รายรับจากความรัก ใช้จ่ายเพื่อความสุข
ถึงขั้นต้องร้อง เย้ยยยย!! ไม่นะ! ดังๆ เมื่อตรวจสอบการใช้เงินของตัวเองแล้วพบว่า ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมใช้เงินหมดไปกับการซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้านกว่า 13,460 บาท!!
โดยสมาชิกใหม่ของ ชุดนอน แฟมิลี่ ในคราวนี้ประกอบไปด้วย
________________________________________________________________________________
โบนุชชี่ (4,990 บาท) โบนุชชี่ คือโต๊ะคอมพิวเตอร์หนุ่มใหญ่ที่ผมหวังจะฝากฝังให้คอยช่วยดูแล โรซีต้า (คอมพิวเตอร์สาวประจำบ้านของผม) ให้อยู่ดีมีสุข นอกจากดีไซส์สวยๆ รูปร่างทะมัดทะแมง และกินพื้นที่น้อยแล้ว โบนุชชี่ยังโดดเด่นด้วยฐานติดล้อ ซึ่งเอื้ออำนวยแก่การพาตัวมันเองกับโรซีต้าย้ายหลบจากออฟฟิศที่วุ่นวายไปสู่ห้องนอนของผมในยามค่ำคืน
และในเมื่อผมไม่ต้องนั่งทำอยู่ในออฟฟิศ (ที่มีคนไม่เคารพเวลาคอยมารบกวน) หลังจากหมดช่วงเวลาทำงานประจำแล้ว ต่อไปก็จะสามารถปั่นต้นฉบับต่างๆ ภายใต้บรรยากาศสงบๆ ได้มากขึ้น ^^
________________________________________________________________________________
เจลูก้า (1,790 บาท) เธอคือผู้อำนวยการศูนย์เลี้ยงเด็กกำพร้า ด้วยเนื้อไม้อัดเปื้อนสีโอ๊ค ขนาดสูง 2 เมตร และช่องใส่ของนานาขนาด เจลูก้าคือชั้นวางอเนกประสงค์ที่อุดมไปทั้งเหล่าหนังสือกำพร้าที่ถูกดอง นิตยสารลูกเมียน้อยที่ยังไม่ได้อ่าน และแผ่นหนังสาวที่ยังบริสุทธิ์ผุดผ่องไม่เคยต้องมือเครื่องเล่นใดๆ
สำหรับผม ชั้นวางอเนกประสงค์นี่เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่แปลกดี คือถึงแม้การนำหนังสือหรือหนังไปวางที่มันแล้วจะทำให้เรามองเห็นและหยิบง่ายได้ขึ้น แต่ด้วยความที่พอเรียงเข้าชั้นแล้วรู้สึกว่ามันสวยงามดี ผมเลยมักจะไม่ค่อยหยิบอะไรจากชั้นไปเสพมากนัก...
โอกาสในการได้รับการเหลียวแลของเด็กกำพร้านี่...ช่างตกต่ำจนน่าตกใจจริงๆ
________________________________________________________________________________
บูจาราตี้ (4,990 บาท) บูจาราตี้ คือเครื่องเล่น DVD ยี่ห้อ SOKEN สีดำขลับ มีช่องใส่ USB พร้อมสายเชื่อมต่อสำหรับการเล่นภาพและเสียงระดับ Full HD บูจาราตี้จึงทำหน้าเป็นเหมือนพ่อสื่อ... ที่จะคอยนำเสนอความสมบูรณ์แบบของสื่อบันเทิงภายในบ้านให้กับผม ซึ่งด้วยคารมของเขาประสานเข้ากับทีวี SONY BRAVIA แล้ว น่าจะทำให้ผมตกหลุมรักหนังแต่ละเรื่องได้ง่ายกว่าที่เคย
ป.ล. SONY BRAVIA ไม่มีชื่อแบบบุคคลนะครับ เพราะผมจะตั้งชื่อให้เฉพาะกับเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ผมซื้อเองเท่านั้น (แต่ SONY BRAVIA นี่ คนอื่นซื้อมาฝาก)
________________________________________________________________________________
อัลแบร์โต้ (2,650 บาท) อัลแบร์โต้ คือ Mini Compo ยี่ห้อ AJ นี่คือชายร่างเตี้ยที่มีน้ำเสียงใสก้องกังวาลจากระบบลำโพงคู่ รอบรู้ข่าวสารทันท่วงทีและความจำแม่นยำถึงขนาดสามารถจดจำคลื่นวิทยุได้ถึง 30 สถานี และแน่นอนว่าต้องมีช่องเสียบ USB เพื่อไม่ให้ตกยุค ไม่รู้ว่าคนอื่นจะเป็นเหมือนกันไหม แต่ผมเป็นคนนึงที่พออ่านหนังสือพร้อมฟังเพลงไปด้วยแล้วหัวจะแล่นผิดปกติ ลื่นกว่าเดิม และจดจำความรู้ได้มากกว่าอ่านแบบเงียบๆ
เชื่อว่าสิ่งที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ได้ ต้องมาจากบทเพลงที่ทำปฏิกิริยาทางเคมีกับเสียงของพี่ๆ ดีเจแน่ๆ เพราะพอลองเปิดเพลงจาก MP3 หรือ CD ปกติฟังแล้วจะไม่รู้สึกว่าความจำดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย เดาว่าเสียงของดีเจคงมีส่วนทำให้เรารู้สึกว่า ตอนนี้เราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลก และความรู้สึกเซอร์ไพร์จากการได้ฟังเพลงที่เปิดแบบคาดเดาไม่ได้ คงมีผลให้หัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงสมองได้ดีกว่าปกติ
อย่างที่ได้เกริ่นไว้...ตกลงการรับสมาชิกใหม่ในคราวนี้เลยชาร์ตผมไป 13,460 บาทถ้วน
หลังจากได้เห็นยอดรวม และหนีไปกระดกน้ำเย็นๆ จิบชิมกาแฟร้อนๆ พร้อมทั้งเอาผ้าหมาดๆ มาลูบหน้าจนได้สติแล้ว ผมก็เอื้อมมือไปหยิบสมุดบัญชีเงินฝากมานั่งดู พบว่าลำพังเงินที่ได้จากการเขียนหนังสือนั้นก็มากพอที่จะครอบคลุมรายจ่ายที่เกิดขึ้นได้อย่างสบายๆ ทั้งยังมีเหลือเก็บได้อยู่ และไม่ก่อให้สภาพคล่องฝืดเคืองแต่อย่างใด
จากเดิมที่เคยนั่งคิดรู้สึกผิดทุกครั้ง เวลาเอาเงินไปใช้ทีละมากๆ เพราะรู้สึกว่าต้องทนทำงานมาแทบตายกว่าจะได้เงินนี้มา แต่ตอนนี้ไม่แล้ว... คือเงินเหล่านี้ได้มาจากการเขียนหนังสือ ซึ่งตลอดขบวนการที่ได้มันมานั้นช่างเปี่ยมไปด้วยความสุข ตั้งแต่ตอนไปดูหนังเพื่อมาเขียนผมก็ได้ความสุขมาบ้างแล้ว (มากน้อยตามแต่ว่าหนังจะสนุกแค่ไหน) ตอนมานั่งเขียนก็มีความสุขที่ได้ทำในสิ่งที่รัก และแน่นอนว่าตอนได้รับการตีพิมพ์และได้รับค่าต้นฉบับก็มีความสุข จนรู้สึกว่าเงินที่ได้จากการทำในงานที่รักมันเหมือนเป็นแค่ของแถม ผลพลอยได้ และโบนัสที่ชีวิตมอบให้...เป็นรางวัลที่เราทำตัวน่ารัก(?)และขยันทำในสิ่งที่เรารัก 555+
จนพอเราเอาเงินเหล่านั้นมาจับจ่าย ก็เลยเปี่ยมไปด้วยความสุขจากการได้เป็นเจ้าของในสิ่งที่เราอยากได้ โดยปราศจากความรู้สึกผิดใดๆ คอยกวนใจ
ปัจจุบันผมยังทำงานประจำที่ไม่ได้รักมากแต่ก็ไม่เกลียดอะไร ทำชิลๆ ได้เรื่อยๆ เพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง และมีงานเขียนเป็นกึ่งงานอดิเรกกึ่งความฝันที่สร้างรายได้เสริมไว้หล่อเลี้ยงหัวใจ ผมเลยรู้สึกนึกอิจฉาคนที่ได้ทำงานที่รักแบบเต็มเวลา คนพวกนี้คงจะมีความสุขในทุกเช้าที่ตื่นนอน ทำงานสนุกสนาน และใช้เงินที่ได้มาอย่างมีความสุขแน่ๆ เลย...
เหลือบตามองสมุดบัญชีที่เต็มไปด้วยเงินที่ได้มาจากการทำในสิ่งที่รักอีกครั้ง อืม...เงินยังเหลือนี่นา ซื้ออะไรอีกดีนะ เย้ยยยย!! ม่ายช่ายแล้ว! 555+
Create Date : 15 มิถุนายน 2553 |
|
9 comments |
Last Update : 15 มิถุนายน 2553 16:20:16 น. |
Counter : 739 Pageviews. |
|
|
|
ขอให้บรรดาเหล่าสรรพสิ่งที่ฝากให้เจลูก้าดูแลนั้น ได้รับการเหลียวแลบ้างนะคะ
ส่วนเครื่องใช้เพื่อความบันเิทิงนั้น คงมอบความบันเทิงเริงใจให้มากกว่าเดิม
เราก็ชอบฟังเพลงและอ่านหนังสือค่ะ ..ไม่ได้ชอบอยู่อย่างเงียบๆ
แต่ว่า ..เราชอบทำอะไรสวนทางคนอื่นอยู่เรื่อย
เวลาอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ เราฟังเพลงไทย ซึ่งบางครั้งถึงขั้นไทยเดิมเลยด้วย
แต่เวลาอ่านหนังสือภาษาไทย (แบบต้องการเก็บสาระ) เราฟังเพลงภาษาต่างชาติ จะอังกฤษหรือจีนก็ว่ากันไป
หรืออาจเป็นบรรเลงเพลงสากลไปเลยก็ได้
มองดูสมุดบัญชีของตัวเอง ..ติดลบตลอดปี
แต่พอเงยหน้ามองชั้นหนังสือแล้ว ก็ ตัวแดงของเรา มันเกิดเพราะหนังสือบนชั้นนั่นแหละ