โรคกระดูกพรุนพบได้บ่อยเป็นลำดับที่ 2 รองจากโรคข้อเสื่อม โดยที่ไม่แสดงอาการผิดปกติ ผู้หญิงมีโอกาสเกิดโรคนี้ถึงร้อยละ 30-40 ขณะที่ผู้ชายมีโอกาสเกิดโรคนี้เพียงร้อยละ   10 การสูญเสียมวลกระดูกไม่สามารถเปลี่ยนกลับมาเหมือนเดิมได้ วิธีที่ดีที่สุดก็คือ การป้องกันและรักษาตั้งแต่เริ่มแรกก่อนที่จะเกิดกระดูกหัก

ผู้ที่ควรตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูก

1.ผู้หญิงหลังหมดประจ้าเดือน (โดยเฉพาะผู้ที่อายุน้อยกว่า 50 ปี) หรือ ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดรังไข่ออกทั้งสองข้าง

2.ผู้ที่มีกระดูกหักเกิดขึ้นทั้งที่เป็นอุบัติเหตุที่ไม่รุนแรง เช่น ข้อเท้าพลิก ยกของหนัก ลื่นล้ม หรือ ตกจากเก้าอี้ โดยเฉพาะกระดูกหักในบริเวณ ข้อมือ หัวไหล่ สันหลัง สะโพก และ ส้นเท้า

3.ผู้สูงอายุที่รู้สึกว่ากระดูกสันหลังผิดปกติ เช่น หลังโก่ง หลังคด ความสูงลดลงมากกว่า 1.5 นิ้วเมื่อเทียบกับความสูงที่สุดช่วงอายุ 25-30 ปี

4.เป็นโรคบางอย่าง เช่น ไตวาย เบาหวาน รูมาตอยด์ ไทรอยด์ พิษสุราเรื้อรัง ธาลัสซีเมีย โรคมะเร็ง เป็นต้น

5.รับประทานยาบางชนิดเป็นเวลานาน เช่น ยาสเตียรอยด์ ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร (ยาธาตุน้้าขาว) ยาขับปัสสาวะ

6.ผู้ที่ผอมมากๆ ผู้ที่ประวัติครอบครัวเป็นโรคกระดูกพรุน หรือ ผู้ที่ไม่ค่อยได้ออกก้าลังกาย

7.สูบบุหรี่ ดื่มสุรา ดื่มกาแฟมากกว่า 4 แก้วต่อวัน ดื่มน้้าอัดลมมากกว่า 1 ลิตรต่อวัน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทร.0-2421-3870 (เวลา 08:00 – 22.00 น.)
Hot Line 1645 กด 1 หรือ 0-2487-2000 ต่อ 7470-1
เปิดบริการทุกวัน
Email: th@thonburihospital.com
//www.thonburihosipital.com

- See more at: //www.bangkokbiznews.com/advertorial/detail/131#sthash.dTX8nX1q.dpuf