คณะกรรมการแพทยสภาคาดถก 30 วันรู้ผล "หมอบอนด์" ด็อกเตอร์หนุ่มดีกรีแพทย์ยาวเหยียด พิธีกรรายการโทรทัศน์ ใช่ของจริงหรือไม่ หลังถูกสังคมออนไลน์ตั้งคำถามหนัก ที่มาสารพัดดีกรี...

ความคืบหน้าจากกรณีโลกออนไลน์ตั้งคำถามถึงคุณวุฒิทางการศึกษาของหนุ่มวัย 29 ปี ที่ใช้ชื่อว่า ดร.นพ.ปิยะวงศ์ เศรษฐวงศ์ มีดีกรีต่อท้ายชื่อ (วท.บ.)(พ.บ.)(ศ.ม.)(ศ.ด.)(ปร.ด.) ซึ่งทำหน้าที่การงานหลากหลายโดยคาบเกี่ยวมาในแวดวงบันเทิง เช่น พิธีกร, นักเขียน บทความเกี่ยวกับการแพทย์ให้นิตยสารหลายฉบับ ซึ่งคำถามดังกล่าวถูกเผยแพร่ส่งต่อกันผ่านทางโลกออนไลน์จนมีผู้เข้ามาตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับเวลาที่จบการศึกษาและวัฒนธรรมการเรียนการศึกษาในสถาบันต่างๆ ที่ถูกอ้างถึง ว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่ ดร.นพ.ปิยะวงศ์ จะจบการศึกษาตามที่อ้างไว้จริง

ล่าสุด ไทยรัฐออนไลน์ได้สอบถามไปยัง นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา กล่าวว่า ตนเองรวมถึงแพทยสภาทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการของคณะกรรมการ ทั้งนี้เนื่องจากว่าการทำงานของแพทยสภาในกรณีเช่นนี้นั้น แพทยสภาไม่อาจไปฟ้องร้องเอาผิดด้วยตนเองได้ เว้นแต่กรณีมีผู้ร้อง หรือ คณะกรรมการพิจารณาแล้ว ตรวจสอบแล้ว ชัดเจนว่าข้อมูลที่แอบอ้างนั้นไม่เป็นความจริงคณะกรรมการก็จะดำเนินการต่อเองได้

ส่วนกรณี ดร.นพ.ปิยะวงศ์ เบื้องต้นนั้น เท่าที่มีผู้รายงานมาอย่างไม่เป็นทางการก็พบว่าอาจมีข้อมูลบางอย่างไม่ตรงกับความเป็นจริง ซึ่งต้องให้เวลาคณะกรรมการฯดำเนินการโดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณไม่เกิน 30 วัน น่าจะมีความชัดเจนในข้อมูล และแนวทางที่จะดำเนินการต่อไป

ขณะที่ทางด้าน ดร.นพ.ปิยะวงศ์ เศรษฐวงศ์ หรือ หมอบอนด์ นั้น ก่อนหน้านี้ได้เคยออกมายืนยันแล้วว่ารายชื่อวุฒิที่ปรากฏในบล็อกส่วนตัวนั้นเป็นวุฒิที่ได้มาจากร่ำเรียนจริงๆ และไม่มีเจตนาอวดอ้าง บางวุฒิเป็นการเทกคอร์สสั้นๆ ใครที่สนใจก็สามารถสมัครเรียนได้ มีหลักฐาน แต่บางอันก็เสียหายไปเพราะเหตุน้ำท่วมใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ขณะที่ยอมรับว่ามีวุฒิการศึกษาบางส่วนที่ไม่ใช่ข้อมูลจริง เพราะมีคนแฮกเข้ามาเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง เช่น วท.บ. รวมถึงงานเขียนบางชิ้น ที่นำไปเผยแพร่กัน ยังเป็นข้อมูลส่วนตัว ไม่มีการเปิดเผยที่ไหน แต่ถูกนำออกไปเปิดเผยได้ ซึ่งก็เชื่อว่าน่าจะถูกแฮกข้อมูลเหมือนกัน ดังนั้น จึงตัดสินใจลบทุกอย่างทิ้งไปเลยเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอีก

ส่วนกรณีที่ต้องตกเป็นจำเลยสังคมจากกรณีโลกออนไลน์ตั้งคำถามกันนั้น ยอมรับว่าเห็นข้อมูลที่ถูกนำไปเปิดเผยต่อสาธารณะ และเห็นว่าต่างคนต่างพากันขุดคุ้ย แต่เลือกที่จะนิ่งเพราะมั่นใจในศักดิ์ศรีของความเป็นแพทย์ พร้อมกับตัดสินใจพักเรื่องงานทั้งหมด ไม่ว่าจะแพทย์ในรายการโทรทัศน์ นักเขียน หรือวิทยากรรับเชิญ แต่ขอให้เข้าใจว่าไม่ใด้ยอมรับต่อข้อกล่าวหา แต่เป็นการยืนหยัดด้วยวิธีการไม่ตอบโต้

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลโปรไฟล์ของ ดร.นพ.ปิยะวงศ์ เศรษฐวงศ์ ตามที่เคยระบุไว้ใน blog ส่วนตัว (ปัจจุบันปิดไปแล้ว) ได้ระบุถึงวุฒิการศึกษาไว้ อาทิ วิทยศาสตรบัณฑิต, แพทยศาสตรบัณฑิต, เศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต, เศรษฐศาสตรดุษฎีบัณฑิต และอื่นๆ อีกมากมาย.