Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2548
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
26 กุมภาพันธ์ 2548
 
All Blogs
 
กระบี่รันทด 5...จากใจ

กระบี่รันทด 5...

โดย GTW

+++++


แสงจันทร์ยามดึกผ่องอำไพ ลูบไล้พื้นพิภพปลอบประโลมใจไออุ่นยามลมหนาวทักทาย กระบี่รันทดจวบจนบัดนี้จึงเห็นหน้าคนลึกลับเมื่อผ้าคลุมหน้าปลิดปลิวตามสายลมหายไปในเงามืด

จันทรานวลไย ใบหน้าผุดผาดนั้นกลับขาวนวลน่าชมยิ่งกว่าดวงจันทราอย่างน้อยสี่สิบแปดเท่าไม่ต่ำกว่านี้เด็ดขาด

ดรุณีน้อยนางนั้นนั่นเอง

…..

กระบี่รันทดตะลึงลาน

คนซึ่งควรเหนี่ยวรั้งมันไว้ที่สุดกลับเป็นคนพามันหนีออกมา เรื่องราวเช่นนี้สุดครุ่นคิดคำนึง

....

ดรุณีน้อยจ้องมองมายังมันอย่างซึมเซา

ลมยามดึกกรรโชกวูบ เงาทิวสนสะบัดใบร่ายรำตามลำนำเพลงประสานเสียงแห่งสายลมและใบสน ใบสนโปรยปรายราวมายาภาพในฝัน

กระบี่รันทดก็พาลยืนจ้องมองนางเนิ่นนานเช่นกัน

…….

สรรพสิ่งเงียบงันราวเอียงหูเตรียมสดับรับฟังเสียงกระซิบสั่ง

ประกายตาของนางพร่างพรายราวดารารายกระซิบแสงแสนเศร้าชนิดออกมาแต่นางยังสามารถฝืน
ยิ้มให้กระบี่รันทด

ยิ้มที่แฝงด้วยความเศร้าและเต็มไปด้วยการปลอบประโลมผสมความอาวรณ์และการเข้าใจสถานการณ์กระจ่างชัด

“เป็นท่าน….”

กระบี่รันทดเอ่ยปากออกมาได้ยากลำบากยากเย็น

...........

“เป็นเราจริงๆ”

นางเอ่ยตอบด้วยเสียงหม่นเศร้าชวนจิตใจแหลกสลาย นางคล้ายจะสั่นไหวหายลับไปกับสายลมยามวิกาล

กระบี่รันทดเงียบงันครู่หนึ่งจึงเอ่ยเบาๆ อีกว่า

“ท่านทราบข้าพเจ้าอย่างไรก็ต้องไป”

“ข้าพเจ้าทราบท่านอย่างไรต้องไป”

การพลัดพรากลาจากเป็นเรื่องคล้ายธรรมดาสามัญ แต่เรื่องธรรมดาสามัญเช่นนี้บางทีเป็นโศกนาฎกรรมบทหนึ่งของมนุษยชาติชั่วกาลนาน

มีพบมีจาก

ไม่มีพบไม่มีจาก

ไม่พบ..ไม่จาก..ชีวิตคงเหลือแต่คราบสังขารว่างเปล่า

กระบี่รันทดไม่กล่าวกระไรอีก มันค่อยๆ ถอยหลัง ยืนจ้องมองนางอยู่ครู่หนึ่งถึงค่อยเดินหายไปในความมืดมนอนทกาล

สายลมครวญครางราวร้าวรันทดสุดแสน เงาสนถอนสะอื้นโศกเศร้าปานหัวใจแหลกสลาย

ดรุณีน้อยพลันสร้างม่านน้ำตาขึ้นมาฝืนหนึ่ง

ม่านน้ำตาเลือนลางสั่นไหวพร่างพรูราวสายฝน

เป็นฝนน้ำตา

สายฝนปกติชะล้างสิ่งหม่นมัวให้กระจ่างสดใสนำพาความสดชื่นและชีวิต
สายฝนน้ำตานำมาแห่งความกำศรดโศกเศร้า

หรือบางทีนี่เป็นมุมมืดของความรัก

มุมมืดของเงาไม้พลันปรากฏร่างบุรุษหนุ่มเดินกลับมาอีกครั้ง

มันใช้สายตาอ่อนโยนจับจ้องมองผ่านม่านน้ำตา เสียงของมันสั่นไหวคล้ายภาพพร่าพรายกลางสายฝนหากกระจ่างชัดทุกถ้อยคำ

“ท่านทราบเราอย่างไรต้องไป ก็สมควรทราบอย่างไรเราต้องกลับมาหาท่าน”

ดรุณีน้อยยิ้มทั้งน้ำตา

ดรุณีเติบใหญ่สามารถยิ้มทั้งน้ำตาได้มีไม่มากนักดรุณีเติบใหญ่ยิ้มทั้งน้ำตาแล้วน่าชมดูยิ่งไม่น้อยกว่าน้อย

นางทราบคนผู้หนึ่งคิดไป มิอาจรั้งมิให้ไป ต่อให้รั้งกายได้ก็ไม่มีทางยั้งใจเอาไว้



นางพลันเอ่ยว่า

“ท่านควรทราบท่านไปสามปีเรารอท่านสามปี ท่านไปสิบปีรอเราท่านสิบปี ท่านไปชั่วชีวิตเรารอท่านชั่วชีวิต...ท่านไม่มาเราน้อมรอท่านชาติหน้า”

กระบี่รันทดความจริงในในชีวิตของมันยิ้มแย้มน้อยครั้ง
บัดนี้มันถึงกลับคล้ายยิ้มแย้มเล็กน้อยแล้ว

“เราทราบดี…ดังนั้นเราจะกลับมา”

นั่นเป็นวาจาที่หนักแน่นที่สุดที่มันเคยเอ่ยปากออกมา

สายลมกรรโชกคล้ายรับรู้คำมั่นสัญญา หรีดริ่งเรไรซึ่งเงียบงันมาเนิ่นนานคล้ายเซ็งแซ่ประสานเสียงยินดีปรีดา

“เราก็ทราบ ช้าเร็วท่านต้องกลับมา”

“เพียงมีชีวิตเราต้องกลับมา”

“ท่านต้องมีชีวิตกลับมาแน่นอน”

บัดนั้นเองห่วงไร้สภาพผนึกใจสองใจแนบแน่นหลอมสลายกลายเป็นใจดวงเดียวกัน

ความสุขใจลึกล้ำประดังขึ้น กระบี่รันทดสะท้านเฮือกพลังภายในเริ่มเสื่อมถอย ส่งเสียงแหบพร่า

“เราต้องไปแล้ว”

“ท่านไปได้แล้ว”

ดังนั้นกระบี่รันทดมิอาจไม่ไป

เมฆก้อนใหญ่เคลื่อนบดบังจันทรา จันทราหลบลี้หนีหน้าทิ้งเงามืดดำโอบอุ้มพื้นพิภพ กระบี่รันทดมาแล้วมิอาจไม่ไป

ใช่มันแส่หาเรื่องใส่ตัวหรือไม่ ชักนำเรื่องร้าวรันทดเข้าหาตัวหรือไม่

กระทั่งมันยังไม่อาจตอบคำถามที่วางบนความว่างเปล่านี้ได้

จันทราลาหลบหลังเมฆ

....

จันทราแย้มกายส่องแสงอีกครา

นางยังคงยืนที่เดิน

เงาจันทร์ผ่านพ้น กระบี่รันทดเดินกลับมาอีกครั้ง

ในมือของมันมีดอกไม้

ดอกราตรี

มันยืนมองดรุณีน้อยครู่หนึ่งพลันกระทำเรื่องราวที่อาจหาญที่สุดในชีวิต

ดอกราตรีค่อยบรรจงปักแซมม่านผมดำขลับเหนือหูของดรุณีน้อย

กับมันแล้วการกระทำเช่นนี้ยากยิ่งกว่าปักกระบี่ลงในอกของศัตรูมากมายหลายเท่าเพียงแต่มันดอกราตรีช่อนี้ไม่เพิ่งแต่ปักลงบนเส้นผมของนางเท่านั้น ยังปักลงกลางใจของนางอีกด้วยดอกราตรีธรรมดาพลันกลับกลายมีคุณค่าทางใจมหาศาล

“ดึกแล้วท่านควรรีบกลับบ้านเข้านอน”

มันเอ่ยเสียงราบเรียบ หากฟังดูอบอุ่นยิ่ง

ดรุณีน้อยลูบคลำช่อราตรีแผ่วเบา...แล้วพยักหน้าอย่างว่าง่าย

“ดึกแล้วข้าจะกลับบ้านนอน ท่านถนอมตัวด้วย”

.........

ทั้งคู่มองหน้ากับครู่หนึ่ง ในที่สุดต่างหันหลังให้กันแล้วค่อยก้าวหายไปในเงามืด

หัวใจพลันหม่นมัวมืดมน

กระบี่รันทดยังมีภารกิจของมัน

ตอนนี้ความร้าวรันทดกระตุ้นเลือดลมบันดาลให้มันกลับคืนสภาพสุดยอดของฝีมืออีกครั้ง


และอ้างว้างเดียวดายอีกครั้ง ในคืนที่อ้างว้างเยือกเย็น

++



Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2548
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2548 21:36:21 น. 3 comments
Counter : 1477 Pageviews.

 
ฮือ ฮือออออออออออ
เศร้าอะไรเยี่ยงนี้ ...........
“ท่านควรทราบท่านไปสามปีเรารอท่านสามปี ท่านไปสิบปีรอเราท่านสิบปี ท่านไปชั่วชีวิตเรารอท่านชั่วชีวิต...ท่านไม่มาเราน้อมรอท่านชาติหน้า”


โดย: พรายทราย วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2548 เวลา:21:52:42 น.  

 
เนี่ยะ...อาถรรพณ์เรื่องยาวจริง ๆ
นั่งร้องเพลงมาช่า ประกอบเรื่องนี้เข้ากันจริง ๆ
ไม่รู้ต้องรออีกนานแค่ไหนนนนนน


เฮ้ออ เรื่องนี้สนุกดี มีหลายอารมณ์
ไปอ่านเรื่องอื่นพลาง ๆ ก็ได้นิ




โดย: พรายทราย วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2548 เวลา:11:39:35 น.  

 




ป่านนี้ กระบี่รันทด คงไม่รันทดแล้ว

...ดรุณีนั้น คงยิ้มได้ ในความสุขและไม่เดียวดายของกระบี่รันทด


โดย: ... IP: 81.247.184.147 วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:21:06:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Psycho G
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




Friends' blogs
[Add Psycho G's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.