It's All I Have to Bring Today !
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
2 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 
เที่ยวปิล๊อก ดินแดนสายหมอกแห่งภาคตะวันตก(กาญจนบุรี)

ปลายฝนแล้วค่ะ ช่วงเวลานี้จะมองไปทางไหนก็ชุ่มชื่นหัวใจ ลองจินตนาการดูสิคะ ไหนจะอากาศเย็นสบายหลังฝนตกใหม่ๆ ต้นไม้ใบหญ้าเขียวชอุ่มงามตา แล้วยังไอหมอกที่ลอยอ้อยอิ่งเริงเล่นยอดเขาอีก...อืมแค่นึกถึงก็มีความสุขแล้ว อย่ากระนั้นเลยเราจึงอยากเชิญชวนคุณเดินทางไปเที่ยวที่ ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี สัมผัสผืนป่าสีเขียวๆ ไอหมอกขาวๆ และอากาศเย็นๆ กันดีกว่า

ในอดีตกว่า 50 ปีก่อน ตำบลปิล๊อกเป็นที่รู้จักกันทั่วไปในฐานะแหล่งแร่ดีบุกและวูลแฟรม มีสัมปทานเหมืองแร่เกิดขึ้นมากมายยิ่งกว่าดอกเห็ดยามต้องฝน ที่คุ้นหูคุ้นตากันก็เช่นเหมืองปิล๊อก เหมืองสมศักดิ์ แต่เมื่อเกิดวิกฤตการณ์ราคาแร่ตกต่ำ เหมืองต่างๆ จึงทยอยปิดกิจการกันหมด



จากตำบลที่เคยคึกคักมีชาวเหมืองอยู่กันเป็นพันๆ คน จึงแทบกลายเป็นเมืองร้าง จนกระทั่งมีนักนิยมไพรไปเดินป่าพิชิตยอดเขาช้างเผือกกันเมื่อประมาณ 7 - 8 ปีก่อน ปิล๊อกจึงกลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้ง ยิ่งเมื่อมีรายการโทรทัศน์นำเสนอเรื่องราวชีวิตของป้าเกล็นแห่งเหมืองสมศักดิ์ด้วยแล้ว ที่นี่จึงอยู่ในความสนใจของคนในแวดวงแอดเวนเจอร์ – ออฟโรดเรื่อยมา และมีทีท่าว่าจะมีนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆ ไปเที่ยวกันมากขึ้น เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งแหล่งชมความงามทางธรรมชาติ และวิถีชีวิตผู้คนให้สัมผัสอย่างครบถ้วนแม้ต้องเดินทางไกลสักหน่อยก็ตาม

เราเริ่มต้นการท่องเที่ยวที่ อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อันเชื่อมต่อกับผืนป่าทุ่งใหญ่นเรศวรและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เพราะเป็นจุดท่องเที่ยวแรกเมื่อเข้าเขตปิล๊อก ที่นี่นอกจากจะมีเขาช้างเผือก เป็นเส้นทางเดินป่ายอดฮิตอยู่ในความดูแลแล้ว ยังมีบ้านทาร์ซานที่พักบนยอดไม้แสนเก๋ให้ปีนขึ้นค้างแรมสัมผัสความรู้สึกทาร์ซานแอนด์เจนด้วย

ใกล้กันมีจุดชมวิวยอดเขาช้างเผือก และจุดชมทะเลหมอก ซึ่งมีโอกาสจะได้ชมทะเลหมอกในช่วงเช้า ยิ่งวันไหนฝนตกตอนกลางคืน รับรองว่าตื่นเช้ามาที่นี่จะกลายเป็นเมืองในหมอกทันที หากลองเดินเล่นรับอากาศบริสุทธิ์ชมสีเขียวของเฟริน มอสตามต้นไม้ ก็จะช่วยสร้างความรู้สึกสุขสงบ สบายตาได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิยังมีดาวเด่นชื่อ “แจ๋วแหว๋ว” เป็นนกเงือกขนาดใหญ่ เปรียบเสมือนพีอาร์ประจำอุทยานฯ สร้างความตื่นเต้นให้เราเป็นอย่างยิ่งเพราะน้อยครั้งนักที่นกเงือกตามธรรมชาติจะยอมให้คนชมโฉมอย่างใกล้ชิด แถมยังยอมให้ถ่ายรูปคู่เป็นที่ระทึกและระลึกเสียด้วย เรียกว่าได้ใจเราไปเต็มๆ

จากอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิขับรถอีกไม่เกิน 15 นาทีก็ถึง บ้านอีต่อง ที่หากจะนิยามว่าหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้เป็นอย่างไร คงไม่มีคำใดดีไปกว่า “หมู่บ้านกลางหุบเขาและอากาศเย็น” เพราะชุมชนสุดเขตชายแดนตะวันตกนี้ ตั้งอยู่ระหว่างหุบเขา มีภูเขาเหมืองแร่เก่าเป็นฉากหลังช่วยสร้างบรรยากาศเมืองเหมืองแร่ให้ขลังยิ่งขึ้น มีอากาศเย็นเป็นเพื่อนสนิทตลอดทั้งปี แถมเช้าๆ ในฤดูฝนและฤดูหนาวก็มีสายหมอกให้ชม จนเมืองทั้งเมืองเหมือนตกอยู่ในม่านหมอกอย่างไงอย่างนั้น

เดี๋ยวนี้บ้านอีต่องเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินป่าพิชิต ยอดเขาช้างเผือก ปลายฝนต้นหนาวอย่างนี้ในหมู่บ้านจึงคึกคักได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวมากเป็นพิเศษ แต่ถ้าแม้นคุณไม่ใช่เทรคเกอร์ บ้านอีต่องก็เหมาะเป็นสถานที่พักผ่อนสบายๆ เดินเล่นในหมู่บ้านซึ่งมีบ้านเรือนตั้งอยู่เรียงชิดติดกันเต็มสองข้างทางคล้ายถนนเลียบโขงที่เชียงคานเพียงแต่ขนาดเล็กกว่า มีร้านขายของที่ระลึก เกสเฮ้าส์ และร้านอาหารราคาประหยัดอยู่หลายร้าน

ในซอยหริมอ่างเก็บน้ำมี ร้านกาแฟเลิฟ ปิล๊อก บริการอาหารจานเดียวรสชาติดี ชา กาแฟ เครื่องดื่มร้อน เย็น จะนั่งชิว ดูวิถีชีวิตผู้คน หรือจะนั่งแฮงค์เอ้าท์ยามค่ำคืนก็ได้ เยื่องกันมีร้านขายขนมจีน ผักทอดแบบพม่าราคาถูกมากไว้ให้ลองชิม และมีร้านอาหาร ร้านของชำอยู่ 3 – 4 ร้าน เดินดูสินค้าไปเรื่อยๆ มาสะดุดตาที่ร้านขายอาหารทะเลมีปลา กุ้ง และปลาหมึกสดๆ ขาย สอบถามแม่ค้าได้ความว่าได้มาจากทะเลอันดามันฝั่งพม่า คนที่นี่จึงมีอาหารทะเลกินกันทั้งปี

เหมืองสมศักดิ์ เป็นจุดหมายปลายทางต่อไปที่เราจะไปกินขนมเค้กโฮมเมดฝีมือป้าเกล็น หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า “ป้าแหม่ม” กัน โดยขับรถจากบ้านอีต่องมาจอดรถไว้ที่สถานีตำรวจสภ.อปิล๊อก เพื่อนั่งรถโฟว์วิวของรีสอร์ทเข้าไปยังเหมือง เห็นระยะทางไม่ไกลเพียง 5 กิโลเมตร แต่ด้วยทางขึ้นเขา ลงเขา การเดินทางจึงต้องใช้เวลาพอสมควรเลยทีเดียว

รีสอร์ทเล็กๆ แห่งนี้เกิดจากความตั้งใจของป้าเกล็นที่ต้องการรักษาเหมืองที่สามีรักไว้ หลังจากสามีเสียชีวิต ป้าเกล็นจึงกลับมาปรับปรุงให้เป็นรีสอร์ท มีอาหารและเบเกอรีโฮมเมดทั้งเค้กมะนาว เค้กช็อกโกแลต เค้กกาแฟ และเค้กแครอท ให้บริการ โดยเฉพาะผู้ที่พักค้างคืนก็จะได้กินบาร์บีคิวอร่อยๆ เป็นมื้อค่ำแบบไม่อั้นด้วย โดยมีป้าเกล็นจะคอยกำกับการปรุงอาหารให้แขกและยังคอยต้อนรับ พูดคุยกับแขกด้วยตัวเองเสมอ จนทำให้เราประทับใจในความเป็นกันเองของป้าเป็นอย่างยิ่ง หลังรับประทานอาหารกลางวัน เราไปเที่ยวน้ำตกในเหมืองเก่า ที่ต้องนั่งรถโฟล์วิว ขึ้นเขาไปและเดินลงไปยังน้ำตกอีกนิด (ด้วยระยะทางแบบพอได้เหงื่อ)

กลับจากน้ำตกบางคนเลือกจะเล่นน้ำที่ลำธารใกล้เรือนพัก แต่เราเลือกที่จะกลับออกมาชมแสงสียามค่ำคืนที่บ้านอีต่อง เพราะคืนนี้มีการแสดงฟ้อนรำจากเด็กนักเรียนที่ร้านเลิฟ ปิล๊อก หลังจากหาที่นอนได้แล้ว เราจึงขึ้นไปชมวิวพระอาทิตย์ตกที่ จุดชมวิวเนินช้างศึก เป็นที่ตั้งของฐานตชด. แต่เปิดให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมได้ ใครที่ไม่เชื่อว่าเมืองกาญฯ มองเห็นทะเลอันดามันต้องมาที่นี่ เพราะคุณจะมองเห็นท้องทะเลได้อย่างชัดเจนในวันฟ้าเปิด เนื่องจากอยู่ห่างจากทะเลอันดามันเพียง 60 กิโลเมตร ส่วนเรานั้นได้ชมแสงสีทองจับขอบฟ้าด้านหนึ่ง ส่วนอีกด้านเมฆฝนกลุ่มใหญ่กำลังก่อตัวอยู่ไม่ห่าง ซึ่งก็ดูสวยงามไปอีกแบบจริงๆ ค่ะ

ระหว่างชมวิวเพลินๆ มีพี่ตชด.ที่ดูแลฐานเดินมาพูดคุยให้ความรู้กับเราว่า เราอยู่บนแนวเทือกเขาตะนาวศรี สูงจากระดับทะเลถึง 1,053 เมตรเลยทีเดียว และยอดเขาที่เห็นมีรอยขุดทะลุไปมาเต็มไปหมดก่อนขึ้นมายังจุดนี้ก็คือเหมืองแร่เก่า

ลงจากจุดชมวิว อาบน้ำอาบท่าเรียบร้อย เราก็มานั่งรอชมการแสดง มีพี่ๆ นักปั่นจากเว็บ thaiMTB ขี่จักรยานเสือภูเขามาเที่ยวกันหลายคน ค่ำคืนนี้จึงคึกคักเป็นพิเศษ มีเสียงหัวเราะ เฮฮาทั้งจากชาวบ้าน และแขกผู้มาเยือนอย่างสนุกสนาน และเราก็มีเพื่อนใหม่รุ่นเล็ก รุ่นใหญ่เป็นของขวัญกลับกรุงเทพอีกหลายคน

สุดท้ายแล้วจะว่าเว่อร์ก็ได้ แต่เรารู้สึกว่าสิ่งที่ทำให้บ้านอีต่องและปิล๊อกสวยงามไม่ใช่เพียงธรรมชาติบริสุทธิ์ แต่ยังมีอัธยาศัย น้ำใจไมตรีของผู้คนที่พบเจอด้วยต่างหากที่ทำให้การเดินทางมีความหมายมากขึ้น

“ขอบคุณมิตรภาพที่ทำให้เราได้รู้จักกันค่ะ”

Health & Cuisine ปีที่ : 10 ฉบับที่ : 117 เดือน : ตุลาคม 2553


Create Date : 02 ตุลาคม 2553
Last Update : 2 ตุลาคม 2553 1:56:48 น. 5 comments
Counter : 2014 Pageviews.

 
อีกที่ ที่อยู่ในแผนไปเที่ยว ถ้าซื้อ 4WD


โดย: > เอ้ < photo วันที่: 2 ตุลาคม 2553 เวลา:9:36:34 น.  

 
ว้าว จดไว้ก่อน ที่นี่เป็นอีกที่ที่น่าสนใจ....


โดย: DAN_KRAB วันที่: 2 ตุลาคม 2553 เวลา:12:17:39 น.  

 
น่าไปเที่ยวจังเลยค่ะ


โดย: nokkatua วันที่: 2 ตุลาคม 2553 เวลา:13:27:58 น.  

 
แวะมาชมค่ะ


โดย: นู๋ที วันที่: 2 ตุลาคม 2553 เวลา:16:40:31 น.  

 
ขออนุญาต จขบ. นี้นะคะ

ดีใจที่มีความประทับใจในการไปเยือนปิล๊อก อ.ทองผาภูมิค่ะ

ชาวทองผาภูมิยินดีต้อนรับทุกท่านค่ะ



โดย: แม่สามข้าว (sinaporn ) วันที่: 2 ตุลาคม 2553 เวลา:22:06:25 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Turtle Came to See Me
Location :
พัทลุง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]





★ที่มา ล็อกอิน ★Turtle Came to See Me ★( บทกวี Poem )
เป็นหนังสือ สำหรับเยาวชน
★Turtle Came to See Me
แต่งโดย :Margrita Engle
★★★★



BlogGang Popular Award #11

BlogGang Popular Award #12
Friends' blogs
[Add Turtle Came to See Me's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.