someday we write , someday we wrong









บรรพบุรุษของไบโพลาร์ : เราเคยบินอยู่บนฟ้าแล้วร้องโฮ่งๆ

Photobucket



“คุณจะทำยังไง? ถ้าได้รู้ว่า แท้จริงแล้วตัวเองสืบเชื้อสายมาจากปีศาจร้าย”

ตั้งแต่ค้นพบว่าตัวเองป่วยเป็นโรค 2 บุคลิกหรือที่เรียกกันว่า “ไบโพลาร์” ผมก็ได้ทำการศึกษาหาทางตอบโต้และใช้ชีวิตร่วมกับมันอยู่อย่างขะมักเขม่น โดยสิ่งที่ผมแอบสงสัยก็คือ “โรคนี้มันจะติดต่อกันทางพันธุกรรมหรือเปล่านะ” โอ๋ๆ ไม่ใช่ว่าผมจะเป็นห่วงว่าลูกหลานจะบ้าๆบอๆตามผมไปด้วยหรอกครับ(ยังไม่รีบมีครับ) แต่ผมแอบสงสัยว่า พ่อแม่ปู่ย่าตายายผมก็ไม่ยักจะเป็นโรคนี้เลยนี่นา แล้วไหงผมถึงเป็นเข้าเต็มๆล่ะ

มาตอนนี้เป็นที่กระจ่างแล้วครับว่า โรคนี้สามารถติดต่อกันทางกรรมพันธุได้จริงๆ
ที่ทราบก็เพราะผมได้ค้นพบเจอแหล่งที่มาหรือบรรพบุรุษของโรคร้ายนี้แล้ว

ซึ่งนั่นก็คือ เหล่าแวมไพร์และฝูงมนุษย์หมาป่านั่นเองครับ


Photobucket



1 ใน 2 บุคลิกที่เกิดจากไบโพลาร์ก็คือ “บุคลิกซึมเศร้า” ซึ่งแตกต่างจากกับเวลาคนปกติเขาเศร้าใจแล้วนั่งซึมกันตรงที่ผู้ป่วยไบโพลาร์นั้นจะมีอาการเสพติดความเศร้าครับ นั่นคือพวกเราชอบและอาจจะถึงขั้นมีความสุขเมื่อได้รู้สึกโศกเศร้า ว่าแล้วเพื่อให้ได้เศร้าพวกเราจึงพร้อมที่จะเอาตัวเองไปเปรียบกับคนอื่นเพื่อให้รู้สึกต้อยต่ำ หรืออาจจะถึงขั้นทำร้ายความรู้สึกตัวเองและคนรอบข้างเพื่อให้ได้ความรู้สึกเศร้ามาไว้ในครอบครอง อย่างเช่นในกรณีของผม ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้วที่ผมมักจะรักใครสักคนมากๆ และเมื่อเธอรักผมกลับในปริมาณที่เท่ากัน ผมก็จะบอกเลิกโดยปราศจากเหตุผล...เพียงเพื่อให้ตัวเองได้โศกเศร้าเสียใจ...

มันเป็นความโศกเศร้าที่ผมแลกมาด้วยหัวใจที่แตกสลายทั้งของตัวเองและคนรอบข้าง
หลายคนอ่านแล้วอาจจะข้องใจว่าแล้วผมจะทำแบบนั้นไปทำไม...ฮึม ก็มันห้าม ป้องกัน และอดไม่ได้จริงๆนี่ครับ
เพราะนี่คือธรรมชาติของพวกเรา...ผู้ป่วยโรคไบโพลาร์...

ในจุดนี้เองที่ผมค้นพบว่า ตัวเองมีเลือดของแวมไพร์ไหลเวียนอยู่ในร่างกาย เพราะธรรมชาติของแวมไพร์เองก็ไม่แตกต่างอะไรกับผู้ป่วยไบโพลาร์นัก โดยแสงอาทิตย์ที่แวมไพร์แสนรังเกลียดนั้นเปรียบได้กับความสุขที่น่าชิงชังสำหรับผู้ป่วยโรคไบโพลาร์ มันราวกับพวกเราไม่สามารถทนอยู่ในชีวิตที่มีความสุขได้ ดังนั้นเมื่อเริ่มที่จะมีความสุขมาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ พวกเราก็จะหลบลี้หนีไปอยู่ในมุมมืดในกรงอันโศกเศร้าของตัวเอง ไม่ต่างอะไรกับที่เหล่าแวมไพร์หลบอยู่ในโลงศพแคบๆในช่วงเวลากลางวัน

หากแวมไพร์คือสิ่งมีชีวิตแสนเศร้าที่อาศัยอยู่ใความมืด ดูดเลือดของทุกคนที่เข้ามาใกล้ และต้องทนอยู่เช่นนั้นไปตลอดกาล พวกเราเองก็มีตัวตนอยู่ได้ด้วยความโศกเศร้า ท้ำร้ายจิตใจของทุกคนที่เข้ามาใกล้ และต้องทนอยู่เช่นนี้ไปจวบจนกว่าจะสิ้นลมหายใจ

โดยหากแวมไพร์ถูกแสงแดดแล้วร่างกายจะแห้งป่นเป็นผุยผง จิตใจของคนป่วยไบโพลาร์อย่างพวกเราก็จะบาดเจ็บสาหัสทุกครั้งที่ถูก “กำลังใจ” จากคนรอบข้างเข้ามาบดบังความเศร้า และหัวใจจะดับสูญหากได้รับความสุขในปริมาณที่มากเกินไป...

ในขณะเดียวกัน ถ้าพวกเราอาศัยอยู่กับเศร้าอย่างต่อเนื่องหรืออยู่ห่างไกลกับความสุขยาวนานมากเกินไป
พวกเราก็จะโหยหาความโศกเศร้าที่มีพลังเหนือความเหงาและความผิดหวังทั่วๆไป...
และทันทีที่เราค้นพบความโศกเศร้าที่ทรงพลังขนาดนั้น...การฆ่าตัวตายจะถือเป็นสิ่งสุดท้ายที่พวกเราทำได้ครับ...




Photobucket




โดยอีก 1 บุคลิที่เหลือของไบโพลาร์อย่าง “บุคลิกก้าวร้าว” นั้นก็มีจุดเด่นอยู่ที่การสามารถเกิดขึ้นได้อย่างฉับพัน จนราวกับพวกเราไม่สามารถควมคุมอารมณ์ของตัวเองได้ และทันทีที่มัน(ความก้าวร้าว)เริ่มครอบงำจิตใจก็ราวกับเหมือนมัน “วูบไป” พวกเราจะจดจำอะไรไม่ค่อยได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ใครทำอะไรใคร โดยจะหายมึนก็ตอนที่ความก้าวร้าวเจือจางลงและทิ้งตะกอนแห่งความรู้สึกผิดเอาไว้ในจิตใจ

ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นและจบลงอย่างรวดเร็ว จนเราแทบไม่รู้ตัวและอยากภาวนาให้ไม่ใช่ตัวเราคนที่ทำ แต่พอเราแบมือออกก็จะกลับพบว่า เป็นมือของเราเองที่เปื้อนไปด้วยเลือดของผู้คนที่ถูกเราทำร้าย และเป็นมือของเราเองที่เปียกไปด้วยน้ำตาของผู้คนที่ต้องเสียใจจากคำพูดและการกระทำของเรา

ที่แย่ก็คือ เวลาขาดสติเพราะความก้าวร้าว สมองของเรากลับจะเก่งกาจมากในการคิดค้นหาวิธีที่ทำร้ายคนอื่น ส่งผลให้เรามีเรี่ยวแรงและความกล้าที่จะต่อยตีรุนแรงขึ้นกว่าปกติ ส่วนสมองก็แลดูจะประมวลคิดหาถ้อยคำที่จะด่าจี้ใจดำผู้คนได้รวดเร็วมากขึ้นตามไปด้วย

ผมเดาเอาว่าพวกเราได้รับเลือดที่ร้อนจนเดือดและไร้การควบคุมนี้มาจากมนุษย์หมาป่า

เพราะเรื่องราวของพวกเรานั้นไม่ได้ต่างอะไรกับเนื้อหาชีวิตของเหล่ามนุษย์หมาป่าเท่าใดนัก ที่ในวันธรรมดาก็เป็นเพียงแค่มนุษย์ปกติ พวกเราแลดูเหมือนคนทั่วไป ยิ้มแย้มนิด หัวเราะหน่อย และพูดจาสื่อสารด้วยเหตุผลกันได้รู้เรื่องเข้าใจดี แต่พอพระจันทร์เต็มดวงเท่านั้นแหละ พวกเราก็จะกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าที่ขาดสติ มีพละกำลังมหาศาล เต็มไปด้วยเขี้ยวเล็บที่แหลมคม และหื่นกระหายที่จะกัดกินผู้คนทุกเพศทุกวัย

จนเมื่อพระจันทร์เลือนหายพระอาทิตย์เริ่มทำงาน พวกเราก็จะได้สติและพบว่าตัวเองอยู่ในสภาพไม่สวมเสื้อ ส่วนกางเกงก็ขาดรุ่งริ่ง ตามเนื้อตัวมีเลือดเปื้อนไปหมด และมีศพของผู้คนนอนตายอยู่ข้างๆ... ทันใดนั้นพวกเราทำได้แต่ร้องตระโกนด้วยความรู้สึกผิด เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และรู้สึกชิงชังตัวเองเหลือเกิน...




Wall In Your Heart - Shelby Lynne




และด้วยความใกล้เคียงกันของวิถีชีวิตนี้เองที่ทำให้ผมอดรู้สึกไม่ได้ว่า คนป่วยไบโพลาร์นั้นน่าจะสืบเชื้อสายมาจากแวมไพร์ผสมมนุษย์หมาป่า โดยรับเอาด้านไม่ดีของทั้ง 2 เผ่าพันธุ์มาไว้อย่างครบถ้วน แต่นั่นยังไม่ใช่เรื่องที่แย่ที่สุด...เพราะสิ่งที่แย่กว่าก็คือ ในตำนานได้กล่าวเอาไว้ว่า แท้จริงแล้วแวมไพร์กับมนุษย์หมาป่านั้นต่างเป็นศัตรูกันมาตั้งแต่อดีตกาล

นั่นหมายถึงในตัวของผู้ป่ายไบโพลาร์ทุกคนจะเสมือนถูกติดตั้งระเบิดเวลาเอาไว้
ซึ่งเจ้าระเบิดลูกนี้จะทำงานก็ต่อเมื่อการต่อสู้ระหว่าง 2 บุคลิกนั้นรู้ผลแพ้ชนะ
โดยหากเป็นฝั่งแวมไพร์(ด้านซึมเศร้า)ที่ชนะ พวกเราก็จะลงมือปลิดชีวิตตัวเอง
แต่หากเป็นมนุษย์หมาป่า(ด้านก้าวร้าว)ที่เป็นฝ่ายได้ชัย...พวกเราก็จะพร้อมที่จะเข่นฆ่าผู้อื่น...

เล่นเอาเลือกไม่ถูกเลยใช่ไหมครับว่าจะเชียร์ฝั่งไหนดี

กลับมาที่คำถามแรกที่ผมได้ถามเอาไว้ “คุณจะทำยังไง? ถ้าได้รู้ว่า แท้จริงแล้วตัวเองสืบเชื้อสายมาจากปีศาจร้าย”
คุณไม่ต้องตอบหรอกครับ เพราะนี่เป็นคำถามที่ผู้ป่วยโรคไบโพลาร์ทุกคนจะต้องหาคำตอบให้ได้ก่อนที่อะไรๆจะสายเกินไป


ส่วนคำถามที่คนปกติอย่างคุณๆจะต้องหาคำตอบให้ได้นั้น...
“คือคุณจะทำยังไง? หากรู้ว่าคนที่ยืนอยู่ข้างๆนั้นสืบเชื้อสายมาจากปีศาจร้าย” …




 

Create Date : 05 เมษายน 2552
14 comments
Last Update : 15 เมษายน 2553 15:22:27 น.
Counter : 6894 Pageviews.

 

โอ เหมือนอ่านทไวไลน์เลยค่ะคุณชุดนอน

คำตอบของคำถามแรก

“คุณจะทำยังไง? ถ้าได้รู้ว่า แท้จริงแล้วตัวเองสืบเชื้อสายมาจากปีศาจร้าย”
ตอบว่า ทำใจอ่ะคะ แล้วก็คิดหาทางว่าจะดำเนินชีวิตของตัวเองต่อไปอย่างไร
อย่างไม่เบียดเบียนตัวเองและผู้อื่น
วะ คำตอบเหมือนเรียนวิชาพุทธศาสนาเลย

“คือคุณจะทำยังไง? หากรู้ว่าคนที่ยืนอยู่ข้างๆนั้นสืบเชื้อสายมาจากปีศาจร้าย”
ตอบ บีบมือเบาๆ แล้วก็บอกว่า "นี่เธอ ฉันรู้ความจริงแล้วนะ
ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ " แฮ่

คิดถึงอยู่พอดีเลยค่ะคุณชุดนอน

 

โดย: BeCoffee 6 เมษายน 2552 8:15:18 น.  

 

เอ ได้ข่าวว่าแวมไพร์กับหมาป่าไม่ถูกกันนะคะ เห็นด้วยกับคุณ Becoffee นึกถึงเรื่องทไวไลท์เลยค่ะ

คุณจะทำยังไง? ถ้าได้รู้ว่า แท้จริงแล้วตัวเองสืบเชื้อสายมาจากปีศาจร้าย” เอ๊ ถ้าเป็นแวมไพร์หรือมนุษย์หมาป่าเนี่ยก็แอบเท่นะคะ รู้สึกเหมือนเรื่อง Underworld ดูมองต่างมุมมั๊ยคะ

“คือคุณจะทำยังไง? หากรู้ว่าคนที่ยืนอยู่ข้างๆนั้นสืบเชื้อสายมาจากปีศาจร้าย” ก็คงแอบรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนางเอกทไวไลท์ (ในกรณีที่คนที่ยืนข้างๆคือแฟนนะคะ)

ไม่อยากให้คิดมากค่ะ เพราะทุกอย่างมีสองด้านเสมอ แม้แต่ปีศาจร้ายก็เหอะ

 

โดย: TaMaChAN (narumol_tama ) 6 เมษายน 2552 21:35:50 น.  

 

แม้จะไม่อยากเลียนแบบสองคนด้านบน
แต่ก็อดนึกถึงทไวไลท์ไม่ได้..ในฐานะที่ได้ผ่านตากับหนังเรื่องนี้
“คือคุณจะทำยังไง? หากรู้ว่าคนที่ยืนอยู่ข้างๆนั้นสืบเชื้อสายมาจากปีศาจร้าย”เอ้า..เลียนแบบคนข้างบนอีก..อยากเป็นนางเอกเหมือนกัน
ก็ต้องตอบตามสเต็ปนางเอก..หากไม่โดนตะปบตายไปเสียก่อน คงบอกว่า
"คุณคะ..หากคุณคิดจะทำร้ายชั้น ไม่เป็นไร หากจะต้องตายในอ้อมกอดของคุณ ฉันเต็มใจ"
พร้อมกับเอนกายเข้าไปซบที่อกของเขาอย่างนุ่มนวล..ยอมแล้วทุกวิถีทาง
สุดท้ายแล้ว..ปีศาจร้ายตนนั้นก็เอ่ยว่า.."ต่อให้ผมอาจจะเลวร้ายกับใครบนโลกใบนี้ก็ตาม แต่กับคุณ..ไม่มีวัน"

 

โดย: nikanda 7 เมษายน 2552 4:23:51 น.  

 

ไม่คิดมาก ...เราเลียนแบบ 3 คนข้างบนเลยล่ะกัน ...


 

โดย: นัทธ์ 7 เมษายน 2552 22:32:55 น.  

 

คุณจะทำยังไง? ถ้าได้รู้ว่า แท้จริงแล้วตัวเองสืบเชื้อสายมาจากปีศาจร้าย

ผมคงไม่ทำอะไรเลยครับ แต่คงจะภูมิใจกับมันมาก และคงจะหายสงสัยซะทีว่าทำไมลึกๆในใจตัวเองมันถึงได้ "มืด" ขนาดนี้ 5555++

 

โดย: แฟนผมฯ IP: 202.134.119.218 8 เมษายน 2552 13:58:58 น.  

 

ถ้ารู้ว่าตัวเองเป็น

คงพยายามไปอยู่ในที่ที่จะไม่เป็นอันตรายต่อคนอื่น

ถ้าต้องทำร้ายคนอื่น เพื่อให้ตัวเองเศร้าแล้วมีความสุขกับความเศร้านั้น

ต้องดื่มเลือดคนอื่น เพื่อให้ตัวเองมีชีวิต

เราขอตายดีกว่าค่ะ เหอๆ




ถ้าคนที่รู้จักเป็น

คงพยายามทำยังไงก็ได้ ที่จะไม่ทำให้เค้าไปทำร้ายคนอื่นอะค่ะ

คิดว่างั้นนะคะ

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 8 เมษายน 2552 17:48:27 น.  

 

เอ๋ รู้สึกเหมือนกเคยได้อ่านอาการนี้ของคุณชุดนอนนะครับ สงสัยเสียงตอบรับทั้งในแง่รายได้และคำวิจารณ์ดี เลยมีภาคต่อ ^^

เรื่องความเห็น... เอริ่ม เป็นสมมุติฐานที่น่าสนใจมากครับ 55+ แล้วก็คิดเหมือนเพื่อนๆข้างบน ที่ว่าทำไมถึงคิดไปถึงทไวไลท์โดยไม่มีสาเหตุ หุหุ

มาคุยเรื่องที่ไปทิ้งไว้ในบล็อคนะครับ... คือถ้าเปรียบ The Visitor เป็นมวยแล้ว มันเหมือนกับนักมวยที่ฟอร์มดีมาตลอด 8 ยก แย๊บนำได้เด็ดขาด สวนเค้าท์เตอร์ได้เหมาะเจาะ แต่พอเข้ายก 9 พี่แกเริ่มหมดแรง แล้วชกประคองตัวไปจนจบ 12 ยกจนชนะคะแนนมากกว่า ถ้าเป็นแบบนี้ คุณชุดนอนจะชอบมากกว่าที่คิดไว้ในตอนแรกรึเปล่าครับ 55+

Happy-Go-Lucky ไม่พูด ไม่พูด ^^ The Haunting in Connecticut ก็ไม่พูด ไม่พูด (เพราะไม่มีอะไรให้พูดถึง 55+) ส่วน My Name is Bruce ถ้าเผอิญคุณชุดนอนติดตามผลงานเจ้าแห่งหนังเกรดบีคนนี้ ก็คงรู้สึกสนุกสนานไปกับเค้าแน่นอนครับ

ข่าวดีก็คือ Fireflies in the Garden จะเข้าโรงในเมืองไทยเร็วๆนี้ครับ 55+ ผมว่าหนังเรื่องน้อาจจะมีคนชอบโฮกๆอยู่ไม่น้อยนะครับ (จากความเมโลดราม่าได้ใจ) เพียงแต่ผมรู้สึกว่าหนังมันทรยศคนดู จะพาลจงเกลียดจงชังเท่านั้นเอง หุหุ

Marley & Me น่ารักดีครับ ส่วนตัวแล้วไม่ได้มีอคติอะไรกับ โอเว่น และที่น่าแปลกก็คือ เรื่องนี้แกทำตัวได้ธรรมดาสามัญชนมากๆครับ (เผลอๆเล่นดีกว่า เจนนิเฟอร์ ซะอีก !!) และจะบอกอีกว่า น้องหมาช่วยหนังเรื่องนี้ได้มากๆๆๆเลยนะครับ เพราะถ้าไม่มีเจ้า มาร์ลีย์ แล้ว ชะตากรรมก็คงไม่ต่างจากเรื่องข้างบนแน่นอน...

 

โดย: บลัดดี้มันเดย์ วิล บี อนันดา ซูน 55+ IP: 124.122.165.57 8 เมษายน 2552 20:42:50 น.  

 

พูได้หนังสือชุดทไวไลท์เล่มหนึ่งจากเวปพันทิพย์ล่ะ
อ่านไปได้หน่อยเดียว ความจริงไม่ชอบเรื่องแนวนี้ แต่กดขอหนังสือไปงั้นๆ แต่ดันได้ เอิ้กๆ
แวมไพร์บางครั้งก็เป็นพระเอกได้เหมือนกันนะ

วันนี้พูรู้สึกซึมเศร้า นอนเยอะไปหน่อย แล้วช่วงนี้ชอบมีความคิดถึงการฆ่าตัวตายอีกแล้ว แค่คิดนะแต่ไม่เคยทำ หรือไม่คิดว่าจะทำ แต่แปลก กลับมีความรู้สึกว่าโลกจะแตก ต้องหาวิธีรอดจากโลกแตกให้ได้ ดูขัดกันยังไงก็ไม่รู้
เหมือนว่าถ้าฉันจะตาย ฉันขอฆ่าตัวเองตาย แต่จะไม่ยอมตายโดยอุบัติเหตุ ธรรมชาติ ซะอย่างนั้น เอิ้กๆ

พูไม่ได้อัพบล๊อคนานเหมือนกัน วันนี้มึนๆ เลยเข้ามานั่งเล่น ส่งกำลังใจให้ไบโพล่าร์

 

โดย: pumpond 18 มกราคม 2553 11:41:57 น.  

 

พูว่า คนทุกคนก็เป็นพระเอกนางเอกในชีวิตตัวเองได้ทั้งนั้นล่ะคะ คุณหมอเคยบอกว่า
"โลกนี้ไม่มีสีขาว หรือสีดำ มีแต่สีเทา"
ไม่มีใครดีที่สุด หรือเลวไม่มีที่ติ ทุกคนล้วนมีทั้งดีและเลว
ถ้าพูแต่งนิยายก็คงให้ตัวเองมีทั้งดีและเลวละค่ะ

พูชอบระบบที่ดูคอมเม้นต์ล่าสุด 20 อันนี้มากๆเลย เพราะบล๊อคพูเขียนไปแล้วทั้งหมด 625 บล๊อค มีคนเข้าชมวันละเป็นพันคน มีคนคอมเม้นวันละสองสามอัน ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่คนจะเข้ามาดูงานของคนอื่นที่พูเอามาลงก็ตาม งานที่พูเขียนมีคนดูน้อยมาก
เห็นไหม พูนึกว่าตัวเองแย่มาก แต่ก็ยังเขียน ทำบล๊อคได้ขนาดนี้ นับว่าดีพอควร

แปลกนะวันนี้พูอารมณ์ดี รู้สึกดี โรคมันก็ขึ้นๆลงๆ อย่างนี้ล่ะ มันดีขึ้นตอนวันก่อนไปงานพระราชทานเพลิงศพพระเถระชั้นผู้ใหญ่ คนเยอะมาก งานก็อลังการ มีการเผาศพ (นึกราชาศัพท์ไม่ออก) กลางลานโดยทำเมรุกระดาษ พอเผา เก็บกระดูกเสร็จ อีกวันหนึ่ง พูก็เข้าไปดูเขาเอาถ่านที่ไหม้มากองๆ คนก็ไปคุ้ยเขี่ยหากระดูกที่อาจจะเหลือ พูก็ไปคุ้ยกับเขา ไม่ได้ตั้งให้หาอะไร เห็นเขาคุ้ยก็เลยไปคุ้ยมั่ง ใครได้อะไรก็เอากลับบ้านได้ พูเจอกระดาษแผ่นหนึ่งไม่ไหม้ไฟแต่ดำด้วยเขม่าถ่าน ก็เลยเก็บมา ในใจคิดว่า กระดาษแผ่นนี้มันเก่ง รอดควันไฟมาได้ ชอบจัง
เอามาเก็บไว้ดูว่ากระดาษบางๆแผ่นหนึ่ง ซึ่งไหม้ไฟได้ง่ายที่สุด ยังรอดมาได้ อะไรก็ไม่แน่นอน มองมันแล้วรู้สึกดี
สองวันนี้เลยสมองปลอดโปร่ง สบายใจ ตื่นเช้า ทำงาน แวะมาเข้าเน็ต โรคซึมเศร้านี้มันดีอย่าง ถ้าเมื่อไรเรารู้ทันมัน มันก็หายเศร้าไปซะเฉยๆ แต่ถ้าเผลอมันก็กลับมาใหม่ ไปๆ มาๆ จนชินแล้ว ดังนั้นตัวประกอบคงไม่ผิดหวังแน่นอน ตัวประกอบก็อย่าทำให้นางเอกผิดหวังด้วยล่ะ ไบโพล่าร์สู้ๆ

 

โดย: pumpond 20 มกราคม 2553 13:28:12 น.  

 

ถ้าชุดนอนว่างๆ แวะมาอัพบล๊อค หรืออ่านข้อความที่นี่อีกนะ พูเข้าใจที่บอกว่ารู้สึกว่าตัวเองเขียนห่วยลง เพราะพูก็เป็น เวลาป่วยแต่งกลอนอะไรก็ไม่ออก
อีกประการ จากการทำบล๊อคมา พูพบว่าคนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยสนใจเรื่องที่คนหน้าใหม่เขียน ถ้าเขาจะสนใจเราก็ต้องสนใจเขาไปเยี่ยมเขาที่บล๊อค เขาก็มาเยี่ยมตอบ
คนส่วนใหญ่สนใจเรื่องบันเทิง เรื่องที่ดังอยู่แล้ว เรื่องที่จะต้องทำรายงาน หรือเกี่ยวกับงานเขา ซึ่งคนส่วนใหญ่นี้ก็รวมพูด้วย เพราะคนเราไม่มีเวลามากพอจะไปอ่านเรื่องเรื่อยเปื่อย เขาจะอ่านแต่เรื่องที่อยู่ในความสนใจของเขา คนที่เขาคุยด้วย ดังนั้นความสำเร็จหรือล้มเหลวไม่ได้อยู่ที่มีคนอ่านหรือไม่ บางครั้งการได้ทำก็เป็นความสำเร็จแล้ว ถ้าเขียนไม่ออก ก็ไม่ต้องเขียน แต่ถ้าอยากเขียนก็เขียนมาเถอะ จะห่วยยังไงก็ขอแค่ได้เขียนก็พอ

ตอนนี้พูก็กำลังใช้ปรัชญานี้ในการทำงานเหมือนกัน พูทำงานล้มเหลวมาสิบปีแล้ว แต่ก็ยังทำมันต่อไป ถึงจะรู้สึกตลอดว่าไม่สำเร็จก็ยังทำต่อไป ทำให้ผ่านไปวันๆ เปลี่ยนจากทำได้เป็นได้ทำ

ปล. วันนี้พูได้ทำงานด้วยล่ะ ดีมากพู ยิ้มให้ตัวเอง (วันล่าสุดที่ทำ 14 ม.ค. แล้วข้ามมาวันนี้ 20 ม.ค.)

 

โดย: pumpond 20 มกราคม 2553 13:49:45 น.  

 

ขอคุณสำหรับบทความที่อ่านแล้วร้องไห้ น้ำตาไหล มันโดนจริงๆ คือเพิ่งจะอยู่ในเหตุการณ์ของคนบางคนที่มีภาวะอาการแบบนั้นมาค่ะ

 

โดย: arie_r IP: 58.9.29.130 23 มิถุนายน 2554 23:56:53 น.  

 

สวัสดีครับคุณชุดนอน

ผมเดินทางย้อนเวลามาจากปี พ.ศ.2557
ใช่แล้วครับ อีกราวๆสี่ปีข้างหน้านับจาก Last update ของคุณใน entry นี้

ผมมาเพื่อจะ Spoil ให้คุณทราบว่า คุณชุดนอนในอนาคตที่ผมอยู่นั้น กลายเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งในโลกอินเตอร์เน็ต ที่มีผู้ติดตามนับหมื่น (คาดว่าจะกลายเป็นสองหมื่นในเร็วๆนี้)

วลี "สวัสดีครับ ผมขอรบกวนในชุดนอน" ถูกกล่าวถึงอย่างมากมายในโลกไซเบอร์

คุณชุดนอนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนจำนวนมาก ทั้งการใช้ชีวิต การอดออม ทัศนคติต่อสังคม ฯลฯ

อย่างน้อยๆ ก็จนถึงเวลานั้น คุณก็ยังไม่ได้จบชีวิตตนเอง แถมยังลือกันว่า ได้ภรรยาเป็นดาราเกาหลีชื่ออึนจอง (ด้วยความอิจฉา ผมจึงเลือกที่จะไม่เชื่อ ความจริงข้อนี้) มีคนมากมายห้อมล้อมอยากคุยกับคุณ บ้างเรียกคุณว่า "พี่" บ้างเรียก "ลุง"

แม้ว่าสายเลือดแวมไพร์ และมนุษย์หมาป่า จะเคยทำให้คุณ และคนรอบข้างต้องเจ็บปวด แต่คุณก็ได้ใช้พลังความสามารถที่เหนือกว่าคนทั่วไป สร้างสิ่งดีๆให้กับสังคมไว้ไม่น้อย...

ได้เวลาที่ผมจะต้องกลับไปสู่ยุคสมัยที่ผมจากมา
ถ้าคุณเชื่อสิ่งที่ผมเล่า ขอเพียงแค่ พยายามทำวันนี้ให้ดีที่สุดในแบบของคุณชุดนอน แล้วอนาคตที่ผมเล่า จะเดินทางมาหาคุณเอง

แต่ถ้าคุณไม่เชื่อ...
อย่างน้อย คุณก็คงกำลังรู้สึกว่า ไม่ใช่คุณคนเดียวที่ "บ้า"

 

โดย: ท่องเวลา IP: 192.99.14.36 20 พฤษภาคม 2557 8:13:49 น.  

 

เราก้เป้นแบบนี้น้ะ แบบว่าเวลาโมโหหรือทำร้ายเพื่อนอ้ะ พอเวลาผ่านไปสักพักเราก้จะจำอะไรไม่ได้ เวลาอยุ่ตนเดียวเราก้จะซึม ๆ อ้ะ พออยุ่ต่อหน้าเพื่อนเราทำเหมือนตัวเองมีความสุขมาก พอเราชอบใคร เราก้จะชอบ พอได้มาเป้นแฟนเราก้รุ้สึกไม่รักเค้าแล้วก้บอกเลิก สุดท้ายต้องนั่งร้องเอง

 

โดย: ความมืดด IP: 180.183.78.208 5 มีนาคม 2559 19:44:34 น.  

 

มีไรติดต่อมา 0962547154

 

โดย: ความมืดด IP: 180.183.78.208 5 มีนาคม 2559 19:45:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ขอรบกวนทั้งชุดนอน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]




Group Blog
 
<<
เมษายน 2552
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
5 เมษายน 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ขอรบกวนทั้งชุดนอน's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.