มิถุนายน 2561

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
7
9
10
14
15
16
17
18
19
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
ก้าวแรกที่เนเธอร์แลนด์


มาค่ะ วันนี้มาขอเม้าซะหน่อย
ขอเม้าชีวิตตัวเองล่ะกันนะคะ ไม่เม้าคนอื่น เพราะไม่มีใครให้เม้าค่ะ 555

ขอเล่าตอนเอิงมาเนเธอร์แลนด์ครั้งแรกนะคะ
อย่างที่เคยเล่าไปว่าเอิงมาครั้งแรกตอนปี 2014 ค่ะ
ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าเนเธอร์แลนด์เนี่ยอยู่ตรงไหน
รู้แค่ว่าอยู่ยุโรป แต่อยู่ส่วนไหนของยุโรปนี่ไม่รู้เลย
มีอะไรดัง ประเทศเป็นยังไง ผู้คนเป็นยังไง พูดภาษาอะไรกัน
ไม่เคยมีข้อมูลเลยค่ะ จนได้มาคุยกับคุณแฟน เลยต้องหาข้อมูลล่ะค่ะ
แสดงความสนใจในประเทศเขานิดนึงเนอะ 555

เมื่อทำวีซ่าเรียบร้อย อย่างที่เคยเล่าไปแล้ว
https://www.facebook.com/ErngInTheNetherlands/photos/a.1878222102503630.1073741828.1878183249174182/1901280383531135/?type=3&theater

และเดินทางมาเนเธอร์แลนด์ การผ่านตม. ตามที่เคยเม้าไว้เช่นกัน
https://www.facebook.com/ErngInTheNetherlands/photos/a.1878222102503630.1073741828.1878183249174182/1900223153636858/?type=3&theater

วันนี้เลยจะมาเม้าว่าช่วง 3 เดือนที่เอิงมาด้วยวีเยี่ยมเนี่ยทำอะไรบ้างนะคะ
เพราะเคยเป็นคำถามยอดฮิตจากเพื่อนๆ เหมือนกัน ว่าทำอะไรบ้างๆ วันๆ นึง

เอิงเดินทางมาเนเธอร์แลนด์ครั้งแรกเมื่อเดือน กค 2014 นะคะ
คุณแฟนเชิญให้มาช่วงหน้าร้อนค่ะ จะได้อากาศดีๆ มีกิจกรรมทำ ไปเที่ยวสวยๆ สนุกๆ
และที่สำคัญ เราชาวไทยส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยชินกับอากาศหนาวเนอะ
มาหน้าร้อนจะได้ไม่ต้องปรับตัวมาก อากาศดี
กลัวเจออากาศหนาวแล้วจะไม่อยากมาอยู่ค่ะ

ครั้งแรกเอิงมากับ KLM นะคะ บินตรง กรุงเทพ - อัมสเตอร์ดัมค่ะ
เป็นครั้งแรกที่เอิงต้องเดินทางข้ามทวีปคนเดียวค่ะ ก็ตื่นเต้นเหมือนกัน
แต่ก็ไม่มีอะไรเนอะ บินตรง ก็นั่งยาวๆ มาค่ะ
เม้าตัวเองนิดนึง ว่ามารอบแรกนี่ของพะรุงพะรังเต็มพิกัดมากค่ะ
กระเป๋าโหลด 23 กก. ก็จัดซะแน่นเอี๊ยด จนนน. เกิน ต้องเอาของออก
ฝากที่บ้านกลับเลยค่ะ ที่ถือขึ้นเครื่องก็จัดซะเต็ม แล้วยังมีถุงขนมอีก
ไปซื้อของในดิวตี้ฟรีมาอีก เรียกได้ว่าเต็มไม้เต็มมือ หอบแทบไม่ไหวเลยค่ะ
ก็มาครั้งแรกอ่ะเนอะ ก็ไม่รู้อะไรจะมีไม่มียังไง มาตั้ง 3 เดือน
เราก็กลัวไม่พอ ไม่มี ก็เลยเอามาก่อนค่ะ ไหนจะของฝากญาติๆ แฟนอีก
ก็ต้องจัดเต็มค่ะ ปวดหลังปวดไหล่นิดหน่อย ไม่เป็นไร ทนได้ค่ะ 555

อ่ะ ผ่าน ตม. ออกมาแล้ว ก็เจอคุณแฟนมายืนรอรับอยู่ ดีใจๆ ได้เจอกันแล้ว
เป็นการเจอกันครั้งที่ 2 หลังจากไม่ได้เจอกันมา 2 เดือนกว่าค่ะ
คราวนี้จะได้อยู่กันยาวๆ 3 เดือน ได้เรียนรู้กันเต็มที่ล่ะค่

อ่ะ เข้าเรื่องนะคะ เกริ่นซะยาว
ช่วงมา 3 เดือนนี้ ก็ยังเป็นกึ่งๆ holiday อยู่นะสำหรับเอิง
คือคุณแฟนหยุดงานช่วงสัปดาห์แรกที่เอิงมาเลย จะได้ใช้เวลาด้วยกันก่อนค่ะ
แถมคุณแฟนน่ารักมากๆ (อวยนิดนึง) จัดเตรียมของกินไว้ให้เอิงค่ะ
ซื้อพวกมาม่ามาไว้ให้ กลัวเราจะไม่มีอาหารที่คุ้นเคย ก็เตรียมไว้ให้ค่ะ
ซื้อไดร์เป่าผมไว้รอ (ปกติคุณแฟนผมสั้น ไม่ได้ใช้)
พาไปซื้อหม้อหุงข้าวเลย เรื่องกินเรื่องใหญ่ค่ะ กลัวเราไม่มีข้าวกิน
เดี๋ยวงอแง อยากกลับบ้าน 555
ช่วงสัปดาห์แรกๆ ก็เลยพาไปดู supermarkt พาไป Toko
พาไปดูลู่ทางหาของกินก่อนเลยค่ะ เพราะอยากกินก็ต้องทำกินเองอ่ะเนอะ
คุณแฟนเอิงปกติก็ไม่ได้ทำอาหารค่ะ กินของสำเร็จรูปบ้าง กินพวกอาหารไมโครเวฟบ้าง
แม่บ้านอิมพอร์ตมาแล้วก็ต้องแสดงฝีมือซะหน่อย.....
แต่เอาจริงๆ เอิงก็ทำอะไรไม่ค่อยเป็นค่ะ 5555
ทุกทีอยู่ไทยก็ซื้อกินเอา ไม่ก็กินกับที่บ้าน ที่บ้านก็จัดการให้
เอิงก็ไม่ค่อยได้ทำกับข้าวค่ะ ทำก็แค่มาม่า ไข่เจียว อะไรงี้ (แต่หุงข้าวเป็นอยู่นะ)

มื้อแรกๆ ก็เลยกินนอกบ้านกันค่ะ
คุณแฟนก็พาไปร้านท้องถิ่นบ้าง ร้านอาหารจีนบ้าง
เรียกได้ว่าเอาใจเต็มที่ แต่ก็ไม่กี่วันอ่ะเนอะ
กินนอกบ้านมันแพงมาก กินทุกวันไม่ไหวค่ะ
แล้วเวลาอยู่บ้าน คุณแฟนก็ทำแซนวิสให้กินค่ะ
ก็พวกขนมปังกินกับชีสกับแฮมไรงี้
เอิงนี่แทบร้องไห้ ไม่อร่อยอ่ะ ! (ในตอนนั้นนะ ตอนนี้อร่อยล่ะค่ะ 555)
โหยหาคิดถึงเซเว่นมากๆ แต่ก็ไม่มี ก็ทำไงได้ ก็ต้องกินเท่าที่มีไปนั่นแหล่ะค่ะ
แม่บ้านยูทูปเลยต้องถือกำเนิดขึ้นแล้ว เพราะความอยากกินนี่แหล่ะ
แต่มื้อแรกที่ทำให้แฟนกิน คือ มาม่าหมูสับค่ะ 555
อื่นๆ ก็เริ่มๆ ทำแบบง่ายๆ ค่ะ ช่วงนั้นยังไม่ค่อยทำอาหารมากเท่าไหร่
มีไปกินนอกบ้านบ่อยอยู่ค่ะ (คุณแฟนสปอยสุดๆ 555)

อ่ะ จบจากเรื่องกินไปแล้ว
ทริปนี้อันดับต่อมาก็คือพบปะครอบครัวค่ะ
ตื่นเต้นอยู่เนอะ เจอครอบครัวแฟนครั้งแรก
แต่คุณแฟนเอิงเหลือแค่พี่สาวน้องสาวล่ะค่ะ ก็แต่งงานมีครอบครัวกันไปหมดแล้ว
ก็เลยไม่เกร็งมาก ไม่ถึงกับแบบต้องเจอคุณแม่ว่าที่สามีไรงี้
ก็ไม่มีปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้อะไรค่ะ
เรื่องครอบครัวก็เลยไม่มีอะไรมาก ครอบครัวคุณแฟนน่ารักค่ะ
พูดภาษาอังกฤษได้พอประมาณ
แต่ส่วนใหญ่เอิงก็นั่งฟังมากกว่าเวลาพี่ๆ น้องๆ เขาคุยกัน
ครั้งแรกที่เจอกันก็ไปเที่ยวงานในเมืองด้วยกัน ไปกินข้าวด้วยกัน ประมาณนี้ค่ะ

เม้าเรื่องต่อมา เรื่องอากาศค่ะ
คือมาหน้าร้อน แต่หน้าร้อนเขาคือไม่ได้ร้อนจัดแบบบ้านเราเลยค่ะ
(อาจจะมีร้อนจัดๆ แบบ 30 องศาบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะสั้นๆ อาทิตย์สองอาทิตย์ค่ะ)
อากาศประมาณ 20 - 25 องศา.... เอิงนี่หนาวค่ะช่วงแรกๆ 555
ต้องใส่แจ๊กเกต ใส่ยีนส์ขายาว ผ้าใบ ไม่งั้นมันหนาวอ่ะ
(แต่ตอนนี้ชิลๆ ค่ะ ถ้า 25 องศานี่ร้อนล่ะ 555)
แต่พออยู่ๆ ไป ซักพักก็เริ่มโอเค ปรับตัวได้
ถ้ามีแดดนี่สายเดี่ยว ขาสั้น รองเท้าแตะ เฉิดฉายได้เลย
แต่ถ้าฝนตกนี่ก็หนาวอยู่นะ ขอเสื้อแจ๊กเก็ตด่วนๆ ค่ะ

ต่อมาก็เรื่องการใช้เวลาในแต่ละวันของเอิงค่ะ
พอหมดวันหยุดสัปดาห์แรก
คุณแฟนก็ต้องกลับไปทำงานล่ะ แฟนเอิงทำงานต่างเมืองค่ะ
ก็เลยใช้เวลาเดินทางพอประมาณ ออกจากบ้านประมาณ 7 โมง
กลับมาบ้านประมาณ 5 โมงเย็นค่ะ
ก็เรียกได้ว่าหายไปเลยทั้งวัน
เราอยู่คนเดียวล่ะ บ้านก็เงียบๆ ล่ะ ทำอะไรดีล่ะ
ยังดีนะคะ เดี๋ยวนี้มีอินเตอร์เน็ต ก็เลยไม่รู้สึกห่างไกลกับทางไทยมากนัก
แต่ช่วงแรกๆ เอิงก็ยังปรับตัวค่ะ ว่าจะทำอะไรดี
คุณแฟนไปทำงาน เราก็ควรจะทำงานบ้านซะหน่อย
ก็ทั่วๆ ไปค่ะ ดูดฝุ่น ทำความสะอาด นี่คืองานหลักของเอิงค่ะ
แต่ก็ไม่ได้ทำทุกวันอ่ะเนอะ บ้านเล็กๆ ค่ะ ก็ไม่มีอะไรมาก แป๊บเดียวก็เสร็จ
ซักผ้าก็ซักอาทิตย์ละครั้ง หรือตามโอกาสแดดออก (ไม่มีเครื่องอบผ้า)
ทำกับข้าว ก็ยังไม่ค่อยทำอะไรมากค่ะช่วงนี้ ทำง่ายๆ กินง่ายๆ ไปแต่ละมื้อ

ปกติเอิงตื่นประมาณ 7 โมง เข้านอนประมาณ 4 ทุ่มค่ะ
ตื่นมาส่งคุณแฟนไปทำงานล่ะ บางวันก็จะกลับไปนอนต่อ...
แต่มันก็นอนไม่ค่อยหลับล่ะ เพราะนอนเต็มที่ 7-8 ชั่วโมงมาแล้ว
ก็อาจจะนอนเล่นๆ กลิ้งๆ เล่นมือถือบ้าง แต่ก็ไม่ได้หลับค่ะ
ก็ทำภารกิจช่วงเช้าเสร็จ อาบน้ำ แต่งตัว ก็อาจจะ 9 โมง 10 โมง
ก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษค่ะ เรียกได้ว่าว่างมากกกกกกกก
ก็เล่นคอมไป เล่น facebook ไป ดูละครในยูทูปไป
เรียกได้ว่าน้ำลายบูดมาก ไม่ได้ออกไปไหน ไม่รู้จะทำอะไร
แถมบางวันอินเตอร์เน็ตที่บ้านเสียนี่ โห... ชีวิตฉันจบสิ้น ไม่มีอะไรทำจริงๆ
(หลังจากนั้นก็เลยหาซื้อหนังสือมาติดบ้านไว้บ้างค่ะ เผื่อไม่่มีเนตเล่น)
ยอมรับค่ะว่าช่วงนั้นมีเหงาบ้าง คิดถึงบ้านบ้าง คิดถึงเพื่อนๆ บ้าง
เพราะเราไม่มีกิจกรรมอะไรทำ ก็หงอยๆ ค่ะ
แต่ก็ซักพักก็พยายามหาอะไรทำตอนกลางวันค่ะ
เพราะจะนอนก็ไม่ง่วงค่ะ อยู่นี่ไม่ค่อยนอนกลางวันเลย มันไม่ง่วงอ่ะ
ก็เลยเขียนไดอารี่ออนไลน์บ้าง(เจ๊งไปแล้ว) คุยกับเพื่อนบ้าง
ดูอะไรนู้นนี่ในยูทูปไปบ้าง ส่องเฟสชาวบ้าน ก็หมดไปวันๆ ล่ะค่ะ
แฟนกลับบ้านมาตอนเย็นเอิงก็กระดี๊กระด๊าเป็นหมาน้อยรอเจ้านายกลับบ้านมากค่ะ 555

แล้วช่วงที่มาก็เป็นช่วงหน้าร้อนเนอะ
กิจกรรมก็เยอะค่ะ มีคุณแฟนก็พาไปเที่ยวด้วยค่
คุณแฟนลาพักร้อน 10 วัน ขับรถไปเที่ยวเยอรมันกับออสเตรียกัน
เรียกได้ว่าก็ยังเป็น holiday กันอยู่เลยช่วงนี้
ปกติคุณแฟนเอิงก็ทำงาน จ-ศ ค่ะ
เสาร์อาทิตย์เราก็ไปซื้อของในเมืองกัน
บางอาทิตย์ก็นั่งรถไฟไปเที่ยวแบบ one day trip กันค่ะ
เอิงนี่เฝ้ารอเสาร์อาทิตย์ค่ะ จะได้ไปเที่ยว 555
คือเป็น 3 เดือนที่เที่ยวเยอะมาก ไปเมืองนู้นเมืองนี้
เสาร์อาทิตย์ไม่อยู่บ้านเลย เดี๋ยวในเมืองมีงานก็ไปเที่ยวกัน
ไปสวนสนุกกัน ไม่ก็อยู่บ้าน ทำสวนกัน ปลูกดอกไม้ แต่งบ้านกัน
เดี๋ยวก็มีจัด BBQ กันในสวน มีเชิญเพื่อนมาทาน เพื่อนบ้านมาทาน
บางอาทิตย์เพื่อนบ้านก็จัด BBQ เดี๋ยวครอบครัวก็มีกิจกรรม มีงานเลี้ยง
พลปะสังสรรค์กัน กิจกรรมแน่นค่ะ (ไม่เหมือนตอนนี้ 555)
คือได้เรียนรู้ไม่ใช่แค่กับคุณแฟน แต่ก็ยังทั้งสังคมที่นี่
ครอบครัวและเพื่อนๆ ด้วยค่ะ อัดแน่นใน 3 เดือนนี้มากๆ ค่ะ

และก็ขอเม้าเรื่องสำคัญที่สุดในการมา 3 เดือนนี้
คือนอกจากจะมาดูสภาพแวดล้อมแล้ว
ที่สุดคือมาทดลองอยู่กับคุณแฟนค่ะ ว่าอยู่ด้วยกันได้มั้ย
ในช่วงนี้ก็มีทะเลาะกันบ้างงงงงงงง(เสียงสูง) ค่ะ
มีบ้างที่เราไม่เข้าใจกัน คุยกันคนละเรื่อง ตีความคนละอย่าง
เราสาวไทยส่วนใหญ่ก็ขี้งอนอยู่แล้วเนอะ แต่เขาก็ไม่เข้าใจการงอนของเรา
และบางครั้งเราก็ขี้มโน คิดไปไกล ทะเลาะกันเรื่อง A แต่เราลากไปถึง Z ได้
แล้วยังบวกกับหลายๆ เรื่อง ทั้งแนวคิด วัฒนธรรม และอื่นๆ
ทำให้เอิงนี่น้อยใจ ร้องไห้ แทบจะเก็บกระเป๋ากลับไทยไปหลายรอบค่ะ
(แต่ก็ได้แต่คิด เพราะไปไม่รอด ไปสถานีรถไฟเองยังไม่ได้เลย 555)
เวลาทะเลาะกัน ส่วนใหญ่เลยจะแยกกันอยู่คนละมุม
ต่างฝ่ายต่างไปคิดทบทวน และรอให้ใจเย็นๆ
แล้วค่อยมาคุยกันค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะขอโทษกันนะ
พยายามลดอีโก้ของแต่ละคนลงมาแล้วก็ปรับความเข้าใจกันค่

พอผ่านการทะเลาะกันไปได้แล้ว ก็ได้คุยกันจริงๆ จังๆ เรื่องจะให้เอิงย้ายมา
ดังนั้นภารกิจต่อไปที่ต้องทำก็คือการทำวีซ่า
และสิ่งสำคัญก็คือการสอบภาษาระดับ A1 เพื่อทำวีซ่านี่แหล่ะค่า

ช่วง 1 เดือนก่อนจะกลับเอิงก็เริ่มเรียนภาษาจริงจังล่ะค่ะ
คือตอนแรกก็พยายามเรียนกับเซทที่คุณแฟนซื้อมาไว้ให้
แต่มันยากค่ะ เป็นเซทเหมือนสอนสนทนาอย่างเดียวน่ะค่ะ
เราไม่มีพื้นฐานมาก่อนเลย ก็เลยงงมาก ไปต่อไม่ถูก เลยเรียนไม่สนุก
คุณแฟนเลยสั่งชุด Naar Nederland มาให้ ที่นี่เลยต้องจริงจังล่ะค่ะ
จากที่นั่งๆ นอนๆ อยู่บ้านตอนกลางวันก็ต้องจริงจังมานั่งเรียนล่ะ
ก็ยังเรียนไม่มากค่ะ วันละประมาณสองชั่วโมง บทสองบทก็ยังดี
ค่อยๆ เรียนไปค่ะ เพราะตอนนั้นก็ยังมีเวลาอยู่ ไม่ได้รีบร้อนอะไร

ก็เรียนๆ เที่ยวๆ ไป แป๊บๆ ก็ครบ 3 เดือน
พอเดือน ตค เอิงได้เวลากลับไทยแล้วค่า
ใจหายเหมือนกัน เคยอยู่ด้วยกันทุกวัน ตัวติดกันมา 3 เดือน
จะต้องห่างกันอีกแล้ว แต่คราวนี้ห่างกันไม่นาน
คุณแฟนจองตั๋วไปฮอลิเดย์ที่ไทยตอนธันวาแล้วค่า

เม้าเรื่อง 3 เดือนจบล่ะ คราวหน้าจะมาเม้าชีวิตปีแรกที่เนเธอร์แลนด์นะคะ






Create Date : 12 มิถุนายน 2561
Last Update : 12 มิถุนายน 2561 17:56:35 น.
Counter : 263 Pageviews.

2 comments
  
อ่านเพลินเลยค่ะคุณเอิง
โดย: sawkitty วันที่: 12 มิถุนายน 2561 เวลา:18:16:35 น.
  
เขียนสนุกนะคะ

แต่ครอบครัวทางโน้น ต่อให้พ่อแม่ยังอยู่ เขาก็น่าจะไม่วุ่นวายอะไรมากหรือเปล่าน้อออออ

ทะเลาะแต่ยังขอโทษกันนี่ดีแล้วค่ะ

รออ่านต่อน้าา
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 13 มิถุนายน 2561 เวลา:13:32:11 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

แมวเอิง
Location :
ลำปาง   Netherlands

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



แมวเอิงจ้า
log in เก่า ayanami_rei นะคะ
blog นี้บางส่วนก็จะ copy มาจากอันเก่าค่ะ

ปกติเพ่นพ่านอยู่ห้องแมว จตุจักร
แว่บๆ ไปแอบดูห้องโต๊ะเครื่องแป้งบ้าง
แอบไปเที่ยวตามเค้าที่ Blue Planet บ้าง

ปัจจุบันทำงานอยู่ร้านหนังสือสัญชาติญี่ปุ่น
แถวๆ สยามจ้า แต่ไม่รู้ภาษาญีปุ่นหรอกนะจ๊ะ

ปัจจุบันกว่า เป็นแม่บ้านเนเธอร์แลนด์ค่า
https://www.facebook.com/ErngInTheNetherlands/

ขอบคุณทุกท่านที่มาเยี่ยมชมนะคะ
มีอะไรสงสัยอยากถามอยากคุย
ก็จิ้มได้เลยจ้า
Friends Blog
[Add แมวเอิง's blog to your weblog]
MY VIP Friends