Bloggang.com : dansivilai : " ตักน้ำใส่โอ่ง ชะโงกดูเงา "

" ตักน้ำใส่โอ่ง ชะโงกดูเงา "

" ตักน้ำใส่โอ่ง ชะโงกดูเงา "

เกษตรกร ชาวไร่ชาวนาไทย ย้อนหลังไปสัก 30-40 ปี ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย
ไม่จำเป็นต้องดิ้นรน เพื่อให้มีคุณภาพชีวตที่ดีขึ้น เพราะเพียงพอต่อการเป็นอยู่
ถึงหน้านาก็ทำนา ทำไร่ ไปตามรอบวงจรของเกษตรกรรมนั้นๆ
ชีวิตจึงวนเวียนอยู่เพียงเท่านี้ ไม่แน่ใจว่าวัฒนธรรมคนไทยดั้งเดิมเป็นแบบนี้รึเปล่า
จึงทำให้ขาดความกระตือรือล้น แบบเรื่อยๆมาเรียงๆ
น้ำประปาไฟฟ้าไม่มีให้ใช้ ทุกอย่างอยู่กับธรรมชาติล้วนๆ มืดค่ำเข้าบ้านนอน
มีแค่วิทยุทรานซิสเตอร์ กับแสงจากตะเกียงน้ำมัน ลูกจึงเต็มบ้านหลานเต็มเมือง 555
การไปมาหาสู่ ไม่มีรถราให้ขับให้ขี่ มีเพียงเรือ กับเดินเท้าแล้วแต่ความจำเป็น
บ้านไกล้ บ้านไกลรู้จักทั่วกันหมด ผ่านบ้านใครก็ตะโกนร้องทักทาย เรียกกินข้าวกินน้ำร่ำไป
ต่างกับสมัยปัจจุบัน ยิ่งเป็นสังคมชาวเมือง บ้านติดกันยังไม่เคยทัก ไม่เคยรู้จักก็ถมเถไป
รอยยิ้มที่เหือดหาย รังแต่จะเอาเปรียบเพื่อส่วนตน ใช้ชีวิตแบบตัวใครตัวมัน
เดี๋ยวจะออกนอกเรื่องไปไกล ขอวกกลับเข้าเรื่องตามภาพประกอบ
หน้าที่ภาคบังคับของเด็กๆ จะไปเล่นอะไรที่ไหน อย่างไรผู้ใหญ่มักไม่ใส่ใจ
แต่เมื่อถึงเวลาหน้าที่ ห้ามบิดพริ้ว เช่นต้องเอาควายออกไปกินหญ้า
เอากลับมาลงคลองอาบน้ำ พาเข้าคอกโรงนอน
อีกหน้าที่สำคัญคือตักน้ำใสอ่างล้างเท้าที่ตีนบันไดก่อนขึ้นบ้าน
ชาวบ้านทั่วไปมักไม่ใส่รองเท้า เพราะต้องทำนาทำไร่ตลอดวัน
ความจำเป็นในการใช้รองเท้าในชีวิตประจำวันจึงน้อยมาก
ฉะนั้นน้ำล้างเท้าก่อนขึ้นบ้าน ทุกบ้านจึงจำเป็นต้องมีไว้
โดยเฉพาะหน้าฝน พื้นที่เป็นดินเหนียวติดเท้าแน่นมาก ล้างยากทวีคูณ
เด็กๆก็จะใช้กระป๋องน้ำไปตักจากคลอง ระยะทางก็ไม่ใกล้นัก
แต่จากบ้านลงไปตรงท่าน้ำจะเป็นทางชันพอประมาณ
เที่ยวละ 2 กระป๋องต่อคน ลื่นบ้าง น้ำหกบ้าง
ทั้งเหนื่อย ทั้งเมื่อย บางคนเดินโอ้เอ้ถ่วงเวลา เอาเปรียบพี่น้องก็ต่อว่ากันไป
บางคนบ้ายอ ออกปากชมนิดหน่อยก็ขยันตักแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
ช่วยลดรอบตักของเราได้พอประมาณ
ก็อยากขยันเหมือนกัน แต่เรี่ยวแรงมันมีน้อย แรงเกียจคร้านมันเยอะกว่า
จำเป็นต้องใช้ศิลปะวาจาให้เป็นประโยชน์บ้างแค่นั้นเอง

Create Date : 03 มีนาคม 2563

Last Update : 3 มีนาคม 2563 21:18:14 น.

4 comments

Counter : 1627 Pageviews.