It's All I Have to Bring Today !
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
20 พฤศจิกายน 2553
 
All Blogs
 

ชมปราสาทนิโจ-เที่ยว‘กิออง

ท่องเที่ยวต่างประเทศ
จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้วันสุข
ปีที่ 6 ฉบับที่ 285 ประจำวัน จันทร์ ที่ 15 พฤศจิกายน 2010
โดย อุษณีษ์




“เกียวโต” เมืองที่ยังมีมรดกโลกอีกหลายแห่งที่น่าไปเยือน โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้แนะนำวัดสำคัญๆที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกไปแล้ว 2 แห่งคือ วัดคิงคะคูจิ และวัดกิงคะคูจิ ซึ่งเป็นวัดสำคัญในสมัยที่เกียวโตมีฐานะเป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศญี่ปุ่น

สัปดาห์นี้สถานที่ท่องเที่ยวในเกียวโตจะเกี่ยวข้องกับปราสาทที่ประทับของโชกุนผู้ ปกครองแคว้นต่างๆในญี่ปุ่น และแหล่งท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรมเก่าแก่ของเกียวโตคือ กิออง




ปราสาทนิโจ หรือ Nijo Castle ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกแห่งหนึ่ง สร้างเมื่อปี 1601 ในรัชสมัยโชกุนโทกุกาวา อิเอยาสุ แต่เสร็จในรัชสมัยโชกุนโทกุกาวา อิเอมิสุ เมื่อปี 1626 ใช้เป็นที่ประทับของโชกุนในราชวงศ์โทกุกาวาทุกพระองค์ก่อนที่จะย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่กรุงโตเกียวเมื่อปี 1869 ซึ่งหลังจากย้ายเมืองหลวงไปแล้ว ปราสาทแห่งนี้ยังถูกใช้เป็นที่ทำงานของบรรดาขุนนาง และในสมัยนี้อยู่ในความดูแลของเทศบาลนครเกียวโต

พื้นที่ในตัวปราสาทมีทั้งหมด 275,000 ตารางเมตร เป็นตำหนักที่ประทับของโชกุนและเจ้านายฝ่ายในถึง 8,000 ตารางเมตร ภายในปราสาทแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 2 ส่วน มีลักษณะเหมือนวงแหวนสองชั้น คือส่วนที่เป็นพระราชวังฮอนมารุ และพระราชวังนิโนมารุ โดยพระราชวังนิโนมารุอยู่ด้านนอก และด้านในเป็นพระราชวังฮอนมารุ ทั้งสองส่วนถูกกั้นด้วยคลองขนาดเล็กเพื่อแบ่งพื้นที่ให้ชัดเจน




ในพระราชวังนิโนมารุมีตำหนักที่ประทับสำหรับโชกุนออกว่าราชการ และห้องโถงที่พักของขุนนางที่มารอเข้าเฝ้า ตำหนักสร้างด้วยไม้ทั้งหมด พื้นยกสูงขึ้นมาจากพื้นดินเล็กน้อย ซึ่งเป็นลักษณะของสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่น ด้านในตกแต่งด้วยภาพเขียนสีเป็นรูปดอกไม้และตราสัญลักษณ์ของโชกุน นอกจากนั้นเป็นห้องต่างๆสำหรับข้าราชบริพาร



เมื่อผ่านพระราชวังนิโนมารุจะเข้ามายังพื้นที่พระราชวังฮอนมารุจะต้องเดินข้ามสะพานผ่านคลองที่ขุดล้อมรอบตัวพระราชวัง เมื่อข้ามมาจะพบกับส่วนที่เป็นอาคารหลังเล็กๆล้อมรอบตัวพระราชวัง อาคารเหล่านี้เป็นเหมือนกำแพงกั้นระหว่างพระราชวังกับพื้นที่ด้านนอก

ภายในเขตพระราชวังฮอนมารุมีพื้นที่ 1,600 ตารางเมตร ประกอบด้วยส่วนที่ประทับของโชกุนและราชวงศ์ ห้องรับรองแขก ห้องนั่งเล่น และห้องโถงทางเข้า รวมถึงห้องครัวและที่พักของข้าราชบริพารฝ่ายใน อาคารแต่ละหลังจะมีทางเดินเชื่อมต่อถึงกันทั้งหมด ส่วนตรงกลางระหว่างอาคารแต่ละหลังจะปลูกดอกไม้และจัดสวนแบบญี่ปุ่นอย่างสวยงาม ตำหนักที่ประทับของโชกุนและอาคารในพระราชวังฮอนมารุสร้างด้วยไม้ เน้นการตกแต่งด้านในด้วยภาพเขียนสีฝีมือศิลปินชาวญี่ปุ่นสมัยก่อน

พื้นที่ภายในพระราชวังมีการปรับปรุงมาหลายยุคสมัย เดิมเรียกว่าพระราชวังคัตสุระ ต่อมามีการปรับปรุงใหม่เมื่อปี 1983 และเปลี่ยนชื่อเป็นพระราชวังฮอนมารุ ซึ่งดั้งเดิมมีอาคารถึง 55 หลัง แต่ละหลังจะมีขนาดเล็ก ทั้งนี้ พระราชวังฮอนมารุเคยใช้เป็นสถานที่จัดงานเฉลิมฉลองในการขึ้นครองราชย์ของจักรพรรดิฮิโรฮิโตะเมื่อปี 1928



ความงดงามของปราสาทนิโจ นอกจากพระราชวังทั้งสองแห่งแล้วยังมีจุดที่น่าสนใจคือ สวนดอกไม้หลายแห่ง ซึ่งปลูกดอกไม้พื้นเมืองของญี่ปุ่น รวมทั้งต้นซากุระและต้นอูเมะหรือแอปริคอทของญี่ปุ่น สวนที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในตัวปราสาทมีชื่อว่า เซอิรุเอน อยู่ส่วนทิศเหนือของตัวปราสาท สร้างเมื่อปี 1965 เป็นสวนที่สร้างขึ้นโดยเทศบาลนครเกียวโต มีศาลาไม้ 2 หลัง สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่จัดงานเลี้ยงน้ำชาต้อนรับแขกผู้มีเกียรติที่มาเยือนนครเกียวโต

ในปัจจุบันเทศบาลนครเกียวโตเป็นผู้ดูแลปราสาทนิโจทั้งหมดหลังจากมีการยกให้เทศบาลนครเกียวโตเพื่อเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชมตั้งแต่ปี 1939 เป็นต้นมา

จากปราสาทนิโจมาถึงแหล่งท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรมที่สำคัญของเกียวโตที่เรียกว่าย่านกิออง ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ส่วนทิศเหนือและใต้ของถนนชิโจ และอยู่ด้านหน้าวัดยาซากะ ย่านกิอองถือเป็นแหล่งบันเทิงที่เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีการแสดงของผู้หญิงญี่ปุ่นที่แต่งกายด้วยชุดประจำชาติเล่นดนตรีและรำแบบพื้นเมืองของญี่ปุ่นที่คนส่วนใหญ่เรียกว่าเกอิชาหรือ Geisha



แต่สำหรับที่เกียวโตจะเรียกผู้หญิงเหล่านี้อีกชื่อหนึ่งว่าเกอิโกะหรือ Geiko ซึ่งความหมายของเกอิโกะกับเกอิชาจะคล้ายกันคือ หมายถึงผู้หญิงที่มีความสามารถด้านศิลปะการรำและเล่นดนตรีเพื่อให้ความบันเทิงกับแขกที่มารับประทานอาหาร นอกจากนี้ยังมีชื่อเรียกอีกแบบหนึ่งว่าไมโกะหรือ Maiko หมายถึงผู้หญิงที่กำลังหัดร่ายรำและเล่นดนตรี หรือเกอิชาฝึกหัดนั่นเอง



ย่านกิอองได้รับการยกย่องให้เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเกียวโต แม้ว่าเทศบาลนครเกียวโตเคยพยายามที่จะปรับปรุงย่านนี้หลายครั้งแต่ได้รับการคัดค้าน เพราะในเวลานี้เป็นเขตที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ ซึ่งนอกจากจะได้ชมการแสดงของหญิงสาวในชุดประจำชาติแล้ว ยังได้เห็นบ้านที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่เรียกว่ามาชิยะ ที่มีความหมายว่าทาวน์เฮาส์ และโอชายะ หมายถึงร้านน้ำชา ส่วนใหญ่เป็นอาคารสร้างด้วยไม้ ด้านในเป็นร้านอาหาร และมีการแสดงพื้นเมืองของเกอิโกะให้นักท่องเที่ยวชมในตอนกลางคืน



แม้ว่าย่านกิอองจะมีชื่อเสียงในด้านการให้ความบันเทิงกับนักท่องเที่ยวในยามกลางคืน แต่ไม่ใช่พื้นที่ที่มีการขายบริการทางเพศหรือที่ชาวตะวันตกเรียกว่า red-light district ซึ่งในนครเกียวโตมีย่านนี้ที่เรียกว่าชิมาบาระเอาไว้ให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบความสนุกสนานแบบทันสมัย แต่ย่านกิอองจะได้รับการอนุรักษ์ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรมเก่าแก่ของญี่ปุ่น



ที่มา : นิตยสารโลกวันนี้วันสุข ปีที่ 6 ฉบับ 285 วันที่ 13 - 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 หน้า 42 คอลัมน์ smallworld โดย อุษณีษ์ สาลิฟา

Credit :   //www.dailyworldtoday.com/




Picture : Internet




 

Create Date : 20 พฤศจิกายน 2553
0 comments
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2553 9:54:52 น.
Counter : 1675 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Turtle Came to See Me
Location :
พัทลุง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]





★ที่มา ล็อกอิน ★Turtle Came to See Me ★( บทกวี Poem )
เป็นหนังสือ สำหรับเยาวชน
★Turtle Came to See Me
แต่งโดย :Margrita Engle
★★★★



BlogGang Popular Award #11

BlogGang Popular Award #12
Friends' blogs
[Add Turtle Came to See Me's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.