<<<<ถ้าชีวิตคือท่วงทำนอง เธอคือคำร้องที่มีความหมาย>>>>
Group Blog
 
<<
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
17 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
**-ชีวิตเด็กวิดยา-**






*//-- คืนอันเป็นนิรันดร์ --//*
เหมือนว่าเราจะมอง ไม่เห็นหนทางใด
ตกอยู่ในความมืดบอด ตกอยู่ในห้วงใจที่อ่อนไหว
เหมือนจะเป็นกลางคืนอันยาวนาน เมื่อฟ้าไม่มีแสงใด
มองไปรอบกาย หัวใจก็พลัน หวาดกลัว

ว่าเหตุใดคืนที่ยาวนาน ไม่ผ่านไปเสียที
จากนี้จะมีหนทางอื่นอีกไหม

แต่อย่างไรก็ตามยังมีตะวันยังที่ฉายในวันต่อไป
แต่ไม่รู้ต้องรอเมื่อไหร่ หรือใจเราคงจะอยู่กับคืนอันเป็นนิรันดร์

ว่าเหตุใดคืนที่ยาวนาน ไม่ผ่านไปเสียที
จากนี้จะมีหนทางอื่นอีกไหม

แต่อย่างไรก็ตามยังมีตะวันยังฉายในวันต่อไป
เมื่อเรามีเช้าวันใหม่ หวังใจว่าจะมีหนทาง
เมื่อทุกข์ในวันเมื่อวานคืนกลับมาหาใจอันอ่อนแอ
เหตุที่ใจแพ้ เพราะเราต่างหากที่แพ้ใจ
ความทุกข์จึงเป็นกลางคืนอันยาวนาน แต่แล้วมันจะผ่านไป

ตราบใดเวลายังหมุนผ่าน ความทุกข์จะผ่าน เพราะไม่มีคืนใดเป็นนิรันดร์
วันคืนต้องผ่าน นั่นคือเวลาอันเป็นนิรันดร์



(**/*/***/**/*/***/*)






หลังจากที่ฟื้นคืนชีพอีกรอบนึง

ฝนก็มาขอเม้าส์......เม้าส์ให้นำลายท่วมจอกันไปเลย

เรื่องมันเริ่ม......ช่วงวันพฤหัสที่แล้ว

ฝนมีเรียนอยู่เขตพื้นที่ในเมือง อันที่จริงวันพฤหัสเนี่ยฝนจะเรียนหนักมาก

พอตอนทุ่มนึง มีประชุมค่าย ที่เขตพื้นที่บ้านนอก

ก็ห่างกัน ประมาณ 10 โลได้

ฝนก็นะ บึ่งรถกลับไปประชุม ฝนก็ตก เสื้อกันฝนก็ไม่มี

สุดท้ายก็ตากฝนไป....นั่นแหละ 10 กล่าโล หวัดรับประทานแน่

แล้วก็พอประชุมเสร็จ....ก็ตากฝนกลับมาในเมืองกลับเข้าบ้านอีก

เออชีวิตนะ

ทีนี้วันเสาร์มีสัมมนาย่อย เอาหละสิ...ดั๊นมาเปลี่ยนเปเปอร์ใหม่

ก็ต้องลงมือแปลใหม่หมด ใช้เวล่ทั้งคืนและทั้งวันของวันศุกร์

ตอนเย็นวันศุกร์มีเรียนถึง 3 ทุ่ม ก็ดั๊นได้เปลี่ยนเปเปอร์ใหม่อีก อ้าวซวย.....

คิดอยู่ว่าฉันจะทำมันทันไหม 3 ทุ่มฝนตก

ติดมันอยู่ตึกคระศิลปะกำ.....ไปไหนไม่ได้ คิดมากโคตรๆ

งานก็ต้องแปลใหม่ ทำไงดี ปวดหัวสุดๆ ติดฝนไปไหนไม่ได้ด้วย เฮ้อ

สุดท้ายก็เปียก ตัดสินใจ....ตากฝนกลับไปที่หอเพื่อน

เพื่อขอยืมเสื้อกันฝนมัน แล้วก็ขับรถกลับบ้าน ตากฝนอีกตามเคย

กลับมาถึง ข้าวปลาไม่กิน....ลงมือแปลงานใหม่ เครียดจริงๆ

มันเป็นค่ำคืนที่โหดร้ายสำหรับฝนมาก เพราะไม่รู้อนาคตจะแปลทันไหม

มีสัมมนาตอนวันเสาร์ 8 โมงครึ่ง

ไอ้แปลเปเปอร์นี่ก็หัวปวดตัวร้อนจะแย่ แต่นี่สัมมนา

รอให้อาจารย์เชือดเลยหละ เฮ้อ

ฝนเปลี่ยนเปเปอร์มา 5-6 อันแระ

สุดท้ายลงที่เรื่อง

* The Enthalpies of Solution and Solvation of L-Serine in Aqueous Alcoholic Solutions at 298.15 K *

มันเป็นเปเปอร์ที่น่าอนาถมาก...รวมทั้งPhysicalChem ทั้ง Organic

ยังไม่หมด มีBiochem ด้วย เอาหละสิ....ยิ่งเก่งๆอยู่

ที่เอกฝน...จะเรียก วิชา PhysicalChem แบบย่อๆว่า PhyChem

ฝนก็นะยิ่งโง่ๆวิชานี้อยู่ แล้วเวลาสัมมนากลัวมากๆ

กลัวอาจารยืถามแล้วตอบไม่ได้ ไอ้ลำพังยืนนำเสนอคนเดียวก็สั่นจะแย่

คนดูเราทั้งห้อง...แถมสุดท้ายอาจารย์ถามอีก......ต๊ายฝนตื่นเต้นสุดๆ

จริงๆ...พี่ๆปีที่แล้วก้ได้ทำ แต่พี่ๆเค้าได้กลุ่มละประมาณ 10 คน

แต่พอมารุ่นฝน ความซวยบังเกิด อาจารย์แจกโปรโมชั่น

เดี่ยวนะคะนิสิต......เหอๆ น่าภูมิใจมั่ก

ฝนได้นอนตอนตี 5 เพื่อนมันบอกว่าไม่นอนดีกว่าไหมแก...

อันที่จริงก็หลับๆตื่นๆนั่นแหละ เป็นค่ำคืนที่โหดร้ายมาก

นอนไม่หลับก็ลุกขึ้นมาอ่านที่จะนำเสนอ....

พอตอนจะไปมหาลัย ฝนมันก็พร้อมใจกันตกอีก.....แต่นะรินๆ

เอาวะ.....เรายังไปได้

ระหว่างทางที่ขับรถ....

ฝนคิดถึงเพื่อนๆมากเลย คิดถึงสิ่งที่มันพูด

ตอนช่วงที่พวกเราอยู่ปี 1 กัน

ฝนกับเพื่อนสมัยมัธยมมักจะชอบรวมตัวกันที่หอเพื่อนคนหนึ่ง

แล้วก็มาคุยกันเรื่องโน้นเรื่องนี้ ว่าแต่ละคนเจออะไรบ้าง

ในกลุ่มฝนก็จะมีเรียนคณะพยาบาล ศึกษา มนุษย์ สาธา......

ก็เม้าส์ๆกันว่าคณะตัวเองเป็นไง

พอมาช่วงหนึ่งตอนซ้อมเชียร์ ต้องมีการร้องเพลงมหาลัย

เพื่อนมันก็จะมาบ่นกันแบบขำๆ คือทุกคนเจอหมด คือการร้องเพลงเชียร์เนี่ย

ซ้อมมันตั้งแต่หัวค่ำยันเที่ยงคืน

ชนิดน้ายามที่คระผิดไฟไล่...

แล้วมันจะมีเพลงมหาลัยที่เด็กทุกคระร้องได้

เวลาเราเหนื่อยๆแล้วมาเจอกันก็จะมานั่งเม้าส์

มันจะมีท่อนนึงของเพลงมาร์ชมหาลัย

* สถาบันเราร่มเย็นเด่นงาม คู่มหาสารคาม สมนามเกริกร้องขจรไกล *

เพื่อนมันก็จะ

"โอ๊ย....ร่มตรงไหนวะ แดดร้อนก็ร้อน น่าจะเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น

มหาวิทยาลัยพึ่งแดดมหาสารคามว่ะ " ฝนก็ขำๆค่ะ

คือจริงๆแล้วเราไม่ได้เอาเพลงมหาลัยมาลบหลู่นะ

คือเพลงมหาลัยสำหรับเราคือเพลงที่ศักดิ์สิทธิ์ค่ะ

ภาคภูมิใจทุกครั้งที่ได้ร้อง....ถึงที่นี่จะเป็นอย่างไรก็ตาม

เราก้รักใน มมส. ค่ะ แต่แบบมันเป็นช่วงอารมณ์ที่ขอบ่นกัน

ยังไม่หมดมีอีก

มีอีกเพลง เพลงนี้คือเพลง * ร่มจามจุรี *

ท่อนแรกเลย

* ในร่มเงาแห่งจามจุรี เหลืองเทาถิ่นนี้ร่มเย็น

เป็นเสมือนวิมานสวยงามตระการ ดุจดังทวยเทพเสกสรรค์ *

เพื่อนมันจะบอก

"สงสัยท่านเทพเสกสรรค์ตอนเบลอมันถึงได้ปกคุ้มไปด้วยฝุ่นและไอแดด"

แล้วเพลงยอดฮิตอีกเพลงที่ต้องร้องเชียร์คือเพลง - สารคามแดนฝัน -

มีท่อนที่ว่า

* แรกได้ยลก็ดลใจ ตรึงหทัยชวนใฝ่ฝัน

ลำน้ำชีกลางขวางกั้น ทิพย์ธารนั้นอาบชีวินเย็น *

เราก็จะขำๆ......ประมาณว่า

"ไม่เคยอาบน้ำจากแม่น้ำชีค๊า เลยไม่แน่ใจว่ามันเย็นจริงปะ"

แล้วมีอีก อันนี้เพื่อนที่มาจากต่างจังหวัดถามเด็กสารคามอย่างฝน

มันร้องว่า

"ถิ่นโกสัมพีศรีสารคาม หนองบัวงามเมื่อยามได้เห็น

แก่งเลิงจานธารใส่เย็น ลงเรือเล่นล้อคลื่นน่ารื่นรมย์

โอ้แดนดินถิ่นดอกจาน ชูช่อบานชวนชื่นชม

สดสีงามยามแล้งลม พราวพร่างพรมทุ่งทองมองเพลิน"

เพื่อนที่เกเลยถาม

"ฝนๆ...แก่งเลิงจานน่านั่งเรือเล่นคลื่นมากปะ"

นังฝนก็ทำหน้า

ในใจคิด....แก่งเลิงจานมันมีคลื่นด้วยหรอฟระ

แต่ไม่ได้ตอบเพื่อนไป บอกว่าให้มันลองไปดูเอง

แล้วมันยังถามต่อ "ดอกจานเปงไงแก"

นังฝนก็ทำหน้า

อยู่สารคามมาตั้งแต่เกิด ขอบอกเลยพี่น้องยังไม่เคยเห็นดอกจาน 55555

แต่มีท่อนนึงของเพลงนี้ที่ฝนเห็นด้วยคือ

* แดนสาวสวยซึ้งฤทัย หลงรักใคร่สารคามงามตรึงอุรา * อันนี้

เห็นด้วยสุดๆ.....เพื่อนๆในกลุ่มก็เห็นด้วย

เก๊าะเด็กสารคามกันหมด แป่ว

มอฝนเนี่ย เวลาแดดออกก็...เกรียมไปตามๆกัน

เวลาฝนตกก็เหมือนจะได้ดำนาเข้าคณะเลยก็ว่าได้

มันค่อนข้างภูธรจริงๆ.....วันนึง ฝนตก.....ฝนก็พาเพื่อนไปห้องสมุดมา

จะกลับหอกัน...ก็ตากฝนอีก.....เลยระหว่างทาง ฝนพูดขึ้น

"โอ๊ย จุฬา ธรรมศาสตร์มีงี้ไหมวะ......."

"ไม่มีหรอกแก๊ มีที่สารคามที่เดียวนี่แหละ.......บุกป่าฝ่าโคลน 5555"

ตอนที่เข้ามาปี 1 แรกๆ.....รอบๆยริเวณมหาลัย

จะปกคลุมไปด้วยม่านฝุ่น ดุจดังแดนสวรรค์ 55555

พอฝนตก น้ำระบายไม่ทัน ก็ท่วมสิพี่น้อง....

พอแดดออก...ก็ร้อนบรรลัย สุดๆ ไม่มีอะไรที่พอดี

ยิ่งหน้าหนาวไม่ต้องพูดถึง หนาวถึงขั้วหัวใจ

เพราะฉะนั้นเอกลักษณ์ของเด็กมอเราคือ....ถึกและบึกบึน

เป็นพวกสาวทึกว่างั้น ประมาณว่า....รุ่นพี่จะบอกเสมอเลย

เวลาไปฝึกงานกับเด็กส่วนกลาง

เด็กมอเรามักจะทนกับสภาพแวดล้อมและสภาพอากาศได้ดี......

เราก็ชอบไปบ่นๆกับอาจารย์

อาจรย์แกเลยแซวๆ

"คิดในแง่ดีไว้...เวลาเราไปทำงานใช่มะนิสิต เวลาที่สารเคมีรั่วไหล

เราจะตายช้ากว่าเด็กมออื่นไง....เราเรามันหนังหนา" โอ้วว่าพวกหนูถึก

อาจารย์ขอบคุณค๊า....แต่ก็เห็นด้วยกับที่อาจารย์ว่ามา

แต่จริงๆอันนี้จากใจ.....ฝนรัก มมส ค่ะ

ถึงจะไม่ได้เป็นสถาบันที่โดดเด่น ไม่ใหญ่โต ออกแนวภูธร

มีอะไรมากมายที่ฝนบ่นๆแหละ....แต่ก็ภาคภูมิใจ

ภูมิใจและดีใจที่ได้รียนที่นี่ มันก็คนละประสบการณืกันไป

อย่างมหาลัยเพื่อนฝน....มันก็บอกว่า เนี่ยอยากมาอยู่แถวนี้จัง

มีอะไรเยอะแยะ ลุยๆดี.....

ลุยตั้งแต่การรับน้อง

ไอ้ความโหดเนี่ย วิดยากับวิดวะติดอันดับค่ะ เรื่องการรับน้อง

กองกิจการนิสิต แวะเยี่ยมเยียนสองคณะนี้บ่อยมาก

อาจด้วยวิดยากับวิดวะ....ตึกติดกัน แถมเป็นพวกไปไหนไปกัน

เข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย เลยโดนเพ่งเล็ง

พอว่าเรื่องรับน้องของวิดยานี่ยัง.....ในเมืองกว่าวิดวะ

เราพตอนรับน้องคณะเรายังได้อยู่แถวสนามหญ้าสวยๆแถวตึกเรียน

แต่วิดวะนี่...พาน้องเข้าป่า 55555 โน่นบุกเข้าป่า

ไอ้ตอนเย็นๆไม่เท่าไหร่ แต่พอเริ่มค่ำ ยุ่งก็อิ่มเลยทีนี้

แต่ของฝนก็มีนะ รับน้องเอกเคมี ตั้งแต่ ตี 4

พี่พาไปร้บแถวทุ่งนาข้างมหาลัย เวลาลงน้ำก็คลองส่งน้ำนั่นแหละ

บอกแล้ว จุฬาธรรมศาสตร์ไม่มี๊ไม่มีแบบนี้

ของเพื่อนฝฝนมันเรียน มศว. ไปรับกันที่ทะเล

ไอ้เรางี้อยากไปมั่ง พี่ก็จัดให้ คลองส่งน้ำกับทุ่งนา โคตรจะเลิศเลย

ของเพื่อนพี่พาไปเลี้ยงอาหารญี่ปุ่น...พี่ๆฝนก็ส้มตำไก่ย่าง ต้มไก่ ปลาเผา

นี่ถ้ากินแถวเถียงนา จะได้บรรยากาศสุดๆ

ไอ้ที่ว่ามาก็อมยิ้มอยู่ค่ะตอนนี้.......ถึงมอเราจะบ้านนอกหน่อยๆ

แต่ทุกๆคนก็น่ารัก....ได้เรียนรู้อะไรมากมาย สรุปคือภูมิใจค่ะที่ได้เรียนที่นี่

ถึงจะมีบ่นๆ...ก้บ่นไปงั้นแหละ

อ้าวไปไกล เลยไปถึงเรื่องรับน้อง.....กลับมาที่ขับรถต่อ

พอฝนมาถึงคณะ ก็ได้สัมมนาค่ะ

ทีแรกก็ไม่เรียงตามรหัสนิสิตหรอก...ฝนเลยรอดตัวไป

สัมมนาไป อาจารย์ถามเพื่อนฝนชนิดจนมุมที่จะตอบ

ฝนก็กลุ้มเลยทีนี้.....ถ้าถามฝนมาแล้วฝนตอบไม่ได้ ตาบแน่

แต่ทำไปทำมา ฝนได้นำเสนอคนแรกของภาคบ่าย

ฉายเดี่ยวคนแรก.....ติ่นเต้นสุดๆ พูดไปไม่มองหน้าใครเลย

พอพูดจบ หายใจลึกๆ ใจเต้นตึกๆ

อาจารย์ถาม...ฮะอะไรนะ พูดค่อยมาก

เลยถามอาจารย์อีกรอบ....แต่คำถามที่ฝนเจอสงสัยง่ายหรือฝนเก่งไม่รู้555

ก็ตอบได้ทุกคำถามที่อาจารย์

จริงๆวิชานี้เป็นวิชา PHYCHEM แต่ที่อาจารย์ถาม ไม่เกี่ยวกับวิชานั้นเลย

ถามออร์แกนิคกับชีวเคมี......

ฝนว่ามันง่ายนะที่อาจารย์ถามฝน

เท่าที่จำได้ อาจารย์ให้ฝนอธิบายความไม่ชอบน้ำของแอลกอฮอล์

ฝนก็แถไป......โน่นขุดความรู้ตั้งแต่ ปี 2 เทอมหนึ่งมา ไม่รู้จำได้ยังไง

แถไปเรื่อย....เป็นการเกรียบเทียบ

เอทานอล โพรพานอล กับไอโซโพรพานอล ฝนว่ามันก็ไม่ยากอ่ะ....

เลยแถๆไป พูดๆไป จนอาจารยืแกคงชักงง 55555

อีกคำถามแกถามเกี่ยวกับกรดอะมิโนที่ทดลองแหละ L-Serine

แกก็ถามว่า ไอ้ L เนี่ย มันคืออะไร เอาสิความรู้ปี 1 ฝนก็แถอีก

แถไปเรื่อย.....อธิบายถึงโครงสร้าง L และ D และอีก 2 คำถาม

วึ่งฝนจำไม่ได้แล้วว่าอาจารยืแกถามไร พอตอบจบ

เดินเข้าไปนั่ง เพื่อนปรบมือให้

"โหยฝน...สุดๆ ตอบคำถามอาจารยืได้ว่ะ ไม่เหมือนเค้า ยืนเอ่อ"

ไอ้เราก็ยิ้มๆ....ไอ้ที่ตอบไปกทั่วแหละ ตอบเท่าที่จำได้

แต่ถ้าอาจารย์ถามฟีเค็มตายลูกเดียว

สรุปวันนั้นก็จะได้กลับบ้าน 5 โมงเย็น โอ้ว

ฝนแถบอ้วกออกมาเป็นเคมีเชิงฟิสิกส์ ทั้งเทอร์โมไดนามิก ทั้งเอนโทรปี

เอนทาลปี เฟสไดอะแกรม เพื่อนบางคนเอาเครื่องมือวิดวะมา....

คือมันหมุนลอยติ้วๆตรงหน้า ทำเอามึนไปเลย

พอกลับมา นอนมันลูกเดียว......พอวันอาทิตย์ก็มีเรียนฟีเค็ม+ สอบอีก

เอาสิ......อ้วกไปจนหมดไส้หมดพุง พอวันจันทร์ไปดูงานโรงงานที่โคราช..

เหนื่อยจริงๆช่วงนี้

ใกล้จะสอบแล้ว....ฝนยังไม่กางหนังสืออ่านเลย


เฮ้อ ช่วงนี้ชีวิตมีเอนโทรปีสูงสุดๆ


Create Date : 17 กันยายน 2551
Last Update : 17 กันยายน 2551 9:56:16 น. 4 comments
Counter : 590 Pageviews.

 
แวะมาทักทาย


โดย: Toon16 วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:21:33:48 น.  

 
เอิ๊กกก เหนื่อยแทนฝนเลย (เสียงเอิ๊ก คือ ลมสว้านจับ ควานหายาดม)

สู้ๆ นะน้องหนู ลุยป่าฝ่าฝนทำให้อดทนและหนังหนา

อ่านๆ ดูบรรยากาศเหมือนสมัยพี่เรียนมข.เลย งั้นแสดงว่าเราหนังหนาเท่าๆ กัน คิคิ

อืม ดอกจานน่ะ มันคือดอกแคแสดอ่ะค่ะ คือเป็นไม้ยืนต้นและมันจะมีดอกเหมือนดอกแค แต่สีแสด (ใบไม่เหมือนใบต้นแคนะคะ) สีสดมองเห็นแต่ไกล ออกดอกทีไรแปลว่าจะสอบไฟนอลแล้วทุกที


โดย: ดวงลดา วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:15:18:13 น.  

 
แก้ไขให้ด้วยนะ วิดวะเขารับน้องน่ารักมากๆ คนที่ว๊ากน้องก็โดนด่าไปแล้วดู
คลิปนี้ดิครับ ว่าระบบการรับน้องเขาเป็นอย่างไร อิอิ

//www.youtube.com/watch?v=sI9yOvMmvuY


โดย: เด็กวิดวะมมส. IP: 202.28.35.2 วันที่: 7 ตุลาคม 2552 เวลา:23:08:14 น.  

 
ทุกวันนี้เค้ารับน้องกันน่ารักค่ะ
มันจะพูดเสียงดังมากไม่ได้
ทำอะไรๆเหมือนเมื่อก่อนไม่ค่อยได้ค่ะ
ที่บอกว่าวิศวะพาน้องเข้าป่า
ในที่นี้หมายถึงเข้าไปรับในแดนต้นไม้เยอะๆแถวคณะนั่นแหละ ไม่ได้รับที่สนามหญ้าที่ตัดไว้สวยงาม นึกภาพออกไหมเนี่ย อันที่จริงจะบอกว่า วิศวะต้องรับน้องในรูปแบบนั้นมันไม่ได้โหดหรอก แต่ในสายตากองกิจ มันก็เป็นที่เพ่งเล็งธรรมดา ไม่รู้ว่าตอนนี้วิศวะรับน้องยังไงนะ แต่สมัยนั้น (พูดเหมือนนาน) ก็รับน้องแบบไม่ได้โอ๋อ่ะ ส่วนเรื่องพี่ว๊าก จะบอกว่าว๊ากก็ไม่เชิง พี่เค้าพูดสุภาพนะ ไม่มีคำหยาบ แต่ตะโกนเสียงดังมากกกกกกกกกกกกกก ทุกวันนี้คิดว่าน่าจะยังมีอยู่


โดย: น้ำเคียงดิน วันที่: 19 ธันวาคม 2552 เวลา:21:58:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

น้ำเคียงดิน
Location :
มหาสารคาม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add น้ำเคียงดิน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.