<<<<ถ้าชีวิตคือท่วงทำนอง เธอคือคำร้องที่มีความหมาย>>>>
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
13 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
ผู้มีปัญญา____พึงเป็นอยู่เพื่อมหาชน


รับโค้ดเพลง โรงเรียนของหนู คลิกที่นี่













วันนีจะหอบเอาภาพบรรยากาศการไปออกค่ายมาให้ชมกันค่ะ ค่ายนี้เป็นค่ายที่สโมสรนิสิตคณะวิทยาศาสตร์จัดขึ้น และค่ายนี้ก็มีเจ้ามู๋ฝนร่วมด้วย เราๆไปออกค่ายกันที่ จ. เพชรบูรณ์ ที่บ้านโป่งน้ำ อ.หล่มเก่าค่ะ ต้องขอชื่นชมคนที่ไปสำรวจค่ายจริงๆ มันช่างขุดหาเจอได้ไงไม่รู้ ทีแรกเห็นไอ้ท่านนายกบอกว่ามันไกลมากๆ แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะไกลได้ใจขนาดนี้มาก่อน การออกค่ายครั้งนี้ พวกเราจะไปสร้างอาคารเอนกประสงค์ให้กับโรงเรียนบ้านห้วยอีจีน แล้วก็มีการพัฒนาโรงเรียนด้วย การเดินทางของฝนและเพื่อนๆน้องๆชาววิทยาศาสตร์ เริ่มต้นในคืนวันศุกร์ที่ 7 กุมภาค่ะ รถเริ่มเคลื่อนตัวจากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ราวๆ ตีหนึ่งกว่าๆ กว่าจะไปถึงที่หมายก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยง

รถที่พาพวกเราไปก็เป็นรถโดยสารค่ะ มีแอร์ด้วยนะ ดูดีมีชาติตระกูลมาก ไอ้แอร์ที่ว่าก็แอร์ธรรมชาติค่ะ มันเป็นรถโดยสาร 6 ล้อนี่แหละ เหตุที่ไม่เอาบัสไปเพราะหมู่บ้านที่จะไป รถบัสขึ้นไม่ได้ ขึ้นได้เฉพาะกระบะ พอขึ้นรถได้ อัดกันแน่นปานปลากระป๋อง ซึ่งก็ดูอบอุ่นดี ได้เห็นทุกคนยิ้มหัวเราะ ทั้งๆที่มันก็โคตรจะอึดอัด ออกแนวลุยๆได้ใจมั่ก พอนั่งรถไปใกล้ภูเขาฝนก็เกิดอาการดี๊ด๊านอนไม่หลับ เพราะที่สารคามบ้านเกิดไม่มีภูเขาให้ดู พอเห็นภูเขาแล้วเกิดอาการบ้านนอกเข้ากรุง การออกค่ายครั้งนี้ซึมซับบรรยากาศกลิ่นอายของธรรมชาติมากๆ อากาศเริ่มหนาวตอนเข้าสู่น้ำหนาว เริ่มมีการยื้อแย่งผ้าห่มกันกับเพื่อน

พอไปถึง อ. หล่มเก่า พวกเราก็แวะจอดที่ตลาด เพื่อหาซื้อของกินแล้วก็สะเบียงอาหาร เอาไปให้พอ แล้วก็ต้องรีบโทรศัพท์ ไม่งั้นเราๆจะไม่มีโอกาสได้ใช้โทรศัพท์ตลอด 3 วัน ก็คิดเหมือนกันนะว่าฝนจะเอาโทรศัพท์ไปให้มันหนักทำไม เอาไปก็ใช้ไม่ได้อยู่ดี พอทุกคนพร้อมก็ขึ้นรถแล้วมุ่งสู่หมู่บ้านค่ะ โดยมีอาจารย์ใหญ่มารอรับพวกเรา โรงเรียนที่พวกเราไปมันช่างเข้ากับเพลงมากๆ มันโคตรจะไกล แถมมีครูสอนอยู่คนเดียว คนเดียวจริงๆค่ะ เป็นคุณครูที่น่าเทิดทูนแล้วก็น่ายกย่องมาก รถของเราไปได้ไม่ไกลก็ต้องลงจอดเพราะทางที่จะขึ้นไปนั้นมันค่อนข้างจะลัดเลาะเขาค่ะ ชันมากด้วย ไปได้เฉพาะรถกระบะ ซึ่งก็มีรถกระบะมาขนถ่ายนิสิตแล้วก็ข้าวของขึ้นไป....บางส่วนก็ต้องรออยู่ข้างล่าง ฝนกับเพื่อนอีก 4 คน ก็รอไม่ไหว ขอเดินเล่นไปก่อน กะว่าจะทำเท่เดินไปเองให้ถึงหมู่บ้าน ตลอดทางที่เราๆเดินก็ผ่านสวนมะขามค่ะ เก็บกินมันตลอดทาง มะขามที่นี่สวยมาก หวานมาก อร่อยสุดๆ เดินไป เม้าส์ไป กินไป ก็ลืมความเหนื่อย แต่แดดนี่มันไม่ปราณีเราๆเลย เดินไปได้สัก 2 โลได้ เจอทางแยก เอาหละสิ ตูจะไปทางไหนดี มีการปรึกษาเถียงกันยกใหญ่.......สุดท้ายก็เลือกได้ เดินๆไปไดสักโลนึง เจอบ้านคนเลยขอแวะถาม


"อีกไกลไหมคะ จะถึงโรงเรียน"

"โรงเรียนไม่ได้ไปทางนี้จ้า"
ฮ่ะว่าไงนะ
เริ่มมองหน้ากันแล้วเหวอ เย่ยตูมาผิดทางกันหรอ สุดท้ายเลยได้เดินกลับไปรอรถที่ทางแยกเดิม 555555 โฮ๊ย รอรถสบายๆไม่ชอบ ชอบหาเรื่องลำบาก พอรถมารับเรา คนแน่นมาก นั่งกันไม่พอ ก็ต้องเอาท้ายกระบะลง พร้อมเสียงอาจารย์ใหญ่ร้องบอกว่า จับให้ดีๆนะ ในใจฝนก็ไม่คิดไรมาก มันน่าจะเป็นความเป็นห่วงของผู้ใหญ่เท่านั้น แต่พอรถกระบะออกตัว ฝนกับไอ้แคร์ ไอ้ปุ้ย ที่นั่งท้ายกระบะก็เริ่มเปล่งเสียงกรี๊ดทันที เพิ่งเข้าใจว่าทำไมอาจารย์ใหญ่แกถึงเน้นนักว่าจับให้แน่นนะ คือพอทางขึ้นเขาก็กรี๊ดซะเอาเป็นเอาตาย ตูจะมาตายที่นี่ไหมวะ คือมันบอกความรู้สึกยากมากค่ะ ทั้งสนุก ทั้งเสียวกลัวตกรถแล้วกลิ้งตกเขาต่อ ร้องกันจนตัวเกร็ง ดีที่มีไอ้ยุ้ยล็อคคอเอาไว้ ไม่ง๊าน สยองแน่ แต่ที่น่าเจ็บใจคือ ทางที่พวกเรามาหนะมันถูกทางแล้ว แต่ชาวบ้านแถวนั้นบอกว่าเรามาผิด หลอกให้ฝนกับเพื่อนเดินกลับไปที่ทางแยกเกือบๆ 2 โล มันน่านัก กว่าจะมาถึงหมู่บ้านทำเอาฝนกับเพื่อนตัวซีดเหลือง เกร็งไปหมด มันเล่นข้ามเขาเป็นสิบกว่าลูก พอมาถึงหมู่บ้าน เพื่อนๆที่มาถึงก่อนก็แตกตื่นกับเสียงกรี๊ดของฝนกับเพื่อน ลุกเดินไปไหนไม่ได้จนเพื่อนต้องมาพาลงจากรถ ประสบการณ์นี้จำไปจนวันตาย เข้าใจความรู้สึกของคนตายแล้วเกิดใหม่จริงๆ

ภารกิจแรกของเราที่ค่ายยนี้คือ การกินข้าวเที่ยงจะมีชาวบ้านเตรียมกับข้าวไว้ให้เราๆแล้ว เพียงแต่ไปช่วยทำนิดๆหน่อยๆก็เสร็จ กินข้าวเสร็จก็แยกย้ายเอากระเป๋าไปเก็บตามบ้าน พ่อฮักแม่ฮัก ซึ่งบ้านที่ฝนไปพัก คือบ้านผู้ใหญ่บ้าน แล้วก็มีแคร์ กุ๊ก อ้อย ปุ้ย นุช ยุ้ย พักกับฝนด้วย ส่วนพวกผู้ชายก็ไปพักกันที่โรงเรียน แต่โรงเรียนกกับหมู่บ้านห่างกันประมาณโลกว่าได้มั้ง
พอกินข้าวเสร็จ เราก็มีการประชุมแล้วเริ่มลงมือปฏิบัติงาน ซึ่งงานเราก็จะแบ่งเป็นฝ่ายๆ ฝ่ายสวัสดิการก็ช่วยแม่ๆทำกับข้าวไว้ให้ชาวค่าย ฝ่ายอาคารสถานที่ก็พัฒนาโรงเรียน ถางหญ้า ทำความสะอาดอาคาร ซึ่งฝนกับเพื่อนผู้หญิงส่วนใหญ่จะอยู่ฝ่ายนี้ ฝ่ายก่อสร้างก็จะเป็พวกผู้ชายไป งานของเราก็ดำเนินไปเรื่อยๆ....โดยมีน้องๆเด็กๆตัวเล็กๆคอยป้วนเปี้ยนมาช่วยงานเป็นระยะๆ

ตกเย็นไม่มีการเดินกลับไปอาบน้ำที่หมู่บ้านค่ะ เพราะมันไกลจากโรงเรียน แถมไม่มีไฟฉาย เราๆเลยทำการหมกเอาไว้ก่อน อาบมันทีเดียวเลยดีกว่า ตกเย็นกินข้าวเสร็จก็ลุยงานกันต่อ ผู้หญิงบางส่วนก็จะไปล้างจานกองโต แล้วฝนกับเพื่อๆบางส่วนก็ไปช่วยผู้ชายและชาวบ้านโม่ปูน เทพื้นกัน ซึ่งบรรยากาศสนุกมากค่ะ ทุกคนทำมันด้วยรอยยิ้ม ถึงจะตักทราย ยกหิน แบกปูน แบกอิฐ แต่ก็ยังมีการร้องแซว มีเสียงหัวเราะตลอดงานค่ะ แสงไปสลัวๆจากหม้อแบต เป็นบรรยากาศชนบทจริงๆ บรรยากาศเต็มไปด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทุกคนทำงานช่วยกัน ถึงจะเหนื่อยแต่ไม่บ่นซักคำ มีการร้องแซวตลอดงาน บางทีเหนื่อยๆก็แกล้งกัน ถ้าอยู่กองทรายอย่างฝนก็เล่นปาทรายเข้าหัวเพื่อนค่ะ ปากันไปปากันมา ถ้าอยู่กองหินมันก็จะมาร้องกดดันกองทรายให้รีบๆขน บางทีกองทรายหมั่นไส้ก็จับทรายปาพวกที่อยู่กองหิน ซึ่งไอ้กองทรายกับกองหินก็อยู่ติดกัน ทั้งกองทรายและกองหินจะมีแต่ผู้หญิงค่ะที่ทำงาน ขนทรายขนหิน ส่วนผู้ชายจะคอยขนอิฐ ขนปูน แล้วเอาเข้าไปเทพื้นข้างในอาคารค่ะ ตอนเหนื่อยก็จะแหกปากร้องขอน้ำจากน้องๆ ก็ส่งน้ำป้อนเข้าปากให้ เพราะมือเปื้อนกัน หยิบกินเองไม่ได้ กว่างานจะเสร็จลงก็ปาไปเกือบเที่ยงคืน สนุกสุดๆ เกิดมาฝนยังไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน


พอตอนเสร็จงานก็มีการประชุมกันนิดหน่อย แล้วเราก็ขึ้นรถกระบะกลับเข้าหมู่บ้านเพื่อไปอาบน้ำพักผ่อนกัน ส่วนผู้ชายก็นอนมันที่โรงเรียน ห้องน้ำที่พวกเราใช้อาบน้ำนี่ฝนก็ไม่เคยเห็นมาก่อน มันเป็นแบบ open air ต้องใช้ผ้าถุงอาบ ไอ้เราก็ไม่เคยอาบแบบนี้ด้วยสิ อายก็อาย กลัวก็กลัว หนาวก็หนาว แต่ครั้นจะไม่อาบก็ไม่ได้ เล่นเลอะมอมแมมกันขนาดนั้น เลอะไม่เลอะก็เล่นถอดเสื้อถอดกางเกงซักกันเลยหละ อาบน้ำเสร็จ ด้วยความเหนื่อยก็หลับแบบลืมโลกไปเลย กว่าจะตื่นได้ก็หกโมงเช้า จริงๆกะจะตื่นกันตี 5 แล้วไปซึบซับบรรยากาศชนบทซะหน่อย แต่เหนื่อยมากลุกไม่ไหว ก็ขอนอนมันต่อ พระอาทิตย์ขึ้นก็ไม่ต้องดูมันแล้วหละ


งานของวันที่ 2 หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จคือทำต่อจากเมื่อวานนี้ค่ะ วันที่สองก็ได้เริ่มก่ออิฐกันแล้ว ถึงจะเบี้ยวๆไม่เนี๊ยบไปบ้างก็ยังพอดูได้น๊า ก็เราเรียน ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ คณิตมา มันก็เบี้ยวๆไปบ้างอ่า ไม่ได้เป็นวิศวะนี่เนาะ ให้อภัยกันนะ งานก็ดำเนินไปเรื่อยๆ วันที่สองของฝนก็มีการไปถางหญ้า เผาป่าค่ะ ได้จับจอบจับเสียมกับเขาด้วย ร้อนนะแต่ก็อบอุ่นดีค่ะ ทุกคนช่วยกันทำงาน บางคนมาค่ายนี้ก็ได้ค้นพบว่าตัวเองเป็นพวกเชื้อเจ้าค่ะ (เจ้ามือ) พอมีเวลาพักก็วางสำรับไพ่เปิดวงรำพัดกัน จริงๆเนื้องานของวันที่สองไม่มีอะไรแปลกใหม่ทำอันที่ค้างคาจากวันแรก แต่ก็เล่นเอาเหนื่อยไปตามๆกัน วันที่สองนี่เดินกลับไปอาบน้ำตอนเย็นค่ะ ไกลมากแต่ก็ต้องเดิน...เพราะตอนเย็นมีการกินข้าวพร้อมชมการแสดงของน้องๆ น้องๆที่นี่น่ารักค่ะ ฝนได้มาเห็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้ น้องบางคนก็เป็นเด็กพัฒนาการช้า บางคนเป็นใบ้เราพูดอะไรก็ไม่ได้ยิน....คือมาที่นี่เจอเด็กมีปัญหาแล้วมันอดสงสารไม่ได้ มันต่างจากเด็กในเมืองมาก ฝนหละชื่นชมครูที่นี่ สอนเด็กได้ดีมากๆ น้องๆที่นี่มีความรู้ความสามารถไม่แพ้เด็กในเมืองเลย อาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ


มาที่นี่ได้เล่น ได้คุยกับน้องๆ แจกขนมให้ สนุกสุดๆ....ไม่ใช่สังกัดชมรมรักเด็กอะไรหรอกค่ะ แต่เห็นแล้วก็อยากเติมเต็มให้เค้า ถึงเราจะมีๆขาดๆก็เหอะ งานยามค่ำคืนจบลงด้วยความเหนื่อยล้าแต่ก็อบุ่นแล้วก็มีรอยยิ้มเสมอ กลับไปถึงบ้านก็หลับสนิทแนบชิดที่นอนค่ะ คืนที่สองนี่เมื่อยมั่กๆ ปวดไปทั้งตัว พอเช้าวันที่สาม ตรงกับวันสำคัญทางพุทธศาสนาพอดี พวกเราก็เลยได้มีโอกาสทำบุญร่วมกันกับชาวบ้านที่นี่ ก่อนจะกินข้าวแล้วแยกย้ายกันเก็บของค่ะ พอช่วงใกล้เที่ยง ทำการมอบอาคารเสร็จเราก็มีการร้องเพลง ร่ำลาพ่อฮัก แม่ฮัก แล้วก็น้องๆค่ะ งานนี้บ่อน้ำตาแตกไปตามๆกัน ชาวบ้านเค้าก็ไม่อยากให้เรากลับไป เขาดีใจที่ยังมีคนมาห่วงใยสนใจหมู่บ้านที่ห่างไกลความเจริญขนาดนี้ เค้าจะพูดเสมอๆว่า กลับมาเยี่ยมบ้างนะ กลับมาแล้วเดี๋ยวจะพาไปเที่ยวนั่นเที่ยวนี่ จริงๆฝนก็อยากกลับไปนะ แต่แบบเห็นทางที่ไปแล้ว ขอส่งความห่วงใยไปแล้วกันค่ะ พวกเรากลับขึ้นรถกว่าจะมาถึงสารคามได้ก็ปาเข้าไปเกือบ 8 ชั่วโมง โอ้โห นั่งรถมาราธอนจริงๆ แต่งานนี้ได้มะขามหวานกลับมากินเป็นกระสอบๆเลยค่ะ คนที่นั่นใจดีมากค่ะ แพ็คมะขามให้มาเยอะมาก แต่เราๆไม่มีปัญญาเอากลับค่ะ


การออกค่ายครั้งนี้คือความตั้งใจดีของเราชาววิทยาศาสตร์ทุกคนค่ะ ทุกคนอยากจะใช้ความรู้ ความสามารถ ความคิดดี ทำดี เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคมบ้าง อาจจะไม่ใช่เรื่องยิ่งใหญ่ บางคนอาจจะมองว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่สำหรับฝนมันยิ่งใหญ่ในความรู้สึกมากๆ ได้รู้ ได้เห็น ได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยมาก่อน


อาจจะเป็นพลังนิสิตเล็กๆน้อยๆ อาจจะไม่ได้สำคัญยิ่งใหญ่ในสายตาคนอื่น แต่ฝนคิดว่าชาวค่ายทุกคนคงสัมผัสได้ถึงความภาคภูมิใจที่พวกเราช่วยกันก่อขึ้น ฝนดีใจแล้วก็ภูมิใจค่ะ ที่ช่วงชีวิตการเรียนของฝนได้มีโอกาสทำดีเพื่อคนอื่นบ้าง ไม่ใช่ทำแค่เพื่อตัวเอง เพื่อความสำเร็จของตัวเองอย่างเดียว


การได้ใบปริญญาไป แล้วหลงลืมเก็บสิ่งเหล่านี้ไปด้วย มันเป็นเรื่องน่าเสียดายมากค่ะ สำหรับฝนแล้ว ฝนชอบปรัชญาของมหาวิทยาลัยมากๆ

"ผู้มีปัญญา พึงเป็นอยู่เพื่อมหาชน" ไม่ใช่สักแค่มีปัญญาแล้วพึงเป็นอยู่เพื่อตัวเอง จนลืมมองคนรอบข้าง ลืมหยิบยื่นความสุขเล็กๆน้อยๆให้กับคนอื่น บางทีสิ่งที่เราคิดว่ามันเล็กน้อย แต่อาจยิ่งใหญ่มีค่าสำหรับคนบางคน วันนี้ฝนกับเพื่อนรู้สึกเหมือนเป็นผู้มีปัญญา.....แล้วเป็นอยู่เพื่อคนอื่นด้วย อาจเป็นสิ่งเล็กๆที่เกิดขึ้น แต่ฝนหวังว่ามันจะเป็นจุดเริ่มต้นบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ความคิดดี ทำดี ให้แก่คนที่ประกาศตัวเองว่าเป็นปัญญาชนของชาติ.....สิ่งที่พูดไป คิดไป แล้วคุณทำมันบ้างหรือยัง....ตอนนี้ฝนกับเพื่อนเริ่มทำมันแล้ว เริ่มจากจุดเล็กๆนี่แหละ


ขอบคุณสโมสรนิสิตคณะวิทยาศาสตร์ที่เปิดโอกาสแล้วก็มีค่ายดีๆอย่างนี้ ขอบคุณใหญ่ ตั้ม ต้อ เพื่อนๆสโมที่สรรหาสิ่งดีๆมาให้พวกเรา

ขอบคุณกุ๊ก นุช เหมย ยุ้ย อ้อย แคร์ ปุ้ย ตั้ม อู๋ แล้วก็เพื่อนๆน้องๆชาวค่ายทุกคน ที่ช่วยเหลือกันและกันตลอดมา.....ขอบคุณสำหรับกำลังใจ ขอบคุณที่ช่วยให้เค้าผ่านเรื่องแย่ๆมาได้

ขอบคุณชาวบ้านโป่งน้ำทุกท่าน น้องๆทุกคน พี่ฝนจำชื่อน้องไม่ได้หมดแต่สัมผัสได้ถึงความน่ารักของน้องๆเสมอ ขอบคุณพ่อฮักแม่ฮัก สำหรับที่ซุกตัวกลมๆเข้าไปนอน

ขอบคุณทุกๆสิ่งที่ทำให้มีโอกาสได้ทำเพื่อคนอื่นมั่ง การทำบุญไม่จำเป็นต้องเข้าวัดอย่างเดียว ครั้งนี้ได้ทำบุญนอกวัด ได้ทำอะไรเพื่อคนอื่นแล้วมันเป็นปลื้มค่ะ

สุขสันต์วันแห่งความรักค่ะ
แบ่งปันความรัก ความหวังดี ความห่วงใยให้กับคนรอบข้างด้วยนะคะ

ปล ครั้งนี้เราอาจจะทำไม่ได้ดี เพราะพวกฝนไม่ได้กินอุดมการณ์แทนข้าว แต่ก็พยายามทำให้ดีแล้วค่ะ



Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 11 มกราคม 2553 17:06:21 น. 13 comments
Counter : 625 Pageviews.

 
ฟ้าเคียงดิน...แวะมาเยือนน้ำเคียงดิน
...ฝากรอยยิ้มหวานแฉ่งๆ ไว้ให้นะคะ!!


โดย: ฟ้าเคียงดิน (พิงฟ้า ) วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:23:23:25 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ฝน
สุขสันต์วันวาเลนไทน์ค่ะ มีความสุขมากๆนะคะพี่ มีคนคู่ใจแล้วหรือยังก็ไม่รู้อิอิ แอบถาม

พูดถึงเรื่อง ออกค่าย เห็นภาพแล้วเหมือนเหนื่อยและลำบาก แต่จะว่าไปแล้ว มันได้สิ่งดีๆกลับมามากมายเลยนะคะ หนูว่าคุ้มจริงๆ อยากอยู่มหาลัยเร็วๆจะได้ไปออกค่ายกับเค้าบ้าง อิอิ


โดย: Fai_Cotton_lonely วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:0:17:34 น.  

 
สุขสันต์วันแห่งความรักค่ะ มีควาสุขกับคนที่คุณรักทุกๆวันน่ะคะ





โดย: สาวอิตาลี วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:38:22 น.  

 


โดย: พี่รี่+ต๊อก วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:23:21:05 น.  

 
น้องฝนจ๋า พี่อยากจะร้องไห้ พี่เขียนเม้นไปตั้งยาวแล้วน๊าตะกี้ แต่มัน error ก็เลยหายหมดเลย

ก็เลยต้องมานั่งเม้นใหม่อีกรอบ

ได้ดูทั้งภาพและข้อความที่น้องฝนเล่าแล้วทำให้พี่รู้สึกประทับใจจนอยากเข้าไปมีส่วนร่วมด้วยเลยจริง ๆ คราวหลังชวนพี่มั่งน๊า

พี่ไม่เคยไปออกค่ายเลยอ่ะ เพราะตอนนั้นพี่เป็นเด็กขี้โรค ไปไหนไม่ค่อยได้

พี่ว่ามันคงเป็นความรู้สึกที่ดีมาก ๆ ที่เราได้ทำอะไรดี ๆ เพื่อคนอื่นบ้าง

คิดถึงรั้วเหลืองเทาจังเลย

Happy Valentine's Day และทุก ๆ วันนะจ๊า

เป็นกะลังใจให้จ้า

สู้ ๆ


โดย: แล้วจะกลับมาเมื่อชาติต้องการ (minporee ) วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:1:04:53 น.  

 
นึกถึงสมัยเรียนมหาลัยเลยค่ะ
ก้อไปค่าย สร้างโรงเรียนให้น้องเค้าเหมือนกัน
แต่ส่วนมากจะอู้ไปวิ่งเล่นมากกว่า


โดย: annie_martian วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:18:21:33 น.  

 
ค่ายน่าสนุกมากกก
เห็นแล้วนึกถึงเมื่อยังเยาว์ อิอิ

พี่เป็นนักออกค่ายตัวแม่เช่นกันค่ะ ทำทุกอย่างเลยมั้ง ทั้งช่วยระดมทุน วางแผนงาน จัดกิจกรรม บลาๆๆ จนกระทั่ง การใช้แรงงาน

รู้สึกว่าชีวิตมหาวิทยาลัยมันคุ้มค่ามากๆ
จะไปอีกว่างๆชวนกันด้วยนะคะ อิอิ

ปล เป็นเด็กวิดยาเหมือนกันเลยยย


โดย: น้ำผึ้งเดือนสิบสาม วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:3:28:06 น.  

 
ดีจ้าฝน...

อ่านเรื่องของฝนพี่ัยังนึถึงตอนตัวเองออกค่าย ตอนซัมเมอร์ของปีสองได้ดีเลย กลับมาจากค่ายเพื่อนรักกันมากขึ้นกว่าเดิมมากเลย นึแล้วอยากออกค่ายอีกอ่ะ


โดย: เป็นสมาชิกเมื่อวาน วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:14:16:23 น.  

 
จะสอบเหมือนกันค่ะ
ข้อสอบยังไม่ออก
การบ้านยังไม่เสร็จ

ขี้เกียจเหมือนกันค่ะ


โดย: redclick วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:43:26 น.  

 
อย่าคิดมากจ้า....พี่เป็นห่วง


ฝันดีค่ะ^^



โดย: เป็นสมาชิกเมื่อวาน วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:55:20 น.  

 
ดีจ้า....ฝน

ช่วงนี้ที่ ม. ใกล้รับปริญญา เด็กวุ่นวายมากๆอ่ะ


โดย: เป็นสมาชิกเมื่อวาน วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:14:02:17 น.  

 



โดย: เป็นสมาชิกเมื่อวาน วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:18:24:59 น.  

 
- หวัดดียามค่ำครับ

- ชื่นชมกับการทำกิจกรรมเพื่อเด็กๆ ครั้งนี้มากๆ ครับ


โดย: พี่รี่+ต๊อก วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:16:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

น้ำเคียงดิน
Location :
มหาสารคาม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add น้ำเคียงดิน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.