพบเห็นแตกตื่นจนหัวใจแทบกระดอนจากปาก
กระบี่รันทดไม่เคยทำร้ายเด็กและสตรี
ดังนั้นเพียงลังเลวูบเดียวความตายก็มาเรียกขานหน้าบ้านแล้ว
ยามนั้นเงาร่างสายหนึ่งในชุดสีดำคลุมหน้าโฉบมาราวปักษา ใช้สันมือฟันใส่ข้อมือของทาริกาขาดสะบั้น..
ร่างของกระบี่รันทดหลุดพ้นจากแรงเหวี่ยงกระแทกใส่ราวสะพาน ยังไม่ทันตั้งหลักเงาร่างนั้นก็ฉุดแขนมันลุกขึ้นกระชากให้ออกวิ่งพร้อมเสียงร้องดังข้างหู
ตามมา ถ้าคิดจะรอดพ้นจากสถานที่นี้
ท่านตัดแขนทารก
แขนทารกใด ท่านซกมกมากมากที่ดูไม่ออกว่านั้นเป็นหุ่นกลเท่านั้น
หุ่นกล?
ท่านดู
หุ่นทารกพอแขนขาดคล้ายเสียศูนย์เอียงหมุนเข้าหาหุ่นทาริกาน้อย จึงถูกมือพิฆาตปักลงทรวงอกจนเกิดประกายไฟประทุไม่ขาดสาย
หมู่ตึกไร้รักเต็มไปด้วยกับดักค่ายกล ท่านไม่มีทางหลบรอดหากไม่ตามเรามา
คนผู้นั้นคล้ายชำนาญสถานที่ยิ่ง พากระบี่รันทดกระโดดปราดไปหาลัดเลาะตามสุมทุมพุ่มไม้จนทะลุออกทางด้านหลังหมู่ตึกมุ่งหน้าสู่ประตูบานใหญ่ที่ปิดสนิท
กำแพงสูงดูท่าไม่มีที่ให้ปีนป่าย
แต่คนลึกลับผู้นั้นเปิดไปสอดกุญแจดอกใหญ่เปิดออกอย่างง่ายดาย
ไม่ทันที่จะซักถาม คนลึกลับผู้นั้นก็คว้ามือมันพาวิ่งออกไปจนถึงเนินดินกลางดงสนห่างหมู่ตึกออกไปหลายลี้
+++++
Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2548 |
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2548 21:27:56 น. |
|
0 comments
|
Counter : 477 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|