|
เช้าวันหนึ่งบนภูเรือ
| เราตื่นกันเช้าเป็นพิเศษ ตั้งแต่ตี 5 เพื่อว่าจะได้นั่งรถออกจากโรงแรมเร็วขึ้นกว่าทุกวัน ผู้ร่วมเดินทางทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งนี้ก็เพราะได้นัดดวงอาทิตย์ไว้ว่าจะไปพบกันบนยอดภูเรือ ปกติดวงอาทิตย์จะขึ้นเวลาประมาณ 6 โมงเช้าตามกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ แต่ที่ภูเรือ คงไม่จำเป็นต้องรีบร้อนไปดูดวงอาทิตย์ขึ้นตามเวลาที่ว่า ทั้งนี้ก็เพราะภูเรือถูกล้อมด้วยเทือกเขาสูง
|
ถูกแล้ว กว่าดวงอาทิตย์จะโผล่ทิวเขาขึ้นมาให้เห็นก็จะช้ากว่าปกติ แต่ขณะไปเปลี่ยนจากรถคันใหญ่เป็นรถสองแถวเพื่อขึ้นไปบนภูเรือต้องเสียเวลารอรถและเข้าห้องน้ำไปหลายนาที ฉะนั้น พอขึ้นไปถึงยอดภูเรือ ปรากฏว่า ดวงอาทิตย์ไม่ได้รอเราตามที่นัดกันไว้ เราจึงได้เห็นดวงอาทิตย์กำลังยิ้มแฉ่งอยู่บนท้องฟ้าเหนือเทือกเขาไปเรียบร้อยแล้ว ดวงอาทิตย์ไม่ได้ขึ้นสูงอย่างเดียวยังส่องแสงไล่หมอกให้หายไปด้วย ที่เราตั้งใจว่าจะได้นั่งกินอาหารเช้า แซนด์วิช กล้วยไข่ กาแฟ แกล้มทะเลหมอกจึงต้องผิดหวังไปตาม ๆ กัน เมื่อไม่มีหมอก ก็ทำให้เกิดผลดีอีกอย่างหนึ่งเข้ามาแทน คือ สามารถมองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างกว้างไกลชัดเจน กินอาหารเช้าไปพลาง ดูวิวทิวทัศน์ไปพลาง อร่อยทั้งปากและตาอย่าบอกใคร เพราะทิวทัศน์เข้ามาช่วยชดเชยทะเลหมอกได้อย่างดี ต้องยอมรับว่า การดูทะเลหมอกถือเป็นเรื่องต้องมีความพยายามเป็นอย่างมาก ผมเองเคยมาที่ภูเรือหลายครั้งแล้ว ไม่เคยได้เห็นทะเลหมอกที่มีความสวยงามเหมือนภาพถ่ายจากหนังสือท่องเที่ยวสักครั้ง จึงอดที่จะชมเชยช่างภาพที่สามารถถ่ายภาพทะเลหมอกไม่ได้ เพราะผมเชื่อว่า กว่าจะได้ภาพทะเลหมอกที่สวยงาม ช่าง ภาพจะต้องมีความพยายามไม่น้อย ช่างภาพบางคนอาจจะต้องไปกางเต็นท์นอนบนภูเรือก็ได้ เพื่อตื่นแต่เช้ามืด รอจังหวะถ่ายภาพทะเลหมอกสวย ๆ มาให้เราได้ดูกัน ดูรูปจนอยากได้ไปเห็นทะเลหมอกของจริง มาถึงตรงนี้จึงยืนยันได้ว่า ในชีวิตจริงโอกาสที่จะได้ดูทะเลหมอกยากเหลือเกิน ไม่เหมือนกับทะเลจริง ๆ หาดูง่ายมาก ทุกคนที่ไปทะเลจะต้องเห็นทะเล แต่ถ้าไปดูทะเลหมอกอาจต้องผิดหวังเหมือนที่ผมได้ผิดหวังมาหลายครั้งแล้ว มีป้ายอยู่บนภูเรือบอกไว้ทำนองว่า อากาศหนาวที่สุดในเมืองไทยอยู่ที่นี่แหละ ทว่า จะเป็นเมื่อไรไม่รู้ รู้แต่เพียงว่า ตอนที่เราขึ้นไปบนภูเรือนั้นอากาศหนาวเหมือนกัน แต่ก็ไม่มาก หนาวเพียงให้รู้ว่าหนาวเท่านั้น การขึ้นไปสู่ยอดภูเรือในครั้งนี้ดีหน่อยสำหรับคนสูงอายุเพราะจะมีรถของอุทยานช่วยรับขึ้นไปส่งถึงยอดภูเรือ ไม่ปล่อยให้เดินเหมือนก่อน แต่ถ้าจะให้ได้รับรสชาติบรรยากาศความสนุก และความรู้สึกในการพิชิตยอดเขาภูเรือควรใช้เท้าเดินทีละก้าวไปอย่างช้า ๆ ระยะทางที่ต้องเดินเพียงกิโลเมตรเศษ ถ้าไม่รีบร้อนน่าจะไหว หรือถ้าไม่ไหว ค่อยโบกมือขอนั่งรถที่ผ่านมาก็ได้ การเดินขึ้นภูเรือช่วงสุดท้าย มีสองทางคือทางคนเดินและทางรถยนต์ ทางคนเดินจะเดินลุยป่าละเมาะขึ้นไป ระยะทางสั้นกว่าทางถนนร่วมครึ่ง แต่ต้องเดินลำบากหน่อย เพราะเหมือนเดินเข้าป่า ส่วนทางที่เป็นถนน เดินขึ้นลงสะดวกกว่า แต่ระยะทางไกลกว่า นักท่องเที่ยวทุกคนมีสิทธิเลือกได้ตามกำลังหัวใจและข้อเท้าของตัวเอง สำหรับผมเอง ขาขึ้นยอดภู ผมนั่งรถเพื่อเก็บแรงไว้เดินตอนขาลง เสน่ห์ของภูเรือ ที่ผู้ใดไปเที่ยวเมืองเลยจะต้องถือโอกาสขึ้นไปก็เพราะอยากเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นยามเช้า เห็นทะเลหมอก และพบกับอากาศบริสุทธิ์ นอกจากนี้ก็มีบรรยากาศของป่าเขา เพียงแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว สำหรับนักท่องเที่ยวจากเมืองกรุง หรือคนที่อาศัยอยู่ในตัวเมือง เมืองเลยมีสถานที่ท่องเที่ยวทางภูเขาหลายแห่งมาก ที่ขึ้นชื่อก็มีภูกระดึง ภูหลวง แล้วก็ภูเรือนี้แหละ แต่มีความจริงอยู่ว่า ถ้าผู้ใดไปเที่ยวเมืองเลย แล้วอยากจะขึ้นภูให้ครบทุกภูนั้นไม่น่าจะทำได้ในคราวเดียวกัน เพราะจะเหนื่อยเกินไป ทางที่ดี ไปเที่ยวเลยครั้งหนึ่ง ให้ขึ้นไปเที่ยวเพียงภูเดียว ก็พอ ถือเป็นการเที่ยวแบบพอเพียง เก็บภูอื่น ๆ ไว้ไปเที่ยวปีถัดไป หรือครั้งต่อไป และทางที่ดีควรขึ้นไปบนภูในหน้าหนาว ถึงแม้ไม่เห็นหมอก แต่ก็จะได้พบกับอากาศหนาวสมใจอยาก.
//www.dailynews.co.th
ไมตรี ลิมปิชาติ
Create Date : 19 ธันวาคม 2553 |
Last Update : 19 ธันวาคม 2553 23:25:52 น. |
|
0 comments
|
Counter : 911 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
- ❀จันทร์ ๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๑✼ภาพหมู่พระธรรมยาตราที่วัดสองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี
- ❀ภาพ ณ วัดโบสถ์(บน) บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
- ❀ชมภาพ วัดโบสถ์(บน) ,วัดไผ่หูช้าง ,วัดนครอินทร์ ,วัดคลองขวาง จังหวัด นครปฐม - นนทบุรี
- ❃วันที่๒๒มีนาร่วมพัฒนาชุมชน วัดบ่อทอง ,วัดตาก้อง ,วัดรางกำหยาด ,วัดบัวแก้วเกษร ,วัดบ่อทอง จ.นครปฐม
- ✿ภาพชุดชุมชนร่วมพัฒนา วัดบัวแก้วเกษร ,วัดนาราภิรมย์ ,วัดบ่อทอง จ.นครปฐม, ๒๓ มีนาคม ๒๕๖๑
- BlogGang.com
|
|
|
|