ซึ่งรับเหมางานก่อสร้างค่ายทหารที่เมืองกาญจน์
สมัยนั้นกันดาร และแห้งแล้งเป็นที่สุด ที่ไปอยู่เป็นโซนกึ่งป่าโปร่ง
ส่วนใหญ่เป็นป่าไผ่รวก วันนั้นเป็นวันหยุดพวกคนงานก็จะเข้าป่า
เพื่อไปเที่ยวเปิดหูเปิดตากัน ผมเป็นเด็กคนเดียวที่ไปกับคณะ
เมื่อเดินไปได้สักพักสังเกตุเห็นว่ามีสัตว์ป่าคล้ายลิง
เกาะอยู่บนต้นไผ่รวก คนงานคนนึงบอกว่านั่น"นางอาย"
ไม่รอช้าช่วยกันจับ (ทั้งที่ไม่รู้ว่าจะจับมาทำไม)

เจ้าลิงลมรู้ว่าภัยมาเยือน หนีสุดชีวิต
แต่การเคลื่อนไหวของมันเชื่องช้ามาก
จนอดคิดไม่ได้ว่า มันเอาตัวรอดในป่าได้อย่างไร
มันปีนหนีขึ้นไปบนยอดไม้
พวกคนงานเอามีดที่เตรียมมาตัดต้นไผ่รวก
มันหนีโดยการโน้มกิ่งไปอีกต้น หนีไปอยู่ต้นไหนก็ตัดต้นนั้น
สุดท้ายก็จับมาจนได้ นำมาผูกไว้ที่แค้มป์คนงาน
มีคนมามุงดูกันมากมาย
...ลิงลมนั่งนิ่งมุดหัว
น้าของผมนึกสนุก จึงหยิบเอาไม้ท่อนเล็กๆ
มาทำท่าเหมือนจะตี พร้อมพูดสำทับเสียงดัง
" เดี๋ยวเถอะ เดี๋ยวเถอะ ดื้อนักตีตายเลย "
เพียงเท่านั้นเอง ลิงลมน้ำตาไหลพรากๆเหมือนเด็ก
ทุกคนนิ่งอึ้ง โดยเฉพาะน้าชายผมตกใจกว่าใคร
พวกเราไม่รู้ว่าที่น้ำตามันไหลพราก
เกิดจากอะไรกันแน่ หรือเป็นธรรมชาติของมัน
แต่ทุกคนลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า
สงสารจับใจ เอาไปปล่อยกลับคืนที่เดิมนั้นดีที่สุด