Bloggang.com : Turtle Came to See Me : 'น้ำตกตาดปลากั้ง'เพชรเม็ดงามสองแคว

'น้ำตกตาดปลากั้ง'เพชรเม็ดงามสองแคว

แหล่งท่องเที่ยวท่ามกลางสมรภูมิรบในอดีต

เพชรเม็ดงามทางธรรมชาติที่ซุกซ่อนอยู่ในป่าเขายังมีอีกมากมาย แต่จะถูกนำมาเปิดเผยหรือไม่เท่านั้น เนื่องจากผู้พบเห็นมักเก็บซ่อนเร้นไว้ ด้วยเกรงว่าจะมีผลกระทบต่อความเป็นอยู่ที่สงบสุข เพราะเมื่อมีแหล่งท่องเที่ยว สิ่งที่จะตามมาก็คือนักธุรกิจที่มุ่งหน้าเข้าไปลงทุนกอบโกยผลประโยชน์ จากพื้นที่โดยมิได้คำนึงถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านที่มีภูมิลำเนาอยู่ในถิ่นนั้น

แต่กลับกันชาวบ้านบ้านน้ำจวง หมู่ 13 ต.บ่อภาค อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ที่อยู่บนพื้นที่สูงและอยู่ในพื้นที่ที่ห่างไกลความเจริญ
กลับยินดีที่จะแบ่งปันความงดงามของน้ำตกขนาดใหญ่ที่เป็นธรรมชาติ โดยซ่อนตัวอยู่กลางหุบเขา ให้ผู้ที่สนใจและบรรดานักท่องเที่ยวได้เข้าไปเที่ยวชม พร้อมเก็บเกี่ยวความสุขและชมความงามตามธรรมชาติของ “น้ำตกตาดปลากั้ง” ที่ค้นพบใหม่แห่งนี้ พื้นที่บ้านน้ำจวง ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อนสูงชัน อยู่บริเวณรอยต่อของ จ.พิษณุโลก กับ จ.อุตรดิตถ์ ติดกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ภูเมี่ยง-ภูทอง ในอดีตเป็นพื้นที่สีแดง ปัจจุบันได้มีการจัดสรรให้เป็นพื้นที่ทำกินของ กลุ่มชาวเขาเผ่าม้ง 2 หมู่บ้าน คือ บ้านน้ำจวงและบ้านน้ำคับ มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 300 ครอบครัว ภายใต้การดูแลของกองทัพภาคที่ 3

น้ำตกตาดปลากั้ง เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่เป็นชั้นหินลดหย่อนกันลงมาเป็นชั้น ๆ มีน้ำตลอดทั้งปี โดยแอบซุกตัวอยู่ท่ามกลางหมู่แมกไม้ในหุบเขา ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติแบบเดิม ๆ มีความสวยงามอย่างยิ่ง การเดินทางเข้าสู่น้ำตกนั้นต้องเดินทางด้วยรถยนต์ปิกอัพยกสูง โดยขับออกจากหมู่บ้านน้ำจวงใช้เวลาเพียง 5 นาที ก็จะถึงที่ทำการของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเมี่ยง-ภูทอง ซึ่งเราจะต้องจอดรถยนต์ไว้ ณ ที่ทำการอุทยาน จากนั้นก็เดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 15 นาที เส้นทางสะดวกสบายเพราะ “กลุ่มวิสาหกิจชุมชนและการท่องเที่ยวเชิงนิเวศบ้านน้ำจวง” ได้จัดทำไว้เพื่ออำนวยความสะดวก สำหรับผู้ที่จะไปยลโฉมน้ำตกแห่งนี้แล้ว เมื่อไปถึงบริเวณลานน้ำตก การเดินเท้าเข้าสู่ลานน้ำตก ทันทีที่จะได้เห็น น้ำตกตาดปลากั้ง จะพบกับความสวยงามที่ซุกตัวอยู่ในป่าได้อย่างน่าอัศจรรย์กับโขดหินผาขนาดใหญ่ ที่มีสายน้ำใสสะอาดไหลลงมาเป็นชั้น กระทบกับโขดหินเบื้องล่าง โดยไหลรินจากเบื้องบนลงสู่แอ่งน้ำด้านล่างกว่า 7 สาย งดงามแตกต่างกันไปตามธรรมชาติ ก่อนที่น้ำทั้งหมดจะไหลไปตามลำห้วยน้ำจวง หล่อเลี้ยงพืชพรรณไม้ และสัตว์ป่า เสียงน้ำที่ไหลตกลงมากับภาพที่ได้เห็นช่างสร้างความสุขให้กับทุกคนที่ได้ไปเยือน ความเหนื่อยล้าจากการเดินเท้าเข้ามา หายไปทันที นับเป็นความสุขที่หาได้จากธรรมชาติจริง ๆ

การเดินทางเริ่มต้นจากจังหวัดพิษณุโลก ออกจากตัวเมืองไปประมาณ 140 กิโลเมตร โดยเดินทางมุ่งหน้าสู่อำเภอชาติตระการ จากนั้นใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1237 มุ่งหน้าไปทางอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ประมาณ 20 กม. จะเห็นโรงเรียนบ้านนาตอนอยู่ทางซ้ายมือ ซึ่งจะมีป้ายบอกทางขึ้นไปบ้านน้ำคับ-บ้านน้ำจวง เลี้ยวรถเข้าไปประมาณ 21 กม. ก็ถึงหมู่บ้านน้ำจวงแล้ว สภาพถนนลาดยางสลับลูกรังเป็นระยะ ๆ เหมาะสำหรับรถยนต์ปิกอัพ เส้นทางการเดินทางนั้น บริเวณโดยรอบนี้จะมีแหล่งท่องเที่ยวอีกหลายแห่งที่อยู่ในละแวกนี้ เช่น ลานหินที่ใช้เป็นที่จอดเฮลิคอปเตอร์ของทหารในอดีต หรือจะเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่นักนิยมไพรสามารถล่องแพไม้ไผ่ชมธรรมชาติกันได้อย่างจุใจ ที่สำคัญ บ้านน้ำจวง อดีตเคยเป็นสมรภูมิรบ ที่เป็นพื้นที่สีแดง แต่ปัจจุบันชาวบ้านต่างหันมาอยู่อย่างสงบสุข พื้นที่บ้านน้ำจวงตั้งอยู่บนเนินเขาเป็นพื้นที่สูง ชาวบ้านส่วนใหญ่ทำไร่ อากาศหนาวเย็นตลอดปี ปัจจุบันชาวบ้านต่างหันมาปลูกสร้างบ้านแบบโฮมสเตย์ ไว้รองรับบรรดานักท่องเที่ยวทุกคนที่จะมาพักอีกด้วย โดยเป็นโฮมสเตย์แบบธรรมชาติ เรือนนอนใช้วัสดุธรรมชาติทำด้วยไม้ไผ่ขัดแตะ มุงหลังคาด้วยใบค้อ แต่สำหรับห้องน้ำนั้นออกแบบที่ทันสมัย สะอาด พร้อมมีน้ำอุ่นไว้บริการ เนื่องจากอากาศที่นี่หนาวเย็นทั้งปี เพราะเป็นพื้นที่สูง ส่วนโรงอาหาร สร้างเป็นแถวยาวคล้ายห้องประชุมของแนวร่วมในสมัยก่อน มีการประดับด้วยกรอบภาพถ่ายขาวดำ เป็นภาพเมื่อครั้งสมัยในอดีตที่เคยเป็นสมรภูมิรบ ให้ได้ชมกัน มีลานกว้างไว้สำหรับกางเต็นท์ และอยู่ติดกับน้ำตกตาดปลาขาว ยามค่ำคืนจะได้ยินเสียงน้ำที่ตกจากยอดผากระทบแนวโขดหินเบื้องล่างได้ชัดเจน ซึ่งอัตราค่าพักบ้านพักโฮมสเตย์ เพียงท่านละ 250 บาท พร้อมอาหารเช้า หรือหากท่านใดต้องการรายละเอียดก็สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลโดยตรงได้ที่ คุณเสมอ สงศิลาวัต ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-7038-5331 ดังนั้นหากใครสนใจที่จะไปชมความงดงาม ของเพชรเม็ดงาม ท่ามกลางธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า ไว้ได้อย่างสมบูรณ์ก็ไม่ควรพลาดสถานที่แห่งนี้.

☆☆ -เดชา พุฒิกานนท์ : //www.dailynews.co.th/

Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2554

Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2554 0:33:32 น.

2 comments

Counter : 2040 Pageviews.

ไม่เคยได้ยินชื่อ น้ำตกนี้เลย
น่าไปมากๆ ผมต้องไปให้ได้
ผมเป็นคนนึงที่รักน้ำตกมากๆ

โดย: ouanoy

วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:9:40:20 น.

ตามมาเที่ยวด้วยครับ

โดย: Kavanich96

วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:10:51:07 น.