ตุลาคม 2563

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
All Blog
1 เรื่อง กบจำศีล

1    เรื่อง  กบจำศีล
 
เมื่อโลกเปลี่ยนไป
ใยจึงต้องยึดเชื่อ
ในสิ่งเดิม ๆ ว่าดีงาม
ก้าวออกมาสิ
ทำสิ่งใหม่ ๆ ได้แล้ว
 

 
ฤดูนี้เป็นฤดูฝน ฝนตกทุกวันเลย ตกหนักมากเสียด้วย หลายคนพูดทำนองบ่นว่า ช่วงเวลาที่ฝนตกเหมือนเวลาเลิกทำงานเลย พอเย็นเลิกงานปุ๊บฝนจะตกปั๊บทันที ทำให้รถราในเมืองกรุงติดหนักยิ่งกว่าเดิม
คนทำงานนอกบ้านแทนที่จะได้กลับบ้านกันเร็ว ๆ ไปหาครอบครัว ลูกน้อยที่น่ารัก กลับกลายเป็นต้องมานั่งมองสายฝนในรถอย่างเหงาหงอย
ฝนตกหนักตอนเย็นเช่นนี้เป็นมานานหลายวันแล้ว หรือเป็นเพราะกลางวันอากาศร้อนจัดมาก พอตอนเย็นความร้อนที่สะสมทำให้ฝนตก เหตุหนึ่งเกิดจากความกดอากาศสูงกับความกดอากาศต่ำมาเจอกัน ช่องว่างระหว่างกันทำให้เกิดเม็ดฝนหล่นลงมาจากฟากฟ้าได้
ย่ามองสายฝนที่โปรยปรายลงมาเบา ๆ ในตอนแรกแล้วเปลี่ยนมาเป็นตกหนักแถมด้วยลมกรรโชกอย่างรุนแรงราวกับพายุบ้าคลั่ง พลอยทำให้นึกถึงเสียงกบที่ร้องระเบ็งเซ็งแซ่ยามฝนตกหนักเมื่ออยู่บ้านนอก ย่าเลยนึกถึงกบที่จะเป็นตัวเอกของเรื่องนี้
ย่า        เมื่อวานนี้ฝนตกหนักมากทำให้ย่านึกถึงกบ วันนี้ย่าจะเล่าเรื่องกบแต่ไม่ใช่กบในฤดูฝนนะที่พวกมันจะร้องเล่นเต้นระบำกลางสายฝนอย่างสนุกสนาน แต่กบในฤดูหนาวทำอะไรหลานรู้ไหม
ดนย์     กบจำศีลครับ เพราะอากาศหนาวมาก กบจะออกหากินลำบาก
ย่า        เก่งมากหลานรัก แต่มีบางคนบอกว่าที่กบจำศีลเพราะเป็นสัญชาติญาณ หรือเป็นธรรมชาติของกบ มันจะหาอาหารกินให้อิ่มเต็มท้องแล้วนอนนิ่งเฉย ๆ ตลอดฤดูหนาว
ดนย์     ตกลงเราเลยไม่รู้ว่ากบจำศีลเพราะเหตุใดเพราะเราไม่รู้ภาษากบ และกบเรื่องนี้ไม่ใช่เจ้าชายกบที่พอเจ้าหญิงจูบจะกลายร่างเป็นเจ้าชายเสียด้วย
ย่า        ที่จริงคำว่าจำศีลนี่ ย่าชอบมากเลยนะ เหมือนคนถือศีลอยู่วัดวาอาราม ไม่ทำบาปทำกรรมเอาแต่สวดมนต์ภาวนา ทำจิตใจให้สงบ ส่วนกบจำศีลนี่คงคล้าย ๆ กันนั่นแหละ มันจะอยู่นิ่ง ๆ ไม่กินอาหาร ไม่ทำกิจกรรมใด ๆ มันจะมุดไปอยู่ใต้ดินเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น และดึงอาหารที่สะสมไว้ออกมาใช้ตลอดฤดูหนาว ที่เป็นเช่นนี้เพราะกบเป็นสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก อุณหภูมิในร่างกายจะเปลี่ยนตามสภาพแวดล้อม ถ้าอากาศหนาวมากมันอาจจะตายได้ง่าย ๆ
ดนย์     ย่าอธิบายซะละเอียดเลยนะครับ เล่านิทานของย่าต่อดีกว่าครับ
ย่า        นิทานเรื่องนี้มีกบ 2 ตัวอาศัยอยู่ในป่าเดียวกัน มันคงจะเป็นเพื่อนกัน หรือเป็นพี่น้องกันดีนะ เป็นเพื่อนกันดีกว่า เพราะมันทั้งสองนิสัยต่างกัน ถ้ามันเป็นพี่น้องกันมันน่าจะต้องเชื่อฟังพ่อแม่เหมือนกันเพราะถูกเลี้ยงดูมาคล้ายกัน
ดนย์     ทำไมย่าถึงคิดว่าเป็นพี่น้องกัน นิสัยจะคล้ายกันล่ะครับ ผมเห็นเพื่อนหลายคนนิสัยไม่เห็นจะเหมือนพี่หรือน้องเลย
ย่า        นิสัยอาจไม่เหมือนกันทีเดียว แต่การอบรมเลี้ยงดูอย่างเดียวกันย่อมหล่อหลอมให้ความคิดเห็นต่อเรื่องเดียวกันคล้ายกันได้ เอาล่ะ เล่าต่อดีกว่า เมื่อถึงฤดูจำศีลกบต้องแฝงเร้นร่างกายเป็นเวลานานเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดได้ กบตัวแรกเชื่อฟังคำสั่งจากกบพ่อแม่มาก กบตัวที่สองจะดื้อรั้น มักจะท้าทายความเชื่อที่ผู้อื่นสั่งไว้เสมอ มันจะไม่ทำตามใครจนกว่าจะถึงคราวจำเป็นที่บังคับให้มันต้องทำด้วยความจำใจ
ดนย์     แล้วระหว่างกบ 2 ตัวนี้ ตัวใดจะดีกว่ากัน ระหว่างการเชื่อฟังคำสั่งสอนของผู้ใหญ่กับความเป็นตัวของตัวเอง
ย่า        ย่ายังไม่รู้เลย คอยฟังให้ถึงตอนจบดีไหม
ดนย์     ถึงจะเป็นตอนจบ ผมคิดว่าย่าไม่ค่อยสรุปหรือชี้ชัดว่าใครผิดใครถูกหรือควรจะเลือกทำสิ่งใดกันแน่
ย่า        ใช่แล้ว เพราะย่าอยากให้หลานคิดเองตัดสินใจเลือกด้วยตัวของหลานเอง ไม่ใช่ว่าแค่จดจำได้และทำตามเท่านั้น ย่าต้องการให้นิทานเรื่องนี้สอนให้คิดมากกว่าสอนให้รู้
วันหนึ่งเมื่อใกล้ถึงฤดูการจำศีลกบตัวแรกเตรียมหาอาหารเพื่อเก็บกักตุนไว้ใช้ตลอดฤดูการจำศีล กบตัวที่สองบอกว่า ทำไมเราต้องจำศีลด้วยนะในเมื่อเราย้ายถิ่นฐานอพยพมาอยู่ที่ป่าแห่งใหม่ที่อุดมสมบูรณ์ไม่เหมือนที่เดิม ที่นั่นมันแห้งแล้ง  พอถึงฤดูหนาวมันก็หนาวจัด อาหารที่เคยมีอุดมสมบูรณ์จะหมดไป  จึงจำเป็นต้องเก็บกักตุนอาหารเอาไว้  และเพื่อให้อุณหภูมิในร่างกายคงที่จึงต้องแอบซ่อนตัวไว้ไม่ให้ร่างกายกระทบกับอากาศที่หนาวเย็นจนเกินไป
ดนย์     กบตัวที่สองน่าจะพูดถูกในเมื่อสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปการกระทำน่าจะเปลี่ยนไปด้วย
ย่า        กบตัวแรกไม่ต้องการจะเถียงกับกบตัวที่สอง  มันคิดว่า  ผู้ที่ชอบเถียง ไม่ยอมทำตามคำสั่งเสียของพ่อแม่นั้น  เพราะเป็นผู้ที่ดื้อรั้น  ชอบคิดว่าตัวเองเก่งแน่  ไม่ยอมฟังความคิดของใคร  แล้วในที่สุด ผู้นั้นต้องแพ้ภัยตัวเอง กบสองตัวอยู่ด้วยกันมานาน  แม้ว่ากบตัวแรกไม่อยากเถียงกบตัวที่สอง  แต่ด้วยความห่วงใย  จึงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า การเชื่อฟังผู้ใหญ่น่าจะเป็นสิ่งที่ดีถึงจะไม่อยากทำตาม แต่เมื่อเป็นคำสั่งสอนเราก็ควรทำ
ดนย์     ผมคิดว่า บางทีการทำตามคำสั่งมันก็ยากเหมือนกันนะ
ย่า        ใช่ เพราะการบังคับตัวเองให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำนั้นจะต้องอาศัยความสามารถในการควบคุมตนเอง กบตัวแรกเลยบอกว่า การที่เจ้าไม่อยากจำศีลคงเป็นเพราะเจ้าไม่มีความสามารถในการควบคุมตนเองด้วยกระมังเลยอ้างโน่นอ้างนี่เพื่อที่จะหาเหตุไม่ต้องทำ
กบตัวแรกเป็นกบที่ยึดมั่นในคำสอนของผู้ใหญ่  เป็นกบที่สามารถควบคุมตนเองได้ดีและเชื่อว่าคำสอนใด ๆ ย่อมมีเหตุผลเสมอ จึงเป็นกบที่พ่อแม่รัก เพราะว่านอนสอนง่าย ไม่คิดแปลก ๆ ไม่ทำตะแบง ๆ ผิดจากที่เคยมีมา ส่วนกบตัวที่สองเป็นกบที่ต้องการทำตามใจตัวเอง มันไม่อาจควบคุมตนเองให้ทำสิ่งที่มันไม่อยากทำได้
ดนย์     คนที่ควบคุมตนเองได้น่าจะเป็นคนที่ทำตามกฎระเบียบข้อบังคับของสังคมได้ดี แต่การคิดไตร่ตรองก่อนจะเชื่อน่าจะดีกว่าไหมครับ
ย่า        นิทานเรื่องนี้ไม่ได้บอกว่า  เมื่อถึงฤดูจำศีลแล้ว  ทุกอย่างจะเป็นไปตามคำสอนของกบผู้เฒ่าที่เตือนไว้ว่ากบจะต้องจำศีลและกินอาหารที่ได้สะสมไว้หรือไม่ ในเมื่อกบตัวแรกกักตุนอาหารไว้น่าจะดีกว่าไหมหรือกบตัวที่สองคิดว่าไม่ต้องเหนื่อยยากรีบกักตุนค่อย ๆ หาอาหารใส่ปากเลี้ยงท้องไปวัน ๆ จะสบายกว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่กบต้องจำศีลจริง ๆ กบตัวใดจะสบายกว่ากัน
ดนย์     น่าจะเป็นกบตัวแรกเพราะได้กักตุนอาหารไว้แล้ว การเตรียมพร้อมของกบตัวแรกย่อมจะยังประโยชน์มากกว่าเพราะถ้าเหตุการณ์ไม่เลวร้ายดังเช่นอดีตอาหารที่เก็บสะสมไว้ก็ไม่ได้เสียหายใด ๆ แต่ถ้าเหตุการณ์ปกติกบสามารถดำรงชีวิตได้อย่างสบายมีอาหารให้กินได้ตลอดเวลา กบตัวที่สองคงจะบอกกับกบตัวแรกว่าเห็นไหมไม่มีประโยชน์อันใดเลยที่จะต้องลำบากเก็บกักตุนอาหารไว้สู้ใช้ชีวิตอย่างสบายไม่ต้องทำงานหนัก 
ย่า        นิทานเรื่องนี้อยากจะเอาใจกบตัวแรกให้เกิดเหตุการณ์เลวร้ายอากาศแปรปรวนอย่างมาก  จนกบไม่สามารถออกหาอาหารได้และกบตัวที่สองต้องลำบากอดอยากเพราะไม่มีอาหารจะกิน เมื่อมันไปขออาหารจากตัวแรกแล้วกบตัวแรกปฏิเสธอ้างว่าอาหารที่เตรียมไม่พอสำหรับกบสองตัว กบตัวที่สองจะทำเช่นไรหนอ
ดนย์     กบตัวที่สองคงจะอดตายเพราะขาดอาหาร แต่ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น กบตัวที่สองจะไปเยาะเย้ยกบตัวแรกว่า กาลสมัยเปลี่ยนไปคำสั่งสอนของผู้เฒ่าย่อมใช้การไม่ได้ แต่ผมยังสงสัยว่า คนที่เชื่อมั่นในตนเอง ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ควบคุมตนเองไม่ได้ตามที่ย่าพูดเลย ผมคิดว่า กบตัวที่สองเป็นกบที่เกียจคร้านมากกว่าที่ไม่ยอมไปหาอาหารและกักตุน ไม่ใช่มีความเชื่อมั่นในตนเองสูงหรอกครับ
ย่า        ย่าบอกว่า กบตัวที่สองมีความเป็นตัวของตัวเองสูงจึงมักจะท้าทายความเชื่อที่ผู้อื่นสั่งไว้เสมอ มันจะลองทำในสิ่งที่มันคิดจนได้คำตอบแล้วจึงจะเลือกว่าจะทำอะไรต่อไป มันจะไม่ทำตามใครจนกว่าจะแน่ใจว่าสิ่งนั้นดีจริงและถูกต้องจริง ๆ ย่าไม่ได้พูดว่า กบตัวที่สองเชื่อมั่นในตนเอง ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ควบคุมตนเองไม่ได้ตามที่ดนย์พูดนะจ๊ะ
ดนย์     ถ้าเช่นนั้น กบตัวที่สองจะได้คำตอบว่า ปีต่อไปควรจะกักตุนอาหารหรือไม่ ถ้าปีนี้อากาศแห้งแล้งมากและออกไปหาอาหารกินไม่ได้เช่นนั้นใช่ไหมครับ แต่กบตัวที่สองควบคุมตนเองไม่ได้ที่ตรงไหนครับ
ย่า        คนว่านอนสอนง่ายจะทำตามคำบอกของผู้ใหญ่และทำได้ดี โดยไม่เกี่ยงงอน จึงเหมือนคนที่ควบคุมตนเองได้ดี ในขณะที่คนที่อยากลองผิดลองถูกก่อนดูเหมือนจะไม่สามารถทำในสิ่งที่ผู้ใหญ่ต้องการได้ในตอนแรก แต่เมื่อเขารู้ถึงความจำเป็นจริง ๆ เขาจึงจะควบคุมตนเองได้
 
ผู้ที่ควบคุมตนเองได้เป็นอย่างดี
ย่อมจะเป็นผู้ที่
มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำสิ่งใดให้สำเร็จได้สูง
การฝึกฝนที่จะควบคุมตนเองให้ได้
จึงเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นอย่างมาก
ต่อผู้ที่มุ่งหวังจะประสบความสำเร็จในชีวิต

 
 
 

 
 
 
 



Create Date : 08 ตุลาคม 2563
Last Update : 8 ตุลาคม 2563 10:29:24 น.
Counter : 2499 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 4665919
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
New Comments