|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ช้างยักษ์ในรั้วม่วง :: ตามรอยชีวิตเด็กมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (1)
อ่านตอนแรก Prologue ได้ที่ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=djdonk-mc43&month=12-2008&date=23&group=10&gblog=1
(1) สอบสัมภาษณ์
หลังจากผลการสอบเอนทรานซ์ประกาศในอินเตอร์เนทได้ไม่กี่วัน จดหมายจากทบวงมหาวิทยาลัยก็บินร่อนมาถึงที่บ้านเพื่อบอกวัน เวลา สถานที่ สำหรับสอบสัมภาษณ์
ก่อนหน้าวันต้องไปสัมภาษณ์ ผมเคยไปเชียงใหม่แค่ครั้งเดียวราว ๆ ปี ประมาณปี 2536 ซึ่งผมอยู่ ป.6 ตอนนั้นคุณตาเข้าโรงพยาบาลที่ ร.มหาราชนครเชียงใหม่ ผมเลยต้องไปเฝ้าไข้อยู่หนึ่งสัปดาห์เต็ม แม้ดูเหมือนจะอยู่นานแต่เอาเข้าจริงก็ไม่ได้ออกไปไหน ที่ ๆ ไกลที่สุดเท่าที่เคยไปคือกาดสวนแก้ว ห้างโลคัลที่อยู่คู่เชียงใหม่มานาน
พ่อแม่ผมเลยรับภาระพาผมขึ้นไปสอบสัมภาษณ์ (ในขณะที่เพื่อนจังหวัดคนอื่นขึ้นรถไฟเพราะต้องมีภาระเกี่ยวพันกับการรับน้องด้วย แต่ผมไม่ได้ไปด้วยเพราะมีปัญหาเรื่องสุขภาพนิดหน่อย) ขับไปเปิดแผนที่ไปเพราะไม่มีใครรู้ทางไปเชียงใหม่สักคน เราเลือกใช้เ้ส้นทางอุตรดิตถ์ในการเดินทาง โดยออกแต่เช้ามาถึงราว ๆ เที่ยง
มาถึงเชียงใหม่ ยังดีที่มาตามป้ายชี้บอกทาง เราจึงหามหาวิทยาลัยเชียงใหม่เจอโดยไม่หลงทางไปที่อื่น หลังจากหาที่พักเรียบร้อยออกไปดูตึกและห้องที่สัมภาษณ์เสร็จก็หลับใหลสนิทด้วยความอ่อนเพลีย
ผมตื่นแต่เช้า อาบน้ำแต่งตัวแล้วกินข้าวในยูนิเซิร์ฟอันเป็นโรงแรมของมหาวิทยาลัย แล้วก็เดินทางไปที่ตึก HB5 เพื่อทำการสอบสัมภาษณ์ เมื่อไปถึงยังไม่ค่อยมีใครเท่าไร ผมเจอจิและกุ๊กไก่ เพื่อนจังหวัดนั่งรออยู่หน้าห้องสอบ จินั้นเรียนภาควิชาเดียวกับผม ส่วนกุ๊กไก่เรียนสารสนเทศ ซึ่งสอบห้องใกล้ ๆ กันเลยมานั่งเป็นเพื่อนจิก่อน
"สวัสดีสองสาว มาแต่เช้าเชียว ไงละเมื่อวาน โดนหนักเลยดิ?" ผมทักทายพร้อมถามทั้งสองสาว
"เออ! โคตรเหนื่อยเลย น่าเบื่อ ๆ โดนแบบเดิม ๆ นั้นแหละ ดีแ้ล้วที่แกไม่มาด้วย ไม่งั้นตายหยังเขียดแน่" จิบ่น ๆ ให้ฟัง
"แล้วพี่เขาว่าไงบ้างที่ฉันมาเอง?"
"ก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาก็รู้ว่าแก่เจ็บเข่า เออ! เอาหลักฐานมาครบเปล่า?"
เราสามคนนั่งตรวจหลักฐาน ก็อุ่นใจในระดับหนึ่งว่าครบแล้ว แต่ก็ยังใจตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ ไม่รู้ว่าจะเจอสัมภาษณ์อะไรบ้าง กลัวว่าเขาจะให้เราตกแล้วต้องไปสมัครเรียนราม แบบนั้นคงขายหน้าประชาชี (ซึ่งหารู้ไม่ว่าความจริงเขาสัมภาษณ์กันเป็นพิธี)
ระหว่างที่นั่งรอเรียกตามคิวใครมาก่อนหลัง ก็มีคุณแม่ผู้ปกครองของเด็กอ้วน ๆ คนหนึ่ง ดูท่าเอ๋อ ๆ เห็นแต่มองฟ้ามองดิน แถมใส่ชุดไม่ค่อยเหมือนพวกเราที่เป็นนักเรียนเท่าไร อารมณ์ประมาณเป็นเด็ก ปวส. อะไรทำนองนี้ มาคุยกับแม่ผมเพื่อฆ่าเวลา ผมซึ่งชอบแอบฟังชาวบ้านคุยกันเป็นสันดานอยู่แล้ว เลยแอบฟังเสียหน่อย
"คุณพี่มาจากที่ไหนคะนี่?" หล่อนถามแม่ผม
"จากพิษณุโลกค่ะ แล้วน้องละคะ?"
"มาจากกรุงเทพฯ พาลูกชายมาสอบสัมภาษณ์ เขาไม่เคยมาไกลบ้าน ก็เป็นห่วง มีลูกคนเดียว ก็เลยนั่งเครื่องมาส่งคะ หนูละกลัว ๆ ไม่รู้ว่ามาอยู่เชียงใหม่จะเป็นอย่างไรบ้าง" เธอตอบด้วยน้ำเสียงกังวลนิด ๆ แล้วเธอก็หันไปถามรุ่นพี่ที่ยืนอยู่แถวนั้น
"ปกติพักกันที่นะจ๊ะ?"
"ก็อยู่หอในค่ะ ก็จ่ายเป็นเทอม ประมาณเทอมละพันนิด ๆ เดี๋ยวว่าน้องสอบสัมภาษณ์เสร็จจะรบกวนพาน้องไปจองหอคะ"
"แล้วเดือน ๆ หนึ่งหนูกินอยู่ใช้จ่ายเท่าไร หนึ่งหมื่นบาทนี่พอหรือเปล่า พี่กลัวเหลือเกินว่าหมื่นมันจะไม่พอ มาอยู่ตั้งเชียงใหม่ อะไรก็แพง"
ผมได้ยินประโยคนั้นก็ได้พรึมพรำกับตัวเองว่า มึงบ้าหรือเปล่า เชียงใหม่นี่นะค่าครองชีพสูงกว่ากรุงเทพฯ สงสัยป้านี่ไม่เคยไปไหนมาไหนเลย เดือนละหมื่นพอไหม โอ้ว! ก็อด ถามมาได้
คุณพี่ผู้มีลูกชายอ้วนและเอ๋อก็บ่นอะไรของแกไปเรื่อย ๆ ผมก็เลิกสนใจ เพราะคิวสัมภาษณ์ใกล้มาถึงเรื่อย ๆ ทันใดนั้นคนสอบสัมภาษณ์เสร็จคนแรกก็เดินออกมา อุ๊ย! อีนี่ก็อ้วน นั้นก็อ้วนเอ๋อ กูก็อ้วน ทำไมมันมีแต่คนอ้วนวะ!
เฮียอ้วนที่สอบสัมภาษณ์เสร็จก็เดินไปหาเจ้าหน้าที่เพื่อขอหลักฐานคืน แต่ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ยังจัดการไม่เสร็จเรียบร้อย เฮียอ้วนเลยโชว์พาว โดยการวีนเจ้าหน้าที่เสียงดังอย่างกับกะละมังแตกแบบ "แมนมาก"
"โอ้ย! ไ่ม่เข้าใจระบบเลยโว้ย" เฮียอ้วนใส่แว่นบ่นเสียงดัง ผมนึกในใจว่า โอ้ว กูต้องไปเรียนหนังสือกับคนแบบนี้หรอ น่ากลัวจริง ๆ ช่างต่างจากเพื่อนที่โรงเรียนเราเหลือเกิน (ต่อมาภายหลังก็สนิทกันดี และได้รู้ว่าชีต้องแอ็บทำเป็นแมนโชว์พาวเวอร์เพราะชีมากับพ่อ)
คิวตัวเองใกล้เข้ามา หันไปด้านซ้าย รุ่นพี่หลายคนมานั่งดูน้อง โดยมากเป็นผู้ชายที่ดูก็รู้ว่ามาเล็งหาเด็กไปม่อ รุ่นพี่คนหนึ่งไว้ผมยาวใส่แว่นนั่งเสยผมหล่อ อีกคนผมยาวทำหัวสีส้มแป๋น หน้าตาดูติสท์ ๆ เฮ้ย! นี่มันมีคนปกติบ้างเปล่านี่ เห็นแต่ละคนมีแต่หลุด ๆ แล้วชีวิตกูอีกสองสามปีข้างหน้าสงสัยคงได้ไว้ผมสีส้มแบบนี้แหงเลย หันไปอีกด้าน ก็มีพวกผู้ชายหน้าแก่อีกคน ไว้ผมยาวโดยมัดเรียบร้อย เขาส่งยิ้มให้ผม ก็ผมยิ้มกลับ พลางคิดในใจว่า รุ่นพี่ธรรมดา ๆ ก็มีนี่หว่า ไม่ได้มีแต่พวกหัวส้ม ว่าแต่ทำไมพี่เขามานั่งรอสัมภาษณ์กับเราด้วยว่ะ
เวลาผ่านไปมารับน้องแป๊บ ๆ ก็ได้รู้ว่า ลุงแกซิ่วมา
ในที่สุดเวลาสัมภาษณ์ก็มาถึง หลังจากนั่งรอและเม้าท์กับคนที่รอด้วยกัน คนหนึ่งที่หนุ่มอ้วน (อีกแล้ว) จากระนอง ส่วนอีกคนเป็นสาวสวยจากเชียงราย ห้องสัมภาาณ์มีอาจารย์สามท่าน แยกกัน มีคนหนุ่ม ๆ หนึ่งคน ดูเป็นคุณป้าใจดีอีกหนึ่งคน ส่วนคนสุดท้ายดูเฮี้ยบ ๆ ตอนคิวผม อาจารย์คุณป้าใจดีว่างพอดี ผมก็เลยเข้าไปเพื่อให้ท่านสัมภาษณ์
การพูดคุยไม่มีอะไรมาก ก็ตามการสัมภาษณ์ที่ไม่จริงจังทั่วไป ก็ดูกันไปว่าจะสื่อสารพูดคุยได้หรือเปล่า (คือพูดได้เขาก็รับแล้วหละ) แต่ที่ช๊อคคืออาจารย์คุณป้าใจดี (ตอนเข้ามาเรียนแล้วจึงได้รู้ชื่อว่า อ.พัชรินทร์ หรือ อ.พัชชี่ ของเด็กสาขาวิทยุ) ถามผมเรื่องบาส NBA คุยกันม่วนมาก แกบอกว่าหลานแกชอบดู แกเลยต้องดูด้วย ก็เลยพลอยรู้เรื่องนิดหน่อย
เอาเป็นว่าออกห้องสอบมาด้วยสุขใจ แม้ใจขณะนั้นจะยังไม่อยากเรียน มช.เท่าไร แต่ก็เอาวะ เรียนไปก่อนหนึ่งปีแล้วค่อยซิ่วก็ยังไม่สาย ออกมานอกห้องรับกำหนดการต่าง ๆ ว่าต้องเข้าหอเมื่อไหร่อยางไร แล้วรายงานตัววันไหน แล้วก็เดินไปจ่ายเงินค่านู้นค่านี่ที่สโมสรนักศึกษาของคณะ สักเที่ยงวันผมและพ่อแม่ก็กลับบ้านกัน
อีกไม่กี่วันที่ต้องย้ายมาอยู่เชียงใหม่ คงไม่ได้เจอกันอีกนาน สหายเอ๋ย
เจ้ากรรมนายเวร - วิฑูรย์ ใจพรหม
Create Date : 25 ธันวาคม 2551 |
|
10 comments |
Last Update : 25 ธันวาคม 2551 11:34:22 น. |
Counter : 692 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: korn IP: 58.9.107.69 25 ธันวาคม 2551 11:31:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: มังกรนอนใต้หนังสือ (cruduslife ) 25 ธันวาคม 2551 11:35:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: getterTu 25 ธันวาคม 2551 21:39:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: rebel 26 ธันวาคม 2551 0:12:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: กีตาร์ทาโร่ IP: 124.157.237.184 26 ธันวาคม 2551 11:12:58 น. |
|
|
|
|
|
|
I will see U in the next life.
|
|
|
|
|
|
วันแรกที่ไปสัมภาษณ์อาจารย์บอกว่าที่นี่อากาศดี ผุ้คนดี สบายใจได้นะ แถมพูดกับพ่อว่าจะดูแลให้ไม่ต้องเป็นห่วง
พ่อเบาใจมากกก เพราะเป็นครั้งแรกที่ต้องไปอยู่ตจว.
ญาติอยู่ใต้ ดันไม่เลือก ไปเลือกเหนือโน่น
ถึงวันนี้ ยังไม่เสียใจเลยที่เรียนมช.
แต่แอบเสียดายที่ไม่ได้เรียนตามที่ชอบเท่านั้นเอง
มีความสุขมากกกกกกับรั้วสีม่วงแห่งนี้