พระเมรุยามค่ำ และมหรสพงานออกพระเมรุ
ก่อนพระราชพิธีจะเริ่มในวันพรุ่ง...เราก็แวะมาชมพระเมรุยามค่ำกันหน่อย... เพราะต้องการภาพถ่าย..ในยามที่ไม่มีคนพลุกพล่าน และก็ได้สมดังตั้งใจ เท่าที่กำลังกล้องตัวน้อยๆ จะทำได้
แน่นอนว่า ...ทุกครั้งเรามักจะเริ่มจากท่าพระจันทร์กันก่อน
แวะกินผัดไทริมทาง หน้าร้านหนังสือดอกหญ้ากันแล้ว ก็พากันเดินตามทางถนนพระจันทร์ มายังกลางท้องสนามหลวง เส้นทางตรงกลาง เปิดให้เดิน....ผู้คนนั้นก็ยังมากมายอยู่ หลายคนมาพร้อมกล้อง ไม่ว่าจะกล้องโทรศัพท์ กล้อง compact หรือ DSLR ทุกคนมาเพื่อเก็บภาพความงดงามขององค์พระเมรุยามค่ำคืนไว้เช่นเดียวกับเรา รั้วเหล็กเหลืองตั้งกันไว้ ไม่ให้เข้าภายในเขตปริมณฑลพิธี แลซ้าย แลขวา แล้วน้องที่มาด้วยกันก็ชี้ให้เห็นตัวช่วย.....รถของกทม.เนี่ยแหละ
ปีนขึ้นไปยืนบนนั้น พร้อมๆ กับบรรดาช่างภาพ DSLR .....อาศัยขอบกะบะแทนขาตั้งกล้อง เล็ง แล้วก็ปรับเป็นโหมดกลางคืน จับเวลา ปิดแฟลต แล้วค่อยกดชัตเตอร์
กดไปหลายภาพอยู่อ่ะนะ ...แต่แล้วเสียงปี่พาทย์ทางเวทีมหรสพก็เรียกร้อง เลยชวนกันไปดูซ้อมการแสดง เวทีใหญ่เป็นเวทีหนังใหญ่และโขน...กำลังซ้อมคิวเวทีกันอยู่... ผู้แสดง ผู้ช่วยฝึกซ้อม และนักแสดงเต็มเวที มีครูมืด ประสาท ทองอร่าม เป็นผู้กำกับใหญ่... คนชมหน้าเวทีก็เยอะอยู่เหมือนกัน.... แล้วก็ได้ชมระบำวานรพงศ์
ต่อด้วยระบำอสุรพงศ์
ชาวคณะบ้านไกลแยกตัวกลับบ้าน เราย้อนมาแวะดูซ้อมละครนอกที่เวทีเล็กต่อ...สุวรรณหงส์ถึงตอนไคลเม็กซ์พอดี
เวทีนี้ ครูน้อย ศุภชัย จันทร์สุวรรณ เป็นผู้กำกับ พระเอกบนเวทีตอนนี้คือ คุณฤทธิเทพ เถาว์หิรัณ ตัวนางยักษ์แปลง คงเป็นนักแสดงรุ่นหลังๆ ที่เราไม่คุ้น แต่เล่นดีมากเลย เพลินกับละครนอกจนสองทุ่มครึ่งแล้ว....สมควรแก่เวลาต้องกลับ ย้อนกลับมาทางเดิม หน้าพระเมรุคนยังมาก แต่ก็มีช่องว่างให้เราเข้าไปใกล้ ใช้รั้วกั้นแทนขาตั้งกล้อง และเก็บภาพเพิ่ม
สังเกตุเห็นว่า ต้นมะขามรอบสนามหลวงก็ตกแต่งดอกกล้วยไม้สดสีขาวไว้แล้ว
เสาไฟ ก็มีพวงดอกไม้สดประดิษฐ์ห้อยตกแต่ง งดงามมาก
สามทุ่มกว่าแล้ว ต้องกลับก่อนที่ท่าพระจันทร์จะปิด แต่ว่า ครั้งนี้เราก็พลาดไปอีก ...ท่าพระจันทร์ปิดไปแล้ว...ไม่รู้ว่าเพราะน้ำขึ้น รึว่าเปลี่ยนเวลาปิดท่าไป ต้องเดินไปท่าช้างอีกแล้วเหรอเนี่ย.... เดินได้สักพักเห็นมีแท็กซี่ผ่านมา ก็เลยเรียก ...ก็ไม่อยากข้ามฝั่งแล้วนั่งมอเตอร์ไซค์อ่ะ ปรากฎว่า รถติดรอบสนามหลวง...แท็กซี่ต้องเข้าถนนพระอาทิตย์ แต่ก็ยังติดอยู่ดี เลยบอกให้ข้ามสะพานพระรามแปดแทนสะพานพระปิ่นฯ .... ในที่สุดก็ถึงบ้านจนได้.....จ่ายค่ารถอีกร้อยนึง...คุ้มจริงๆ ....
เอาล่ะ...พระราชพิธีครั้งนี้ เราได้เก็บภาพเองหลายบรรยากาศแล้ว จากนี้ไป 6 วัน ก็คงนั่งเฝ้าดูหน้าจอทีวีแทนแล้วล่ะ
คนกรุงเทพแบบเรา ไม่เคยอดทนนั่งรอในบริเวณงานแบบคนที่เดินทางมาจากที่ไกลๆ ได้เลยสักครั้ง ต้องขอบคุณโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจล่วงหน้าค่ะ
Create Date : 13 พฤศจิกายน 2551 |
|
23 comments |
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2551 13:02:38 น. |
Counter : 2827 Pageviews. |
|
|
|
คงต้องฝึกถ่ายภาพกลางคืนให้มากกว่านี้....