Bloggang.com : aumdeeda : **ปุปปัปทัวร์สองวันสามประเทศ ตอนที่หนึ่ง

**ปุปปัปทัวร์สองวันสามประเทศ ตอนที่หนึ่ง :: Liège เบลเยี่ยม”**

มหกรรมอัพไดอารี่ กะลังจะหมดไป ต้องรีบๆมาจัดไปอย่าให้เสีย
เทศกาลปลายปีกะลังจะมาถึง อิชั้นจำต้องไปทำการรับศึกซักหน่อย อิๆๆ

ขอท้าวความไปโน่น ช่วงเทศกาลอยกระทงของพี่ไทย แต่ที่ฝรั่งเศส
ดั๊นได้หยุดตรงกันพอดี (เหลือเชื่อจริงๆวุ้ย) เพราะเป็นวันฉลอง
ครบรอบยุติสงครามโลก อะไรทำนองนั้นกระมัง (จำรายละเอียดของวันบ่ได้)
เอาเป็นว่าได้หยุดก็พอ ก๊ากๆๆ ดีใจมากมาย ได้ลองวีคเอนท์กะเค้าซักที
ต้องรีบไปหาที่เที่ยวซักหน่อย ตอนแรกก็กะว่าจะไม่ไปไหนหรอก พอดี
ได้รับเชิญไปกินฟรีบ้านเพื่อนวันอาทิตย์ แต่สุดท้ายอิสามีมารบเร้า กัดจิก
ทำนองว่าไม่เที่ยวไหนกันเหรอ บลาๆๆ เลยจำต้องจัดปุปปัปทัวร์ฉะนี้แล

มองหาที่เที่ยวแบบฉุกเฉิน อยากจะไป Maastrich ที่ฮอลแลนด์มานานแล้ว
เห็นระยะทาง พอๆกับไปบรัสเซลส์เลย เออ เปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวฮอลแลนด์ดีกว่า
บอกตามตรงไม่เค้ยไม่เคยได้ไปเที่ยวฮอลแลนด์มาก่อน(ไม่นับที่ไปต่อเครื่องบินนะ)
นับๆแล้วก็เกือบสิบปีที่วนเวียนแถวเนี้ย แต่ไม่เคยไปเที่ยวที่นั่นแบบจริงๆจังๆซักที
เอาวะ ได้หยุดทั้งทีเลยเอาซะหน่อย ไปๆมาๆ จากฮอลแลนด์ ต้องผ่านทางเบลเยี่ยม
เออ แวะเบลเยี่ยมด้วยดีกว่า ชอบ (ซะงั้น) ไหนๆไปแล้วก็ไปค้างที่นั่นซักคืนท่าจะดี
คุณสามีก็หนับหนุน เพราะไม่กล้าไปค้างที่ฮอลแลนด์ นัยว่าภาษาปะกิดอ่อนแอ ก๊ากๆๆ
มองหาโรงแรม ไปเจอโรงแรมนี้เข้าพอดี เลยเข้าทางเรา Hotel de la Couronne
เป็นโรงแรมเครือสเปน เพิ่งเปิดได้แค่เดือนเดียว ใหม่เอี่ยมอ่อง อยู่ใกล้สถานีรถไฟของเมือง
(แต่เราไม่ได้ไปรถไฟหรอก เราขับรถกระป๋อง เอ้ย รถยนต์สุดรักของเราไปกันเอง ฮ่าๆๆ)

ราคาห้องถือว่าไม่ถูกและไม่แพง อุ้มว่าสมราคาน่ะ เพราะที่ปารีสก็นอนตกคืนละเจ็ดสิบยูโร
(Ibis ไม่มีอาหารเช้ารวมด้วย) ที่นี่แพงกว่าหน่อย แต่อาศัยเทคนิคอดีตคนโรงแรมอย่างเรา
ต่อรองกับเค้าจนได้ราคานี้รวมอาหารเช้าสองคนเข้าไปด้วย ถือว่าคุ้มค่ามากๆ (คืนละ 75 ยูโร)
แถมอาหารเช้าเค้าเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ มีไข่ดาว ออมแลต เบคอน ตามสั่งให้ด้วย ซึ่งเป็นสิ่งหายาก
โรงแรมเล็กๆแถบยุโรป (ไม่นับอังกฤษ) ไม่มีใครเสิรฟ์ไข่ดาว เบคอนกันหรอกค่ะ ขอบอก เหอๆๆ
ราคาโรงแรมที่ฮอลแลนด์ เท่ากัน โรงแรมเก่ากว่า อาหารเช้าธรรมดา สรุปแล้วที่นี่ดีกว่าจริงๆ อิๆๆ

เช้าวันจันทร์ เราเลยออกเดินทางกันราวๆสิบโมงจากอาเมียง ไป Liège ใช้เวลาสามชั่วโมงได้
ดูตามแผนที่ นี่คือปุปปับทัวร์ของเรา สามเมือง ที่ติดดาวสีฟ้าไว้ เส้นประคือรอยแยกเขตแดน
สามเมืองนี้ อยู่คนละประเทศจริงๆค่ะ แต่ใช้วลาเดินทางระหว่างเมือง ราวๆครึ่งชั่วโมงเท่านั้นเอง

พอไปถึงเมืองเลียจ เราก็เข้าไปเช็คอินที่โรงแรมสำรวจห้องพักกันก่อนเลย อิๆๆ สามีได้เอนหลัง
ส่วนอิชั้นก็บ้าถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อย ห้องสะอาดมากถึงมากที่สุด เหมือนไม่เคยมีใครมาพัก
ทุกอย่างใหม่เอี่ยมอ่องอรทัย สมกับที่เป็นโรงแรมที่เพิ่งจะเปิดมาได้แค่เดือนเดียว ฮุๆๆ ชอบ

หยุดพักกันแบบตดยังไม่ทันหายเหม็น ก๊ากๆๆ เราก็เข้าไปสำรวจกลางใจเมืองเลียจกันซะหน่อย
เนื่องจากไม่ได้ทานอะไรกันมาเลย จุดมุ่งหมายแรกคือร้านขายขนมเวเฟอร์เลียจ ของกินขึ้นชื่อที่นี่
ถ้าใครมีโอกาสได้มาเหยียบเมืองนี้ ไม่ได้ทานเวเฟอร์เหมือนมาไม่ถึง ของเค้าดีจริงๆ อร่อยมากกก
อิชั้นสั่งแบบสอดไส้ช็อคโกแลต เค้าอัดช็อคโกแลตแท่งๆเข้าไปตามซอกเวเฟอร์ร้อนๆ ทีนี้เวลากินนะ
มันก็จะละลายเยิ้มอยู่ข้างในเวเฟอร์ อร่อยที่ซู้ดดด แถมไม่เลอะเทอะอีกตังหาก คนคิดมันฉลาดเจงๆ

เวเฟอร์ของเบลเยี่ยม มีสองประเภท คือเวเฟอร์บรัสเซลส์ กับเวเฟอร์เลียจ อุ้มชอบของเลียจมากกว่า
เพราะแม้มันจะดูเล็กๆ แต่รสชาดหวานมันกรอบหอมอร่อยกว่าเวเฟอร์บรัสเซลส์ ที่อุ้มว่าหน้าตามัน
ช่างเหมือนเวเฟอร์ร้านเอแอนด์ดับบลิวซะนี่กระไร รสชาดเวเฟอร์บรัสเซลส์ก็ดีนะ แต่สู้เลียจไม่ได้ 555
ที่นี่เค้ามีขนมเวเฟอร์บางๆ ที่หน้าตาเหมือนขนมรังผึ้งบ้านเราขายด้วย แต่อุ้มไม่ค่อยปลื้มเลยไม่ได้ลอง

กินไปเดินไปหลงไปด้วย (ทริปนี้บอกไว้ก่อน หลงตาหลอด) เดินผ่านแหล่งช้อปปิ้งกับโบสถ์
(ที่เป็นเหตุให้ทะเลาะกัน จะเล่าให้ฟังตอนท้ายๆ) ในที่สุดก็เจอจุดไคลแมกซ์ของเมืองนี้
Place Saint Lambert และ le Palais des Princes-Évêques

ถัดไปจะเจอ Place du marché มีรูปปั้นน้ำพุตั้งตระหง่าน แถมด้วยร้านบาร์ ล้อมรอบ
นี่แล่ะเสน่ห์ของเบลเยี่ยม (ที่ต้องคุ่กับบาร์เบียร์เยอะๆไง ก๊ากๆๆ) เดินไปเดินมาเจอหุ่นกระบอก
จำได้คลับคล้ายคลับคลา แบบว่าศึกษาข้อมูลก่อนมานิดหน่อย ว่าเป็นของขึ้นชื่อ เลยถ่ายรูปไว้

จากนั้นก็เดินหาจุดท่องเที่ยวอีกอย่างของที่นี่ เรียกว่า La Montagne de Bueren
สูงสมชื่อ เอิ๊กกก กระไดสามร้อยกว่าขั้น แค่เห็นก็ถอดใจแล้วล่ะค่ะ ตามประสาคนแก่ 555
มองไปเห็นอิเหมียวตัวนึง (ทำให้นึกถึงตัวที่บ้าน) ขี้ขลาดพอกันเด๊ะ มันปีนขึ้นๆลงๆอยู่หลายรอบ
เดาว่าคงคิดเหมือนเรา เอ๊ะ จะไปดีไม่ไปดี มันสูงเกิน ก๊ากๆๆ สุดท้ายมันก็ไม่ไป เหมือนเราเลย อิๆๆ
พยายามเกี่ยงให้คุณสามีขึ้นไป สามีบอกเธอไปเองดิ ถึงแล้วโบกมือด้วยจะรอถ่ายรูป ดูมัน กวน

แอบเถียงกันอยู่ซักพัก สุดท้ายก็ไม่ได้ปีนกระได เปลี่ยนใจไปต่อที่อื่น แต่จะไปไหนดีล่ะเนี่ย
บรรยากาศเริ่มหดหู่ เย็นและมืด ฝนเริ่มตกปรอยๆ คิดไม่ออก อิชั้นเสนอไปเที่ยวโบสถ์ละกัน
ดูในแผนที่ของโรงแรมที่เค้าให้มาฟรี เหมือนมันจะอยู่ไกลนะไอ้โบสถ์เนี่ย เลยออกรถดีกว่า

สรุปว่า ออกรถมาไม่ถึงหนึ่งนาที เจอแล้วโบสถ์ ที่สำคัญ มันอยู่ใกล้กับร้านขายเวเฟอร์เลียจ
ที่เราไปซื้อตอนไปถึงแต่แรกเลยด้วยซ้ำ กรี๊ดดด จะบ้าตาย แล้วตูออกรถมาทำมายยฟะเนี่ย
อิสามีเริ่มไม่พอใจ แหม ทำเหมือนผลิตน้ำมันได้เอง เสียเวลาขับรถวนหาที่จอดใหม่อยู่นาน
อิชั้นก็แอบเคือง เลยบอกให้กลับโรงแรมเลยละกัน มันดึกแล้วด้วย จะได้พักกันก่อนดินเนอร์
อิสามีก็ดื้อ (วันนั้นดื้อมากผิดปกติ ไม่รู้เพราะหิวรึเปล่า) ก็พยายามจะไปให้ถึงโบสถ์ให้ได้
สุดท้ายเราไปเจอที่จอดรถริมแม่น้ำ Mass (สายเดียวกับที่ฮอลแลนด์นั่นแล่ะค่ะ) จนได้

เราเลย(จำต้อง) เดินต่อกันไปหาโบสถ์อีกรอบ ระหว่างทางเจอร้านขายเฟรนช์ฟรายส์ อิๆๆ
สามีเลยซื้อให้ ทนเห็นสายตาที่อิชั้นมองร้านเค้าแบบละห้อยโหยหาไม่ได้ คงนึกสมเพชอินี่
จะอ้วนและตะกละไปถึงไหนฟะ ฮี่ๆๆ แล้วเราก็ได้มาซึ่งเฟรนช์ฟรายส์สมใจ กินไม่แบ่งใคร
แล้วก็เป็นเรื่องทะเลาะกันอีก เพราะสามีหาว่าอิชั้นงก ความจริงก็จะแบ่งให้อยู่หรอก แต่สามี
มันกวน ถามว่าจะกินด้วยกันมั้ย บอกไม่เอา ไม่ชอบซอส ก็เลยต้องทนกินคนเดียวจนเกินอิ่ม
พอใกล้จะหมด สามีหันมาบอก งกจริงๆ ไม่แบ่งกันบ้างเล้ยย อ้าว อิตอนแรกถามบอกไม่เอา
ดูดู๊ คุณสามี แอบวอนหลังมือเมียหลายรอบแล้วนะวันเนี้ย เดี๋ยวก็จับตบจูบซะเลยนี่ ฮ่าๆๆ

ยัง ยังไม่หมด เทศกาลแค้นเคือง เดินกันไปจนถึงโบสถ์ปรากฏว่า โบสถ์ปิดไปแล้ว กรี๊ดด
ตามคาด ตูว่าแล้ว มันเกินห้าโมงครึ่งเวลาปิดแล้ว ที่สำคัญ แม้ยังไม่ถึงเวลาปิด ก็ปิดอยู่ดี
เพราะเค้าปิดวันจันทร์ และวันนี้ก็วันจันทร์ กรี๊ดดดๆๆ แล้วเราหลงโง่มาทำไมเนี่ย ฮ่วย
เอาวะ คนไม่รู้ถือว่าไม่ผิด แต่เสียเวลาโคดๆ เลยหันไปลงอิสามี บอกแล้วใช่มั้ยยะ อิคุณสามี
ให้กลับโรงแรมเลยก็ไม่เชื่อ ดื้อจะมาโบสถ์ สม ไม่ยอมฟังเมีย หือกับเมีย นี่ไงบทเรียน 555

แต่ในที่สุดเราก็กลับไม่ถึงโรงแรมกันค่ะ เพราะคืนนั้น เราไปเจองาน Fête Foraine
หน้าตาเหมือนงานวัด(ฝรั่ง)ดีๆนี่เอง แต่อิชั้นชอบมากมาย เพราะมันมีสีสัน สนุกสนาน
และที่สำคัญ คู่กับงานวัด คือของกินอร่อยๆ และถูกๆให้เลือกมากมาย ทั้งคาวและหวาน เย้ๆๆ
ไม่ต้องพึ่งร้านอาหารกันแล้วคืนนี้ กินกันตามข้างทางนี่แล่ะ ได้อารมณ์ไปอีกแบบ ชอบมากมาย

คุณสามีโดนร้านแฮมเบอร์เกอร์หัวหอมดึงดูด ส่วนอิชั้นโดนร้านหอยจุ๊บ (Escargots) ดึงดูด
เลยสั่งซุปหอยจุ๊บแซ่บๆมาซดกัน อิคุณสามีล่อแฮมเบอร์เก้อไปแล้ว ต่อด้วยปลาหมึกชุบแป้งทอด
กินคู่กับ วายร้อนสูตรพิเศษ ใส่อมาเรตโต้ เข้าไปอีก แรงแต่รสชาดี อร่อยเหาะ ซดไปสองแก้ว

อิ่มแล้วก็เดินเล่นกันจนทั่วทั้งงานวัด ไม่ได้เล่นเครื่องเล่นอะไร เสียดายของที่กินเข้าไป ก๊ากๆๆ

พยายามจะหาของหวานกิน เจอแต่ของทอดๆมันๆ อยากกินไอติมอ่ะ แต่หนาวอย่างนี้เลยไม่มีขาย
เราเลยเดินออกจากงานวัด กลับโรงแรม ไปเจอร้านคาเฟ่นั่งดื่มแถวนั้น เลยสั่งกาแฟร้อนๆมาดื่ม
กาแฟที่เบลเยี่ยมนี่ดีมากๆ มีขนมแถมให้ตลอด ไม่งกเหมือนที่ฝรั่งเศส ที่ให้น้ำตาลมากับกาแฟแค่นั้น

สามียังอุตส่าห์สั่งไอติมมากิน สงสัยจะอยากกินจัด อิชั้นไม่อยากละ เลยสั่งมาแบ่งกันถ้วยเดียว
ไม่ได้ถ่ายรูปมานะ ไอติมวานิลลาราดซอสช็อคโกแลตธรรมดา (เรียกว่า Dame Blanche)
อุ้มเกือบจะเผลอสั่งไอติม Chocolat Liègoise ไปแล้ว กลัวเค้าหาว่าเราประชดเค้าอ่ะดิ
อาจจะงงกันเล็กน้อย คำว่า Liègois ใช้เรียกคนที่อยู่เมืองนี้ คือเมือง Liège ชื่อเดียวกะไอติม
(หน้าตาเหมือนช็อคโกแลตซันเดย์บ้านเรา) ในภาษาฝรั่งเศส แบบเด๊ะๆ แถมไม่มีในเมนูด้วย
สงสัยว่าจะมีแต่คนฝรั่งเศสที่เรียกไอติมช็อคโกแลตซันเดย์ ว่าไอติมช็อคโกแลตเมืองเลียจ 555

คืนนี้อิ่มท้อง แล้วอิ่มอกอิ่มใจ หายเคืองอิคุณสามีเป็นปลิดทิ้ง ฮี่ๆๆ เดี๋ยวมาต่อวันรุ่งขึ้นนะจ้ะ
เราจะไปทัวร์รวดเดียว อีกสองเมืองสองประเทศ และบึ่งรถกลับฝรั่งเศส(ประเทศที่สี่)ทันที อิๆๆ
คิดดูแล้ว ทำไปด้ายยยตรู ไม่น่าแปลกใจเลย ที่กลับมาเหนื่อยกันทั้งคู่ 555 จะรีบไปรีบมาจ้า บาย

Create Date : 22 พฤศจิกายน 2551

Last Update : 22 พฤศจิกายน 2551 14:47:02 น.

9 comments

Counter : 517 Pageviews.

ซื้อตั๋วกลับไทยแล้วนะ กลางมีนาคมปีหน้า เย้ๆๆ อยากให้ถึงวันนั้นไวๆ แต่ต้องผ่านคริสต์มาสไปก่อนอ่ะดิ แง่มๆๆ

โดย: aumdeeda

วันที่: 22 พฤศจิกายน 2551 เวลา:5:35:08 น.

ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ

โดย: รัชชี่ (รัชชี่

) วันที่: 22 พฤศจิกายน 2551 เวลา:12:45:59 น.

มาตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ อู้ววว คุ้มเลยเนี่ยที่นั่งอ่าน ภาพสวยๆแบบนี้ทำหนังสือท่องเที่ยวสบายเลยนะคะ

ที่ถามไว้ แนนเรียน เดค รุ่นปี42 ค่ะ รหัสนักศึกษามันเป็น 442 อ่ะค่ะ ฮ่าๆๆ นับปีไม่ถูก แต่เป็นรุ่น Dec 44 ค่ะ

แล้วคุณอุ้มเรียนเดคเหมือนกันเหรอคะ แนนเป็นพวกหน้ามึนอ่ะ วันๆเดินมึนๆ จำใครไม่ค่อยได้หรอก ฮ่าๆ

ดีใจจัง เจอเพื่อนร่วมมหาลัยอีกคนแล้ววว

โดย: แนน มัลดีฟส์จ้า IP: 202.1.196.98 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2551 เวลา:23:56:56 น.

ยังไม่เคยไปทั้งสามเมืองนี้เลยค่ะคุณอุ้ม
เล็งๆไว้เหมือนกันแหล่ะ เดี๋ยวไว้รอคุณอัพเสร็จ จะเอารูปไปบอกสามีว่าอยากไปมั่ง

โดย: ตรีนุช๓๙๐๓ IP: 86.198.128.59 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2551 เวลา:4:21:40 น.

สวยจังเลยค่ะ ขนาดอากาศหนาว ๆ แบบนี้ยังน่าไปเดินเล่นเลย

โดย: Picike

วันที่: 23 พฤศจิกายน 2551 เวลา:6:41:34 น.

อยากไปด้วยจริงๆเลย อุ้มเล่าจนอยากไปเลยนะเนี้ย อยู่ไม่ไกลจากบ้านปูปาย ไว้วันหลังต้องแวะไปเสียแล้ว

รูปสวยทุกรูปเลยนะจ๊ะ เห็นกะไดแล้วไม่อยากปีนเหมือนกันอิอิอิอ ขอถอยดีกว่า สูงอย่างนี้ไม่ไหว

ปูปายชอบไปงานวัดฝรั่งนะ มีของเล่นเยอะดี แต่อย่างที่ว่า แพงสุดๆเลยเนาะ กลับไปเที่ยวงานวัดบ้านเราดีกว่า

ปล แท็ค ขอแปะโป้งไว้อาทิตย์หน้านะคะ จุ๊บๆ

คิดถึงจ้า

โดย: ปูปาย IP: 86.207.71.158 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2551 เวลา:16:43:35 น.

ห้องพักสวยจังเลยค่ะ
เห็นเวเฟอร์แล้วอยากทานด้วยเลย
Place Saint Lambert และ le Palais des Princes-Évêques สวยมากเลยค่า

โดย: มนวินนี่ (tomdome) IP: 58.181.152.114 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:21:00 น.

nice trip na p aum...yark pai duay eieiei..since we live in the center, it s very difficult to travel to neigbour countries la .

you hair is longer quite fast na ka ..narak dee

escagot na kin mak :D

i like this song ah

ps you can come here anytime na p aum, bienvenue tout le temps ka ..ma len WII kun :D

โดย: porpor IP: 88.170.171.17 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2551 เวลา:1:21:03 น.

ปุ๊บปั๊บทัวร์ที่น่าเหนื่อย แต่เราอ่านเพลินไม่เหนื่อยเลย อิอิ

แหมเซดริกน่าจะเดินขึ้นบันไดไปถ่ายรูปวิวสวย ๆ มาให้ดูนิ

ขำตอนหาทางไปโบสถ์ แต่โบสถ์ปิด ทำไม๊ ไม่เช็กดูก่อนละตัวเอง

งานวัดฝรั่งน่าสนุกไม่น้อย อยากไปบ้างจัง

โดย: ostojska

วันที่: 25 พฤศจิกายน 2551 เวลา:3:20:41 น.