1 2 3 4 5 6 7
8 9 10 11 12 13 14
15 16 17 18 19 20 21
22 23 24 25 26 27 28
**My (Happy) Birhday in Venice Part II :: Acqua Alta นคร(จม)น้ำ**
แวะมาเล่าทริปวันเกิดที่เวนิสกันต่อ มีคนมารอปูเสื่อกันเยอะ ฮ่าๆๆ แถมมีการรีเควสรูปอีก กล้าขอก็กล้าจัดให้อยู่แล้ว รอโหลดกันหน่อยนะ อิๆๆ จะลงแต่รูปก็น่าเกลียด ต้องมีการเล่าประกอบฉากบ้างเล็กน้อย เหิมโรงนิดนึง ก๊ากๆๆ ต่อจากคืนแรกที่เวนิส มีสองสิ่งประหลาดๆที่สังเกตเห็นระหว่างทางกลับที่พัก หลังจากดินเนอร์กันเสร็จ ก็ได้ยินเสียงหวอดัง สัญญาณไซเรนเหมือนเวลาไฟไหม้อ่ะ แต่ที่เวนิส เค้าว่าไฟไม่ไหม้หรอก แต่น้ำมันจะท่วม อะจึ๋ย เชื่อแล้วว่ากะลังจะจมจริงๆเมืองนี้ แล้วก็เห็นว่าน้ำมันท่วมจริงๆ แต่ไม่มากเท่าไหร่ มีคนใส่บู้ทยางลุยน้ำกันด้วย ประปราย ตลกดี ดูแล้วยังขำๆ แฟชั่นตามตลาดสดบ้านเรา ใส่รองเท้ากันน้ำแบบนี้ เป็นของฮิตของชาวเวนิสซะงั้น กลับที่พักไปนอน ตื่นขึ้นมาก็เจอกับสิ่งนี้ อาหารเช้า อู้ยยยย เริ่ดสะแมนแตน แหล่มมากกก นอกจากห้องจะหรูแล้ว อาหารเช้ายังวินิจสมาหรา ได้อีก ก๊ากๆๆ โชคอะไรจะดีขนาดนี้ฟะตู อาหารเช้าสไตล์คอนทิเนลทัล มีทั้งชา กาแฟ ขนมปัง เนย แยม นูเตลล่า ผลไม้ โยเกิร์ต มีแขกอยู่แค่สองคน ไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้นะเนี่ย ซึ้งน้ำใจเจ้าของที่พักจริงๆ ประเสริฐศรีมณีเด้ง แล้วยังไม่คาดคิดว่าขนมเวนิสจะอร่อยขนาดนี้ กัดไปคำเดียว หอมหวานนมเนย สุดยอดดด อย่างนี้ต้องมีทิปก่อนกลับแน่นอน อิๆๆ บริการทุกระดับประทับใจจริงๆ เจ้าของที่พักเรา น่าร๊ากก กะลังคิดถึงอยู่พอดี เจ้าของที่พักก็โผล่หน้ามาทักทาย บอกว่าจะไปทำงานซะหน่อย (ทำงานวันอาทิตย์??) แต่เมียกะลูกเค้าจะไปโบสถ์กัน โห เชื่อแล้วว่าคนอิตาลีเคร่งศาสนาจริงๆ ที่ฝรั่งเศสนี่ เลิกไปโบสถ์วันอาทิตย์กันนานแล้ว ก่อนจากเจ้าของบ้านมีคำแนะนำเล็กน้อย ประมาณว่าวันนี้ ต้องไปถ่ายรูปที่ Saint Marco ให้ได้นะ วันนี้อแมซซิ่งจริงๆ เพราะ น้ำมันจะท่วม จ๊ากกก อยากไปนะแซงค์มาโก้น่ะ แต่น้ำท่วมนี่ไม่เอาได้มั้ย เหอๆๆ ยิ่งเห็นพี่แกใส่บู้ทยาง สูงขึ้นไปถึงต้นขา ตายล่ะหว่า น้ำมันจะท่วมกันขนาดไหนวะเนี่ย อย่างนี้ต้องรีบไปดู ฉลองศรัทธาเจ้าของที่พักเค้าซะหน่อย แหม เชียร์เหลือเกินให้ไปลุยน้ำท่วม ตอนออกไปจากที่พักก็คิดว่าคงจะเหมือนเมื่อคืนก่อน คือมันท่วมน่ะ แต่ยังพอเดินได้ เช้าวันนั้นพอเจอเข้าจริงๆ ต้องร้องเป็นภาษาอิตาเลียนว่า Mamamia !!! แม่เจ้าโว้ยยย บทมันจะท่วม มันก็ท่วมได้ใจจริงๆ หนีไปทางไหนก็เจอ บางจุดท่วมสูงเกือบถึงเข่า กรี๊ดดด ชาวเวนิสเรียกปรากฏการณ์น้ำท่วมเมืองแบบนี้ว่า Acqua Alta เกิดขึ้นปีละสองหน (โดยประมาณ) ทราบว่าพักนี้ท่วมบ่อยๆ แต่ท่วมหนักๆมีแค่สองหน แหม ท่วมต้อนรับเราเลยนะ ไปดูรูปสภาพน้ำท่วมกันดีกว่า เห็นแล้วจะเข้าใจว่า เวนิสเป็นนครจมน้ำ มากกว่าลอยน้ำ เหอๆๆ บางจุดเค้ามีสะพานไม้มาต่อช่วยให้คนเดินได้ก็ดีไป บางจุดไม่มีก็ต้องลุยน้ำกันเอง ยับเยิน เอิ๊กกก เห็นตอนแรกก็เกือบจะถอดเกือกเดินแล้ว เหมือนเวลาน้ำท่วมแถวๆบ้านเราอ่ะ ก๊ากๆๆ เวงกำ อากาศเย็นอย่างนี้ ใครจะกล้าถอดรองเท้าล่ะเนี่ย โชคดีที่อิชั้นใส่บู้ทอย่างดี ค่อนข้างทนทาน แถมบู้ทสูงไปถึงหัวเข่า เลยยังพอเดินลุยน้ำได้บ้าง แต่อิคุณสามีนี่ดิแย่หน่อย พูม่า มีแววเน่า เราเลยต้องหาตัวช่วย เป็นรองเท้าประยุกต์ ทำด้วยถุงพลาสติกกันน้ำไปก่อน เหอๆๆ ไม่มีทางเลือก เจอร้านขายของเอาใจนักท่องเที่ยว ที่ไม่ได้เตรียมตัวมาลุยน้ำ (โง่ๆ บ้านนอกๆ อย่างเราไง)โดนไปสิบยูโร คุณสามีกับรองเท้าปาดติ๊กของเธอ ใส่แล้วเหมือนจะไปดาวอังคารมากกว่า ก๊ากๆๆ ตลกชะมัด เหมือนทำงานอยู่องค์การนาซ่า แล้วแอบเก๋ สีแดงแรงฤทธิ์ซะด้วย เดินไปไหนมีแต่คนมอง อย่างฮา ส่วนอิชั้นไม่เสียเงินค่ะ แต่เสืยถุงเท้าไปหนึ่งคู่ ได้ของแถมเป็นอาการน้ำกัดเท้า ฮ่องกงฟู้ตตต ฮ่าๆๆ พออุปกรณ์ลุยน้ำครบ เราก็พร้อมลุยกันได้ละทีนี้ พร้อมจะฝ่าฟันไปให้ถึง แซงค์มาโก้ อิๆๆ เดินๆไป ดั๊นนน ไปเจอเจ้าของที่พักเราอีกรอบ กะลังขายรองเท้าบู้ทยางอยู่เลย เวรของกรรม ขายรองเท้าบู้ทยางก็ไม่บอก โดนหลอกซื้อรองเท้าถุงปาดติ๊กตั้งสิบยูโร เจ็บใจชิบเป๋ง เคืองๆๆ แถมเจ้าของที่พักเรายังลดราคาให้อีกตังหาก รองเท้าบู้ทยางอย่างดี ขายเราแค่สิบห้ายูโรเองอ่ะ (ปกติรองเท้าแบบนี้เค้าขายกันอยู่ที่ 35-40 ยูโร นะเนี่ย แพงโคดด) เสียดายมากๆ อดซื้อเลย ฮือๆๆ ช่างมันเหอะ เสียตังค์ค่าโง่ไปเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ เริ่มจะชินแล้ว ก๊ากๆๆ ไปดูรูปกันต่อดีกว่า ระหว่างทางเดินในเมืองเวนิส (ยามจมน้ำ) มีมุมสวยๆเยอะแยะมากมาย ถ่ายรูปกันไม่ถูกเลย อิๆๆ วันนี้เจ้าของไดดูอ้วนกลมหน่อยนะ เพราะใส่กันหนาวหลายชั้น เสื้อคลุมกันฝนเข้าไปอีก ดูไม่ได้เล้ยย ตึกรามบ้านช่องสีเหลืองๆส้มๆ เข้ากับสะพาน ลำคลอง และสายน้ำสีเขียวมรกต อย่างเหมาะเจาะ เราเดินย้อนขึ้นไปทางสถานีรถไฟของเวนิส เพื่อหนีน้ำท่วม(เพราะเป็นจุดที่สูงกว่าแซงค์มาโก้) และตั้งใจจะเดินข้ามไปอีกฟากหนึ่งของที่พัก ซึ่งอยู่หลังคาสิโนเวนิส ติดกับคลองใหญ่ Grand canal แผนที่ของเวนิส ดูเหมือนใหญ่นะ จริงๆไม่ใหญ่เท่าไหร่หรอก เหอๆๆ ถ้ารักการเดิน ไม่มีปัญหาอยู่แล้นน อุ้มพักอยู่ฝั่งด้านบน วันนี้จะเดินไปฝั่งด้านล่าง แล้วไปข้ามสะพานริอัลโต้ สะพานประจำเมืองเวนิสกัน ทริปสั้นๆยุคประหยัดแบบนี้ เน้นเดินกับเน้นกิน มากกว่านั่งเรือ เพราะงบประมาณมีจำกัดนะจ้ะ อิๆๆ ระหว่างข้ามสะพานใหญ่ใกล้ๆสถานีรถไฟ จะมีโบสถ์สวยๆให้ชมอยู่หลายแห่ง (แต่ไม่ได้เข้าไปดูเลยอ่ะ) แม้ไม่มีบุญได้นั่งเรือกอนโดล่า (ซึ่งถ้าอยากให้โรแมนติกจริงๆ ต้องนั่งกันตอนกลางคืนนะคะ ขอบอก) ยังเป็นบุญตาที่ได้เห็น โอ้ว สวยงามยิ่งนัก ไม่ว่าจะลอยตรงจุดไหนของเมือง ก็สวย มีเสน่ห์มากจริงๆ เสียดายไม่มีกระตังค์ เที่ยวละร้อยสองร้อยยูโร สู้ไม่ไหวล่ะค่ะ เก็บเงินไปกินดีกว่า (ห่วงกินมากกว่าว่างั้น) เราสองคนเดินผ่าน ลัดเลาะ ซอกซอย ตรอกเล็กๆ ตามป้ายไปเรื่อยๆ ผ่านสะพานข้ามคลองเล็กๆมากมาย สนุกดีเหมือนกัน เดินก็สะดวก รถราก็ไม่มี นี่แล่ะหนา เอกลักษณ์ของเวนิส เมืองที่มีแต่เรือ กับลำคลอง เดินเหนื่อยแล้วก็ต้องหยุดพักดื่มกาแฟอิตาลีกันซะหน่อย ของเค้าขึ้นชื่อไปทั่วโลก มาถึงที่แล้วต้องลอง กาแฟคาปุชิโน ริมเทอเรส ราคา 3.5 ยูโร แพงที่สุดในชีวิต เอิ๊กกก ถ้าอยากดื่มถูกๆต้องไปดื่มที่บาร์นะจ้ะ ดื่มกาแฟเสร็จก็เดินเท้ากันต่อ จนถึงตลาดนัดของเมืองนี้ ริมสะพาน ริอัลโต้ (Rialto) เนื่องจากเป็นวันอาทิตย์ เลยไม่มีตลาดสด มีแต่ร้านขายของที่ระลึก กับร้านอาหารเท่านั้นที่เปิด ขนาดจุดที่สูงที่สุดของเมืองยังมีน้ำท่วมเลยคิดดู สุดยอด มีเพื่อนๆชาวนาซ่าของเซดริกเยอะเลย ก๊ากๆๆ เค้าว่ากันว่าถ้ามาเวนิส แล้วไม่มาดูสะพานริอัลโต้ เหมือนมาไม่ถึง อิๆๆ เลยต้องถ่ายรูปกันซะหน่อย เป็นเครื่องยืนยัน ว่ามาถึงเวนิสแล้วจริงๆ (ในที่สุด ก๊ากๆๆ) ย่านนี้เป็นศูนย์รวมทุกอย่างของเวนิสเลยล่ะ ใครอยากเห็นเรือกอนโดล่า หน้ากากเวนิส แก้วมูราโน่ ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหารริมน้ำ มาที่นี่มีหมด ถ่ายรูปกันจนเหนื่อย เดินกันจนขาจะลากแล้ว ต้องหาของกินเพิ่มพลังกันซะหน่อย อิๆๆ วันนี้เรากินกันง่ายๆ เซฟเวลานิดนึง เพราะมันมีไม่มาก (ทั้งเงินและเวลา ฮ่าๆๆ) เอาพิซซ่าละกันนะ อาหารท้องถิ่นของที่นี่ พิซซ่า พาสต้า คู่กันเสมอ เมื่อคืนลองพาสต้าไปแล้ว วันนี้ลองพิซซ่าดูบ้าง ความจริงเป็นคนไม่ชอบกินพิซซ่าเท่าไหร่ แต่ลองได้กินที่นี่ ก็อร่อยดีนะ นึกว่าจะเลี่ยนกว่านี้ อาจจะเพราะเริ่มชินกับรสชาดจืดๆของฝรั่งแล้วก็เป็นได้ ก๊ากๆๆ ถ้าเป็นที่ไทยล่ะก็ ต้องมีพริกแจม 555 อีกอย่างที่ชอบกินมากๆ คือ ขนมปังกรอบแท่งของอิตาลี เรียกว่า Grissani ชื่อดูหรูไปงั้นแล่ะ คนไทยเรารู้จักกันดีในนาม ขนมขาไก่ ก๊ากๆๆ ต้นตำรับต้องใส่น้ำมันโอลีฟด้วยอร่อยจนซื้อกลับมากินที่บ้าน รู้สึกว่าชักจะยาวแล้ว เน้นรูปนะเนี่ย ตามรีเควส เหอๆๆ ไว้จะมาเล่าต่อตอนหน้าละกันนะจ้ะ จะพาไปเที่ยวจุดสำคัญของเมืองนี้ แซงค์มาโก้ และพาไปดินเนอร์อิตาเลียนกันอีกรอบ บายจ้า ปอลอ เพลงอิตาเลียนเพลงนี้ O Sole Mio อยู่ในใจอุ้มเสมอ เวลาคิดถึง เวนิส ฮ่าๆๆ ไม่รู้ทำไม สงสัยมันเหมาะกับคนพายเรือกอนโดล่ากระมัง ถ้าคนพายเรือร้องให้เราสองคนจะปลื้มสุดๆ อิๆๆo sole mio
Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2552 4:53:07 น.
15 comments
Counter : 1799 Pageviews.
โดย: aumdeeda วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:5:15:25 น.
โดย: na_kyoung IP: 58.8.37.96 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:11:11:39 น.
โดย: ชาแนลวี วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:19:24:29 น.
โดย: chopov วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:06:53 น.
โดย: chopov วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:16:52 น.
โดย: chopov วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:18:57 น.
โดย: Jaz in Norway IP: 195.159.198.143 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:13:45:35 น.
โดย: kwang IP: 88.169.241.225 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:17:39:19 น.
โดย: porpor IP: 88.170.171.17 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:49:23 น.
โดย: oattoto @ diaryclub ^^ IP: 82.143.197.60 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:23:00 น.
โดย: จอย ณ อาเมียง IP: 93.4.68.53 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:0:31:57 น.
โดย: memaviemeo IP: 82.234.246.25 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:1:29:44 น.
โดย: ปูปาย IP: 90.7.87.121 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:49:04 น.
โดย: lonelydj@diaryclub.com IP: 125.27.78.180 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:54:55 น.
Location :
Ouagadougou Burkina Faso
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [? ]
อดีตคนโรงแรม ที่ได้พบรักกับหนุ่มชาวฝรั่งเศส ไกลถึงกรุงบรัสเซลส์เบลเยี่ยม จากนั้นได้ผันตัวมาเป็นเถ้าแก่เนี้ย ร้านขายอาหาร ณ เมืองอาเมียง ทางเหนือของประเทศฝรั่งเศส ปัจจุบันย้ายมาทำธุรกิจที่ประเทศ "บูร์กินาฟาโซ" ในทวีปอัฟริกาตะวันตก