Bloggang.com : PinePh : The first Snow...

The first Snow...

การเดินทางของชีวิตยังไม่มีที่สิ้นสุดจนกว่า เราจะหมดลมหายใจ...อากาศวันนี้ดีกว่าเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกที่เห็นเกล็ดน้ำแข็ง ร่วงหล่นมาจากฝากฟ้า เป็นละอองปลิวไปทั่ว เกร็ดนุ่มละเอียดคล้ายเกร็ดน้ำแข็งที่เกาะในช่องฟรีส ...เขาเรียกว่าเกร็ดน้ำแข็งก่อนที่หิมะจริงจะตกลงมา สนามเด็กเล่นบางแห่งตกกลางดึก จะมีคนเอาน้ำมาราดให้เปียกจนทั่ว เพราะเมื่อรุ่งเช้าจะกลายเป็นลานน้ำแข็งสำหรับเด็กๆ เล่นเสก็ตกัน

จากกรุงโรมก็มาถึงกรุงอัมสเตอร์ดัมเพื่อมาดูหิมะก็ว่าได้ (แต่โดยสัตย์จริงมาทำธุระ)แล้วเลยต้องมาร่วมเทศกาลคริสตมาสที่นี้ สำหรับคนเอเซียโดยเฉพาะชาวพุทธส่วนใหญ่ ก็คงอาจจะตื่นเต้นอยากเห็นว่าจริงๆ แล้วเทศกาลนี้เป็นอย่างไร ซึ่งณ.ปัจจุบันบางส่วนในกรุงเทพก็มีการจัดฉลองแบบนี้บ้างและเราคงเคยเห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์และข่าวทางโทรทัศน์กันมาพอสมควร แต่อย่างที่ว่า สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น การที่ได้สัมผัสและเห็นอย่างแท้จริงก็จะต่างกัน
แต่ถ้ามองอย่างเผินเผิน เทศกาลนี้เริ่มเป็นแค่การเฉลิมฉลอง และการให้ของขวัญ เสียจนเป็นการค้ามากกว่าในอดีต (จากคำบอกเล่าและที่เห็น) ร้านรวงคึกคัก มีผู้คนจับจ่ายซื้อของกันมากมาย ก็คงพอพอกับปีใหม่ที่บ้านเรา แต่ที่นี้เขาจะซื้อของให้สมาชิกในครอบครัวทั้งหมด และส่วนมากจะใช้จ่ายเกินความจำเป็น แต่ก็อย่างว่าอีกนั้นแหละ ของขวัญสำหรับเทศกาลจัดทำรูปแบบ อย่างทำให้นักช้อปป์ อดใจไม่ไหว ...

ตามบ้านส่วนใหญ่ก็จะประดับประดาต้นคริสตมาสหรือจำลองสถานที่ที่พระเยซูเกิด ถนนหนทางตามบ้านเรือนสว่างไสวไปทั่ว ในอดีตคืนวันที่ 24ธันวาคม ก็จะเป็นการร่วมรับประทานอาหารของครอบครัวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาในค่ำคืนของวันคริสตมาสอีฟ (จะเป็นอาหารมื้อใหญ่ แต่จะไม่มีการรับประทานเนื้อสัตว์ กรณีนี้เฉพาะบางประเทศที่นับถือคาทอลิคอย่างเคร่งครัด) เพราะส่วนมากในประเทศทางแถบยุโรป ความสัมพันธ์กันในครอบครัวจะไม่ใกล้ชิดเท่าทางเอเซีย แต่ก็มีบางประเทศอย่างเช่นในอิตาลี ความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวพ่อแม่ลูกจะมีมากกว่าทางประเทศอื่นๆ ในแถบยุโรปด้วยกันเองแล้วหลังจากรับประทานอาหารเรียบร้อย ในเวลาประมาณเที่ยงคืนก็จะรวมตัวกันไปโบสถ์ แล้วเช้าวันรุ่งขึ้นก็จะเป็นวันคริสตมาส แต่ตอนอาหารกลางวันก็จะร่วมรับประทานกันในครอบครัวอีกครั้งและร่วมเปิดของขวัญที่สมาชิกในครอบครัวแจกจ่าย เป็นบรรยากาศที่อบอุ่นและน่ารักมาก แต่ในปัจจุบันก็จะไม่ตายตัวบางครอบครัวไปฉลองที่อื่น บ้านเพื่อน และการให้ของขวัญก็จะเป็นการให้อย่างสิ้นเปลืองมากกว่าเมื่อเทียบกับความต้องการอย่างแท้จริง
การบอกเล่าเรื่องราวของใครบางคน การรับฟังหรือได้เห็น ตัวของเราเองต้องเป็นกลางในความคิด และการแสดงออกของความคิดไม่อย่างนั้นก็จะทำให้เราไม่ได้เห็นโลกในมุมมองที่กว้างขึ้น ถ้าจิตใจเราไม่เปิดกว้าง ...ใครหลายหลายคนที่พลัดหลงเข้ามาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองโดยความตั้งใจหรือไม่ก็ตาม หรือเพราะแค่คิดฝันว่าจะน่าอยู่เหมือนภาพที่ได้เห็นตามนิตยสารท่องเที่ยว แต่ในความเป็นจริงถ้าบุคคลเหล่านั้นไม่เปิดใจกว้างรับ ก็จะทำให้เกิดสภาพ homesick และอยากกลับบ้านโดยทั้งที่ยังกลับไม่ได้ หรือบางคนคิดถึงบ้านตั้งแต่ยังอยู่ไม่เท่าไหร่ด้วยซ้ำ แต่แน่นอนที่สุดคือถ้าเราทำความเข้าใจและเปิดใจให้กว้างที่ไหนที่ไหนก็คือบ้าน เพราะเราอยู่บนโลกเดียวกัน หายใจเอาอากาศใต้ท้องฟ้าเดียวกัน อาการคิดถึงบ้านเกิดเมืองนอนนั้นเป็นธรรมดา แต่อย่างว่าบางคนได้รับรับรู้ได้เห็นสิ่งดีดี จากต่างบ้านต่างเมือง ต่างวัฒนธรรมจากตะวันตก พอนำไปบอกเล่า เขาก็จะว่า เฮอะ ทำไม่ไม่รักประเทศชาติที่เราเกิดนะ ไปเข้าข้างสังคมตะวันตกทำไม ถ้าดีจริงนำมาปรับปรุงสิ แต่แต่...ใครที่ว่าเหล่านั้นยังใช้ของนอกกันเป็นแถวละไม่ว่า รวมทั้งอาหารการกินก็นำมาจากตะวันตกทั้งนั้น อันนี้เราไม่ค่อยจะเห็นด้วยเลย บางอย่างเราควรจะมาปรับเปลี่ยนในวิถีชีวิต แต่บางอย่างไม่ควรก็เห่อเลียนแบบไปเปล่าๆ ก็อย่างว่าคนที่ไม่เคยได้มาใช้ชีวิตในต่างแดน คงไม่เข้าใจหรอกว่าๆ จริงๆแล้วคนไทยอย่างเราๆ รักและคิดถึงอาหารไทยมากกว่าคนไทยที่อยู่ในประเทศไทยแต่กิน แมคโดนัล หรอกนะ อาหารขยะจริงๆ เพราะเนื้อหรือ ผักไม่ได้คุณภาพเท่าที่ควร ทำให้วัฒนธรรมการกินอยู่และอาหารไทยหายไปจากคนไทยแต่มาเติบโตในต่างประเทศ แต่ราคาก็แสนจะแพง.รู้สึกว่าจะซีเรียสไปหน่อย แต่เพียงอย่างแบ่งปันเรื่องราวด้วยใจเป็นกลาง เพราะเคยได้ยินได้ฟังมาจากหลายๆ แหล่งข้อมูลไม่เหมือนกัน

อย่างบางคนที่รู้จักเขาไม่ชอบเลยต่างประเทศ แย่ อะไรอะไรก็ไม่ดี แต่ทำไมนะยังอยู่เพราะอยากทำงานอยากหาเงินเพื่อนำไปแปรรูปเป็นเงินบาทแล้วค่ามากกว่าตั้งหลายเท่า แต่รู้ไหมถ้าเทียบ เป็นเงิน 1 ยูโรไม่สามารถหาข้าวกินได้เลย จากพื้นฐานของเงินเดือนต่ำสุด 900 ยูโรต่อเดือน แต่ในเมืองไทย 6,000บาทต่อเดือน สามารถกินข้าวไข่เจียวได้ในราคา 20 บาท (1 ยูโร เทียบประมาณ 50 บาท เป็นตัวเลขที่ง่ายต่อการคิดคำนวณคร่าวๆ)อันนี้เทียบจากแรงงานขั้นต่ำ

แต่ที่รู้คนที่นี้เขาเสียภาษีมาก และเงินภาษีนำมาปรับปรุงประเทศและสวัสดิการได้มากกว่า (อย่ากล่าวถึงหัวข้อนี้เลยเอาเป็นเพียงแค่ยกตัวอย่างคร่าวๆ ยิ่งใกล้การเลือกตั้ง และเกี่ยวกับการเมือง จะเป็นหัวข้อที่ถกกันไม่สิ้นสุดแน่นอนนะสิ)
พอดีเราไม่ใช้เป็นคนที่เดินทางเพื่อการท่องเที่ยว แต่เดินทางเพื่อการเรียนรู้ เลยทำให้มุมมองต่างกัน จากการที่ไปตามสถานที่ต่างๆ ถ่ายรูปและคงเหลือเพียงแค่ความประทับใจ และรูปเหล่านั้น ก็สามาถหาได้จากนิตยสารการท่องเที่ยวเป็นส่วนใหญ่ แต่การที่ได้มาเห็นด้วยตาเปล่า เพียงครั้งเดียวก็เป็นอะไรที่ดี จะดีกว่าที่เราได้เห็นชีวิตจริงและสัมผัส อย่างเช่นว่า ถ้าเป็นคนกรุงเทพ จะมีเสียกี่ครั้งที่เราเดินทางไปท้องสนามหลวงและถ่ายรูปวัดพระแก้ว สำหรับคนกรุงเทพคงจะเป็นแค่ทางผ่านเพื่อขึ้นรถ หรือลงเรือ กลับบ้านและไปทำงาน แต่สำหรับชาวต่างชาติจะนิยมถ่ายรูป ไปแล้วไปอีกจนเบื่อก็ว่าได้ ก็คงคล้ายๆ กัน แต่ สำหรับการได้ไปในสถานที่ที่ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวได้ไปเห็นชีวิต สัมผัสผู้คนด้วยจิตวิญญาณของเขานั้นจะเป็นอะไรที่เราจะประทับใจไม่รู้ลืม และจะไม่เกิดการแปลกแยกของสังคมมนุษย์ ว่าจริงจริงแล้วคนเรามิได้แตกต่างกันเลยสักนิดเดียว

ขอให้มีความสุขในเทศกาลคริสตมาสค่ะสำหรับผู้ที่ฉลองในต่างแดน!!! และใครอีกหลายคน Happy Happy นะค่ะบนโลกในนี้นะค่ะ

Create Date : 23 ธันวาคม 2550

Last Update : 23 ธันวาคม 2550 17:48:46 น.

4 comments

Counter : 627 Pageviews.

MERRY X MAS นะคะ ขอให้มีความสุข

โดย: นกแห้ว

วันที่: 23 ธันวาคม 2550 เวลา:17:54:05 น.

Merry X Mas เช่นกันนะค่ะ..ตอนนี้กำลังตื่นเต้นสำหรับการเลือกตั้งแต่ connection so slow ค่ะเลยได้แต่ส่งเมล์ดู TV ออนไลน์ไม่ได้ ....
มีวามสุขทุกคนมากๆ นะค่ะ

โดย: PinePh

วันที่: 23 ธันวาคม 2550 เวลา:17:57:23 น.

เอารูปมาให้ดูด้วยจิ

โดย: Title_boy

วันที่: 23 ธันวาคม 2550 เวลา:21:33:14 น.

New Year 2008 Glitter Graphics

โดย: LEK (INGEN ER PERFEKT

) วันที่: 31 ธันวาคม 2550 เวลา:3:03:38 น.