It's All I Have to Bring Today !
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
19 พฤศจิกายน 2553
 
All Blogs
 

น้อยหน่าถ้ำ' ที่วังทอง'อ.ขนอม ของจังหวัดนครศรีธรรมราช

โดย : คมฉาน ตะวันฉาย





วังทอง ในที่นี้ ไม่ได้อยู่พิษณุโลก หากแต่ไปอยู่ที่ อ.ขนอม ของจังหวัดนครศรีธรรมราชโน่น


วังทอง ในที่นี้ ไม่ได้อยู่พิษณุโลก หากแต่ไปอยู่ที่ อ.ขนอม ของจังหวัดนครศรีธรรมราชโน่น วังทองเป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ ผมเห็นถ้ำมามากมายหลายแห่งในประเทศไทย แต่สำหรับถ้ำแห่งนี้ต้องบอกว่าเป็นถ้ำที่สวยมากแห่งหนึ่งของบ้านเรา


ถ้ำหินปูนแต่ละแห่งก็คล้ายๆ กันตรงที่มีจุดขายเหมือนกันคือหินงอก หินย้อย แต่ที่ไหนที่หินงอกและหินย้อยจะสวยสมบูรณ์ มีการหักพัง แล้วเสื่อมโทรมมากกว่ากันเท่านั้น แต่สำหรับที่นี่ ถ้าจะบอกว่ายังคงเป็นถ้ำที่บริสุทธิ์และมีหินงอกหินย้อยที่สมบูรณ์อยู่มากก็น่าจะได้




แผนผังของถ้ำแห่งนี้มีไม่มาก แค่เดินขึ้นตามบันไดปูนจากเชิงเขาขึ้นไปราว 300 ขั้น ก็จะถึงศาลาปากทางเข้า จากศาลาแห่งนี้จะมองเห็นทะเลทางฝั่งขนอม วันฟ้าใสอาจจะเห็นไปไกลถึงสมุยด้วยซ้ำ ปากทางเข้าถ้ำวังทองเป็นปล่องแคบๆ มีการติดไฟให้แสงสว่างไว้ตามจำเป็น ทางเดินเป็นอุโมงค์ยาวๆ เดินไปราว 50 เมตรก็ต้องไต่บันไดขึ้นไปราว 8 ขั้น แล้วจะต้องเบียดแทรกตัวเข้าไปตามช่องแคบๆ จากนั้นจึงไปโผล่ที่ห้องโถงขนาดใหญ่ ตรงกลางโถงเป็นกองหินกองดิน มีหินงอกตั้งเป็นแท่งอยู่เรียงราย บางอันสูงเกือบจรดเพดานถ้ำ


แต่ที่มหัศจรรย์ก็คือ เพดานโถงถ้ำที่มีหินย้อย ย้อยหยดราวกับจะหักตกลงมามากมาย เต็มไปทั้งเพดานถ้ำ ยิ่งเมื่อโดนแสงไฟจากหลอดไฟไส้ขด ทำให้ถ้ำแห่งนี้สมเป็นวังทองตามชื่อ นอกจากนั้นยังมีห้องเล็กห้องน้อย ที่มีทั้งหินงอกและหินย้อยละลานตา เรียกว่าตรึงให้ผมอยู่ในถ้ำนี้นานกว่า 5 ชม. จนท้องร้องบอกว่าหิวข้าว



ความสวยงามของถ้ำแห่งนี้มีปรากฏให้เห็นในรูปของหินงอกหินย้อยค่อนข้างชัดเจน และใครไปเที่ยวถ้ำก็จะเห็นแต่สิ่งเหล่านี้ สำหรับผม ถ้ำแห่งนี้ยังคงมีปรากฏการณ์หลายอย่างที่น่าสนใจ หลอดถ้ำที่นี่ แม้จะมีไม่มาก หรือลายตาเท่ากับหลายๆ ที่ แต่ทุกหลอดก็มีน้ำหยดเกาะอยู่ตรงปลาย พร้อมที่จะหยดลงพื้น ค่อยๆ สะสมหินปูนจนกระทั่งกลายเป็นหินงอกขึ้นมา ซึ่งกระบวนการกว่าที่หินงอกตรงนี้จะปรากฏอาจจะใช้เวลาเป็นพันปี ทั้งผมและท่านผู้อ่านไปอยู่ไหนแล้วก็ไม่รู้


อีกปรากฏการณ์หนึ่งคือ น้ำตกถ้ำ ที่เกิดจากหินปูนที่ละลายมากับน้ำ แล้วน้ำนั้นก็ไหลลงที่ต่ำ นานๆ เข้าหินปูนเหล่านั้นก็ค่อยๆ เกาะกันเป็นคลื่นเล็กๆ ดูคล้ายกับชั้นน้ำตกที่ลดหลั่นกันลงมา บางแห่งละเอียดมากจนดูเหมือนเกล็ดปลาก็มี ถ้าหินปูนเกาะกันจนกลายเป็นขอบขนาดใหญ่ ดูเหมือนอ่างน้ำ บางแห่งอาจจะมีน้ำขัง บางแห่งอาจจะแห้ง แต่เห็นขอบหินปูนเป็นขอบอ่างชัดเจน เขาจะเรียก ทำนบถ้ำ




ตามพื้นถ้ำบางแห่งเราจะเห็นก้อนหินปูนกลมๆ อยู่ตามพื้น เรียกว่า ไข่มุกถ้ำ นอกจากนั้นยังมีปรากฏการณ์ของถ้ำอีกหลายอย่าง สำหรับที่ถ้ำวังทองแห่งนี้เท่าที่ผมเดินดูนั้น นอกจากหินงอกหินย้อย ซึ่งเป็นจุดขายของถ้ำหินปูนทั่วไปแล้ว น้ำตกถ้ำ ทำนบถ้ำ ที่นี่ก็พอมี เสียดายไม่ได้ไปช่วงหน้าฝน เลยไม่รู้ว่าทำนบถ้ำนั้นยังมีน้ำขังในหน้าฝนอยู่หรือเปล่า หรือน้ำตกถ้ำยังคงมีน้ำหินปูนไหลอยู่หรือไม่ ส่วนไข่มุกถ้ำนั้น เห็นบ้างแต่ไม่มาก แต่สิ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างมากในการเดินทางไปที่นี่ก็คือ ที่นี่มี น้อยหน่าถ้ำ และมีมากเสียด้วย

น้อยหน่าถ้ำคืออะไร? อธิบายตามความรู้งูๆ ปลาๆ ของผมก็คือ เป็นปรากฏการณ์ของหินปูนชนิดหนึ่งที่เกิดจากการเกาะกันของหินปูน ผมเข้าใจว่าน่าจะเกิดจากน้ำหินปูนที่หยดตกลงมา แล้วกระเด็นไปเกาะกัน หินปูนที่อยู่ในน้ำละลายเหล่านั้นค่อยๆ สะสมกันเข้า กลายเป็นก้อนกลมๆ การไม่สม่ำเสมอของหินปูนที่เกาะกัน ทำให้ผิวเป็นตะปุ่มตะป่ำ คล้ายผลของน้อยหน่า


แต่พี่สุนันท์ สมจิตรตัวแทนของสภาหมู่บ้านหมู่ 7 ต.ควนทอง ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลถ้ำวังทองแห่งนี้ อธิบายว่าน้อยหน่าถ้ำนี้มันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยเริ่มแรก จะเป็นผลเล็กๆ งอกขึ้นมาอยู่ตามพื้นถ้ำก่อน พอมันแก่เข้าก็จะหลุดออกมา ถ้าอธิบายแค่นี้ผมงงแน่ จนต้องไปดูตรงที่พี่เขาบอกว่ามันหลุดออกมา ก็ยิ่งแปลกใจ ตรงที่ตามพื้นที่พี่เขาว่ามันหลุดออกมานั้น จะเป็นหลุมๆ อยู่มากมายเรียงรายเต็มพื้นเหมือนเบ้าขนมครก แต่ดูลึกกว่านั้น พื้นที่ว่านี้จะเป็นพื้นหินปูน แล้วจะเห็นน้อยหน่าถ้ำอยู่ตามพื้นใกล้ๆ บางอันยังคงคาอยู่ในเบ้าก็มี ซึ่งตรงนี้ผมยังไม่รู้ว่าจะอธิบายให้ตัวเองเข้าใจดีว่า ทำไมมันถึงต้องอยู่ในเบ้าก่อนจะหลุดออกมากลิ้งอยู่ตามพื้น


“แต่ก่อนมีมากกว่านี้อีก เสียดายตอนที่จตุคามดังๆ มีคนแอบมาขนออกไปเป็นกระสอบปุ๋ยเลย พอผมรู้ข่าวมาดูอีกที ก็เหลืออยู่แค่นี้แล้ว” น้อยหน่าถ้ำนั้นไม่ค่อยพบเจอบ่อยนัก หลายถ้ำที่ผมไปดูมาก็ไม่พบ อาจจะเคยมีแล้วถูกคนเก็บออกไปก็ได้ มาที่นี่ผมจึงตั้งใจมาดูน้อยหน่าถ้ำอย่างเดียว แต่พอมีข่าวแบบนี้ ก็เศร้าใจ

ทุกวันนี้ ถ้ำวังทองอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติขนอม-ทะเลใต้ แต่ไม่มีหน่วยพิทักษ์ป่ามาตั้งอยู่แต่อย่างใด คงให้ชาวบ้านจัดการดูแลกันเอง ซึ่งความเข้มงวดก็อาจจะไม่แข็งตึงนักจึงเกิดการมาขโมยเอาน้อยหน่าถ้ำไปมากมายขนาดนี้


เท่าที่รู้มาเห็นแต่ที่นี่ที่เดียวที่ยังคงมีน้อยหน่าถ้ำ แต่ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปโดยไม่ป้องกันอาจไม่มีให้เห็นแล้วก็ได้ เพราะกว่าน้อยหน่าถ้ำจะอุบัติมาแต่ละลูกใช้เวลานับร้อยๆ ปี แต่ไม่กี่นาทีก็หายไปจากแหล่งกำเนิดเสียแล้ว อะไรจะถมกิเลสมนุษย์ได้หนอ....
..................................

(ข้อมูลเดินทาง : ถ้ำเขาวังทอง ม. 7 ซอยวังทอง ถ.ถ้ำเขาวังทอง ต.ควนทอง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ใช้เส้นทาง สุราษฎร์ธานี-ขนอม ทางเข้าซ้ายมือ ติดต่อคนนำชมถ้ำ นายสุนันท์ สมจิตร โทร. 08-6274-0133, 08-4305-1215)อุทยานฯ แห่งชาติขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้ โทร. 074-685-269 ,08-6475-8392


//www.bangkokbiznews.com/




 

Create Date : 19 พฤศจิกายน 2553
0 comments
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2553 7:54:53 น.
Counter : 2384 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Turtle Came to See Me
Location :
พัทลุง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]





★ที่มา ล็อกอิน ★Turtle Came to See Me ★( บทกวี Poem )
เป็นหนังสือ สำหรับเยาวชน
★Turtle Came to See Me
แต่งโดย :Margrita Engle
★★★★



BlogGang Popular Award #11

BlogGang Popular Award #12
Friends' blogs
[Add Turtle Came to See Me's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.